ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 229

กลับไปถึงเซี่ยจื่อหย่วน จื่ออันอยากจะตรวจให้กับหยวนซื่อ แต่หยวนซื่อกลับหยุดมือนางไว้ “จื่ออัน เจ้านอนพักก่อนเถอะ มีอะไรค่อยพูดกันวันพรุ่งนี้”

“ไม่ ข้าจะเริ่ม…”

“ฟังข้า เจ้าต้องนอนหลับพักผ่อน” หยวนซื่อยืนหยัดเอ่ยออกไป

จื่ออันมองใบหน้าขาวซีดที่ดื้อรั้นของนาง รู้ว่านางกำลังสงสารตนอยู่ จึงกลับห้องไปพักผ่อนตามคำ

บาดแผลของเสียวซุนค่อย ๆ ดีขึ้น แม่นมหยางคอยดูแลเป็นอย่างดี ช่วงที่จื่ออันไม่ได้อยู่ในจวนนั้น ไม่มีผู้ใดกล้ามาก่อเรื่องที่นี้

แม่นมหยางไม่มีคำถามใดออกมาสักคำ รับใช้จื่ออันเรียบร้อยแล้วจึงถอยออกไป

จื่ออันรู้สึกเหนื่อยและง่วงมาก แต่ภายในหัวกลับมีเรื่องให้คิดมากมาย

มีดสั้นก็เป็นเรื่องที่ทำให้นางสงสัย แต่นางมิได้สืบสาวราวเรื่อง ไม่ว่ามีดสั้นจะมีที่มาที่ยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ตอนนี้มันอยู่ในมือของนางแล้ว

และไม่ได้คิดถึงว่าต่อไปจวนมหาเสนาบดีจะมีท่าทีกับนางอย่างไร ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นางสมควรคำนึงถึงมากที่สุด เพียงแต่นางกลับกังวลถึงเรื่องที่มู่หรงเจี๋ยจะกลับถึงจวนอ๋องมากกว่า

เรื่องราวก่อนและหลังคิดปะปนกัน เบื้องหลังนักฆ่าคนที่สองได้เริ่มเผยตัวออกมาแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับมันอย่างไร?

ก่อนที่จะกลับมานั้น ได้ยินว่าพวกเขากำลังเคลื่อนย้ายกองกำลัง ยังได้ยินว่าให้พันผ้าพันแผลบนบากแผลเขาให้ดีสักหน่อย จริงเท็จหรือไม่นั้นว่าบางทีเขาอาจจะรู้ว่าหลังจากที่กลับจวนแล้วอาจจะมีการดักซุ่มอยู่?

จื่ออันคาดเดา จริง ๆ แล้วถูกอยู่แปดเก้าส่วนไม่ห่างจากความจริงนัก

หลังตากมู่หรงเจี๋ยฆ่าพวกนักฆ่าเหล่านั้น ก่อนที่ข่าวจากในวังจะแพร่ออกไปนั้น อ๋องหนานหวายได้ออกคำสั่งให้คนกระจายข่าวออกไปว่านักฆ่าเหล่านั้น ถูกมู่หรงเจี๋ยฆ่าซะแล้ว

ดังนั้นหลังจากที่มู่หรงเจี๋ยออกจากวังแล้วนั้น จึงถูกซุ่มโจมตี

อ๋องหนานหวายยืนอยู่ในบ้านเรือนแถวนั้น ก้มลงมองการต่อสู้นั้น

เขารู้ว่ามู่หรงเจี๋ยจะต้องมีการเตรียมการไว้แล้ว และรู้ว่าเขาจะต้องมีความสามารถในการเอาตัวรอดออกมาได้ เพียงแต่การลอบฆ่าครั้งนี้ยังจำเป็นจะต้องเกิดขึ้น คืนนี้ถ้าเขาฆ่าคนเพิ่มขึ้นหนึ่งคน ก็จะมีศัตรูเพิ่มอีกหนึ่ง ต่างก็มาจากสำนัก ไม่ได้เป็นนักฆ่าอิสระ

“ท่านอ๋อง เสด็จกลับเถอะเพคะ!” มีสตรีสวมชุดสีขาวผู้หนึ่งปรากฏกายอย่างเงียบ ๆ ด้านหลังของเขา จับมือเขาเบา ๆ แสงจันทร์สาดส่องลงบนใบหน้างดงามของนาง เกือบจะทำให้แสงจันทร์นั้นดูแข็งค้าง

จวนผู้สำเร็จราชการแทน

กุ้ยไท่เฟยนั่งอยู่ในห้องโถงหลักของเรือน โคมขาวที่ประดับอยู่ในจวนถูกถอดออก เรื่องราวในวังนั้นได้แพร่ออกมาจนถึงหูนางแล้ว

หลังจากที่นางได้ยินข่าวแล้วนั้น มือของนางก็สั่นไหวอยู่ตลอดเวลา

นางไม่ชอบความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมได้เยี่ยงนี้ เรื่องราวมิอาจควบคุมได้ ทำให้นางรู้สึกร้อนรนและสับสน

เซี่ยจื่ออันยังมีชีวิตอยู่ สำหรับนางแล้วไม่เป็นผลดีอันใด

องค์รักษ์สองนายคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของนางตัวสั่น พวกเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเซี่ยจื่ออันจะยังมีชีวิตอยู่ นางไม่มีวรยุทธ์ กระโดดลงจากหน้าผาจะต้องตายเป็นแน่ แต่นางยังมีชีวิตกลับมาได้

ไท่เฟยถอนหายใจเบา ๆ “พวกเจ้ามิใช่กลับมารายงานข้า บอกว่าเซี่ยจื่ออันได้ตกหน้าผาเสียชีวิตไปแล้วมิใช่รึ? ทำไมนางถึงยังมีชีวิตอยู่?” เซี่ยจื่ออันหากไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ดูจากบาดแผลของอาเจี๋ยแล้ว คงจะมิอาจช่วยกลับมาได้ เขาคงจะหมดลมภายในจวนไปแล้ว บนบาดแผลก็เต็มไปด้วยยาเม็ดแล้ว ยาเหล่านี้สามารถทำให้เขาตายได้

นางเอ่ยถามยาว มิอาจพูดออกมาอย่างอ่อนโยนได้ ความเกลียดชังมิได้ปรากฏบนระหว่างคิ้ว คำร้องทุกข์ใด ๆ ก็ไม่เอ่ยออกมา