ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 224

ฮูหยินหลิงหลงได้ฟังคำตอบนี้ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเซียว

มู่หรงจ้วงจ้วงอดยิ้มขึ้นมามิได้ อ๋องสามก็มีวิธีการเป็นของตัวเอง

“อืม” อ๋องหลี่ผงกศรีษะ “งั้นแม่ของเจ้าเอ่ยว่าหยวนซื่อไม่อนุญาติให้เจ้าแต่งกับองค์รัชทายาท ให้เซี่ยจื่ออันแต่งกับองค์รัชทายาทแทนเจ้า จุดนี้พวกเจ้าเห็นด้วยหรือไม่? เจ้าพูดออกมาตามตรงก็พอ แม่เจ้าเคยตอบมาแล้ว ข้าเพียงอยากรู้ว่าคำให้การของพวกเจ้าจะตรงกันหรือไม่”

เซี่ยหว่านเอ๋อมองไปยังฮูหยินหลิงหลงอีกครั้ง ฮูหยินหลิงหลงทนไม่ไหวเอ่ยออกมา “ท่านอ๋อง เรื่องนี้…”

“ข้ายังมิได้ให้เจ้าพูด หากเป็นที่ศาลแล้ว คงจะตีปากเจ้าไปแล้ว” อ๋องหลี่มองไปยังนางด้วยสายตาดุดัน ฮูหยินหลิงหลงตกใจจนต้องหยุดเสียง

สายตาเซี่ยหว่านเอ๋อค่อนข้างสับสน ไม่รู้ว่าอ๋องหลี่กำลังคิดอะไรอยู่ แล้วไม่รู้ว่าทำไมท่านแม่ถึงได้พูดเช่นนี้ หลังจากลังเลไปชั่วขณะนึง ก็ส่ายหน้า “พวกเราไม่ยินยอม”

“อืม” อ๋องหลี่มองไปยังใต้เท้าเหลียง “เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่?”

ใต้เท้าเหลียงหน้าซีดขาว “ท่านอ๋อง กระหม่อมประมาทเลินเล่อ”

ใต้เท้าเหลียงไม่หยุดที่จะเช็ดเหงื่อ ลองคิดกลับไปว่า คำให้การของทั้งสองมีปัญหา ทำให้มิอาจเชื่อได้ จะต้องมีอีกฝ่ายนึงที่พูดโกหก เรื่องจริงจะต้องเป็นฝ่ายของหยวนซื่อ

คำให้การที่ว่าหยวนซื่อกระโดดลงจากรถม้าด้วยตัวเอง เพื่อที่จะใส่ร้ายว่านางจะทำร้ายนายหญิง เป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น

“ประมาท?” อ๋องหลี่เสียงดุดัน “เจ้าเรียกว่าประมาท? คืนนี้ใครเป็นคนที่ร้องเรียนคดีนี้ไปที่ศาลาว่าการ? เจ้าสั่งคนกลับไปทำรายงาน รวมทั้งหลักฐานที่ข้าให้คนไปตรวจสอบจากรถม้าส่งให้ที่ว่าการ แล้วก็ให้ที่ว่าการเป็นคนส่งให้ใต้เท้าซุย”

ส่งให้ใต้เท้าซุยแล้ว ก็เท่ากับส่งให้เสนาบดีสำนักตรวจราชการ เท่ากับต้องรายงานไปยังผู้สำเร็จราชการ

ใต้เท้าเหลียงรู้สึกว่าตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองคงจะจบสิ้นแล้ว ตอบกลับเสียงอ่อน “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรับทราบ”

ใต้เท้าเหลียงมองขอความช่วยเหลือไปยังราชครูเหลียง ราชครูเหลียงไม่ได้แสดงอาการอะไรทางสีหน้าพร้อมลุกขึ้น “ข้านึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องให้จัดการ คดีนี้พวกเจ้าค่อย ๆ จัดการแล้วกัน”

พร้อมเอ่ยทูลองค์รัชทายาท “ฝ่าบาทก็ทรงบาดเจ็บ ควรกลับไปพักผ่อนก่อน พ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทเองก็จำต้องกลับ ตั้งแต่อ๋องหลีเข้ามานั้น องค์รัชทายาทเองก็มิอยากจะอยู่ต่อแล้ว พระองค์เองก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดที่ว่าจะเอาเรื่องนี้มาหลอกอ๋องหลี่ได้

เซี่ยหว่านเอ๋อร้อนรน “ไม่ตรวจสอบแล้วรึ? เป็นนางที่ทำร้ายพวกเราจริง ๆ”

“หุบปาก!” มหาเสนาบดีเอ่ยดุ โง่เขลาเบาปัญญาจริง ๆ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังมองไม่เห็นความจริงอีกรึ หากเข้าวังไปแล้ว จะสู้รบกับผู้อื่นได้เยี่ยงไร?

เซี่ยหว่านเอ๋อตกใจมองไปยังพ่อของตนเอง แต่กลับไม่รู้ว่าตนผิดที่ส่วนใด

“เร่งรีบกลับไปทำไมกัน?” อ๋องหลี่ส่งเสียงออกมา “องค์รัชทายาทเชิญนั่ง ราชครูเชิญนั่งลงก่อน คดีนี้ยังสอบสวนไม่เสร็จ”

ราชครูมองไปยังอ๋องหลี่ เอ่ยออกมาอย่างไม่มีทางเลือก “ท่านอ๋องยังมีเรื่องอะไรอีกรึ?”

อ๋องหลี่มองไปยังจื่ออัน “นำมีดสั้นที่เจ้าใช้ทำร้ายเฉินซื่อและเซี่ยหว่านเอ๋อออกมา”

จื่ออันไม่ค่อยเข้าใจ จึงนำมันออกมามอบให้อ๋องหลี่

อ๋องหลี่ยื่นมือรับมีดสั้นโยนไปให้ราชครูเหลียง “ดูตัวอักษรบนมีดสั้นให้ดี”

ราชครูเหลียงรับมันมา แต่มิได้มอง กลับส่งกลับไปให้อ๋องหลี่ “กระหม่อนมิได้สนใจในอาวุธ”

“ดูให้ดีก่อนค่อยพูด!” อ๋องหลี่เอ่ยเย็นชา

ราชครูเหลียงเพียงต้องการออกไปจากที่นี่โดยเร็ว จึงฟังคำของอ๋องหลี่ ก้มลงมองก่อนจะตกใจกลัวจนหน้าซีดเซียว