คุยไม่ถูกคอ ครึ่งคำก็ยังมากไป
สามผู้พิทักษ์วชิระของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ต่างรุดขึ้นหน้า ข้อกระดูกมือทั้งสองดังกรอบแกรบ ประสงค์จะสู้ศึกชัดเจน
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ก็เข้าคู่กับเย่จิ่งหาน
ฝูกวงขึ้นหน้า อยากต่อสู้หนึ่งต่อสามกับผู้พิทักษ์วชิระแต่กู้ชูหน่วนดึงฝูกวงกลับมา ตำหนิ “ชิงเฟิงกับเจี่ยงเสวียก็อยู่ เจ้ายังจะยุ่งอะไร อย่าเอาแต่แย่งผลงานพวกเขาสิ!”
ชิงเฟิงกับเจี่ยงเสวียต่างพูดไม่ออกไปตามๆ กัน
คุณหนูสามกู้หมายความว่าอะไร?
คิดจะใช้แรงงานพวกเขาเปล่าๆ หรือ?
คนที่หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ต้องการคือนางต่างหาก!
ฝูกวงชะงัก เอ่ย “นายหญิงกู้ ข้าน้อยทุ่มสุดกำลัง คนเดียวก็สู้กับสามคนได้นะขอรับ”
“การต่อสู้เมื่อครู่เจ้ามิใช่บาดเจ็บหรือ? ยืนอยู่นี่ ห้ามไปไหนทั้งนั้น!”
ครั้นเห็นสายตาที่กู้ชูหน่วนส่งมาให้เขา ฝูกวงก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมาแบบความรู้สึกช้า ทันใดนั้นก็กุมหน้าอกตัวเอง ขมวดคิ้วเอ่ย “โอ๊ย อกข้าเจ็บจังเลย กำลังภายในทั้งตัวก็หายไปหมด”
ทุกคนพูดไม่ออก
การแสดงนี้… เห็นพวกเขาเป็นคนโง่เขลาหรืออย่างไร?!
กู้ชูหน่วนใช้เสียงดังตะโกนเอ่ย “ท่านอ๋อง เมื่อครู่หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ว่าสองขาท่านพิการ ขาที่สาม (*อวัยวะเพศชาย)ก็ทั้งเล็กทั้งไร้ประโยชน์ แล้วยังหน้าตาอัปลักษณ์ ขนาดจะหน้าตรงยังมิกล้าเปิดเผย ข้าล่ะคับแค้นใจแทนท่านจริงๆ แต่จนใจที่ข้าไม่มีวรยุทธ์ สู้เขาไม่ได้ แต่ข้าก็จะโบกธงตะโกนร้องสู้ๆ เป็นกำลังให้นะ!”
ซี๊ด…
ทั้งสนามเงียบกริบ
อุณหภูมิเย่จิ่งหานลดลงฮวบ สีหน้าดำเป็นก้นหม้อทันที
ขาที่สามทั้งเล็กทั้งไร้ประโยชน์…
นังผู้หญิงคนนี้…
เขาอยากบี้นางให้ตายจริงเชียว!
เย่เฟิงพูดไม่ออกหลับตา แทบไม่กล้ามองใบหน้ากระหายเลือดที่มีเกล็ดน้ำค้างแข็งปกคลุมของเย่จิ่งหาน
ฮองเฮาฉู่ก็ตะลึงในคำพูดของกู้ชูหน่วนด้วย
นางใช่สตรีหรือ? ไยวาจาเช่นนี้ก็เอ่ยออกมาได้?
ชิงเฟิงกับเจี่ยงเสวียรู้สึกกระทั่งอยากตาย
นางไม่รนหาที่ตายจะไม่หนำใจหรือ?
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้หัวเราะหนัก ในความบ้าอำนาจเจือการยิ้มเยาะ “เทพสงคราม หาชายาได้ดีจริงๆ”
“โครม…”
เย่จิ่งหานใช้ท่าพิฆาตที่ทำลายล้างฟ้าดินตอบรับหัวหน้ากองธงกล้วยไม้
ท่าพิฆาตนี้นำมาด้วยกลุ่มอัคคี แสงแห่งอัคคีผ่านไปที่ใด แม้แต่หินขนาดใหญ่ก็ยังต้องถูกเผาทำลายจนเหลว เห็นได้ถึงความแข็งแกร่งของพลังนั้น
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ตะลึง หลบท่าพิฆาตนั้นได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ยังถูกหางเลขไหม้ถูก แขนถูกย่างดำไปครึ่งหนึ่ง
สายตากู้ชูหน่วนจ้องเขม็ง
นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นเย่จิ่งหานออกโรง
และเป็นครั้งแรกที่เห็นคนแค่ใช้กำลังภายในก็สามารถหลอมหินละลายได้
แกร่งจริง
กำลังภายในแกร่งมาก
หากเป็นนางที่ต่อสู้ด้วย ก็กลัวแต่โอกาสชนะสักนิดก็ไม่มี
หลังจากตะลึงแล้ว กู้ชูหน่วนก็ปรบมือเสียงดัง “ท่านอ๋องช่างน่าเกรงขาม จัดการเขาต่อ! เผาเลย! เผาขาที่สามของเขาด้วย!”
ทุกคน “…”
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้โกรธขึ้นสมอง ถูกพวกเขายั่วจนเดือดดาลแล้วจริงๆ เมื่อนั้นก็รวมกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือ
ก็ขณะที่เขาคิดจะสู้ศึกสุดตัวอยู่นั้นเอง จู่ๆ เสวียซาก็มาถึงแบบรีบร้อน แล้วกระซิบข้างใบหูหัวหน้ากองธงกล้วยไม้
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ก็ระทึกพลัน มองทางกู้ชูหน่วนอย่างตกใจ ลักษณะฝีปากเอ่ยคำนี้ออกมา…จอมมาร
กู้ชูหน่วนงุนงงเล็กน้อย
มองนางทำไม?
ใบหน้านางมีอะไรหรือ?
คำที่ลักษณะปากเขาเอ่ยออกมาเหมือนจะเป็นคำว่าจอมมาร
แล้วมองเสวียซาที่อยู่ข้างหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ กู้ชูหน่วนเอ่ยถามฝูกวงอย่างฉงนใจนิดๆ
“คนผู้นั้นมิใช่จอมมารหรือ?”
“เรียนนายหญิงกู้ เขาคือเสวียซาผู้พิทักษ์ซ้ายข้างกายจอมมาร วรยุทธ์สูงนัก เป็นลูกน้องคนสนิทของจอมมารขอรับ ”
หือ…
เขาไม่ใช่จอมมาร?
เช่นนั้นก่อนหน้านี้นางจำผิดไปหรือ?
นัยน์ตาเย็นเฉียบของเย่จิ่งหานมองตรงมาที่กู้ชูหน่วน สายตาเจือโทสะ
นังผู้หญิงคนนี้ล่อลวงผู้ชายไปทั่วยังพอว่า แม้แต่จอมมารก็จะเอาด้วยหรือ?