ตอนที่ 129 บ่อนการพนันหมู่บ้านตะวันตก

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

ตอนที่ 129 บ่อนการพนันหมู่บ้านตะวันตก

ห่างออกไปไม่ไกลก็ได้เจอกับภรรยาเหล่าหวังสามที่กำลังขึ้นรูปคันนา หล่อนมองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ เอ่ยถามว่า “พวกนายจะไปไหนกัน?”

จ้าวเหวินเทาบอกไปว่ามีธุระ บอกให้หล่อนกลับไปบอกกับภรรยาเขาให้หน่อย จากนั้นก็รีบเดินไปพร้อมกับหม่าเสี่ยวลิ่ว

หม่าเสี่ยวลิ่วเองก็ถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงในหมู่บ้านในการดึงคนให้เข้าร่วมโดยเฉพาะ จากนั้นก็ได้ส่วนแบ่งจากคนที่เข้าร่วม เขาเคยถูกจับก่อนหน้านี้แล้ว แต่เป็นเพราะอายุยังน้อยจึงถูกจับไปไม่นาน ออกมาก็ยังทำนิสัยเดิมไม่เปลี่ยน

คนในหมู่บ้านที่ใช้ชีวิตอย่างตรงไปตรงมาจะยินดีเทียวไปเทียวมากับเขาเหรอ?

อยู่กับคนแบบนี้จะมีอะไรได้อีก ใช้หัวแม่เท้าคิดก็ยังคิดได้เลย!

ภรรยาเหล่าหวังสามส่งเสียงอุทานในใจ ‘โอ๊ยแม่เจ้าโว้ย เจ้าหกจ้าวคนนี้จบเห่แล้ว”!

ด้วยความปากพล่อยของหล่อน ยังไม่ถึงช่วงค่ำดี คนทั้งหมู่บ้านก็ทราบแล้วว่าจ้าวเหวินเทาและหม่าเสี่ยวลิ่วไปด้วยกัน

“หม่าเสี่ยวลิ่วนั่นเป็นใคร? เพื่อนบ้านที่เป็นน้องชายของลูกพี่ลูกน้องคนที่สองของฉันเพิ่งขายตะกร้าหวายไปได้ไม่กี่อัน เขาก็จับตามองทันที ต้องดึงไปเล่นให้ได้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยอมไป แพ้พนันจนเงินที่ขายตะกร้าหวายหมดยังไม่เท่าไรนะ แถมยังติดหนี้ด้วย!”

“เจ้าเด็กนั่นขาดคุณธรรมอย่างหนักเลย ได้ยินมาว่ามีเงินนิดหน่อยก็พุ่งตัวไปแล้ว จากนั้นก็ทำให้อีกฝ่ายแพ้แบบไม่เหลืออะไรเลย!”

“คนแบบนี้ควรถูกขังไว้ในห้องขัง ปล่อยออกมามีแต่จะทำให้เกิดหายนะ!”

“เจ้าเด็กจ้าวเหวินเทานี่จบเห่แล้ว วิ่งไปค้าขายก็ยังไม่ได้เงินเลย ดันถูกเพ่งเล็งแล้ว แบบนี้พวกเธอคอยดูเถอะ ไม่แพ้จนหมดตัวก็คงไม่กลับ!”

“พวกเธอว่า เรื่องนี้จะไม่สนใจได้ยังไง?”

“สนใจอะไรล่ะ ตอนนี้ใครจะว่างสนใจเรื่องนั้น ต่างก็ยุ่งอยู่กับการจัดการที่ดินกันทั้งนั้นแหละ!”

“เห็นบอกว่าเจ้าหกจ้าวไปขึ้นรูปคันนาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไปคลุกคลีอยู่กับเขาได้ล่ะ?”

“เจ้าหกจ้าวนั่น มีเหรอจะไปขึ้นรูปคันนา? อย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย แม้แต่สภาพของคันนาเขายังไม่แน่ใจเลยมั้งว่าเป็นแบบไหน”

เรื่องนี้ภรรยาเหล่าหวังสามมีสิทธิ์ในการออกความเห็นมากที่สุด

“ฉันเห็นแล้วล่ะ พลั่วเหล็กนั่นใหม่เอี่ยม ยังไม่เปื้อนดินแม้แต่น้อย ฉันว่านะ เจ้าหกจ้าวคงใช้เงินกับหม่าเสี่ยวลิ่วมานานแล้วแหละ ยังมีหน้ามาบอกว่าขึ้นรูปคันนาอีก ปรับกับผีน่ะสิ แม้แต่ที่ดินยังไม่ลงไปดูเลย คิดจะมาหลอกคนอื่น!” ภรรยาของเหล่าหวังสามพูดราวกับเห็นด้วยตาตัวเอง

ข่าวลือนี้ย่อมพัดไปถึงหูตระกูลจ้าวด้วย

คุณแม่จ้าวเบิกตากว้าง แม้ว่านางจะเชื่อลูกชาย แต่นางก็ทราบดีว่าหม่าเสี่ยวลิ่วเป็นคนอย่างไร!

มีแค่คุณพ่อจ้าวที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างขอบเตียง ท่าทางนิ่งสงบเหมือนปกติ

“ตาแก่อย่างคุณยังนั่งลงอีกเหรอ?” คุณแม่จ้าวเห็นท่าทางเช่นนั้นของสามี จึงกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ยังไม่ไปเรียกเหวินเทากลับมาอีก? การพนันนั่นถ้าติดขึ้นมาได้จบเห่แน่ ภูเขาเงินภูเขาทองก็ไม่พอให้เสียหรอก!”

คุณพ่อจ้าวยิ้ม พูดมาหนึ่งประโยคอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาคุณแม่จ้าวถึงกับจับต้นชนปลายไม่ถูก “ไอ้เด็กชั่วคนนี้ กลอุบายเยอะจริง ๆ!”

คุณแม่จ้าวถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก สามีของนางโกรธลูกชายจนเสียสติไปแล้วสินะ?

คุณพ่อจ้าวเห็นท่าทางเช่นนั้นของคุณแม่จ้าว จึงกระซิบเล่าเรื่องที่ตนเองเห็นไปหนึ่งรอบ

คุณแม่จ้าวอ้าปากกว้าง นางนิ่งไปครึ่งค่อนวันกว่าจะได้สติ พูดติดอ่างเสียงเบาว่า “ดังนั้น เจ้าลูกบ้าของเรา เขา…เขาจงใจไปกับหม่าเสี่ยวลิ่วเหรอ?”

“คุณคิดว่าไงล่ะ? เจ้าลูกบ้าคนนี้ กลอุบายของครอบครัวเราไปอยู่บนตัวมันหมดแล้ว” คุณพ่อจ้าวยิ้ม “วันนี้มันคงไม่กลับมาหรอก คุณไปบอกฉูฉู่สักหน่อย ให้ฉูฉู่มีแผนอยู่ในใจหน่อย”

ขณะที่กำลังพูดคุย เย่ฉูฉู่ก็ตะโกนเรียกพ่อกับแม่จากด้านนอก

“ฉูฉู่ มาทำอะไรเนี่ย ไม่มีอะไรทำก็ไปนอนบนเตียง ตอนนี้อากาศยังหนาวมาก ลมก็แรงขนาดนี้ด้วย” คุณแม่จ้าวรีบออกมา จากนั้นจึงพาเธอเข้ามาด้านในห้องและบอกให้ขึ้นนั่งบนเตียง

เย่ฉูฉู่แย้มยิ้ม “คุณแม่คะ ฉันจะมาบอกคุณแม่ว่าเหวินเทาไปเล่นพนันกับหม่าเสี่ยวลิ่วแล้ว คนในหมู่บ้านจะพูดยังไง คุณพ่อกับคุณแม่ก็อย่าได้กังวลใจนะคะ”

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวหันสบตากัน

คุณแม่จ้าวกล่าว “ฉูฉู่ เธอไม่กังวลเลยเหรอ? หม่าเสี่ยวลิ่วคนนั้นเป็นพวกเล่นพนัน เมื่อสองปีก่อนก็ถูกจับเพราะเล่นพนันหลายปี ออกมาก็ยังมีนิสัยเดิมไม่เปลี่ยน”

เย่ฉูฉู่มีท่าทางสง่างามนิ่งสงบอย่างมาก กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณแม่คะ เรื่องพวกนี้ฉันทราบดีค่ะ ฉันได้ยินมาแล้ว ดังนั้นก็เลยมาบอกพ่อกับแม่โดยเฉพาะ ที่เหวินเทาไปกับเขา คงต้องมีเรื่องอะไรแน่ ๆ สุดท้ายแล้วเพราะอะไรเขาถึงไปกับหม่าเสี่ยวลิ่ว รอให้เขากลับมาค่อยฟังจากปากเขาก็ได้ค่ะ ฉันเชื่อใจเหวินเทา”

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวคิดไม่ถึงเลยว่าลูกสะใภ้จะพูดประโยคนี้ออกมา

พวกเขาทราบเรื่องภายในแล้ว ทราบว่าลูกชายของตนเองกำลังลบล้างความสงสัยที่เก็บของล้ำค่าของคนอื่นได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เป็นกังวลและเรียนรู้ที่จะทำเรื่องไม่ดี

ลูกสะใภ้ไม่ได้ทราบเรื่องนี้ แต่กลับเชื่อลูกชายหมดใจอย่างแท้จริง ทั้งยังเดินมาปลอบใจพวกเขา บอกให้พวกเขาไม่ต้องเป็นกังวลใจ

คุณแม่จ้าวรู้สึกซึ้งใจจริง ๆ นางดึงมือลูกสะใภ้พลางกล่าว “ฉูฉู่ แม่รู้ เหวินเทาได้แต่งงานกับเธอนับว่าเป็นความโชคดีมากที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว หลังจากนี้ถ้าเหวินเทากล้าทำอะไรที่ไม่ดีกับเธอแม้แต่นิดเดียว ให้บอกแม่นะ แม่จะเอาไม้ไปทุบเขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงอย่างแน่นอน!”

เย่ฉูฉู่หัวเราะ “ขอบคุณมากนะคะคุณแม่”

กลับมาทางฝั่งจ้าวเหวินเทา

จ้าวเหวินเทาและหม่าเสี่ยวลิ่วเดินทางมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่ทางเข้าหมู่บ้านตะวันตก รอบบ้านหลังนี้ไม่ใช่ทุ่งนาแต่เป็นต้นไม้ กำแพงบ้านก็เตี้ยมาก ทั้งยังมีกองฟืนวางอยู่ด้วย

ทางด้านหลังมีประตูและหน้าต่างครบครัน เป็นทางหนีที่สะดวกดายมาก หากถูกบุกจับก็สามารถวิ่งหนีได้ทันที ออกแบบมาเพื่อเล่นพนันโดยเฉพาะ

มันมีห้องอยู่สามห้อง ห้องทางซ้ายและทางขวาเป็นห้องพนัน ห้องหนึ่งเป็นห้องเล่นไพ่ ส่วนอีกห้องเป็นห้องไพ่ป๊อกเก้า

เจ้าของบ้านคือชายชราผู้โดดเดี่ยว ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะก็จะได้ส่วนแบ่ง 10% โดยปกติรับหน้าที่ก่อเตาต้มน้ำดูต้นทาง บางครั้งก็ทำของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ทุกคนรับประทานด้วย

หม่าเสี่ยวลิ่วทักทายชายชราที่กำลังเก็บฟืนพลางมองดูต้นทางอยู่ที่หน้าประตูบ้าน จากนั้นก็นำจ้าวเหวินเทาเข้ามาด้านในสวน

“พี่จ้าว พี่อยากเล่นอะไรเหรอ?” หม่าเสี่ยวลิ่วแนะนำห้องทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถาม

ลานมีขนาดใหญ่มาก เพียงจ้าวเหวินเทาเข้ามาด้านในลานก็ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกจากด้านในห้อง ฟังดูแล้วคงมีคนเยอะมาก

“คึกคักมากเลยนะเนี่ย” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ก็มีไม่กี่คนหรอก ตอนนี้ต่างก็ยุ่งอยู่กับการจัดการที่ดิน ช่วงฤดูหนาวคนถึงจะเยอะ ไปเถอะ เข้าไปด้านในห้องกัน” หม่าเสี่ยวลิ่วผลักประตูให้เปิดออก

จ้าวเหวินเทาเข้าไปด้านในห้องตะวันออกก่อน ห้องตะวันออกคือห้องเล่นไพ่ มีไพ่โปกเกอร์ ลูกเต๋า วางกองสะเปะสะปะอยู่ที่บนโต๊ะด้านข้าง บนพื้นมีก้นบุหรี่ เสมหะ ดูสกปรกเหลือแสน

บนเตียงมีกลุ่มคนนั่งอยู่ มีคนที่สูบม้วนยาสูบแห้ง กล้องยาสูบ และมีสองคนที่กำลังใช้ปากคาบบุหรี่

ท่ามกลางควันบุหรี่ลอยคลุ้ง ทุกคนล้วนมีผมเผ้ายุ่งเหยิงพะรุงพะรัง ไม่ต่างอะไรกับสุ่มไก่ ใบหน้าเหลืองซีดเหมือนขี้ผึ้ง เสื้อผ้าก็สกปรกจนมันวาวเป็นเงา ดูคล้ายกับพวกขี้เหล้าเมายาไม่มีผิด

มีบางคนกำลังเล่นไพ่ บางคนก็กำลังดูไพ่ บางครั้งก็ยืดคอตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น

แม้จ้าวเหวินเทาจะไม่ใช่คนสะอาดสะอ้าน แต่ภรรยาของเขาก็รักสะอาด ถึงในบ้านจะซอมซ่อ แต่ก็เป็นระเบียบตลอดเวลา

คุณแม่จ้าวเองก็เก็บกวาดบ้านจนสะอาดหมดจด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะวันนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ต่อให้เชิญเขามาเขาก็ไม่มาหรอก!

แต่นี่ก็มาแล้วไม่ใช่เหรอ จู่ ๆ ก็เข้ามาโดยไม่ทันได้เตรียมตัว ทำให้อยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมา

เขารีบเดินไปที่ด้านนอกประตูห้องเพื่อสูดหายใจเข้าถอนหายใจออก ทำอยู่สองสามครั้งจึงดีขึ้น

ในเวลานี้ก็มีคนคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านในห้อง จากนั้นก็ลากเขาไปข้าง ๆ อย่างรวดเร็ว

“อั้นไม่อยู่แล้ว อั้นไม่อยู่แล้ว!” อีกฝ่ายพูดพลางปลดเข็มขัดคาดเอว จากนั้นก็เริ่มปัสสาวะข้างประตูทางเข้า

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

พี่เทาคงมากินรอบวงสินะ เห็นดวงพี่ดีแต่ไหนแต่ไร ว่าแต่จะหาเงินจากสถานที่แบบนี้จริง ๆ เหรอคะ มันค่อนข้างจะ…น่าแหวะอยู่นะ

ไหหม่า(海馬)