ตอนที่ 74 การทักทายจากปีศาจ (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ปี๊บ— 

 

 

หัวใจดวงน้อยที่กำลังเต้นตึกตักของอันซย่าซย่าแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยคำพูดนั้น  

 

 

“งั้นฉันก็จะไม่คุยกับคนซื่อบื้ออย่างนาย! ไปให้พ้น!” อันซย่าซย่าผลักเซิ่งอี่เจ๋ออย่างสุดแรง น้ำตาเอ่อท้นอยู่ในดวงตา รู้สึกเลวร้ายมาก 

 

 

เธออาจจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในห้องเรียน แต่เธอก็ยังเป็นคนปกติธรรมดา ทำไมเขาถึงได้คิดว่าตัวเองสูงส่งนักหนา ชอบมาดูถูกเธอเพียงเพราะตัวเองได้เปรียบที่ไอคิวสูงกว่า! 

 

 

เมื่อเห็นว่าเธอกำลังโกรธ เซิ่งอี่เจ๋อก็เกิดความหงุดหงิดซึ่งไม่อาจอธิบายได้ขึ้นภายในใจ 

 

 

คล้ายๆ กับว่า… เขารู้สึกแย่เวลาที่ทำให้เธอไม่สบายใจ 

 

 

แต่เขากลับยังคงสีหน้าเฉยชาพลางต่อสู้กับอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ชายหนุ่มเดินกลับขึ้นชั้นบนด้วยท่าทีนั้น ไม่แม้แต่จะเอ่ยลาสักคำ 

 

 

อันซย่าซย่าพ่นลมออกจมูกจากนั้นก็กลับไปที่ห้องของตัว ที่ซึ่งพบว่ากระเป๋าเดินทางของเธอได้ถูกจัดไว้เรียบร้อยแล้ว— คงเป็นผลงานของใครไปไม่ได้นอกจากอันอี้เป่ย 

 

 

เธอเบะปากเล็กน้อยก่อนจะล้มตัวลงนอนบนที่นอนและหยิบมือถือมาเล่น 

 

 

อันอี้เป่ยค่อยๆ ปิดประตูห้องของเขา รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้น 

 

 

เขาไม่พลาดฉากเมื่อครู่นี้ 

 

 

และเขาก็เดาไม่ผิด เจ้าหนุ่มคนนั้นมีใจให้น้องสาวของเขา! 

 

 

ฮึ่ม! พวกนี้คิดว่าจะใครจะมาหยามน้ำใจน้องสาวเขาก็ได้งั้นเรอะ 

 

 

ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ! 

 

 

— 

 

 

และแล้วไม่นานวันหยุดยาวก็สิ้นสุดลง อันซย่าซย่ามาถึงยังจุดนัดหมายพร้อมกับสัมภาระตามเวลาที่กำหนดไว้เพื่อรอรถบัสของโรงเรียน ซึ่งจะพานักเรียนไปยังค่ายที่จะทำการฝึกทางการทหารต่อไป 

 

 

อันอี่เป่ยตรวจสอบกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอให้อีกครั้งก่อนจะค่อนแคะกระแนะกระแหนน้องสาวเป็นการทิ้งท้าย ก่อนที่เธอจะเดินตะบึงตะบอนจากไปขึ้นรถบัส 

 

 

ป่าป๊าอันก็มาส่งเธอด้วยเช่นกัน เขาถามลูกชายขณะเดินผ่าน “น้องเอากระเป๋าสตางค์ไปไหม” 

 

 

อันอี้เป่ยชะงัก ดูเหมือนเขาจะลืมเรื่องนั้นไป… 

 

 

ความจำของอันซย่าซย่าสั้นเหมือนปลาทอง เธอจะจำได้ยังไงเล่า อันอี้เป่ยกำลังจะตามขึ้นไปบนรถและหยิบเงินให้อันซย่าซย่าขณะที่ป่าป๊าอันกวักมือเรียกเซิ่งอี่เจ๋อพร้อมรอยยิ้ม “ซย่าซย่าเขาลืมเอาเงินมาด้วย— เขาขี้ลืมแบบนี้แหละ ลุงฝากเงินไว้กับเธอก็แล้วกันนะ ถ้าเขาต้องการใช้เงินก็มาเอาที่เธอก็แล้วกันได้ไหม” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบ 

 

 

จากนั้นป่าป๊าอันจึงยื่นแบงก์ร้อยหยวนให้เขาสองสามใบ เซิ่งอี่เจ๋อรับไว้เพราะเห็นว่าหากปฏิเสธคงจะไม่เหมาะสม 

 

 

อันอี้เป่ยถอนใจพรืด “นายต้องตอบคำถามฉันหากเกิดอะไรขึ้นกับอันซย่าซย่าภายใต้การดูแลของนาย” 

 

 

“อี้เป่ย ระวังคำพูดหน่อย!” ป่าป๊าอันตำหนิลูกชาย อันอี้เป่ยจึงหันหลังเดินไปโดยไม่พูดอะไรอีก 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่คิดอะไรให้มากความ เขาเหวี่ยงเป้ขึ้นสะพายไหลแล้วก็ขึ้นรถบัสไปพร้อมกับเหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงระหว่างที่นักเรียนสาวๆ พากันกรี๊ดกร๊าดอยู่รอบๆ ตัวทั้งสาม 

 

 

เมื่อกราดตามองไปภายในรถบัส เขาก็มองเห็นร่างเล็กๆ ได้อย่างรวดเร็ว 

 

 

อันซย่าซย่าสวมชุดกระโปรงลายการ์ตูน กำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่กับซูเสี่ยวมั่วจากโทรศัพท์มือถือ สองสาวพากันหัวเราะสนุกสนานอยู่บ่อยๆ 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเกิดไม่สบอารมณ์ขึ้นมาจึงมองไปทางอื่น ก่อนจะหลับตาเพื่อพักสายตา 

 

 

– 

 

 

สามชั่วโมงต่อมา 

 

 

รถบัสของโรงเรียนก็ขับเข้ามาภายในฐานฝึกบริเวณเชิงเขาในเมืองอวี้ ฐานแห่งนี้มีการทำสัญญากับโรงเรียนต่างๆ สำหรับการฝึกทางการทหารอยู่บ่อยๆ หรือไม่ก็รองรับโปรแกรมการฝึกสำหรับบริษัทต่างๆ 

 

 

อาจารย์ประจำชั้นจัดแบ่งให้นักเรียนพักห้องละสี่คน อันซย่าซย่า ซูเสี่ยวมั่ว มู่หลีและหลี่ชั่นซิงต้องกลายเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกัน 

 

 

สองสาวเพื่อนซี้แทบจะพร้อมในทันทีสำหรับการออกสำรวจพื้นที่ที่น่าสนุกบริเวณรอบๆ ฐาน แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่ทั้งสองจะออกไป มู่หลีก็รั้งแขนอันซย่าซย่าไว้ 

 

 

“หืม มีอะไรเหรอ” 

 

 

มู่หลีกระซิบเบาๆ “อันซย่าซย่า ขอให้ปลอดภัยและระวังด้วย…” 

 

 

ก่อนที่หล่อนจะทันพูดจบ หลี่ชั่นซิงก็เดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม “พวกเธอคุยอะไรกันหรือ” 

 

 

หลี่ชั่นซิงแทบไม่เคยยิ้ม ดังนั้นสีหน้าที่แสดงออกมาจึงดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย มู่หลีปล่อยแขนอันซย่าซย่าทันทีจากนั้นจึงผละไปเอาของออกจากกระเป๋าเงียบๆ 

 

 

“ไม่มีอะไร” อันซย่าซย่าไม่ชอบหลี่ชั่นซิงอยู่แล้ว เธอจึงรีบออกไปพร้อมกับซูเสี่ยวมั่วหลังจากตอบสั้นๆ 

 

 

ลับหลังทั้งสองคน หลี่ชั่นซิงจ้องมองมู่หลีด้วยสายตาบูดบึ้ง จนแทบจะเป็นแววตาประสงค์ร้ายเลยทีเดียว