ตอนที่ 721 สงวนกิริยาไว้ เปลือกของเทพธิดา / ตอนที่ 722 โกหก พี่เป็นคนของฉัน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 721 สงวนกิริยาไว้ เปลือกของเทพธิดา

แม้ซ่างซินจะเซ็นชื่อให้แฟนคลับอยู่ท่ามกลางฝูงชน สลับกันการเงยหน้าขึ้นถ่ายรูปกับแฟนคลับ แต่ก็มักจะอดไม่ได้ที่จะปรายสายตามองไปยังกลุ่มคนที่เดินผ่านไปผ่านมารอบๆ ตัว

แม้เธอจะไม่ได้พูดออกมา แต่ผู้ชายที่เธอรักมาตลอดหลายปีแม้จะปล่อยวางแล้ว แต่ก็ยังอยากเห็นหน้าเขาอีกสักครั้งอยู่ดี

แค่มาส่งเธอก็ยังดี……

แต่เธอมาปรากฏตัวที่สนามบินเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว

จงใจยืนอยู่ในจุดที่มองเห็นได้ง่ายที่สุด ยอมให้แฟนคลับห้อมล้อมโดยไม่จากไปไหน เพราะเกลงว่าหากชายหนุ่มมา เขาจะหาเธอไม่เจอ

แต่รอมานานมากแล้วเขาก็ยังคงไม่มาอยู่ดี

เธอโง่เอง

หากเขายังมีเยื่อใยกับเธอสักนิด เธอจะจากที่นี่ไปหรือไงกัน

ในเมื่อตัดสินใจจะไปแล้ว ยังไม่อะไรต้องปล่อยวางไม่ได้อีก……

“ขอโทษนะคะ วันนี้ขอเซ็นเท่านี้ก่อน ฉันต้องเข้าไปด้านในแล้ว ทุกคนเดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะคะ” ซ่างซินยื่นโปสเตอร์ใบสุดท้ายที่เซ็นชื่อเสร็จไปให้แฟนคลับ จากนั้นก็หันไปส่งสัญญาณให้ผู้จัดการส่วนตัว

ผู้จัดการเข้าใจความหมายของเธอ จึงเดินมาพาให้แฟนคลับเดินจากไปพร้อมกับบอดี้การ์ด

ซ่างซินเป็นคนง่ายๆ ชอบแฟนคลับด้วยใจจริงและก็ใส่ใจมาก

เมื่อได้ยินว่าซ่างซินจะเข้าไปด้านในแล้ว ทุกคนจึงโบกมือให้เธอ

“สู้ๆ นะคะ เราจะรอคุณกลับมา!”

“เทพธิดา พวกเรารักคุณ ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ!”

“เทพธิดา เราจะสนับสนุนคุณตลอดไป……”

“……”

ข้างหูเต็มไปด้วยเสียงร้องให้กำลังใจ ซ่างซินโค้งให้กลุ่มแฟนคลับตัวเองอย่างมีมารยาท

ดวงตาเริ่มแดงก่ำเล็กน้อย

แม้ว่าเธอจะไม่กลับมาอีกแล้ว แต่เธอก็จะจดจำคนที่ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งแบบนี้ตลอดไป

“ซ่างซิน!”

เหนียนเสี่ยวมู่อาศัยช่วงที่ซ่างซินเดินมาถึงทางเลี้ยว คนน้อย แล้วเอ่ยทักทายหญิงสาว

เมื่อเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ ในที่สุดใบหน้าของซ่างซินก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น

ถอดแว่นตาออก เอื้อมมือไปกอดหญิงสาวเอาไว้

“ฉันนึกว่าคุณจะไม่มีเวลามาเสียอีก”

“ฉันรับปากว่าจะมาส่งคุณ ฉันก็ต้องมาสิ” เหนียนเสี่ยวมู่ประคองใบหน้าของซ่างซินเอาไว้ มองดูความสมบูรณ์แบบบนใบหน้าของเธอ แทบอยากจะหอมลงไปอย่างอดใจไม่ไหว

แต่ยังไม่ทันจะหอมโดน ก็ถูกซ่างซินกั้นเอาไว้เสียก่อน

“นี่เป็นที่สาธารณะ แฟนคลับก็ยังไม่กลับไป ถ้าเกิดมีคนถ่ายภาพตอนคุณหอมฉัน พรุ่งนี้ได้มีข่าวของพวกเราขึ้นหน้าหนึ่งแน่ๆ”

โดยเฉพะอย่างยิ่ง เธออยู่ในวงการมานานขนาดนี้ยังไม่เคยมีข่าวเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เลย

ไม่แน่อาจโดนเขียดพาดหัวข่าวว่า นางแบบอันดับหนึ่งชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบผู้ชาย……

“อย่างนั้นก็น่าเสียดาย ความจริงอยากจะถือโอกาสตอนที่คุณกำลังจะจากไป หอมคุณอีกสักที เพราะไม่รู้ว่าจะได้หอมคุณอีกทีเมื่อไหร่” เหนียนเสี่ยวมู่พอไม่ได้หอมก็บ่นออกมาอย่างเสียดาย

คำพูดราวพาลๆ ทำเอาซ่างซินอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“เวลาอยู่ต่อหน้าคุณชายหาน คุณก็พูดแบบนี้เหรอ”

แทบจะจินตนาการออกเลย ว่าอวี๋เยว่หานต้องหยักยิ้มมุมปากและพยายามเก็บสีหน้าอยากกระอักเลือดเอาไว้

“ต้องไม่ใช่อยู่แล้ว ฉันยังมีเปลือกหุ้มอยู่นะ อยู่ต่อหน้าเขาต้องสงวนกิริยาเอาไว้!” เหนียนเสี่ยวมู่พูดยิ้มๆ

เมื่อนึกถึงผู้ชายที่ตัวเองชอบ ดวงตาปราดเปรืองทั้งสองข้างก็ยิ้มจนตาหรี่

ในดวงตานั้น ราวกับมีดวงดาวอยู่มากมาย มันช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน

แววตาแบบนี้ซ่างซินคุ้นเคยมาก

ครั้งหนึ่ง ตอนที่เธอชอบใครคนหนึ่ง เมื่อคิดถึงเขาก็มักจะมีปฏิกิริยาแบบนี้เหมือนกัน……

เมื่อนึกถึงถังหยวนซือ แววตาของซ่างซินก็สลดลง พยายามเก็บกดความผิดหวังเอาไว้ในใจ

สายตาที่มองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่มีความอิจฉาที่ปิดเอาไว้ไม่มิด

เธอไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอแค่ผู้ชายที่เธอรัก รักเธอเหมือนกัน แต่น่าเสียดาย มันเป็นไปไม่ได้……

ตอนที่ 722 โกหก พี่เป็นคนของฉัน

ภายในห้องรับรองก่อนขึ้นเครื่อง

บอดี้การ์ดและผู้จัดการส่วนตัวยืนอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก ปล่อยพื้นที่ส่วนตัวให้ซ่างซินและเหนียนเสี่ยวมู่

ทั้งสองคนยังคงล่ำรากันอย่างอาลัยอาวรณ์ ไม่มีใครสังเกตเลยว่า ห้องรับสองบริเวณชั้นสองมีร่างของใครคนหนึ่ง ยืนเกาะที่กั้นบริเวณชั้นสองแล้วจองมาคนที่ด้านล่างไม่วางตา

มีเสียงไอดังออกมาเป็นระยะ แต่ก็ถูกมือของชายหนุ่มอุดปิดเอาไว้เสียก่อน

ใบหน้าขาวซีด อาการดูท่าไม่ค่อยจะดี

“ประธานถัง คุณหมอกำชับไว้แล้วว่าคุณต้องพักรักษาตัวนิ่งๆ ไม่ควรออกมาข้างนอก สองวันมานี้คุณเอาแต่รักษาสภาพมั่นคงของบริษัท แทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลย ตอนนี้ยังมาสนามบินแต่เช้าอีก ผมเกรงว่าร่างกายของคุณจะรับไม่ไหว……”

ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยเตือนอย่างเป็นห่วง

ยังไม่ทันจะพูดจบ ถังหยวนซือก็เหล่มองมาทางเขาแวบหนึ่ง

ผู้ช่วย “…….”

ผู้ช่วยเงียบลงในทันที ไม่กล้าพูดอะไรอีก

เมื่อเห็นว่าถังหยวนซือไอออกมาอีกแล้ว จึงทำได้แค่ไปรินน้ำร้อนมาให้

เมื่อเดินถือน้ำร้อนกลับมา ก็ยังเห็นว่าถังหยวนซือยังยืนอยู่ในท่าเดิมตรงราวกั้น มองดูคนด้านล่าง

ในดวงตามีความรักและความอ่อนโยนที่ไม่สามารถลบออกไปได้

ผู้ช่วยมองดูแล้วก็รู้สึกสงสาร

เขาอยู่กับประธานถังมาหลายปีแล้ว

คนที่เด็ดขาดในวงการธุรกิจ ใครจะไปคิดว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ชอบจะทำได้ถึงขนาดนี้

ยอมอดทนต่อความเจ็บปวดของร่างกาย ยอมให้อีกฝ่ายโกรธเกลียดแต่ก็ไม่ยอมยุดอีกฝ่ายให้มาอยู่ด้วยกัน

ผู้ช่วยมองดูแล้วก็รู้สึกปวดใจ อดไม่ได้ที่จะเดินไปเตือน

“ประธานถัง คุณซ่างซินอยู่ข้างล่างนี่เอง เธอชอบคุณขนาดนี้ต่อให้เธอรู้เรื่องอาการป่วยของคุณ ต้องสงสารคุณแต่ไม่มีทางทิ้งคุณไปแน่ๆ ทำไมคุณต้องปกปิดเธอด้วยครับ”

สิ้นคำถาม ถังหยวนซือไม่ได้หันหน้ากลับมา ดวงตาค่อยๆ สลดลง

“สิ่งที่ฉันกลัว ไม่ใช่กลัวว่าเธอจะทิ้งฉันไป”

“……”

“ฉันกลัวว่าตัวเองจะทำอะไรให้เธอไม่ได้เลย แล้วยังต้องให้เธอสละความสุขทั้งชีวิตของตัวเองอีกด้วย” น้ำเสียงของถังหยวนซือค่อนข้างแหบแห้ง เหมือนว่าไอนานจนแทบจะเป็นใบ้ไปแล้ว

ถังหยวนซือค่อยๆ หลับตาลง ราวกลับตรงหน้ามีภาพของพวกเขาในวันเด็กปรากฏขึ้น

ตอนนั้น ทุกคนมารวมตัวกินเลี้ยงกัน มีแค่พวกเขาสองคนที่แอบเล่นกันอยู่ที่สนามหญ้า

มือของเขามีดอกไม้สดอยู่ กำลังจะถักเป็นมาลัยดอกไม้

ซินเอ๋อร์ของเขาสวมชุดกระโปรงเจ้าหญิงสวยงามไปทั้งร่าง นั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาวในสนามหญ้า สองมือเท้าคางมองมาที่เขา……

“เธอชอบไหม” เขาถักดอกไม้ดอกสุดท้ายเสร็จ ร่างของเธอสะท้อนอยู่ในดวงตาดำของเขา อาการป่วยเรื้อรังของเขา ทำให้เขากลายเป็นคนพูดน้อย ดูสง่างามราวกับชนชั้นสูง

“ชอบ นี่มันเหมือนพวงมาลัยดอกไม้ของเจ้าหญิงเลย”

“เธอเป็นเจ้าหญิงของพี่” ชายหนุ่มพูดออกมาราวกับเป็นประโยคธรรมดา นำพวงมาลัยดอกไม้ไปวางบนศีรษะของเธออย่างแผ่วเบา แววตามีแต่ความรักใคร่

“ฉันไม่ใช่เจ้าหญิง ฉันเป็นคน” ซ่างซินขยับพวงมาลัยดอกไม้บนศีรษะเล็กน้อย ยิ้มหวาน ยิ้มแบบนั้นราวกับจะส่งความหวานเข้าไปในใจของคนได้

“……” เขามองจนเผลอไป

“พี่เสี่ยวซือ ในหนังสือบอกว่าโลกนี้มีคนดีแล้วก็คนเลว แล้วก็มีทั้งคนที่ไม่ดีและไม่เลว พี่เป็นคนแบบไหน”

“……คนดี” ชายหนุ่มตอบอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

วินาทีต่อมา ร่างเล็กของเด็กหญิงก็ขยับมาอยู่ตรงหน้าเขา ใกล้กันแค่เอื้อม

นิ้วมือสีขาวจิ้มไปที่ใบหน้าของชายหนุ่ม ยิ้มออกมาราวกับจิ้งจอกน้อยเจ้าเล่ห์ “โกหก พี่เป็นคนของฉันต่างหาก”

ถังหยวนซือ “……”

โกหก พี่เป็นคนของฉัน……

เขาในตอนนั้นยังเด็กมาก

รู้สึกแค่ว่าหัวใจเต้นเร็ว ไม่ได้ตระหนักเลยว่าตัวเองถูกยั่วเข้าให้แล้ว