ผู้เข้าร่วมประมูลแตกฮือทันที

“เจ้าว่าอย่างไรนะ แผนที่มังกรฟ้า? หมายถึงแผนที่ของไข่มุกมังกรสีครามใช่หรือไม่”

“ถูกต้อง และคิดว่าทุกคนคงทราบกันดีว่าไข่มุกมังกรคืออะไร บนโลกนี้มีไข่มุกมังกรทั้งหมดเจ็ดลูก แต่ละลูกมีสีที่แตกต่างกันคือสีแดง แสด เหลือง เขียว คราม น้ำเงิน และสีม่วง และการค้นหาไข่มุกมังกรจำเป็นต้องมีแผนที่”

“พระเจ้า ไข่มุกมังกรที่เล่าลือนั่น เร็วเข้า เจ้ารีบกลับไปเอาเงินมาเพิ่ม ต่อให้ต้องขายสมบัติพัสถานทั้งหมดก็ต้องเอาเงินทั้งหมดมาให้ได้”

“ท่านพ่อ เวลาเพียงครึ่งชั่วยามจะขายเรือนก็ขายไม่ได้อยู่ดี”

“เช่นนั้นก็ไปที่เรือนก่อน เอาเงินทั้งหมดมาที่นี่”

“ท่านอาฝู ท่านรีบกลับไปหาฮูหยินก่อนเถิด ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้ฮูหยินนำเงินทั้งหมดที่มีในเรือนออกมา จากนั้นค่อยให้ฮูหยินกับบุตรชายทั้งหลายของข้าไปขอยืมเงิน ให้ยืมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะยืมได้ คราวนี้ต่อให้ต้องตายก็ต้องประมูลแผนที่ไข่มุกมังกรครามมาให้ได้”

“…..”

แขกเกือบทุกคนที่เข้าร่วมการประมูลสั่งให้คนรับใช้ของพวกเขากลับไปนำเงินมาจากเรือน

แม้แต่อัครเสนาบดีกู้ที่ไม่คิดจะเข้าร่วมการประมูลต่อยังตื่นเต้นขึ้นมาอีก เขาสั่งให้กู้ชูอวิ๋นรีบกลับไป ต่อให้ต้องขายจวนอัครเสนาบดีทิ้งก็ต้องหาเงินมาให้ได้

ผู้คนที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่นในการประมูลครั้งนี้บางตาลงอย่างฉับพลัน

แววตาของเยี่ยจิ่งหานเป็นประกายกล้า ดวงตาที่สงบนิ่งคู่นั้นยังคงจ้องมองไปที่เวทีด้านหน้า

ร่างกายของชิงเฟิงยิ่งแข็งเกร็งกว่าเดิม เขายืดหลังตรงและคอยเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง

เมื่อมองไปในห้องส่วนตัวของซั่งกวนฉู่และอี้เฉินเฟยก็รู้สึกได้ว่ามีแรงกดดันบางอย่างแผ่ออกมาเช่นกัน

กู้ชูหน่วนเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง

อี้เฉินเฟย ซั่งกวนฉู่ หรือแม้แต่เยี่ยจิ่งหานต่างก็มาที่นี่เพื่อแผนที่ไข่มุกมังกรคราม

ต่อให้นางไม่ลากเยี่ยจิ่งหานมาดูการประมูล เยี่ยจิ่งหานก็จะส่งใครบางคนมาประมูลแผนที่ไข่มุกมังกรครามอยู่ดี

ไข่มุกมังกร?

ว่ากันว่าผู้ที่ครอบครองไข่มุกมังกรได้ก็คือผู้พิชิตโลก นอกจากนี้ยังจะเป็นอมตะอีกด้วย

เหอะ…

ข่าวลือก็แค่ข่าวลือ ไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดคนพวกนี้จึงโง่เขลางมงายเช่นนี้

“แผนที่ไข่มุกมังกรคราม เริ่มประมูลที่ราคาแปดสิบล้านตำลึง”

“แปดสิบห้าล้านตำลึง”

“เก้าสิบล้านตำลึง”

“หนึ่งร้อยล้าน”

“หนึ่งร้อยสิบล้านตำลึง”

“หนึ่งร้อยสามสิบล้านตำลึง”

“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง”

“สองร้อยล้านตำลึง”

ฮือฮา

อัครเสนาบดีกู้มองคนนั้นทีมองคนนี้ที

ใช้เวลาเพียงครู่เดียวราคาก็พุ่งสูงถึงสองร้อยล้านตำลึงแล้วรึ

เขาสงสัยว่าคนเหล่านี้อาจจะดีแต่พูด

สองร้อยล้านตำลึงนับเป็นเงินจำนวนไม่น้อย พวกเขาไม่เข้าใจหรืออย่างไรว่าต่อให้เป็นท้องพระคลังก็ยังหาไม่ได้ เป็นเรื่องที่ยุ่งยากเป็นอย่างยิ่ง

“สองร้อยยี่สิบล้าน”

“สองร้อยสามสิบล้าน”

“สองร้อยห้าสิบล้าน”

อัครเสนาบดีกู้รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว แทบอยากจะยกเก้าอี้ขึ้นมาปาใส่พวกที่เสนอราคาเหล่านั้นให้ล้มกระเด็น

ต่อให้เขาฆ่าคนหมดทั้งจวนอัครเสนาบดี เขาก็ยังรวบรวมเงินได้ไม่ถึงสองร้อยห้าสิบล้านตำลึงอยู่ดี

คนพวกนี้เอาเงินมาจากไหนกันแน่ ถึงได้ตะโกนเอาๆ อย่างนั้น

กู้ชูหน่วนไม่คิดว่าการประมูลจะร้อนแรงขนาดนี้

ดูเหมือนไข่มุกมังกรจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อโลกใบนี้

“สามร้อยล้านตำลึง”

มีคนตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่นระริก

หลังจากราคาพุ่งไปถึงสามร้อยล้านตำลึง หลายๆ คนก็เริ่มทนไม่ไหว ถึงแม้จะอยากได้แผนที่ไข่มุกสีครามมากแค่ไหนพวกเขาก็จำต้องยอมแพ้

เมื่อเห็นว่าผู้เสนอราคาเริ่มลดน้อยลงแล้ว อี้เฉินเฟยจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “ห้าร้อยล้านตำลึง”

ฮือฮา…

ห้าร้อยล้าน

เยอะมาก…

คนในห้องส่วนตัวหมายเลขเจ็ดคือใครกันแน่

เหตุใดจึงดูสง่าผ่าเผยเช่นนี้