ตอนที่ 1281

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1281  นี่คือการปฏิวัติ (1)

 

เจ้าแมวดำที่เดินตามหลังจวินอู๋เสีย  มองจวินอู๋เหยาอย่างเศร้าๆ

แต่ก็ไม่รู้ทำไม  จู่ๆมันก็รู้สึกว่า  การที่ราชาปีศาจนั่นถูกเจ้านายของมันหยอกล้อนั้น

ความรู้สึกนี้มันช่าง……

ยอดเยี่ยมจริงๆ

จวินอู๋เสียเจอตัวจวินเสี่ยน  และได้ส่งมอบสิ่งที่นางใช้เวลาหลายวันเขียนขึ้นมาให้กับจวินเสี่ยน

ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้  จวินเสี่ยนไม่ได้อยู่ว่างๆสบายๆเลยสักวัน  ค่าชดเชยจากแคว้นจิ้วที่จวินอู๋เสียนำกลับมานั้นสร้างความฮือฮาไปทั่วแคว้นฉี  โม่เฉียนหยวนรีบเรียกประชุมขุนนางทั้งหมดที่ห้องทรงพระอักษรเพื่อปรึกษาหารือว่าจะจัดการกับทรัพย์สินของแคว้นจิ้วให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร  นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแคว้นฉีในตอนนี้

เนื่องจากนี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก  จวินเสี่ยนจึงไม่สามารถดึงตัวเองไปจัดการปัญหาอื่นๆได้เลย  เรื่องของกองทัพรุ่ยหลินทั้งหมดจึงตกเป็นหน้าที่ของจวินชิงแทน

“นี่อะไร?”  จวินเสี่ยนมองของที่จวินอู๋เสียนำมาให้  แล้วถามด้วยรอยยิ้ม

ไม่ว่าเขาจะยุ่งแค่ไหน  เมื่อกลับมาที่จวนหลินอ๋อง  จวินเสี่ยนก็ไม่ใช่หลินอ๋องที่เข้มงวดอีกต่อไป  แต่เป็นท่านปู่ที่ใจดีและเป็นมิตร

“ท่านปู่  การบรรลุถึงพลังวิญญาณขั้นสีม่วงในดินแดนนี้หายากแค่ไหน?”  จู่ๆจวินอู๋เสียก็ถามขึ้น

จวินเสี่ยนไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะพูดเรื่องนี้  แต่เขาก็ยังตอบด้วยรอยยิ้ม  “พลังวิญญาณขั้นสีม่วงเป็นจุดสูงสุดและหายากที่สุด  ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา  มีเพียงเหวินซินฮั่นคนเดียวที่บรรลุถึงพลังขั้นสีม่วง  ทำไมอยู่ๆเจ้าถึงถามข้าเรื่องนี้ล่ะ?”

จวินอู๋เสียพูดว่า  “แต่ถ้าโลกนี้มีวิธีการที่ทำให้คนทั่วไปได้รับพลังขั้นสีม่วงล่ะ  มันจะเป็นยังไง?”

จวินเสี่ยนชะงัก  เขามองจวินอู๋เสียด้วยความประหลาดใจ

ความแข็งแกร่งของพลังขั้นสีม่วงนั้น  ไม่ว่าจะที่ไหนและเมื่อไหร่  เป็นเรื่องที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เสมอ  เมื่อไรก็ตามที่มีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงปรากฏขึ้น  มันจะสร้างความปั่นป่วนไปทั่วดินแดน  พวกผู้มีอำนาจต่างก็พยายามจะดึงเอาผู้ใช้พลังขั้นสีม่วงไปเป็นพวกของตัวเอง

พลังวิญญาณขั้นสีม่วงไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไปที่มีอยู่ดาษดื่น

ต้องฝึกฝนกันเป็นศตวรรษ  และยังต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์แต่กำเนิดอย่างมากอีกด้วย  การจะเป็นผู้ใช้พลังขั้นสีม่วงได้นั้น  ต้องใช้ทั้งพรสวรรค์แต่กำเนิดและการฝึกฝนอย่างหนักตลอดชีวิต  จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้  ยิ่งกว่านั้นยังต้องมีโชคเป็นองค์ประกอบอีกด้วยถึงจะสามารถบรรลุถึงขั้นพลังวิญญาณสีม่วงได้

ต้องถามว่า  ในโลกนี้มีคนที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะกี่คน?  โลกไม่เคยขาดแคลนผู้มีพรสวรรค์  และเส้นทางการฝึกฝนของพวกเขาก็เป็นไปอย่างราบรื่น  แต่มีกี่คนกันที่สามารถบรรลุถึงขั้นพลังวิญญาณสีม่วง?

ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีครามกี่คนที่ตลอดชีวิตก็ไม่อาจข้ามสะพานที่แบ่งแยกระหว่างพลังทั้งสองขั้นได้?

มีกี่คนที่ปีกหักเพื่อจะยังคงเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีคราม?

มีกี่คนที่ยอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะปีนขึ้นไปยังจุดสูงสุดและได้รับพลังที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดต้านทานได้?  แล้วสุดท้าย ในจำนวนนั้นมีกี่คนกันที่ความปรารถนาได้เป็นจริง?

ในศตวรรษที่ผ่านมา  มีเพียงคนเดียวคือเหวินซินฮั่น

ส่วนคนที่ล้มเหลวมีอยู่กี่คนนั้น  เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้เลย

“นั่นก็แค่จินตนาการ  ถ้าหากมีวิธีการเช่นนั้นอยู่จริงๆล่ะก็  คงตกตะลึงปั่นป่วนกันทั้งโลก”  จวินเสี่ยนพูด  เขาคิดว่าจวินอู๋เสียแค่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น  และไม่ได้คิดอะไรมาก

จวินอู๋เสียกลับส่ายหน้าขณะที่พูดว่า  “มันไม่ได้น่าตกตะลึงขนาดที่พูดหรอก  ท่านปู่ลองดูของที่ข้าให้ไปให้ดีๆซิ”

จวินเสี่ยนชะงักไป  ไม่เข้าใจสิ่งที่จวินอู๋เสียพูดเลย  เขาหยิบเอกสารที่จวินอู๋เสียเพิ่งให้มาอ่านอย่างจริงจังทุกตัวอักษรตั้งแต่ต้นจนจบ

และเมื่ออ่านจบ  เขาก็พบว่าในหัวปั่นป่วนไปหมด  มือที่ถือกระดาษเริ่มสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้

“เผาผลาญพลังวิญญาณเพื่อให้ได้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง……นี่……เป็นไปได้ยังไง?”  เสียงของจวินเสี่ยนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ  ตัวอักษรในเอกสารนี้บอกเขาว่า  มีวิธีการบังคับให้ได้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงมางั้นหรือ!?