ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 223
อ๋องหลี่ส่งคนไปตรวจสอบรถม้า และส่งคนไปที่โรงหมอ เพื่อตรวจสอบบาดแผลของหยวนซื่อ
ส่วนการไต่สวนในจวนนั้น ก็มิได้หยุดลง
อ๋องหลี่เริ่มไต่สวนแทนใต้เท้าเหลียง กดดันฮูหยินหลิงหลง เริ่มจากตำแหน่งระยะห่างที่องค์รักษ์ติดตามมาที่ฮูหยินหลิงหลงเอ่ย ให้องค์รักษ์ของมู่หรงจ้วงจ้วงพูดถึงระยะห่างระหว่างรถม้าของทั้งสองรวมทั้งมีกี่คนที่ตามไปที่รถม้าของฮูหยินหลิงหลง ในตอนนี้ฮูหยินหลิงหลงหมดข้อโต้แย้ง อ๋องหลี่กดดันถามถึงรายละเอียด
“เจ้าบอกว่านางดูถูกด่าทอเจ้า เจ้าลองพูดให้ข้าฟังหน่อย นางด่าทอเจ้าเช่นไร?” อ๋องหลี่ถาม
ถึงแม้ฮูหยินหลิงหลงยังคงลนลาน แต่ก็สามารถกลับมาเงียบสงบได้อย่างรวดเร็ว “ทูลท่านอ๋อง นางเริ่มจากกล่าวโทษหม่อมฉันสั่งสอนบุตรีไม่ดี กล่าวว่าตอนอยู่ในวังบุตรีหว่านเอ๋อขอร้องอ้อนวอนเพื่อองค์รัชทายาท สงสัยในคำตัดสินของผู้สำเร็จราชการแทน ทำให้จวนมหาเสนาบดีขายหน้า และยังคงกล่าวว่าหว่านเอ๋อเป็นคนงอนง้อองค์รัชทายาท โดยบอกว่าองค์รัชทายาทตกหลุมรักนาง แต่จริง ๆ แล้วนางเป็นคนแย่งเขามา ทำให้จื่ออันมิอาจเป็นพระชายาขององค์รัชทายาท หม่อมฉันอดทนมาโดยตลอด แต่หลังจากนั้น นางกลับว่าหม่อมฉันไม่รู้จักละอาย มีสัมพันธ์กับผู้อื่นเป็นการส่วนตัว ว่าร้ายหม่อมฉันจนมิอาจทนได้ จึงพูดกลับไม่กี่คำ…”
อ๋องหลี่ขัดคำพูดนาง “เจ้าโต้กลับไปอย่างไร? พูดคำนั้นออกมา”
ฮูหยินหลิงหลงกัดปาก “หม่อมฉันพูดว่า หากฮูหยินไม่ชอบหม่อมฉันก็พูดออกมาตรง ๆ เลย มิต้องด่าทอข้าเยี่ยงนี้? ชื่อเสียงของผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ฮูหยินด่าทอหม่อมฉันเยี่ยงนี้ มิใช่บีบบังคับหม่อมฉันไปตายรึ?”
“อืม หลังจากนั้นเล่า?” อ๋องหลี่ให้นางพูดต่อไป
“หลังจากนั้นฮูหยินก็เริ่มโกรธเกรี้ยว เข้ามาตบตีหม่อมฉัน ทั้งทุบตี ทั้งดุด่า…”
“นางด่าเจ้าอย่างไร? พูดคำเดิมออกมา!” หลี่อ๋องยังทรงเอ่ยออกมาอีก
ฮูหยินผู้เฒ่าจึงได้พูดออกมา “ท่านอ๋อง คำพูดหยาบคายพวกนี้ก็อย่าได้พูดออกมาเลย คนที่อยู่ในที่นี้เกรงว่าก็คงไม่อยากจะฟัง”
อ๋องหลี่ไม่สบอารมณ์ พร้อมทั้งเอ่ยว่า “ฮูหยินผู้เฒ่า ไม่ใช่เรื่องยินยอมหรือไม่ยินยอม ในเมื่อเรื่องนี้มีการแจ้งไปยังศาลาว่าการแล้ว จริง ๆ แล้วจักต้องไปสอบสวนกันที่ศาลาว่าการ พวกเจ้ากลับสอบสวนกันที่นี่ เป็นการละเมิดกฎแล้ว แต่ก็แล้วไป ถึงยังไงท่านอาก็ทรงอยู่ที่นี้ แต่ยังไงก็ต้องทำตามกฎของศาลาว่าการในการสอบสวนคดีความ เรามิอาจบอกว่าขั้นตอนการฆ่าคนนั้นมีการนองเลือด ไม่มีผู้ใดต้องการฟัง อย่าบังคับให้ผู้ต้องหาพูด”
ฮูหยินผู้เฒ่าเบือนหน้าหนีด้วยความประชดประชัน ยังคงไว้หน้าอ๋องหลี่อยู่ มิให้รู้สึกถึงอารมณ์
จื่ออันยืนอยู่ข้างกายหยวนซื่อตลอด คอยจับมือของหยวนซื่อ นางคอยหลบตาแต่มิอาจยับยั้งความเย็นภายในดวงตา
อ๋องหลี่ไต่สวนได้ดีกว่าที่นางคิดไว้มาก ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าทำไมคนเย่อหยิ่งอย่างเซียวท่า ถึงได้ชื่นชมอ๋องหลี่
ฮูหยินหลิงหลงจำต้องตอบกลับ “ทูลท่านอ๋อง นางในขณะที่กำลังตีหม่อมฉัน ปากก็ดุด่าหม่อมฉัน เจ้าคนสารพัดพิษ คนชั้นต่ำ สิบปีมานี้ ข้าไล่ยังไงเจ้าก็ไม่ไป เจ้าทำไมถึงได้หน้าไม่อาย? เจ้ารีบไปตายซะ… ประมาณนี้เพคะ”
“ไม่เอาประมาณ แน่ใจไหม?” อ๋องหลี่ถามต่อ
“เพคะ แน่ใจเพคะ!” ฮูหยินหลิงหลงเกรงว่าท่านอ๋องจะให้นางพูดอีกรอบ จึงทำได้เพียงแค่ตอบว่าใช่
อ๋องหลี่โบกมือ “ไปได้แล้ว เจ้าไปพักก่อน เรียกเซี่ยหว่านเอ๋อออกมา ข้ามีคำถามจะถามนาง”
ฮูหยินหลิงหลงตกใจ “ท่านอ๋องยังทรงมีอะไรต้องถามอีกรึ? มิอย่างนั้นก็ถามหม่อมฉัน หม่อมฉันจำเหตุการณ์ได้ค่อนข้างชัดเจน”
“เจ้าจำได้ชัดเจนก็เป็นเรื่องของเจ้า อย่างไรนางก็อยู่บนรถม้า ข้าจำเป็นต้องสอบถามเรื่องราวจากนาง”
เซี่ยหว่านเอ๋อถูกนำออกมา นางอยู่ในห้องโถงมิได้ยินอันใด จึงมิอาจรู้ได้ว่าเมื่อสักครู่ฮูหยินหลิงหลงพูดอะไรออกมา
อ๋องหลี่ให้นางพูดถึงคำที่หยวนซื่อใช้ด่าฮูหยินหลิงหลงออกมาอีกรอบ
สองคนแม่ลูกเพียงแค่เตรียมคำให้การเพียงแค่เล็กน้อย ส่วนคำด่านั้นมิได้เตรียมไว้ ดีที่ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยตรงกันนัก แต่คำพูดโดยทั่วไปมิได้พูดนอกเหนือจากเรื่อง
หลังจากเซี่ยหว่านเอ๋อพูดจบ ก็เติมไปอีกประโยคว่า “ข้าจำผิดไปบ้างบางส่วน เพราะว่าตอนนั้นเรื่องราวค่อนข้างยุ่งเหยิง แต่เรื่องราวก็ประมาณนี้เพคะ”
อ๋องหลี่ถามต่อ “ข้าถามเจ้า เมื่อครู่แม่ของเจ้าพูดว่าหยวนซื่อต้องการให้พวกเจ้าให้เงินนางห้าพันตำลึง นางถึงจะล้มเลิก เจ้าตอบข้ามา แม่ของเจ้าตกลงที่จะให้เงินห้าพันตำลึงนี้หรือไม่?”
เซี่ยหว่านเอ๋อมองไปยังฮูหยินหลิงหลง ฮูหยินหลิงหลงมิอาจพูดบอก ทำได้แค่ทำมือใบ้ กวัดแกว่งเบา ๆ ทางด้านขวา ส่งสัญญาณว่าไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้
แต่เซี่ยหว่านเอ๋อเข้าใจผิดไป นางตอบกลับไปทันที “นางเคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ แต่พวกเราไม่ได้มีเงินมากมาย ดังนั้นจึงไม่ได้ตอบรับไป นางจึงได้คลุ้มคลั่งตบตีท่านแม่และข้า”