บทที่ 924 หมีแพนด้าบ้าคลั่ง : ชกกระสอบทราย

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

“โครม!”

เมื่อเสียงสนั่นดังขึ้นหนึ่งครั้ง เสียงที่ราวกับฟ้าฝนคึกคะนองก็ดังก้องขึ้นในร้านอาหาร หลิงม่อที่ยืนอยู่ฝั่งหนึ่งควบคุมหนวดสัมผัสทางจิต พลางมองดูอย่างรู้สึกหนังศีรษะตึงชา ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เขาก็ไม่อยากเชื่อว่าจะตีคนด้วยวิธีนี้ได้ด้วย…กระสอบทรายในร่างคนที่เด้งกลับไปกลับมาเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ แรงกระแทกที่ต้องแบกรับจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่หมีแพนด้ากลายพันธุ์ตัวนั้นยังคงอาศัยน้ำหนักตัวและความสามารถทนทานต่อการถูกโจมตียืนอยู่ที่เดิมราวกับภูเขาไท่ซานก็ไม่ปาน ขณะเดียวกันมันเหวี่ยงกรงเล็บพร้อมกับคำรามเสียงต่ำตะปบไปยังร่างของถังฮ่าวครั้งแล้วครั้งเล่า

เริ่มแรกได้ยินเพียงเสียงครวญของถังฮ่าว แต่ไม่นานเมื่อบาดแผลบนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงครวญของเขาก็เปลี่ยนเป็นกรีดร้องอย่างขึ้งเคียด เพิ่งผ่านไปสิบวินาที ถังฮ่าวก็เริ่มกระอักเลือกออกมาคำโตหลายต่อหลายครั้ง เสียงร้องก็เริ่มทรมานมากขึ้นเรื่อยๆ

วิธีการโจมตีประสิทธิภาพสูงอย่างนี้นอกจากจะสามารถทำให้ความเร็วและพละกำลังแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดกลับเป็นแรงกระแทกอันดุดัน ทุกครั้งที่ร่างกายของถังฮ่าวกระแทกกับกรงเล็บของเสี่ยวป๋าย เรี่ยวแรงมหาศาลกลุ่มหนึ่งก็จะแผ่มายังร่างกายเขา และทุกครั้งมันก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

“ถึงแม้กล้ามเนื้อและผิวหนังของแก หรือกระทั่งเส้นเลือดของแกจะผ่านการทำให้แข็งแกร่งขึ้นมาแล้ว แต่อวัยวะภายในกับกระดูกของแกล่ะ? เจ้าก้อนเนื้อยักษ์ตัวนั้นมีจุดอ่อนอยู่แค่จุดเดียว แต่ในฐานะของก็อป แกกลับทำมีแต่จุดอ่อนอยู่ทั่วร่าง

“อ๊ากกกก!” ในที่สุดถังฮ่าวก็เริ่มคำรามเสียงดัง เมื่อร่างกายภายในเริ่มแหลกสลาย ความสามารถพิเศษของเขาก็เริ่มอ่อนแอลง…ความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจากข้างใน ทำให้เขารู้สึกราวกับถูกยัดเครื่องบดเนื้อที่กำลังทำงานด้วยความเร็วสูงเข้าไปในท้องอย่างไรอย่างนั้น และตอนนี้ความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นให้ค่อยๆ ได้สติกลับมา กลับทำให้เขารู้สึกได้ถึงความทุกข์ทรมานนี้ได้อย่างชัดเจนกว่าเดิม

“หยุด…หยุดเดี๋ยวนี้! แกไม่เป็นห่วงเด็กผู้หญิงคนนั้นหรอ? แล้วยังมีพรรคพวกของแกพวกนั้นอีก ไม่นานพวกมัน…ไม่ ไม่แน่ว่าตอนนี้พวกมันอาจตกอยู่ในอันตรายแล้วก็ได้!”

ถังฮ่าวตะโกนพูดเสียงดัง แต่กลับพบว่าหลิงม่อไม่มีทีท่าจะหยุด และหมีแพนด้าที่เป็นคนลงมือตัวนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังร้องอย่างตื่นเต้นอีก ที่ทำให้เขาไม่อยากเชื่อยิ่งกว่าคือ พละกำลังที่แทบทำให้เขาแหลกสลายทั้งภายนอกและภายใน กลับไม่มีผลใดๆ ต่อหมีแพนด้าตัวนี้เลยแม้แต่น้อย…

เขาเพิ่งตระหนักได้ตอนนี้ว่า หมีแพนด้าตัวนี้อาจอ่อนเรื่องความสามารถในการตอบสนองและความคล่องแคล่วไปบ้าง แต่มีเพียงหมีแพนด้าตัวนี้เท่านั้น ที่รู้ว่าควรตีเขาให้ตายด้วยวิธีไหน และมันก็ทำอย่างนั้นได้อย่างง่ายดาย! ทุกครั้งที่มันเหวี่ยงกรงเล็บออกไป มันจะออกแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในความรู้สึกของถังฮ่าว กรงเล็บของมันเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ที่รัวมายังร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง!

ถึงแม้ตอนนี้จะมีคนเล็งปืนใหญ่มาที่เขาจริงๆ ก็เทียบกับที่หมีแพนด้าตัวนี้ทำให้เขาหวาดกลัวไม่ได้!

ยังมีเจ้าเด็กหนุ่มผู้มีพลังจิตนั่นอีกคน…เจ้าเล่ห์ สังหารคนโดยไม่กระดิกมือ ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง…คำศัพท์เหล่านี้ผุดขึ้นมาในสมองถังฮ่าวแทบจะในทันที โดยเฉพาะหลังจากที่เขาเห็นหลิงม่อยืนเงียบๆ อยู่อีกฝั่ง ความโกรธแค้นอันสิ้นหวังนี้ก็ได้แผ่ปกคลุมไปทั่วจิตใจ

ถ้าหากไม่ใช่เขา! ถ้าหากไม่ใช่เพราะคนคนนี้ เขาคงไม่ต้องกลายเป็นแบบนี้! หมอนั่นมีประสบการณ์ในการรับมือศัตรู แล้วยังร่วมมือกับหมีแพนด้ากลายพันธุ์ตัวนั้นได้อย่างดี ที่สำคัญคือ ทั้งที่มันยังไม่ทันได้เข้าใกล้บริษัทลอว์สัน แต่กลับรู้ความลับที่สำคัญที่สุดของเขา…

“มันนั่นแหละโรคจิต! มันต่างหากล่ะซอมบี้! ทั้งที่ซ่อนไม้ตายไว้ตั้งมากมายขนาดนี้ แต่ยังทำท่าทางระวังตัวแจขนาดนั้น! ที่ไร้ยางอายกว่านั้นก็คือ มีฝีมือร้ายกาจถึงขั้นนี้แต่ยังเล่นสองรุมหนึ่งอีก!”

ถังฮ่าวด่ากราดในใจ ภายใต้สถานการณ์ที่ทรมานขึ้นเรื่อย แต่กลับไม่สามารถขัดขืนได้ เขาไม่เพียงรู้สึกโกรธแค้น กระทั่งเกิดความรู้สึกคล้ายไม่ยุติธรรมขึ้นมาด้วย…

“ไอ้หลิงม่อ เยXโคตรเหง้าเอ็ง ถึงแกจะฆ่าฉัน เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ต้องตายอยู่ดี! แล้วก็พรรคพวกของแกอัก พวกมันต้องตายกันทุกคน! แกบอกว่าฉันเป็นของก็อปงั้นหรอ? ของก็อปกับ XX น่ะสิ! คอยดูเถอะ พวกแกไม่ได้ตายดีแน่ ฉันอยู่ที่นี่มาสิบเดือน กว่าจะมีวันนี้ได้ แกมันแค่คนนอกที่เพิ่งมาใหม่ จะไปรู้อะไร! ไปตายซะ! ไปตายซะ!”

ถังฮ่าวสบถด่าด้วยคำพูดหยาบคายอยู่สิบกว่าวินาที ไม่นานเสียงของเขาก็เริ่มแผ่วลง

เลือดที่เขากระอักออกมาได้ย้อมพื้นที่บริเวณนั้นที่กว้างไม่ถึงสิบเมตรจนกลายเป็นสีแดงไปหมด ร่างกายเขาบุบลงไปอย่างเห็นได้ชัด ร่างกาย “กำยำสมชาย” ของเขากลับยุบเข้าไปข้างใน กระทั่งหน้าอกเกือบยุบไปติดแผ่นหลังเลยทีเดียว แค่คิดก็รู้แล้วว่าข้างในถูกตีจนเละขนาดไหน เกรงว่าแม้แต่กระดูกของเขาก็คงแหลกละเอียดไปหมดแล้ว ถึงได้มีสภาพอย่างตอนนี้ได้

ในเลือดที่เขากระอักออกมามีเศษเนื้อและชิ้นส่วนอวัยวะภายในปนอยู่ด้วย กระทั่งในตอนท้ายๆ เขาอ้วกไม่ออกแล้วด้วยซ้ำ…เวลานี้ ถังฮ่าวที่แทบหมดสติหยุดก่นด่าสาปแช่ง และเปลี่ยนเป็นร้องขอชีวิตตามสัญชาตญาณแทน “อย่าฆ่าฉัน ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน…ฉันเองก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนเป็นอย่างตอนนี้ แต่เรื่องแบบนี้หากเริ่มขึ้นแล้ว ก็ไม่อาจหยุดได้ ถ้าหากไม่ได้สิ่งนั้นมา พวกเราก็จะกลายเป็นซอมบี้ที่แท้จริงอย่างช้าๆ และยังมีความเป็นไปได้สูงว่าจะกลายเป็นซอมบี้ที่ไม่มีทางฟื้นสติปัญญากลับมาได้อีก…ฉันไม่ได้อยากทำอะไรพวกนายจริงๆ แค่อยากหยิบยืมพละกำลังของพวกนายแสวงหาทางรอดให้ตัวเอง…”

“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันจะบอกนายทุกเรื่องเลย! ใช่แล้ว! นายไม่อยากรู้หรอว่าพวกเราแปลงร่างได้ยังไง? ฉันบอกนายได้นะ ฉันยังบอกเรื่องการแปลงร่างของคนอื่นให้นายได้ด้วย! คนอื่นฉันไม่รู้ แต่ถ้านายไม่รู้เรื่องของพี่ฉีไว้ซักนิดล่ะก็ นายช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้นไว้ไม่ได้แน่! ฉันรู้ว่านายคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นแกร่งมาก แต่พี่ฉีไม่ใช่คนทั่วไปจริงๆนะ! ปล่อยฉันไปเถอะ!”

“อ๊ากกก!”

พอเห็นว่าร่างกายของตัวเองถูกบังคับให้เด้งกลับไปหากรงเล็บของเสี่ยวป๋ายอีกครั้ง ความรู้สึกที่ราวกับกำลังมองดูตัวเองถูกยัดเข้าไปในเครื่องบดเนื้อตาปริบๆ ทำให้ถังฮ่าวกรีดร้องขึ้นมาอย่างสิ้นหวัง แต่ในเสี้ยววินาทีที่เขาแทบจะสิ้นสติ เขากลับรู้สึกเหมือนแขนตัวเองถูกดึงไว้กะทันหัน

ความเจ็บปวดราวเนื้อแทบฉีกโจมตีไหล่ของเขา ถังฮ่าวที่ใกล้หมดสติพลันตื่นขึ้นมาไม่น้อย เขาพบว่าตัวเองถูกหมีแพนด้าโยนลงพื้น จากนั้นแขนข้างที่ถูกกระชากจนแทบหลุดก็ถูกมันเหยียบไว้แน่น ต่อมา เด็กหนุ่มที่ชื่อหลิงม่อคนนั้นก็เดินนวดหว่างคิ้วเข้ามาหาเขา พร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยัน “บอกวิธีแปลงร่างให้ฉัน? หึ…เมื่อกี้แกยังบอกอยู่เลยไม่ใช่หรอว่าเพราะการแปลงร่างนี้ ทำให้พวกแกใกล้จะพบกับจุดจบอันน่าอนาถน่ะ?”

“ฮั่ก…ฮั่ก…” ถังฮ่าวสูดหายใจลึกราวกับปลาที่ถูกโยนขึ้นฝั่ง จากนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “ฉันมะ…ไม่ได้โกหกนาย ถึงแม้ตอนนี้…ตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ขอแค่ไปถึงบริษัทลอว์สัน…แล้วเอาไอ้…”

“ที่แท้กอย่างนี้นี่เอง…” หลิงม่อเผยสีหน้าครุ่นคิดออกมา

ถังฮ่าวที่เพิ่งรอดตายมาหมาดๆ พลันชะงัก แต่ไม่นานก็พยักหน้ารัวๆ “ถูกต้องแล้ว ขอแค่เอาสิ่งนั้นมาได้ ก็จะสามารถใช้ความสามารถในการแปลงร่างอย่างนี้ได้อย่างไม่ต้องพะวงอะไรอีก…ถ้ามีสิ่งนี้ อัตราการรอดชีวิตของมนุษย์ก็สูงขึ้นมาก…นายคงจะเป็นคนของค่ายหรือกลุ่มผู้รอดชีวิตขนาดใหญ่สินะ? ถ้าหากนายสามารถเอาความสามารถนี้กลับไปด้วยได้ล่ะก็ ฉันรับรองได้เลยว่านายจะต้องได้เลื่อนตำแหน่ง…”

หลิงม่อกลับนั่งยองๆ ลงมา แล้วจ้องถังฮ่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมแกยังคิดจะหลอกใช้ฉันอีกล่ะ?”

ถังฮ่าวหน้าถอดสีครั้งใหญ่ แต่หลิงม่อกลับยังคงพูดต่อ “แต่ความสามารถแปลงร่างที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ของแกน่ะ ถึงแม้ไม่มีข้อเสียที่อันตรายถึงชีวิตที่ว่านั้น ฉันก็ไม่สนใจหรอก และถ้าฉันเดาไม่ผิด ความสามารถนี้ก็คงจะมีแต่ผู้มีความสามารถพิเศษเท่านั้นที่ใช้ได้สินะ?”

หลิงม่อจ้องมองกล้ามเนื้อของถังฮ่าว พลางทำเสียงจิ๊จิ๊ “หลังจากเสียเลือดและหมดแรง กล้ามเนื้อของแกก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม นั่นแสดงว่าแกเป็นผู้มีความสามารถพิเศษด้านศักยภาพร่างกาย ใช่ไหมล่ะ? การแปลงร่างที่แกพูดถึง ก็คือการกระตุ้นศักยภาพของตัวเองขั้นสูงในเวลาสั้นๆ โดยผ่านวิธีการบางอย่างที่ไม่รู้ชื่อ จากนั้นก็ฝืนอัพเกรดขอบเขตการเสริมสร้างความแกร่งและพละกำลังให้ใกล้เคียงกับซอมบี้ระดับสูง…ถ้าหากว่ามีแค่นี้ พวกแกคงไม่บ้าคลั่งกับเรื่องนี้จนถึงขนาดนี้…”

“ ‘ข้อได้เปรียบ’ที่ดีที่สุดของความสามารถในการแปลงร่างนี้ ก็คือทำให้พวกแกเข้าใกล้ซอมบี้ได้อย่างไร้ขีดจำกัดในเวลาสั้นๆ กระทั่งทำให้พวกแกคล้ายกับซอมบี้ นอกจากนี้ พวกแกยังใช้วิธีการบางอย่าง ทำให้เวลาแปลงร่าง พวกแกจะได้รับความสามารถกลายพันธุ์บางอย่างมาด้วย…หรือพูดอีกอย่างก็คือ การแปลงร่างที่แกพูดถึง ก็คือการดัดแปลงความสามารถพิเศษของตัวเอง ผ่านการกระตุ้นบางอย่าง…”

พูดถึงตรงนี้ หลิงม่อก็บีบหว่างคิ้วอีกครั้ง “ตามหลักการแหล่งเชื้อไวรัสเดียวกัน ในทางทฤษฏีเรื่องแบบนี้สามารถทำได้ พูดง่ายๆ ก็คือดัดแปลงความสามารถพิเศษ หากพูดซับซ้อนหน่อยก็คือการทำให้เชื้อไวรัสในร่างกายกลายพันธุ์ไปในอีกรูปแบบหนึ่ง…ถึงแม้ไม่รู้ว่าพวกแกรักษาสติปัญญาไว้ได้อย่างไร แต่ทันทีที่ดัดแปลงเชื้อไวรัสในร่างกายคนสุ่มสี่สุ่มห้า ก็จะทำให้เกิดภัยแฝงบางอย่างตามมา ยิ่งเปลี่ยนแปลงให้มีพละกำลังแกร่งเท่าไหร่ ภัยแฝงที่ว่านี้ก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น…ความจริงเรื่องนี้ซอมบี้ก็เป็นเหมือนกัน หากเก็บรักษาอารมณ์บางอย่างของมนุษย์เอาไว้ ก็จะเกิดปัญหาเรื่องนิสัย…ทว่าเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันก็รู้แล้วล่ะว่าพวกแกใช้วิธีไหนเข้าใกล้หรือกระทั่งเข้าไปในบริษัทลอว์สัน และยังมีชีวิตรอดมาจนถึงป่านนี้…”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป ร่างกายของถังฮ่าวก็กระตุกสั่นอย่างรุนแรงทันที เขาจ้องหน้าหลิงม่ออย่างตื่นตะลึง แล้วพูดอย่างติดๆ ชัดๆ “กะ…แกรู้ได้ยัง…”

แต่หลิงม่อกลับทำหน้าครุ่นคิด สถานการณ์ของคนกลุ่มนี้กับซอมบี้ฟางอิ๋ง คล้ายสถานการณ์ของตัวเขากับพวกเย่เลี่ยนในอีกเวอร์ชั่น…ในร่างกายเขามีเชื้อไวรัสอยู่ และพวกเย่เลี่ยน ไม่ช้าก็เร็วพวกเธอจะได้อารมณ์ความรู้สึกบางอย่างของมนุษย์กลับคืนมา…สิ่งที่คนตรงหน้ากำลังเป็น คือผลกระทบที่พวกเขาต้องเผชิญในอนาคตข้างหน้างั้นหรือ…

—————————————————————————–