ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 230

“กุ้ยไท่เฟย กระหม่อมรอจนมองเห็นเซี่ยจื่ออันตกหน้าผาไปแล้วจริง ๆ…พ่ะย่ะค่ะ” องค์รักษ์รูปร่างผอมเป็นผู้อธิบายออกไป แต่กลับมิกล้าที่จะเอ่ยต่อ เพราะว่าตอนนี้เซี่ยจื่ออันยังมีชีวิตกลับมา เป็นความจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้

กุ้ยไท่เฟยเอื้อมมือไปขยี้คิ้ว แล้วเอ่ยกับป้าซือจู “นำออกไป ปิดปากซะ!”

องค์รักษ์สองนายได้ฟังคำนี้แล้วนั้น ล้มลงกับพื้นในชั่วขณะนั้น ทั้งสองนายมิอาจร้องขอความเป็นธรรมได้ เพราะพวกเขารู้ดีว่า ร้องขอความเป็นธรรมไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด มีแต่ยั่วยุให้ไท่เฟยโกรธมากยิ่งขึ้น จนตายอย่างน่าอนาถ

ป้าซือจูโบกมือขึ้นลง ส่งสัญญาณให้คนเข้ามาลากออกไป

ประตูจวนมีเสียงเบื่อหน่ายลอยมา แล้วก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอันใด

ทาสรับใช้นำน้ำเข้ามาสาดล้างลงไปบนขั้นบันใดหินอ่อน คราบเลือดไหลซึมลงมาจากขั้นบันใดเข้าไปยังใต้ต้นตั๊กแตน

ต้นตั๊กแตนต้นนี้ อาศัยเลือดเจริญเติบโตขึ้นมา ใบไม้เขียวชอุ่ม ลำต้นอวบอ้วน สองคนยังโอบได้เกือบจะไม่รอบต้น

“ข้าอยากจะออกไปนั่งยังลานบ้าน รอลูกชายของข้ากลับมา!” กุ้ยไท่เฟยลุกขึ้นยืน ฝีเท้าดูเลื่อนลอย

นางนั่งเอนกายลงใต้ต้นตั๊กแตน หลังเอนลงไป เอนไปเพียงครึ่งจ้องมองแสงจันทร์ในอากาศ ดวงดาวสลัวแสงจนแทบจะมองไม่เห็น

ป้าซือจูยืนอยู่ด้านหลังของนางตลอด กลิ่นคาวเลือดลอยเตะจมูกเข้ามา ทำให้นางรู้สึกอยากจะอาเจียนออกมา

“เพียงแค่ได้กลิ่นเลือดพวกนี้ ตัวข้าก็รู้สึกสบายใจแล้ว” กุ้ยไท่เฟยถอนหายใจออกมาเบา ๆ

ป้าซือจูเอ่ย “ไท่เฟย มิเช่นนั้นพวกเรากลับไปเร็วขึ้น ไปเสวยสักเล็กน้อย”

“ไม่ ลูกชายข้าใกล้จะกลับมาแล้ว รออยู่ที่นี่ก่อน” มุมปากกุ้ยไท่เฟยเผยยิ้มอ่อน “ในปีที่เขาเกิดนั้น ข้าถูกฮ่องเต้พระองค์ก่อนแต่งตั้งให้เป็นกุ้ยเฟย ข้านำความหวังทั้งหมดลงไปที่ตัวเขา แต่เมื่ออายุเขาเริ่มมากขึ้น เปิดเผยความในใจออกมา ข้าก็รู้ว่ามิอาจพึ่งเขาได้ แต่ข้ายังเต็มใจที่จะทำเพื่อเขา ให้เขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้”

ป้าซือจูเอ่ยเสียงเบา “คนเราจะมีความทะเยอทะยานเป็นของตน!”

กุ้ยไท่เฟยเผยยิ้มออกมา ยิ้มจนดูน่ากลัว “ฟัง เขากลับมาแล้ว กลิ่นเลือดคละคลุ้งรอบตัว เขาจะต้องผ่านศึกนองเลือดมาเป็นแน่ เขาเป็นผู้ชนะ มาถวายความเคารพแก่แม่ผู้พ่ายแพ้ของเขา”

ป้าซือจูมองไปยังด้านนอก ส่ายศีรษะ “ท่านอ๋องยังมิได้กลับมา”

กุ้ยไท่เฟยปิดตาอย่างช้า ๆ “ใช่หรือ? ข้าเหม็นกลิ่นคาวเลือดพวกนี้ จนนึกว่าเขากลับมาแล้ว ไม่เป็นไร ข้าจะรออยู่ก็พอ เขาจะต้องกลับมาคิดบัญชีกับข้า ข้าต้องการให้เขารู้ว่า ความผิดพลาดทั้งหลาย ทั้งหมดเป็นเพราะความไม่ลังเลใจของเขา”

นางหลับฝันไป ภายในฝันนั้นมีเด็กผู้ชายคนนึงจับมือนางเดินเล่นอยู่ริมทะเลสาบ รอยยิ้มของเด็กชายนั้นดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา!

เขากล่าวออกมา “ท่านแม่ ต่อไปลูกจะสร้างบ้านให้ท่านแม่ริมทะเลสาบนี้ ให้ท่านได้ชมคลื่นทะลสาบนี้ทุกวัน”

นางอยากจะเอ่ยว่าไม่เอาบ้านไม้ นางไม่เคยที่อยากจะได้บ้านไม้

นางตื่นขึ้นมา กลับรู้สึกราวกับเสียดาย ภายในจิตใต้สำนึกคิดถึงป้าซือจู

“ท่านแม่ตื่นแล้ว?” เสียงเย็นชาเอ่ยอยู่ข้างหู นางตัวสั่น หันหลังกลับไปมองก็พบว่ามีคนนั่งอยู่ข้างนาง เขาหายใจหอบลึกเย็นชา มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งพุ่งเข้าจมูก ครั้งนี้ นางกลับไม่คิดว่ากลิ่นเลือดนั้นหอมหวน รู้สึกเพียงคลื่นไส้พูดไม่ออก

นางค่อย ๆ เอนตัวพิงเก้าอี้อีกครั้ง ราวกับว่าอยู่บนเก้าอี้นั้นเป็นที่ปลอดภัยที่สุด

“เจ้ากลับมาแล้ว ดีจริง!” นางถอนหายใจเบา ๆ หันมองมายังเขา หลังจากนั้นจึงเอื้อมมือออกไปสัมผัสใบหน้าของเขา “เมื่อครู่ข้ากำลังฝัน ฝันว่าเจ้าบอกจะทำบ้านไม้ให้ข้าอยู่ที่ทะเลสาบ มีวิวทิวทัศน์งดงามนัก”

มือของมู่หรงเจี๋ยนั้นมีลูกแพร์อยู่ ผิวและเนื้อแยกออกจากกันอย่างละเอียด เอ่ยเสียงต่ำราวกับโดดเดี่ยว “ในตอนนั้น ข้าไม่รู้ว่าท่านแม่มิได้ชอบบ้านไม้ริมทะเลสาบ”

“สิ่งที่แม่อาลัยเจ้าก็รู้ แต่ไม่ยอมช่วงชิงมา” นางค่อย ๆ ยิ้มออกมา เรื่องราวก่อนหน้าราวกับค่อย ๆ โผล่เข้ามาในความคิดผ่านมาแล้วก็ผ่านไป มาพร้อมกับรอยอาฆาตในดวงตาที่หายไป