บทที่ 320 ล่อหลอก
บทที่ 320 ล่อหลอก

ดาบยักษ์ของเทวทูตในมือนั้นเปล่งแสงสีเงินออกมาตลอดเวลา รูปร่างของมันเหมือนดาบศักดิ์สิทธิ์ของเสี่ยวไป๋หากแต่ใหญ่กว่ามาก ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่ดาบศักดิ์สิทธิ์ของเสี่ยวไป๋นั้นทำมาจากทองคำ แต่ดาบยักษ์ของเทวทูตเหมือนจะทำมาจากเงิน

ตอนนั้นเอง ร่างของเทวทูตก็พุ่งเข้ามาหาเซียวเฟิงที่อยู่ห่างกันถึงสองร้อยเมตรได้เพียงชั่วพริบตา หลังจากที่มันทำลายป่ามู่กวางด้วยคลื่นดาบไปแล้ว ดวงตาทั้งสองข้างของเทวทูตนั้นเยือกเย็นและเหมือนจักรกล ดาบยักษ์เล่มเดิมถูกง้างขึ้นสูงและสับลงมายังเซียวเฟิงอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าเซียวเฟิงจะตกใจ แต่เขาไม่ได้ตื่นตระหนก ร่างกายของเขามันขยับตัวเอี้ยวหลบได้อย่างทันเวลาทำให้คมดาบนั้นฟัดผ่าอากาศลงไปแทน

พลาด!

ถึงดาบยักษ์จะฟาดฟันเป้าหมายไม่โดน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังทำให้มวลอากาศแผ่กระจายออกโดยรอบราวกับกระแสลมที่เกิดจากพายุ หากเซียวเฟิงไม่ได้สวมชุดเกราะมังกรเอาไว้ บางทีเขาเองก็อาจจะถูกพัดปลิวไปแล้ว!

ความต่างชั้นของพลังในการต่อสู้มันห่างกันเกินไป!

แม้ชุดเกราะมังกรจะกันไม่ให้เขากระเด็นได้ แต่มันก็ไม่สามารถกันไม่ให้ชายหนุ่มหูอื้อได้! สายลมที่พัดกระทบรุนแรงนี้อย่างกับว่าเกิดระเบิดขึ้นและเขากำลังรับแรงกระแทกจากระเบิดนั้นก็ไม่เกินจริงเลย

อย่างไรก็ตาม การโจมตีนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อเทวทูตรับรู้ได้แล้วว่าตนโจมตีไม่โดนเซียวเฟิง มันก็รีบจับดาบด้วยมือทั้งสองข้างก่อนจะเหวี่ยงดาบไปรอบ ๆ ตัวเหมือนใจกลางพายุที่กำลังเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนท้ายสุดก็กลายเป็นพายุดาบขนาดใหญ่ที่น่ากลัวกว่าเดิมอีกหลายเท่า ความน่ากลัวนั้นไม่ได้อยู่ที่ขนาดของพายุดาบเพียงอย่างเดียว แต่มันยังสร้างแรงดึงดูดอันมหาศาลต่อสิ่งรอบข้างให้เข้าไปยังใจกลางพายุที่มีสภาพเสมือนเครื่องปั่นผลไม้ไปแล้ว!

คมดาบที่หมุนไปรอบ ๆ นั้นตัดทุกอย่างที่หลุดเข้าไปตามแรงดึงดูดได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือก้อนหิน มันทำให้สิ่งแวดล้อมโดยรอบเริ่มถูกทำลายและเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก!

โล่มังกร!

เซียวเฟิงที่ยังยืดหยัดนิ่งได้เพราะชุดเกราะมังกร ทำให้ไม่รับผลกระทบจากแรงกระทำจากด้านนอก แต่ถึงอย่างนั้นคลื่นดาบที่เกิดจากพายุยักษ์นั้นก็ถือว่าอันตรายมาก มันบีบบังคับให้เขาต้องหยิบเอาโล่มังกรขึ้นมาใช้เท่านั้น มีเพียงสิ่งนี้ที่สามารถป้องกันความเสียหายจากคลื่นดาบได้ขณะที่ตัวเขากำลังถอยออกไป

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!…

บล็อก!

บล็อก!

บล็อก!

บล็อก!

คลื่นดาบที่เข้าปะทะกับโล่มังกรรุนแรง ก่อให้เกิดเสียงของเหล็กหนัก ๆ ปะทะกันรัว ๆ เสียงของมันดังระงมไปทั่ว และด้วยเสียงที่ดังระงมนั้นเซียวเฟิงก็ต้องแบกรับแรงสั่นสะเทือนจนแขนชาไปหมดด้วย

ไม่มีจังหวะให้เขาได้อ้อยอิ่งหรือพักหายใจ เซียวเฟิงรีบถอยออกจากจุดปะทะอย่างรวดเร็ว โล่มังกรนี้ใช้ได้เพียง 30 วินาทีเท่านั้น เขาต้องใช้โอกาสนี้สร้างระยะห่างให้ได้มากที่สุด

โชคยังดีที่ระหว่างที่กำลังใช้พายุคมดาบนี้ ตัวเทวทูตเองก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ด้วย ซึ่งมันทำให้เซียวเฟิงสามารถถอยออกไปได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความคล่องแคล่วที่สูงเป็นพิเศษของเขา เพียงแค่แวบเดียว เขาก็สามารถถอยออกไปได้ไกลหลายร้อยเมตรแล้ว!

ทว่าแม้จะออกมาไกลมาแล้วก็จริง แต่เซียวเฟิงก็ยังรู้สึกได้ว่าตนยังตกเป็นเป้าหมายของเทวทูตอยู่ ยิ่งบอสระดับสูงมากเท่าไหร่ ระยะในการตรวจจับเป้าหมายก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น และด้วยระดับของเทวทูตตนนี้ มันน่าจะกว้างพอ ๆ กับเมืองหลักหนึ่งเมืองเลย!

ในขณะที่เซียวเฟิงกำลังจะหนีออกจากป่านั้นเอง ความรู้สึกวิกฤตมันก็กลับมาอีกครั้งจากด้านบน

เขาแหงนหน้ามองในทันที และสิ่งที่อยู่เหนือหัวเขาก็ทำให้คนที่ควบคุมอารมณ์ตนเองได้เป็นอย่างดีอย่างเซียวเฟิงยังต้องเผลออุทานออกมา

“เชี่ยไรวะเนี่ย!”

มันไม่ใช่ว่าการเจอเทวทูตจะทำให้เขาใจเสาะ หากแต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นนั้นมันยากเกินกว่าที่จะคงไว้ซึ่งความใจเย็นได้

บนฟากฟ้าที่แสงอาทิตย์สาดส่องนั้น จู่ ๆ มันก็กลายสภาพเป็นเหมือนรอยแตกขนาดใหญ่และแยกออกจากกัน แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างจากรอยแตกนั้น พร้อมกับส่งหอกสีทองขนาดใหญ่ค่อย ๆ พุ่งลงมาจากฟากฟ้าโดยมีเป้าหมายคือพื้นผิวโลกเบื้องล่าง!

หอกสีทองเล่มนี้ใหญ่มาก! ใหญ่เกินกว่าที่คำว่าใหญ่จะสามารถอธิบายมันได้อีก!

เพียงแค่ปลายหอกพุ่งลงพื้นก็สร้างความเสียหายได้ไม่ต่างอะไรกับปืนใหญ่เมืองแล้ว ด้วยขนาดที่ใหญ่พอ ๆ กับครึ่งหนึ่งของเมืองหลัก ไม่ต้องพูดถึงความยาวของตัวหอกเลย มันทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตาราวกับลานหินในสนามบินนานาชาติที่พร้อมจะส่งคนจากชาตินี้ไปเกิดใหม่ชาติหน้าได้ทันทีกว่าครึ่งเมือง!

ถ้าหากจะอธิบายให้เห็นภาพง่ายกว่านั้น ไอ้หอกทองคำเล่มนี้คือเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดมหึมาที่ย้อมสีทองและถูกส่งลงมาจากฟากฟ้าอย่างไรอย่างนั้นเลย!

เพียงแค่พิจารณาเอาจากขนาดของสกิลยามที่มันกระแทกเข้ามาที่พื้นโลก ภาพของวันสิ้นโลกมันก็ประจักษ์ชัดขึ้นมาทันที ความเสียหายปริมาณมหาศาลจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และความเสียหายนั้น ก็มีมากเกินกว่าจะคำนวณด้วย!

นี่มันสกิลหรือหายนะกันแน่! ระดับความน่ากลัวของเทวทูตตนนี้มันทะยานสูงเกินกว่าที่เซียวเฟิงคาดคิดไว้อีกครั้ง ดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากวันนี้เขาจะหลุดสบถออกมาเช่นนั้น

เซียวเฟิงไม่รู้ว่าตนควรจะหลบไปที่ไหนดี หอกทองคำเล่มนี้กินพื้นที่มากเกินกว่าจะหลบได้อย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะดูค่อย ๆ ดิ่งลงมา หากแต่แท้จริงแล้วมันดิ่งลงมาเร็วมาก ๆ ราวกับเป็นอุกกาบาตที่กำลังจะพุ่งเข้าโหม่งโลก คำนวณด้วยสายตาคร่าว ๆ ไม่เกิน 8 วินาที มันพุ่งเข้าชนโลกแน่ ๆ!!

ต่อให้ความเร็วของเขาจะเรียกว่าไม่ธรรมดาแล้ว แต่ยังไงก็หนีไม่พ้นขอบเขตการปะทะของปลายหอกทองคำนี้แน่ ๆ เพราะงั้นเลิกคิดเลยว่าถ้าโดนส่วนอื่นนอกจากปลายยอดแล้วจะเป็นอย่างไร มีเพียงสองทางเท่านั้นที่เขาจะสามารถเอาชีวิตรอดไปได้ นั่นคือ ใช้สกิลอมตะ 10 วินาทีของเกราะมังกร หรือไม่ก็สั่งใช้งานแหวนจักรวาลเพื่อวาร์ปตนเองไปยังจุดที่ได้ทำตราจักรวาลเอาไว้

แต่ตอนนั้นเอง เซียวเฟิงก็เหลือบไปเห็นตราแห่งการเกิดใหม่บนหัวของเขาที่กำลังจะหมดลงในไม่ช้านี้ ดังนั้นแล้วเซียวเฟิงจึงละทิ้งทางหนีทั้งหมดและหันไปเผชิญหน้ากับหอกทองคำเล่มนั้นซึ่ง ๆ หน้า!

ครืนนนนน!

ตู้ม!

เพียงแค่เสียงปะทะเริ่มต้น สติของเซียวเฟิงก็หลุดลอยออกไปในทันที วิสัยทัศน์ของเขาโดนปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวสะอาดที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกสบายใจเลย…อย่างกับตาจะบอด ในหูเขาได้ยินเพียงเสียงระเบิดจากการปะทะอย่างไม่หยุดยั้งของหอกทองคำ และเสียงเหล่านั้นก็ดังจนเขารู้สึกเหมือนหูจะหนวกตามไปด้วยเช่นกัน

ความรู้สึกเหมือนว่าร่างกายถูกฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ นี้อยู่เพียงไม่นาน เพราะหลังจากนั้นสติเขาก็กลับมาปกติ พร้อม ๆ กับเสียงแจ้งเตือนจากระบบที่ย้ำเตือนว่าตัวเขายังอยู่ในโลกของเกม

-1,873,444!

[ท่านได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนถึงชีวิต! สกิลการคืนชีพศักดิ์สิทธิ์ทำงาน! ท่านจะฟื้นคืนชีพที่จุดเดิมพร้อมกับพลังชีวิต 100%!]

เหมือนว่าโลกทั้งโลกได้ล่มสลายไปแล้วเมื่อครู่นี้ หลังจากที่แสงสีขาวจางลง เซียวเฟิงก็เห็นเพียงต้นไม้อยู่ไม่กี่ต้น ในขณะที่พื้นผิวที่ยืนอยู่นั้นสูญสลายกลายเป็นเถ้าถ่านลอยไปในอากาศเสียมาก สิ่งมีชีวิตหนึ่งเดียวที่รอดมาได้ในบริเวณนั้นมีเพียงเซียวเฟิงเพียงคนเดียว และนั่นก็เพราะพลังป้องกันของชุดเกราะมังกรด้วย เขาถึงยังอยู่ ณ จุดนี้ได้

เลขแสดงความเสียหายที่มากกว่า 1.8 ล้านหน่วยที่ปรากฏอยู่บนหัวนั้น ทำให้เขาไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อครู่นี้เขาถูกฆ่าตายตั้งแต่ปลายหอกแทงลงมาบนพื้นแล้ว อย่างไรก็ตาม เพราะสกิลการคืนชีพศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่อีกครั้งพร้อมกับพลังชีวิตเต็มเปี่ยมราวกับเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง มีเพียงตราแห่งการเกิดใหม่เท่านั้นที่หายไป

และโชคดียังเป็นของเขา เมื่อคูลดาวน์ของสกิลการคืนชีพศักดิ์สิทธิ์อีกรอบหนึ่งมันเสร็จสิ้นพอดี เพราะงั้นเซียวเฟิงจึงรีบร่ายตราแห่งการเกิดใหม่ให้ตนเองอีกครั้ง อย่างน้อย ๆ ก็เพื่อกันกรณีร้ายแรงเกิดขึ้น

แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องนำพาหอกทองคำลงมาหายไปหมดแล้ว และบนภาคพื้นก็กลายสภาพเป็นหุบเขาไปเสียแล้ว ป่ามู่กวางแทบจะทั้งป่าถูกไถจนไม่สามารถเรียกป่าได้อีกต่อไป สภาพแวดล้อมในโลกแห่งเกม ถูกแปรเปลี่ยนด้วยสกิลของเทวทูตเพียงครั้งเดียว! ช่างน่ากลัวจริง ๆ!

เสียงสายลมที่ถูกพัดกระโชกดังขึ้นจากบนฟากฟ้าอีกครั้ง เซียวเฟิงไม่มีเวลาได้เตรียมตัว เขารีบแหงนหน้ามองแล้วก็พบว่าเทวทูตตนเดิมกำลังกระพือปีกทั้งหกที่เสียหายและเข้าหาเขาหมายจะฆ่าอีกครั้งด้วยดาบขนาดใหญ่ในมือ

เหนือหัวของเทวทูต มันมีค่าความเสียหายที่ยังไม่จางหายปรากฏขึ้นอยู่

-187,344!

มันเป็นความเสียหายที่เกิดจากสกิลสะท้อนกลับของเกราะมังกร นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เซียวเฟิงเลือกที่จะประจันหน้ากับหอกสีทองเล่มยาวตรง ๆ ด้วยพลังที่สามารถทำลายได้ทั้งฟากฟ้าและโลกา ความความเสียหายของมันที่แม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สะท้อนกลับไปจึงไม่ใช่น้อย ๆ เลยทีเดียว

ในตอนที่ยังไม่มั่นใจถึงพลังโจมตีของมัน เซียวเฟิงตัดสินใจที่จะใช้ตนเองเป็นเครื่องมือทดสอบ โดยมีสกิลการเกิดใหม่เป็นข้อได้เปรียบ และผลออกมามันก็ชัดเจน ความรุนแรงของสกิลนั้นมีมากถึง 1.8 ล้านหน่วย ซึ่งมันช่วยยืนยันว่าการตัดสินใจของเซียวเฟิงนั้นถูกต้อง ความเสียหายที่สะท้อนกลับไปหาเจ้าของการโจมตีจึงสูงถึง 180,000 หน่วย! มันทำให้หลอดพลังชีวิตที่สูงระดับแปดล้านหน่วยของเทวทูตถึงกับสั่นคลอน!

มังกรคำราม!

ภาพเรือนรางของมังกรกระดูกปรากฏขึ้นที่เบื้องหลังของเซียวเฟิง มังกรตนนั้นอ้าปากที่ประกอบขึ้นจากกระดูกขึ้นและคำรามขึ้นฟ้า ผลของเสียงคำรามนั้นทำให้เทวทูตที่หมายจะเข้ามาฆ่าเซียวเฟิงติดสถานะงุนงงและร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าไปกองอยู่กับพื้น

เซียวเฟิงถือโอกาสนี้ถอยตัวให้ห่างออกจากอีกฝ่ายพร้อมกับร่ายสกิลมากมายใส่พร้อม ๆ กันโดยไม่สนใจว่าสกิลนั้นจะเป็นสกิลรักษาอย่างโฮลี่ไลท์หรือฮีลลิ่งทั่วไป รวมไปถึงบัฟต่าง ๆ อย่างอวยพรอาวุธและอวยพรความกล้าเองก็ถูกร่ายใส่ตัวเขาเองด้วย เขาพยายามจะทำให้เงื่อนไขของ ‘การตื่นของความรอบรู้’ ทำงานขึ้นมาและหวังให้มันสุ่มถ้อยวาจาแห่งเงามารีเซ็ตคูลดาวน์

ในขณะที่เซียวเฟิงกำลังทุ่มความพยายามทั้งหมดของตัวเองเพื่อต่อสู้กับเทวทูตนั้นเอง ที่แคมป์กิลด์ขนาดเท่าเมืองบริเวณทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเซิงสุ่ยก็ปรากฏกองทัพมากมายมารวมตัวกันที่นั่น

[ประกาศทั่วทั้งเขต! กิลด์แอนติควิตี้ได้ประกาศสงครามกับกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์แล้ว! ระยะเวลาของกิลด์วอร์คือ 12 ชั่วโมง! ภายใน 12 ชั่วโมงนี้ หากแคมป์ของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ถูกทำลาย จะถือว่ากิลด์วอร์สปิริตฮอลล์พ่ายแพ้ แต่ถ้าแคมป์ของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ จะถือว่ากิลด์วอร์สปิริตวอร์เป็นผู้ชนะ! หลังจากที่สงครามกิลด์จบลงแล้ว ฝ่ายที่แพ้จะถูกระบบลงโทษโดยอัตโนมัติ นั่นคือ กิลด์จะถูกลดเลเวลลงมา 1 เลเวล แล้วถ้าหากกิลด์นั้นมีเลเวลเพียงแค่ 1 กิลด์นั้น ๆ จะถูกถอนใบอนุญาต! ในส่วนของผู้ชนะ ค่าประสบการณ์ที่หักจากกิลด์ที่พ่ายแพ้นั้นจะถูกมอบให้เป็นของรางวัล! ระหว่างที่เกิดสงครามกิลด์ ผู้เล่นที่ต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น จะไม่ถูกเพิ่มค่าความเกลียดชัง!]

[ประกาศทั่วทั้งเขต! กิลด์เดอะเดย์อาฟเตอร์ทูมอร์โรว ได้ประกาศสงครามกับกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์แล้ว…]

[ประกาศทั่วทั้งเขต! กิลด์หยางหยูเซาท์ ได้ประกาศสงครามกับกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์แล้ว…]

[ประกาศทั่วทั้งเขต! กิลด์ก็อตพีค ได้ประกาศสงครามกับกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์แล้ว…]

ที่แห่งนี้เป็นพื้นน้ำแข็งแท้ ๆ แต่กลับเต็มไปด้วยผู้เล่นมากมายหลักล้านคนมารวมกันอยู่ราวกับทะเล แคมป์ขนาดใหญ่ของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์กำลังถูกห้อมล้อมด้วยผู้เล่นเหล่านี้

ทุ่งน้ำแข็งแห่งนี้คือแคมป์ของวอร์สปิริตฮอลล์ที่ถูกสร้างขึ้นให้แข็งแกร่งกว่าเดิม แต่เมื่อได้มองไปยังจำนวนของผู้เล่นที่อยู่ด้านนอกแคมป์ ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าหนักใจกันออกมา

สกายเดินกลับไปยังประตูของหอคอยที่มีสภาพเหมือนหอคอยน้ำแข็งเพื่อขึ้นไปสังเกตการณ์จากด้านบนที่สูงอยู่หลายครั้งหลายครา มันแสดงให้เห็นชัดว่าตัวเขาเองก็ไม่สงบใจนัก

“ทำไมพวกนี้ถึงได้มาถึงพวกเราเร็วนักล่ะ?”

เขารู้อยู่แล้วว่ายังไงวอร์สปิริตฮอลล์ก็ต้องตกเป็นเป้าหมายของแอนติควิตี้อย่างแน่นอน แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าแอนติควิตี้จะเดินทางมาถึงเร็วขนาดนี้ คนเหล่านี้เดินทางเร็วจนวอร์สปิริตสกายไม่ทันได้คิดว่าควรจะรับมืออย่างไรดีในขณะนี้!

ทั้งสี่กิลด์ประกาศสงครามกับวอร์สปิริตฮอลล์พร้อม ๆ กัน ซึ่งทำให้อีกฝ่ายมีกำลังคนกว่าห้าล้านคนเข้าไปแล้ว! นี่คือการแสดงความเคารพที่มีต่อวอร์สปิริตฮอลล์ที่เป็นกิลด์ใหญ่และมีชื่อเสียง แม้ตอนนี้พวกเขาจะอยู่ในอันดับที่ 25 ของอันดับกิลด์ก็ตาม

แต่ก็เพราะแบบนี้ สกายจึงกังวลมากกว่าเดิม! ถึงแม้ตอนแรกเขาจะแค่ไม่มั่นว่าจะชนะกิลด์แอนติควิตี้ได้หรือเปล่า แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าแอนติควิตี้ยังมีอีกสามกิลด์มาด้วย มันก็ทำให้เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะสามารถยื้ออะไรไหว! เพียงแค่จำนวนคนมันก็ต่างกันมากแล้ว! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ภายในกิลด์แอนติควิตี้มีแต่พวกผู้เล่นระดับท็อปอยู่มากมายเต็มไปหมดนั่นเลย!

ใครจะรู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับกิลด์ของตนเองจะหนักหนาถึงเพียงนี้ ถึงแม้ว่ากิลด์วอร์สปิริตฮอลล์จะเป็นกิลด์ขนาดใหญ่ที่อยู่คู่กับเกมมาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่นอกจากสมาชิกหลักแล้ว พวกเขาก็มีผู้เล่นเป็นสมาชิกเพียงสองล้านคนเท่านั้นที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้อยู่ในระดับสูง ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะเป็นผู้เล่นที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้สูง แต่ก็หาใช่ยอดฝีมือไม่ ดังนั้นสิ่งที่วอร์สปิริตฮอลล์ขาดอยู่ก็คือ ยอดฝืมือในระดับท็อป ถ้าในครั้งนี้เขาไร้ซึ่งคนช่วยแล้วล่ะก็ วอร์สปิริตฮอลล์ก็จะถูกทำลายลงในวันนี้อย่างแน่นอน พวกเขาจะกลายสภาพเป็นเหมือนกิลด์อื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วนที่ต้องล่มสลายเพื่อเป็นขั้นบันไดให้แอนติควิตี้เติบใหญ่ต่อไปได้ ซึ่งนี่ก็เป็นวิธีที่แอนติควิตี้ใช้มาโดยตลอด

เพราะงั้นสกายจึงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังมุมหนึ่งของแคมป์ที่ซึ่งมีหญิงสาวสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่ ทั้งสองสาวงามนั้นเป็นเสมือนที่พึ่งสุดท้ายของวอร์สปิริตฮอลล์แล้ว เธอคือหัวหน้ากิลด์มิดซัมเมอร์ หลิวเฉียงเหว่ย และเจ้าของร้านค้ามหาสมบัติ…เฉียนโตวโตว!

“ฉันคิดต่อพี่เซียวไม่ได้เลย!”

เฉียนโตวโตวหันไปพูดกับหลิวเฉียงเหว่ยด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย เธอพยายามโทรหาเซียวเฟิงจนนับสายไม่ถ้วนแล้วไหนจะส่งข้อความส่วนตัวไปอีกเป็นจำนวนมหาศาล แต่เธอก็ไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆ มาจากเซียวเฟิงเลย

“ไม่ต้องกังวลไป จากรายชื่อเพื่อน พวกเราก็เห็นแล้วว่าเขาล็อกอินเกมอยู่ บางทีเขาอาจจะกำลังทำอะไรบางอย่างที่สำคัญมาก ๆ อยู่จนพวกเราไม่สามารถติดต่อเขาได้ในตอนนี้ เพราะงั้นเตรียมตัวต่อสู้ให้พร้อมก่อนดีกว่า ไว้มีเวลาว่างค่อยลองใหม่อีกครั้ง”

ตรงกันข้ามกับเฉียนโตวโตว หลิวเฉียงเหว่ยในตอนนี้ใจเย็นเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับน้ำเสียงที่พูดออกมา

“ฉันหวังว่าพี่เซียวจะมาทันเวลานะ ไม่งั้นล่ะก็ แม้แต่ฉันเองก็ไม่มั่นใจว่าสงครามครั้งนี้พวกเราจะชนะได้! พวกผู้เล่นระดับสูงของแอนติควิตี้น่ะแข็งแกร่งเกินไป! แถมยังมีผู้เล่นแบบนั้นอยู่เป็นจำนวนมากในกิลด์อีก!”