ตอนที่ 75 การทักทายจากปีศาจ (2)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

มู่หลีถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ท่าทางไม่สบายใจ  

 

 

ย้อนหลังกลับไปสิบนาทีก่อนหน้านี้ 

 

 

เจี่ยนซินเอ๋อร์ ติงอีอี และหลีชั่นซิงกำลังซุบซิบกันเบาๆ อยู่ภายในห้องน้ำ 

 

 

“อันซย่าซย่าน่ารำคาญที่สุด! พวกเราจะสั่งสอนบทเรียนหล่อนยังไงดี” เจี่ยนซินเอ๋อร์ขู่คำรามอย่างร้ายกาจ 

 

 

“ตอนนี้อันซย่าซย่ามีนางฟ้าผู้พิทักษ์อยู่ ฉะนั้นอะไรก็ตามที่เปิดเผยนั้นตัดออกไปได้เลย แต่ฉันได้ยินมาว่าฉีเหยียนซีไม่ชอบหล่อน เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องสร้างโอกาสเพื่อให้หล่อนได้กวนใจเขา…” หลีชั่นซิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นหล่อนก็ขึ้นเสียง “นั่นใครน่ะ”  

 

 

เสียงเล็กๆ ดังออกมาจากห้องน้ำห้องหนึ่ง 

 

 

ติงอีอีมีสีหน้าโกรธขึ้ง หล่อนตบบานประตู “เปิด! เดี๋ยวนี้!” 

 

 

มีเสียงกุกกันเลื่อนกลอนดังมาจากข้างใน จากนั้นบานประตูก็ถูกเปิดออกในที่สุด 

 

 

มู่หลียืนก้มหน้างุดอยู่ข้างในพลางบิดชายเสื้อไปมาด้วยความไม่สบายใจ 

 

 

หลีชั่นซิงเดินเข้าไปหาหล่อนก่อนถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกแผ่วเบา “ได้ยินอะไรบ้าง” 

 

 

มู่หลีกัดริมฝีปากและส่ายหน้าไปมา 

 

 

“ดี” หลีชั่นซิงพยักหน้าพอใจ “มู่หลีใช่ไหม เธอคงฉลาดเหมือนกับเกรดที่ได้ ฉันชอบคนแบบนั้น พูดก็พูดเถอะ เธอน่ะเข้ามาเรียนที่ฉีซย่าได้ก็เพราะทุนการศึกษาของโรงเรียนและได้ความช่วยเหลือทางการเงินจากมูลนิธิใช่ไหมล่ะ” 

 

 

น้ำตาเอ่อขึ้นภายในดวงตาของมู่หลี เธอก้มหน้าก้มตาโดยไม่แม้แต่จะพูดอะไรสักคำ 

 

 

หลีชั่นซิงขยับเข้าไปใกล้อีกพลางจัดแจงลูบคอเสื้อให้เรียบ เธอรู้สึกได้เลยว่าอีกฝ่ายเริ่มสั่นเทาจากการกระทำของเธอ 

 

 

“มูลนิธิของโรงเรียนถูกก่อตั้งโดยตระกูลใหญ่ๆ เช่นตระกูลของพวกเราและคนอื่นๆ ก็ควรจะสำนึกบุญคุณนั้นเอาไว้ พวกเราคือเหตุผลที่เธอได้เรียนอยู่ในฉีซย่าและเธอควรจำไว้ให้ขึ้นใจ ถ้าหากมีบุคคลที่ห้าได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่วันนี้ละก็ ฉันให้สัญญาไม่ได้หรอกนะว่าเธอจะเป็นยังไง!” 

 

 

มู่หลีเกือบจะร้องไห้ ติงอีอีจิกผมเธอแล้วโขกหัวเธอเข้ากับบานประตูหลายครั้ง จากนั้นก็ปิดจ๊อบด้วยการเตะ “ออกไปซะ เกะกะลูกตา” 

 

 

มู่หลีไม่ได้ส่งเสียงเลยสักนิดตลอดเวลานั้น เธอจัดทรงผมเงียบๆ ปัดคราบสกปรกออกจากเสื้อผ้าและทำแม้กระทั่งปิดประตูห้องน้ำก่อนที่จะเดินออกมาด้วย 

 

 

“ยัยนี่…มีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลเลย” เจี่ยนซินเอ๋อร์เอ่ยขึ้นพลางนิ่วหน้า 

 

 

“หล่อนก็เป็นแค่นักเรียนจนๆ คนหนึ่งน่ะ ฉันไม่คิดว่าหล่อนจะมีลูกไม้อะไรมาเล่นกับเราได้หรอก” 

 

 

— 

 

 

หลีชั่นซิงมองไปรอบๆ และเห็นถังใส่น้ำสะอาดกับไม้ผ้าขี้ริ้ววางอยู่กับพื้น มู่หลีคงตั้งใจว่าจะทำความสะอาดห้อง 

 

 

เธอยกถังน้ำขึ้นมา จากนั้นก็ราดน้ำลงบนที่นอนของมู่หลีด้วยการเคลื่อนไหวเชื่องช้าและแช่มช้อย 

 

 

ทั้งหมอนและผ้าห่มเปียกโชกทั้งหมด 

 

 

“ขืนพูดมากอีก มันจะไม่ใช่แค่น้ำราดบนเตียงเธอ” หลีชั่นซิงเตือนด้วยน้ำเสียงไม่แยแสใดๆ ส่วนมู่หลีได้แต่กลั้นน้ำตาเอาไว้และตอบด้วยเสียงเล็กๆ 

 

 

“จ้ะ” 

 

 

– 

 

 

เมื่ออันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วกลับมาที่ห้องในคืนนั้น ทั้งสองก็สังเกตเห็นเตียงของมู่หลีในทันที 

 

 

“อ้าว มู่หลี เกิดอะไรขึ้นกับที่นอนของเธอล่ะ” 

 

 

มู่หลีก้มตาก้มตาไม่ยอมตอบ 

 

 

สองสาวเพื่อนซี้มองสบตากัน จากนั้นก็จ้องมองไปที่หลีชั่นซิงซึ่งกำลังอ่านหนังสืออยู่อีกฟากของห้อง ทั้งสองตอบได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น 

 

 

อันซย่าซย่ากระแอม “เอ่อ… มานอนเตียงเดียวกับฉันไหม” 

 

 

มู่หลีส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ขอบใจนะ เตียงฉันก็นอนได้” 

 

 

อะไรกัน… เธอจะนอนบนที่นอนเปียกๆ แบบนั้นได้อย่างไร หลีชั่นซิงทำอะไรกันแน่ 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วมองทางนี้ทีทางนั้นที จากนั้นก็กระตุกแขนเสื้ออันซย่าซย่าเป็นการส่งสัญญาณไม่ให้เธอพูดต่อ 

 

 

“คืนนี้ฉันจะนอนเตียงเดียวกับซย่าซย่าน่ะ ดังนั้นเธอจะใช้ผ้านวมของฉันก็ได้ถ้าต้องการ” 

 

 

มู่หลีมองเธอด้วยแววตาซาบซึ้งใจ จากนั้นก็พยักหน้าตอบ “ขอบใจจ้ะ” 

 

 

หลีชั่นซิงพ่นลมออกจมูก 

 

 

อันซย่าซย่าไม่ได้เสียเวลาใส่ใจ ทันใดนั้นเองเธอก็ได้รับข้อความเข้าในโทรศัพท์มือถือจากเบอร์โทรที่ไม่รู้จัก 

 

 

[มาที่โรงอาหาร เธอมีเวลาหนึ่งนาที]