ตอนที่ 719 เหนียนเสี่ยวมู่ คุณกี่ขวบแล้ว? / ตอนที่ 720 เขาไม่ได้มาจริงๆ เหรอ

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 719 เหนียนเสี่ยวมู่ คุณกี่ขวบแล้ว?

“รักความสะอาด”

“ขี้จุกจิก”

“รักความเพอร์เฟ็ค”

เหนียนเสี่ยวมู่ชูนิ้วทั้งห้าขึ้น แล้วนับทีละนิ้วอย่างรวดเร็ว กำลังจะนับต่อก็รู้สึกว่าบรรยากาศภายในรถมันดูอึดอัดแปลกๆ

และก็ยังรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมานิดหนึ่งด้วย

มือที่กำลังจะยกขึ้นมานับเป็นตัวอย่างตกลงข้างตัวในทันที จากนั้นร่างกายก็ขยับไปติดกับประตูรถแล้วจับเอาไว้แน่น

เตรียมพร้อมเอาไว้ หากว่าชายหนุ่มจะเข้ามาต่อยเธอ เธอจะได้เปิดประตูรถหนีออกไปได้ทันที

“ปัญญาอ่อน เหนียนเสี่ยวมู่ คุณกี่ขวบแล้ว” อวี๋เยว่หานนั่งตัวตรงอีกครั้ง ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยแล้วเอนพิงกับเบาะพิง

น้ำเสียงของเขามีความแหบแห้ง ฟังแล้วเหมือนกำลังจะเป็นหวัด

แต่เหนียนเสี่ยวมู่รู้ว่านี่มันเป็นอาการก่อนที่เขาจะพ่นคำพูดร้ายๆ ออกมา

ผู้ชายคนนี้ตอนที่จะทำอะไรร้ายกาจมักจะแกล้งทำเหมือนไม่มีพิษมีภัยอะไร เพื่อให้ลดการระวังตัวจากนั้นก็จะตกอยู่ในเงื้อมือมารในที่สุด

จากนั้นก็อาศัยจังหวะที่เราไม่ทันระวังตัว ทำลายเราจนแหลกละเอียด!

จนไม่เหลือร่องรอยอะไรเลย

เหนียนเสี่ยวมู่พูดสรุปจากประสบการณ์ที่เคยโดนรังแกมาก่อน จ้องมองท่าทางสบายๆ ของชามหนุ่มอย่างเตือน

“ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนสักนิด อย่างน้อยหลังจากถูกคนกัดจนก็จะไม่ถามหมอว่าต้องฉีดยาแก้พิษสุนัขบ้าหรือเปล่า นอกจาก……”

เหนียนเสี่ยวมู่ชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็ค่อยๆ พูดเสริม “คนที่กัดฉันจะเป็นคุณ”

อวี๋เยว่หาน “……”

“หึ”

อวี๋เยว่หานโดนพูดเหน็บแนมก็ไม่ได้โมโหอะไร กวาดตามองหญิงสาวอย่างไม่เดือนร้อน

หันไปบอกให้คนขับออกรถ เพื่อทำลายโอกาสที่จะหนีของหญิงสาว

จากนั้น ดวงตาดำขลับจึงหันไปมองทางเธออีกรอบ “ตอนนี้กล้าพูดอย่างเมื่อกี้อีกรอบไหม”

เหนียนเสี่ยวมู่ “……”!!

เหนียนเสี่ยวมู่มองดูรถที่วิ่งไปมาบนถนน แล้วก็วิเคราะห์ถึงโอกาสรอดของตัวเองหากกระโดดลงไปอยู่ในใจ

เมื่อคำนวณได้ถึงโอกาสอันมีอยู่น้อยนิดของตัวเอง แม้สีหน้าจะดูราบเรียบ แต่ในใจกลับเต้นโครมคราม

สุดท้าย ก็เอื้อมมือขึ้นจัดผมของตัวเองด้วยท่าทางสง่างามท่ามกลางสายตายั่วยุของชายหนุ่ม

“เมื่อกี้คุณพูดอะไรกับฉันนะ ฉันไม่ได้ยิน”

“……”

“ช่างเถอะๆ ถ้าคุณจำไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดแล้ว ฉันง่วงแล้วอยากจะงีบสักหน่อย ถ้ายังไม่ถึงบ้านอย่าปลุกฉันนะ!”

ไม่นานหลังจากเหนียนเสี่ยวมู่พูดจบ คนพูดก็หลับตาลง

หลับไปในไม่กี่วินาที

เดิมทีแค่อยากจะแกล้งหลับ กลัวว่าจะโดนคนบางคนโยนออกไปจากรถ

แต่พอคนข้างๆ ไม่เอ่ยพูดอะไร เหนียนเสี่ยวมู่แกล้งหลับจนหลับสนิทไปเสียจริงๆ

ลมหายใจยาวและสม่ำเสมอ ใบหน้าที่สงบนิ่ง……

และก็ไม่รู้ว่าฝันเห็นของน่ากินอะไร น้ำลายจึงไหลออกมาตรงมุมปากของเธอไม่รู้ตั้งกี่หยดตามจังหวะการหายใจ……

อือ เธอไม่ปัญญาอ่อน

ก็แค่เด็กโข่งที่ยังเรียนไม่จบอนุบาลเท่านั้นเอง

อวี๋เยว่หานใช้มือข้างหนึ่งรองศีรษะของตัวเอง ค่อยๆ เอนตัวหันไปจ้องใบหน้าไร้พิษสงเหมือนเด็กทารกของหญิงสาว ดวงตาดำขลับทอแสงอ่อนโยน

กำชับให้คนขับรถขับช้าลงหน่อย ร่างสูงโปร่งนั่งอยู่ข้างๆ เธอ มองดูเธอเอนมาซบที่อกเขาตามสัญชาตญาณ แล้วเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเธออย่างพอใจ

“เหนียนเสี่ยวมู่ มีเพียงคนปัญญาอ่อนเท่านั้นที่จะหลับเหมือนหมูแบบนี้”

“……”

เหนียนเสี่ยวมู่หลับไปแล้ว ไม่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม แต่คนขับรถที่อยู่ด้านหน้าไม่ได้หลับ

มองจากกระจกหลัง เห็นคุณชายน้อยของตัวเองมีสีหน้าอ่อนโยนกอดเหนียนเสี่ยวมู่ไว้แน่นราวกับกอดเด็ก ก็ราวกับมองเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ดวงตาสองข้างเบิกกว้าง

คุณชาย แอบต่อว่าขณะที่เจ้าตัวหลับอยู่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่คนบรรลุนิติภาวะแล้วจะทำนะครับ

คุณทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ เพราะรู้ว่าผมจะไม่กล้าบอกคุณเหนียนใช่ไหม

ตอนที่ 720 เขาไม่ได้มาจริงๆ เหรอ

เหมือนว่าจะรู้สึกถึงสายตาที่มองมาของคนขับรถ อวี๋เยว่หานจึงค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้น จ้องตอบคนขับรถผ่านทางกระจกหลัง

คนขับรถสั่นไปทั้งร่างในทันที “คุณชาย สายตาผมไม่ค่อยดี เมื่อกี้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น หูก็เหมือนกัน ผมหูตึง!”

อวี๋เยว่หานจึงหลุบตาลงอย่างพอใจ

ก้มมองดูคนที่ซุกอยู่ที่อกของตัวเองต่อ สีหน้านิ่งๆ ราวกับว่าเมื่อครู่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย

อือ เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ ก็แค่มองคนขับรถตามมารยาทแวบหนึ่งก็เท่านั้น

เตือนอะไรกัน มันไม่ใช่นิสัยของเขาเสียหน่อย

เหนียนเสี่ยวมู่หลับสนิทมาก

แถมยังฝันอีกด้วย

ในฝันมันย้อนกลับไปสมัยที่เธอเป็นเด็ก ชอบอยู่ที่สนามหญ้าคนเดียว

มีสตอร์เบอร์รี่มากมาย แถมยังมีชิงช้าอีกด้วย

เธอชอบนั่งวาดภาพอยู่ตรงนั้น

บนภาพเป็นพี่ชายคนหนึ่งซึ่งหล่อที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา

เธอชอบแอบหนีออกไปเล่น

ถ้าคนที่ดูแลเธอไม่อนุญาต เธอก็จะปีนกำแพงออกไป

รั้วสูงมาก แต่สำหรับเธอแล้วมันไม่เป็นปัญหาเลย เธอผอมมาก สามารถลอดออกไปได้

จนกระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอลอดไปได้ครึ่งทางแล้ว จู่ๆ ก็มีผู้ชายสูงสง่าคนหนึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอแล้วตะโกนเรียกชื่อของเธอ “ลิ่วลิ่ว” เธอตกใจจนค้างอยู่ในรั้ว

ลอดออกมาไม่ได้

ขณะที่เธอกำลังจะเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นชัดเจน จู่ๆ ก็เกิดไฟไหม้ขึ้น

ไฟลุกใหญ่มาก เผาไหม้ทุกอย่าง

เธอหันหน้ากลับไปอยากตะโกนบอกให้คนในบ้านสิงรีบหนี แต่กลับพบว่าภาพด้านหลังของเธอไม่ใช่สนามหญ้าที่เธอคุ้นเคยอีกต่อไปแล้ว มันมีแต่กำแพงสีขาวทั้งสี่ด้าน……

ข้างหู มีคนเอาแต่ตะโกนบอกเธอ “ลิ่วลิ่วรีบวิ่งไป รีบหนีไป……”

“อ๊ายยยย”

จู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้เธอเด้งตัวตื่นขึ้นจากเตียง

เหนียนเสี่ยวมู่หันไปมองทางอวี๋เยว่หานอย่างตื่นตระหนก แต่อวี๋เยว่หานไม่อยู่แล้ว

มีแต่พ่อบ้านที่คอยเฝ้าอยู่ที่ด้านนอก

เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในห้อง จึงเคาะประตู เมื่อได้ยินเสียงของเธอถึงได้เดินเข้ามาด้านใน “คุณเหนียน คุณชายไปบริษัทแล้วครับ ท่านกำชับว่าช่วงหลายวันมานี้คุณไม่ค่อยได้พักผ่อนเท่าไหร่ ยังไม่ต้องรีบไปบริษัท ท่านลาหยุดให้คุณแล้ว”

“……”

เหนียนเสี่ยวมู่นั่งอยู่บนเตียง สองมือกำผ้าห่มเอาไว้แน่น สีหน้าขาวซีดเล็กน้อย

เธอยังตกอยู่ในภวังค์ความฝัน ยังไม่ได้สติ

มองดูเวลาเล็กน้อย เมื่อวานหลังจากลงมาจากรถก็กลับมาที่ห้องเพื่อปะติปะต่อเรื่องราวทั้งหมดกับอวี๋เยว่หาน เธอหลับไปตอนไหนก็จำไม่ได้เหมือนกัน

นึกไม่ถึงเลยว่าจะหลับมาถึงเช้าของอีกวัน

ความฝันเมื่อครู่……

เธอไม่ได้ฝันแบบนี้มานานมากแล้ว……

เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้เธอก็รีบลุกขึ้นจากเตียง

“ฉันรู้แล้ว คุณออกไปก่อนเถอะค่ะ”

เหนียนเสี่ยวมู่เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความเร็วสูงสุด จากนั้นก็ถือกระเป๋าเรียกรถไปยังสนามบิน

เมื่อเข้ามาถึงในสนามบินก็เห็นแฟนคลับจำนวนไม่น้อยถือป้ายให้กำลังใจ ยืนรวมตัวกันอยู่

ซ่างซินที่แม้จะอยู่ในชุดลำลองสบายๆ แต่ก็ยังดูเข้ากันดีกับตัวของเธอ ตอนนี้ยืนอยู่ท่ามกลางแฟนคลับ เซ็นชื่อและถ่ายรูปรวมกับพวกเขา

ผู้จัดการส่วนตัวกับบอดี้การ์ดยืนคุ้มกันตามหน้าที่……

ทุกคนต่างคิดว่าซ่างซินแค่ไปทำงานเฉยๆ ไม่นานก็กลับมา

บนใบหน้าของแฟนคลับทุกคนมีรอยยิ้มประดับอยู่ ไม่มีใครเห็นความว้าเหว่ในดวงตาของหญิงสาว

มีแค่เหนียนเสี่ยวมู่ที่รับรู้ว่าซ่างซินบาดเจ็บหนักเกินไป เธออาจจะไม่กลับมาที่นี่อีกเลย……

จู่ๆ ฝีเท้าของเหนียนเสี่ยวมู่ก็หยุดชะงักไป หันหน้าไปสำรวจมองดูคนที่เดินไปมารอบๆ สนามบิน

มองไม่เห็นถังหยวนซือ ก็มองสำรวจใหม่อีกรอบอย่างไม่ยอมแพ้

เรื่องที่ซ่างซินกำลังจะจากไป ถังหยวนซือไม่มีทางไม่รู้

เขาจะไม่มาจริงๆ เหรอ