ตอนที่ 667 การต่อสู้เพื่อก้าวเข้าสู่ดินแดนชิงอำนาจ

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

“คุณเห็นข่าวล่าสุดแล้วหรือยัง?” กู่ฉิงซานถาม

“จะไม่เห็นได้อย่างไร? มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำใจ เมื่อต้องสูญเสียบุคลากรไป แต่บอกตามตรงว่าตอนนี้ มันมีปัญหาที่น่ากังวลใจยิ่งกว่าซะอีก” ชายแก่ยิ้มอย่างขมขื่น

“เกิดอะไรขึ้น?” กู่ฉิงซานตื่นตัว

“ก็โลกลำดับชั้นของสถาบันเทพ จู่ๆ ก็หลุดพ้นจากข้อกฎเกณฑ์ของพื้นที่มิติไปอย่างกะทันหันน่ะสิ และมันกำลังมุ่งหน้าตรงมาทางสำนักงานใหญ่สมาคมผู้พิทักษ์หอคอยสูงของพวกเรา” ชายแก่กล่าว

กู่ฉิงซานนิ่งค้างไป สายตาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจ

ชายแก่เมื่อถูกจ้องแบบนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก เขาโบกไม้โบกมือ “ระยะทางมันยังอีกไกล อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง กว่าที่โลกทั้งสองใบจะปะทะกัน เพราะฉะนั้นข้าจะจัดการธุระให้เจ้าก่อน แล้วค่อยรีบปิดร้านและกลับไป”

กู่ฉิงซานถอนหายใจ “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ที่ถึงจะได้ยินข่าวแล้ว แต่ผมก็ยังอ่อนแอเกินกว่าที่จะช่วยอะไรได้อยู่ดี”

“มันไม่เป็นไรหรอก แค่เจ้าคิดที่จะช่วย ข้าก็ซาบซึ้งน้ำใจมากแล้ว” ชายแก่ตอบรับด้วยความสุข “อีกอย่าง โลกสมาคมของพวกเราก็อยู่ใกล้กันกับ สหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้น เดี๋ยวเหล่าตัวตนทรงอำนาจจากทางฝั่งนั้นก็จะเข้ามาช่วยเหลือเอง”

“ถ้าอย่างนั้นผมจะรีบซื้อของที่ต้องการ จะได้ไม่เป็นการเสียเวลาคุณ”

กู่ฉิงซานกล่าวต่อ “พอดีว่าเพื่อนของผมเพิ่งเข้ามายังโลกเก้าร้อยล้านชั้นเป็นครั้งแรก เลยอยากจะมาขอซื้อเทคนิคมนตราที่สามารถใช้เรียนรู้ภาษาได้ในทันที”

“เจ้าต้องการที่จะเข้าไปยังดินแดนชิงอำนาจอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่ ดูเหมือนว่าจะต้องไปรายงานตัวภายในหนึ่งชั่วโมง”

“เช่นนั้นข้าเกรงว่ามันคงจะสายเกินไปแล้วที่จะเรียนรู้ ถ้าจะให้ดี คงต้องใช้หนังสือที่แพงที่สุด”

ว่าจบ ชายแก่ก็หยิบหนังสือเล่มเล็กที่ดูประณีตออกมาจากชั้นวาง

“หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เจ้าสามารถเข้าใจภาษาที่ใช้กันโดยทั่วไปกว่าสามพันภาษาได้ในทันที อย่างไรก็ตาม ราคามันก็แพงมากเหมือนกัน แต่ในฐานะที่เจ้าคือหนึ่งในเพื่อนที่ดีของสมาคมเรา ข้าสามารถเพิ่มส่วนลดให้ได้”

“ลดได้เท่าไหร่หรือ?”

“ลดได้สิบเปอร์เซ็นต์”

“ลดมากกว่านี้อีกได้ไหม?”

“นี่เรียกได้ว่าลดกันสุดๆ แล้วนะเจ้าหนุ่ม ให้น้อยกว่านี้ก็คงจะไม่ได้”

“ถ้าเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร อย่างไรลดก็คือลดอยู่ดี! ข้าต้องขอบคุณมากจริงๆ ถ้าเช่นนั้น ได้โปรดช่วยวางบิลค่าใช้จ่ายไว้ในนามของผม…กู่ฉิงซานแห่งสมาคมกำปั้นเหล็กด้วย”

“…”

พริบตาที่คำคำนี้หลุดออกมา สีหน้าของชายแก่คล้ายกับว่าจะเผยถึงความกังวลขึ้นมาหลายส่วน

ในที่สุดเขาก็อดไม่ได้ต้องพูดว่า “ช้าก่อน! เจ้าคิดจะใช้มันเพียงครั้งเดียวเพื่อสหายของเจ้าใช่หรือไม่?”

“ใช่แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องซื้อหนังสือราคาแพงแบบนี้เลย”

“แล้วจะให้ผมทำอย่างไร?”

“ข้าจดจำได้ว่าทางเราเคยมอบหนังสือปกฟ้าให้แก่เจ้า”

“โอ้ใช่ แต่หนังสือเล่มนั้นจำกัดการใช้งานแค่หนึ่งคนไม่ใช่หรือ”

กู่ฉิงซานกล่าว เขาเอื้อมมือไปแตะถุงสัมภาระ เพื่อเรียกหนังสือออกมา

ชายแก่คว้าหมับทันที หนึ่งมือจับ หนึ่งมือถู ปากอ้าขยับร่ายคาถา

“เรียบร้อย ข้ามอบสิทธิ์อนุญาตให้สามารถใช้งานมันได้อีกหนึ่งครั้งแล้ว เท่านี้เจ้าก็จะสามารถให้เพื่อนเจ้าถือหนังสือเล่มนี้ แล้วทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษาได้เลยโดยตรง”

“แล้ว…ไม่จำเป็นต้องซื้อมันหรือ?”

“บ๊ะ! เจ้าคือแขกวีไอพีของพวกเรา ทำไมต้องจ่ายมันด้วย ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้”

“ช่างเป็นคนที่ใจดีอะไรแบบนี้ ผมไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนท่านอย่างไรดี”

“เรื่องนั้นง่ายมาก ลองมองออกไปรอบๆ นะ เห็นนั่นไหม? ยังมีร้านหนังสืออีกสามร้านในซอยแห่งนี้ เอาเป็นว่าถ้าเจ้าอยากจะตอบแทนข้า ครั้งต่อไป ถ้าจะคิดวางบิล ช่วยไปติดบิลร้านพวกนั้นแทนก็แล้วกัน แค่นี้แหละ ข้าจะรู้สึกขอบคุณมากๆ”

“โอ้ ผมเข้าใจแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ลา…”

“เออ! ลาก่อน ห้ามลืมนะ! ครั้งต่อไปต้องไปติดบิลที่ร้านหนังสืออื่น!”

ชายแก่เร่งผลักทั้งสองออกจากร้านตน ตามด้วยเสียง ‘ปัง!’ ปิดดังตามมาทันที

กู่ฉิงซานจึงนำหนิงเยว่ฉานเดินออกมา

เขายื่นหนังสือปกฟ้าให้แก่หนิงเยว่ฉาน

“แล้วข้าจะต้องทำอย่างไร?”

“นั่นง่ายมาก ตราบใดที่เจ้าถือมันไว้ มันจะถ่ายทอดภาษาของโลกทั้งเก้าร้อยล้านชั้นแก่เจ้า แต่อาจจำเป็นต้องใช้เวลากว่าร้อยลมหายใจ เพื่อทำการเรียนรู้มัน”

“…” หนิงเยว่ฉาน

เธอยกสองมือขึ้นกอดหนังสือปกฟ้าไว้ในอ้อมแขน

กู่ฉิงซานคิดอยู่พักหนึ่งจึงกล่าว “อ้อ อย่าทำหนังสือเล่มนั้นหายเชียวล่ะ เพราะข้ายังต้องพึ่งพามันอยู่ อาจต้องใช้มันช่วยให้คนอื่นเรียนรู้ภาษาอีกในครั้งต่อไป”

“เข้าใจแล้ว แต่ข้าเห็นว่าเจ้ายังไม่ได้จ่ายเงินเลยมิใช่หรือ?” หนิงเยว่ฉานถาม

“ชื่อของข้า นั่นแหละคือเงิน” กู่ฉิงซานตอบ

หญิงสาวพอได้ฟังก็จ้องมองเขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง บังเกิดความประทับใจอย่างลึกล้ำ

ส่วนกู่ฉิงซาน พูดจบเขาก็หันหน้าไปอีกด้าน ปากเอ่ยพึมพำ “อา…ใช่! ความรู้สึกแบบนี้เองสินะ คือความรู้สึกที่คล้ายกับพวกกินแล้วชักดาบรู้สึกกัน นี่มันช่างน่าจดจำเสียจริงๆ”

ไม่นาน พวกเขาก็เดินมาถึงจุดตรวจสถานีด่านหน้า

กระบวนการข้ามพรมแดนนั้นเรียบง่ายเป็นอย่างมาก

เบื้องหน้าของทั้งสอง จะมีชายคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบทหารคอยนั่งตอกไพ่อยู่หลังโต๊ะ พวกกู่ฉิงซานเพียงยื่นไพ่ให้ อีกฝ่ายก็จะประทับตราลง และส่งมันกลับคืนมา

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ชายคนนั้นก็จะหยิบกรีนการ์ดใบเล็กๆ ขึ้นมา และกระซิบถาม “ฉันสามารถจัดตำแหน่งดีๆ สำหรับพวกหน้าใหม่ได้นะ พวกนายต้องการจะซื้อมันหรือเปล่า?”

“คุณสามารถระบุตำแหน่งในดินแดนชิงอำนาจให้พวกเราได้อย่างนั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่าพวกหน้าใหม่ก็สามารถดาวน์โหลดระบบได้โดยตรงเลยน่ะสิ” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยความประหลาดใจ

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสนใจ ชายคนนั้นก็อธิบายอย่างอดทน “ในดินแดนชิงอำนาจมีพื้นที่กว่าสองร้อยล้านชั้น ฉะนั้นแน่นอนว่าทางเราคงไม่สามารถส่งพวกนายไปยังสถานที่ที่ต้องการได้ อันที่จริงแล้วตำแหน่งดีๆ ที่ว่านั่นหมายถึงพื้นที่กิจกรรมแรกของพวกหน้าใหม่ต่างหาก พวกเราน่ะคุ้นเคยกับที่แห่งนั้นเป็นอย่างดี และรู้ว่าตำแหน่งไหนมี ‘ปีศาจแกะดำ’ อยู่เยอะมากที่สุด และพวกเราก็จะส่งนายไปยังสถานที่แห่งนั้น!”

‘ปีศาจแกะดำ’ คือมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในดินแดนชิงอำนาจ พวกมันมักจะปรากฏตัวขึ้นในอาณาเขตของหน้าใหม่ และสำหรับหน้าใหม่ มีเพียงการล่าปีศาจแกะดำเท่านั้น ถึงจะสามารถดึงดูดความสนใจจากระบบ และทำการดาวน์โหลดมันได้

นี่คือระบบที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยเหล่าทวยเทพ ระบบนี้ไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อสิ่งมีชีวิตทั้งมวล และมันยังสามารถช่วยเหลือให้สรรพสัตว์ทั้งหลายสามารถวิวัฒนาการและแข็งแกร่งได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย

ส่วนวิธีการที่จะครอบครองมันก็คือ คุณจะต้องทำให้มันรู้สึกสนใจในตัวคุณให้จงได้!

และในฐานะหน้าใหม่ วิธีเดียวที่จะกระตุ้นความสนใจจากระบบ นั่นก็คือการล่าสังหารฝูงปีศาจแกะดำให้มากที่สุดนั่นเอง

ยิ่งคุณฆ่าพวกมันไปได้มากเท่าไหร่ ระบบก็จะยิ่งสังเกตเห็นถึงคุณได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

ชายคนนั้นสะบัดกรีนการ์ดในมือไปมา เอ่ยเสียงกระซิบต่อ “นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการผ่านอาณาเขตของพวกหน้าใหม่ นายต้องการที่จะซื้อมันหรือเปล่าล่ะ?”

กู่ฉิงซานกระซิบกลับไป “ผมไม่มีเงิน แต่สามารถวางบิลได้ใช่หรือเปล่า?”

ชายคนนั้นจ้องเขม็งเข้าไปในแววตาของกู่ฉิงซาน

วางบิล…

ไอ้หนุ่มนี้ อนาคตมันมีแววสดใสแน่นอน กล่าวอย่างประชดประชัน

หลังจากขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชายคนนั้นก็พยักหน้าและกล่าว “ถ้าองค์กรของนายมีความน่าเชื่อถือมากพอ มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

“ถ้าเช่นนั้นก็ดีเลย ผมเป็นคนจากสมาคมกำปั้นเหล็ก ชื่อของผมก็คือ…”

‘สมาคมกำปั้นเหล็ก! ฉิบหายแล้ว นั่นมันสุดยอดนักเบี้ยวหนี้ในตำนาน!’

ทันทีที่คำคำนี้หลุดออกมา ทั้งร่างของชายคนนั้นก็ราวกับถูกเขย่า สั่นไหวอย่างมิอาจควบคุมได้

เขาขัดจังหวะคำพูดของกู่ฉิงซานทันที ปากเอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง “ลืมมันเถอะ! ฉันล้อเล่น! พวกเราทหารกล้าจะไม่ยอมรับสินบนหรือการขายข้อมูลใดๆ ให้กับใครเด็ดขาด! นี่มันเป็นมาตรการสำคัญที่ใช้ทดสอบพวกหน้าใหม่ เพื่อยืนยันว่าการแข่งขันจะเป็นไปอย่างเป็นธรรมต่างหาก!”

เขารีบโบกมือด้วยใบหน้าสัตย์ซื่อ เร่งให้ทั้งสองเดินผ่านด่านตรวจเข้าไป

ทั้งสองเดินผ่านด่านตรวจ และมาถึงห้องรับรอง

เห็นแค่เพียงทุกชนิดของสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์มากมายที่แตกต่างกันออกไป เกือบทั้งหมดต่างก็ถือกรีนการ์ดไว้ในมือของพวกเขา

ด้วยกรีนการ์ดใบนี้ พวกเขาจะถูกจัดตำแหน่งให้อยู่ในพื้นที่ที่ง่ายที่สุดในการล่าปีศาจแกะดำ

พวกเขาเบนสายตามองกู่ฉิงซานและหนิงเยว่ฉานที่เดินเข้ามา และเมื่อเห็นว่าในมือของทั้งสองไม่มีกรีนการ์ด ตนแล้วตนเล่าก็เริ่มแสดงสีหน้าเย้ยหยัน

“สองหน้าใหม่ที่น่าสงสาร”

“ไม่รู้จักคิดที่จะซื้อกรีนการ์ดเอาไว้ พวกมันคงยังไม่รู้ถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับเวลาต่อสู้ล่ะสิ”

“หยุดพูดเถอะน่า ปล่อยให้พวกมันติดแหง็กอยู่ในอาณาเขตหน้าใหม่ไปนั่นแหละ”

“ฮะฮ่า! ไม่ว่าพวกมันจะทำอย่างไร ก็คงไม่มีทางผ่านอาณาเขตนี้ไปได้”

“อย่าไปมองเลย พวกไร้สมองน่ะไม่น่าสนใจหรอก”

สิ่งมีชีวิตจากหลากหลายเผ่าพันธุ์สื่อสารกันอย่างรวดเร็ว

กู่ฉิงซานนำหนิงเยว่ฉานไปนั่งลงอีกมุมหนึ่ง

“เมื่อครู่ ดูเหมือนว่าเจ้าจะทำให้คุณทหารด่านตรวจโกรธอีกแล้วนะ” หนิงเยว่ฉานกล่าว

“อืม เขาไม่ยอมให้ข้าวางบิลเสียอย่างนั้น” กู่ฉิงซานพูด้วยท่าทีเศร้าๆ

“ไม่ต้องทวนซ้ำก็ได้ ตอนนี้ข้าเข้าใจในที่ภาษาเจ้าพูดแล้ว เช่นนั้นก็หมายความว่าพวกเราจะเสียเปรียบคนอื่นๆ ใช่หรือไม่?”

“นี่มันก็แค่เริ่มต้น เพราะไม่ใช่ว่าใครๆ ก็สามารถเข้ามายังดินแดนชิงอำนาจได้ ดังนั้นหากได้รับความสะดวกสบายเพิ่มเติมแม้เพียงนิด ทุกคนก็ล้วนยินดี” กู่ฉิงซานกล่าว

ตรงกันข้ามกับเขา ชายที่ตลอดทั้งร่างเป็นสีเขียวได้ยิ้มออกมา “ได้รับความสะดวกสบายแม้เพียงนิดอย่างนั้นหรือ? รู้หรือเปล่าว่าพวกโง่ที่คิดแบบนั้นต้องติดแหง็กอยู่ในอาณาเขตหน้าใหม่ตั้งกี่ปี?”

เพื่อนในกลุ่มของเขาเอ่ยขัด “เฮ้ยช่างเถอะน่า มันโง่ก็ปล่อยให้โง่ไป”

คนอื่นๆ ต่างหัวเราะออกมา

“ส่งเสียงดังอะไรกัน! หุบปากซะ!” เสียงจากภายนอกดังก้องเข้ามา

ฝูงชนสงบลงทันที

เห็นแค่เพียงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้ามา สายตากวาดมองกรีนการ์ดในมือของแต่ละคน

แล้วเขาก็เริ่มที่จะจัดแจง

“นาย นาย แล้วก็พวกนาย มากับฉัน ทางเราจะส่งพวกนายไปยังตำแหน่งที่ได้รับการพิจารณาแล้ว”

หลายคนลุกขึ้นและตามเขาไป

หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่คนเดิมก็เข้ามาอีกครั้ง และนำหน้าใหม่บางส่วนไปส่งยังจุดต่อไป

กู่ฉิงซานสังเกตเห็นว่า ทุกคนที่มีกรีนการ์ดในมือ จะได้รับความสำคัญ และถูกส่งตัวไปก่อน

ขณะที่พวกหน้าใหม่ที่ไม่มีกรีนการ์ดในมือ จะต้องคอยนั่งรออยู่อย่างช้าๆ

“พวกเราควรจะทำอย่างไรดี?” หนิงเยว่ฉานถาม

“รอไปก่อน ไม่ต้องใส่ใจเรื่องนี้หรอก” กู่ฉิงซานถอนหายใจ

เฝ้ารออยู่นาน เกือบทุกคนก็ถูกส่งไปก่อนแล้ว เหลือแค่พวกหน้าใหม่ที่ยังไม่มีกรีนการ์ด

เจ้าหน้าที่เดินนำพวกเขาไปยังข่ายอาคมเคลื่อนย้าย และหันมาพูดด้วยน้ำเสียงมีเลศนัย “หวังว่าพวกนายจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในอาณาเขตของหน้าใหม่นะ”

“นั่นเขาหมายความว่าอย่างไร?” หน้าใหม่คนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่อง เอ่ยถามคนรอบข้าง

“เขาหมายความว่า ‘พวกเราคงจะไม่มีทางผ่านอาณาเขตหน้าใหม่ไปได้’ น่ะสิ” หน้าใหม่อีกคนกล่าวด้วยความขุ่นเคือง

ม่านแสงกะพริบไหว

และหน้าใหม่กลุ่มสุดท้ายก็หายตัวไปจากข่ายอาคม

ณ ดินแดนชิงอำนาจ

ภายในอาณาเขตของพวกหน้าใหม่

การต่อสู้แข่งขัน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ณ ตรงตำแหน่งหอคอยปราการที่ว่างเปล่า

กลุ่มของพวกหน้าใหม่ที่ไม่มีกรีนการ์ดได้ปรากฏตัวขึ้น และตกลงบนหอคอยขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม หอคอยเหล่านี้ แต่ละหอกระจายแยกห่างกันไปในตำแหน่งต่างๆ และถูกแยกจากกันด้วยกำแพงอุปสรรคโปร่งใสขนาดใหญ่ ส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ของกันและกัน ทำได้เพียงคอยเฝ้ามองกันจากระยะไกลเท่านั้น

เบื้องล่างหอคอยปราการ กลุ่มฝูงปีศาจแกะดำได้สังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาเยือน

พวกมันคำรามด้วยความโกรธ และรีบควบสี่กีบตรงมายังหอคอยปราการทันที

มอนสเตอร์เหล่านั้นมีหัวเป็นแกะ พวกมันคือปีศาจแกะดำ!

พวกมันเป็นมอนสเตอร์ชั่วร้าย ที่คอยสูบกินพลังงานจากเลือดของสิ่งที่ฆ่า เพื่อใช้ในการวิวัฒนาการ นิสัยตามธรรมชาติโหดร้าย ไม่แยแสต่อสิ่งมีชีวิตใดๆ

ทันทีที่หน้าใหม่มาถึงหอคอยปราการ การต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว

หน้าที่ของพวกเขาก็คือจะต้องปกป้องหอคอย และสังหารฝูงปีศาจแกะดำเหล่านี้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี!

หากทำภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพดีเยี่ยม มันก็จะเป็นการดึงดูดความสนใจจากระบบ และสามารถทำการดาวน์โหลดมันได้ในท้ายที่สุด

“ฆ่า!”

เหล่าหน้าใหม่คำรามก้อง ประกาศสู้

หอคอยแห่งแล้วแห่งเล่าปะทุขึ้นด้วยไฟสงคราม เสียงการฆ่าสังหารดังสนั่นจนแสบหู ชวนให้ผู้ฟังเกิดความตื่นเต้น

กู่ฉิงซานเองก็ยืนอยู่บนหอคอยปราการเช่นกัน

แต่ทว่า…

หอคอยที่เขาและหนิงเยว่ฉานถูกส่งมา…มันถูกตั้งไว้อยู่บนภูเขาสูงชัน

ขณะที่ปีศาจแกะดำทั้งหมดต่างมุ่งเข้าไปโจมตีหอคอยบนพื้นที่ราบ ละซึ่งความสนใจใดๆ ต่อหอคอยบนภูเขาสูงแห่งนี้

ก็ในเมื่อมีหอคอยบนพื้นที่ราบ ที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายอยู่มากมาย แล้วเหตุใดพวกมันจะต้องปีนป่ายอย่างยากลำบากมาถึงที่นี่ด้วยเล่า?

นี่มันเป็นเรื่องธรรมดา

ในฐานะนายพลที่ข้ามผ่านการต่อสู้มานานปี ในเวลานี้หนิงเยว่ฉานเพียงมองการต่อสู้ในพื้นที่ราบอันห่างไกล ก็สามารถเข้าใจถึงสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

และไม่ใช่แค่เธอ แต่หน้าใหม่คนอื่นๆ ที่ไม่มีกรีนการ์ด ที่สูงส่งมายังตำแหน่งใกล้เคียงนี้ ล้วนแสดงถึงความไม่พอใจออกมา

“พวกเขาจงใจส่งพวกเรามาที่นี่!” หน้าใหม่คนหนึ่งร่ำไห้

ร่างกายของเขาเติบใหญ่ขึ้นอย่างกะทันหัน กลายเป็นบึกบึนพร้อมด้วยสองปีกที่งอกขึ้นบนหลัง ทะยานตัวขึ้นไปในอากาศ บินลงไปยังพื้นที่ราบ แต่…

ปัง!

บังเกิดถึงเสียงหนักทึบ หน้าใหม่ผู้เพิ่งถลาลงไปปะทะเข้ากับกำแพงใส และเด้งกระดอนกลับมาทันที

นี่คือกำแพงป้องกันที่ถูกระบบตั้งค่าเอาไว้ มันไม่ใช่สิ่งที่ความแข็งแกร่งของพวกหน้าใหม่จะสามารถทำลายได้

หนิงเยว่ฉานชักกระบี่ยาวออกมา ส่ายหัวและกล่าว “พวกเราไม่สามารถออกไปได้ ขณะเดียวกันมอนสเตอร์ก็ไม่ยอมมาหาพวกเรา นี่พวกเราจะต้องอยู่ที่นี่ไปโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนั้นหรือ?”

“ไม่มีทางซะล่ะ” กู่ฉิงซานกล่าว

พอได้ฟัง ดวงตาของหนิงเยว่ฉานก็เปล่งประกายสดใสทันที เธอเอ่ยถาม “เจ้ามักจะมีแผนการชั่วร้ายเสมอมา บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าคราวนี้มีความคิดอะไรอีก?”

กู่ฉิงซานถอนหายใจ “แผนชั่วที่ไหนกัน ที่พวกเราต้องทำก็แค่แก้ปัญหานิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง”

เมื่อคำนี้ถูกเปล่งออกมา มันก็ได้ดึงดูดความสนใจจากหน้าใหม่ที่ไร้กรีนการ์ดรอบตัวเขาทันที

“ปัญหาอันใด?” หนิงเยว่ฉานมองเขาและเอ่ยถาม

“ก็ปัญหาที่ว่า ‘จะพิชิตหรือเป็นฝ่ายถูกพิชิต’ น่ะซี “

ขณะกล่าว กู่ฉิงซานก็เลื่อนหน้าต่างเทพสงครามไปในส่วนของฟังก์ชั่น ‘สมญาเทพสงคราม’

…ไม่นาน เขาก็พบกับสมญาที่ตนต้องการ

‘ดาราจรัสเทพสงคราม!’

………………………………….