ตอนที่ 250 สัญญาของชิงอิ่ง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“ส่งยาแก้พิษมา!” ชายผู้นั้นกล่าวอย่างดุร้าย

“พวกเจ้าเองก็เป็นนักปรุงยา ล้างพิษด้วยตัวเองไม่ได้หรืออย่างไร ?”

กลิ่นสาบยาบนร่างของคนเหล่านี้โชยฉุนนัก ทำให้ไม่สามารถปกปิดไว้ได้ว่าพวกเขาเองก็เป็นนักปรุงยา นอกจากนี้ในเมื่อพวกเขาต้องการหม้อเทพนิรันดร์ ก็มีเพียงนักปรุงยาเท่านั้นที่น่าจะต้องการ

เมื่อได้ยินคํากล่าวของมู่เฉียนซี สีหน้าพวกเขาพลันเปลี่ยนไป มันดูบูดเบี้ยวเสียยิ่งกว่าจานดินเผาที่ถูกปั้นอย่างผิดรูป

พวกเขาเป็นนักปรุงยา และก็ไม่รู้ว่าเป็นนักปรุงยาที่ระดับสูงกว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มากมายเพียงใด แต่พิษนี้พวกเขา… พวกเขากลับทําอะไรมันไม่ได้เลย

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างลำพองใจ “หากอยากจะมีชีวิตอยู่ ต้องการยาแก้พิษก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ ปล่อยพวกข้าไปสิแล้วข้าจะมอบยาแก้พิษให้”

ในขณะนั้นเอง เงาร่างหนึ่งก้าวออกมา เขาไม่สนใจการคุกคามของมู่เฉียนซีและตบฝ่ามือที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังออกไปใส่นาง

ชิงอิ่งไหวตัวทัน เขาหมุนตัวขวางการโจมตีนี้ไว้

— ตูม! —

ทว่าพลังจากเงาร่างนั้นรุนแรงนัก ทั้งชิงอิ่งและมู่เฉียนซี พวกเขาทั้งสองกระเด็นลอยออกไป แต่ไหนเลย พลังโจมตีนี้รุนแรงมากเสียจนแม้กระทั่งผู้ตบพลังเองก็ยังปลิวกระเด็น

“พรวด!” มู่เฉียนซีกระอักเลือดกบปาก

แม้ว่าชิงอิ่งจะป้องกันการโจมตีทั้งหมด แต่อาการบาดเจ็บของนางก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ

“นายท่าน!” อู๋ตี้เสี่ยวหงสองสัตว์พันธสัญญารีบขวางตรงหน้ามู่เฉียนซีหมายใจจะช่วยบังนางไว้

คนผู้นี้ลงมือ ทําให้ผู้อื่นที่เหลือถึงกับตะลึงงัน

“ศิษย์พี่สาม…”

“ศิษย์พี่รองถูกวางยาพิษ ถึงอย่างไรเราก็ปล่อยให้เขาตายไม่ได้ ขอเพียงได้ม้วนไม้ไผ่แผนที่ของหม้อเทพนิรันดร์มา เช่นนั้นทุกอย่างก็คุ้มค่าแล้ว”

สีหน้าของศิษย์พี่รองซีดเซียว แม้ว่าจะโกรธ เขาก็ยอมรับคํากล่าวของชายผู้นี้

สีหน้ามู่เฉียนซีหม่นคล้ำ นางประเมินพวกเขาต่ำเกินไป พวกเขาโหดร้ายกับศัตรูและโหดร้ายกับคนของตนเองด้วยเช่นกัน

ชิงอิ่งกอดมู่เฉียนซีไว้แน่น มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเข้ม “ชิงอิ่ง กินยาทั้งหมดในตัวเจ้าและข้าเสีย  พวกเราต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อบุกเข้าไปในบึงหมื่นพิษให้ได้ ส่วนเรื่องการไปที่นั่นจะมีชีวิตรอดหรือไม่ ก็คงทําได้เพียงปล่อยไปตามชะตาลิขิตเท่านั้น”

ชิงอิ่งรับคำ “ได้!”

หลังจากกลืนยาลงไปทั้งหมดแล้ว ความแข็งแกร่งของชิงอิ่งก็เพิ่มมากขึ้น เวลานี้เขาสามารถต้านทานจักรพรรดิแห่งภูติระดับเก้าได้อย่างแน่นอน

คนเหล่านี้ต่างตกใจ ความแข็งแกร่งของเจ้าหุ่นเชิดรบนี้มากเกินคำอธิบาย และมันยังสามารถแข็งแกร่งกว่านี้ได้อีกด้วย

“รีบจัดการมันเร็วเข้าอย่ารอช้า มิเช่นนั้นมันจะแข็งแกร่งขึ้น”

— ตูม! —

เสียงดังสนั่น การโจมตีนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่ร่างของชิงอิ่ง

ทว่าเขาเปรียบเสมือนเทพสงครามผู้ไม่พ่ายแพ้  สามารถต้านทานการโจมตีอันบ้าคลั่งนี้ได้โดยที่เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ เสียด้วยซ้ำ แม้แต่คิ้วของเขาก็ยังไม่ขมวดเข้าหากัน

เสี่ยวหงกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “พวกสารเลวบัดซบ! ข้าจะจัดการพวกเจ้าซะ”

เปลวเพลิงสีแดงเข้มแผ่กระจายออกมา เวลานี้ดินใต้ฝ่าเท้าของพวกเขากลายเป็นลาวาสีแดงเข้มน่าสะพรึงกลัว

“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”

“อ๊าก!”

เปลวไฟสีแดงเข้มทําให้พวกเขาถูกเผาราวกับปลาเผาร้อน ๆ

เมื่อพวกอู๋ตี้และเสี่ยวหงโจมตีเสร็จเรียบร้อย พวกมันก็รีบไล่ตามมู่เฉียนซีและชิงอิ่งไป นายท่านต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน

บึงหมื่นพิษปล่อยหมอกพิษแผ่ออกมาอย่างอันตราย เมื่อคนเหล่านี้ไล่ตามมาถึงที่นี่ก็ไร้ซึ่งทางเลือก ต้องหยุดฝีเท้าลง

“ศิษย์พี่รอง ศิษย์พี่สาม เราจะทําอย่างไรดี ? นี่คือบึงหมื่นพิษที่อันตรายมากในตะวันตกของทวีปเซี่ยโจว”

ศิษย์พี่รองที่ถูกวางยาพิษผู้นั้นกล่าวขึ้นช้า ๆ “เด็กหนุ่มนั่นคิดว่าตนเองเชี่ยวชาญในยาพิษ คิดว่าเข้าไปในบึงหมื่นพิษจะสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ แต่เขาไม่รู้ถึงอันตรายของบึงหมื่นพิษเลย  เขาเป็นเพียงปรมาจารย์ภูติ เมื่อเข้าไปแล้วคงจะต้องตายอย่างไร้ที่ฝัง”

“เช่นนั้นพวกเราจะถอยไปรึ ?”

“แผนที่ตำแหน่งของหม้อเทพนิรันดร์อยู่ที่เจ้าหนุ่มนั่น พวกเราจะถอยหนีได้อย่างไรกันเล่า ? บึงหมื่นพิษนี้จำต้องเข้าไปอย่างแน่นอน เมื่อข้ายับยั้งพิษนี้ได้ก็จะเข้าไปในบึงหมื่นพิษ”

“ตกลง!”

ยิ่งอยู่นานไป หมอกพิษก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ  ชิงอิ่งเป็นหุ่นเชิดรบสำหรับต่อสู้ ย่อมไม่มีพิษใดที่จะทําอันตรายอะไรเขาได้ ในขณะที่เสี่ยวหงและอู๋ตี้ แม้พวกมันสองตัวจะเป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังทนไม่ค่อยไหว

ส่วนมู่เฉียนซีนั้น นางหมดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ เสี่ยวหงและอู๋ตี้ร้อนรนขึ้นมาในทันที พวกมันตะโกน “นายท่าน!”

“จะทําอย่างไรกันดี ? นายท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสและเวลานี้พวกเราตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่งยวด”

“ถ้าหากนายท่านไม่สลบไป นางได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ก็อาจจะรักษาตัวเองได้ แต่…”

ชิงอิ่งหยุดฝีเท้า เขารู้สึกว่ากลิ่นอายของหญิงสาวในอ้อมกอดเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ  เลือดบนร่างกายของนางเปื้อนเขา ดวงตาของเขามองไปที่เสี่ยวหงและอู๋ตี้

อู๋ตี้กล่าวขึ้นว่า “เจ้าท่อนไม้ เจ้าคิดหาวิธีเร็วเถอะ นายท่าน…”

เสี่ยวหงกล่าวแทรก “เจ้าโง่! เจ้าท่อนไม้นี้เป็นหุ่นเชิดรบ เขาทําได้เพียงเชื่อฟังคําสั่งเท่านั้น ไม่ใช่นักปรุงยา เขาจะคิดหาวิธีอะไรได้”

อู๋ตี้โกรธเคือง “บัดซบเอ๊ย! ศาลานิรันดร์ เจ้าจิ่วฉงหุ้นตุ้นถิงนั่น ในเวลาเช่นนี้ยังหลับสนิทอยู่ได้อย่างไร ?!”

เสี่ยวหงเองก็จนปัญญา  “แล้วท่านจิ่วเยี่ยผู้นั้นเล่าหายไปไหนแล้ว ?  นายท่านของเรากำลังตกอยู่ในอันตราย  ท่านจิ่วเยี่ยรีบมาเร็วเข้าเถอะ!”

สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองตัวร้อนรนราวกับมดบนหม้อร้อน ๆ  ชิงอิ่งก้มหน้าลงมองใบหน้างดงามที่ดูขาวซีดไร้เลือดฝาดของมู่เฉียนซี

เขาเอ่ยคําสามคําออกมาอย่างแข็งทื่อ “ตาย ไม่ตาย”

ท่ามกลางหมอกสีดําที่เป็นพิษของบึงหมื่นพิษนี้ ทันใดนั้นแสงสีเขียวพลันปรากฏขึ้น แสงสีเขียวนั้นปกคลุมมู่เฉียนซีและชิงอิ่งไว้

“สัญญา…”

เสียงทุ้มต่ำเสมือนดังมาจากถิ่นทุรกันดารโบราณ ระเบิดขึ้นในจิตใต้สำนึกของมู่เฉียนซี

คําว่า ‘สัญญา’ ที่รวมอยู่ด้วยกับแสงสีเขียว ลอยไปจมเข้าที่หัวคิ้วของชิงอิ่งในฉับพลัน

เสี่ยวหงและอู๋ตี้ต่างตกใจ “เขา… เจ้าท่อนไม้นี่ ถึงกับให้นายท่านทําพันธสัญญา”

อู๋ตี้จะร้องไห้แล้ว “นายท่าน เวลานี้กําลังจะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว  ท่อนไม้… เขาลงมือทำพันธสัญญาเพื่อที่จะพ่วงตัวเองเข้าไปหรือนี่ ?”

ขณะที่พวกมันกําลังจะหมดหวัง พวกมันกลับพบว่าอาการบาดเจ็บของมู่เฉียนซีฟื้นตัวด้วยความเร็วที่มองเห็นได้และหายไปในที่สุด แม้แต่ร่องรอยสักนิดก็ไม่มีให้เห็น

ช่างน่าพิศวง!

ความเสียหายร้ายแรงที่เกิดจากพลังระดับจักรพรรดิแห่งภูติหายไป เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว

อู๋ตี้และเสี่ยวหงมีชีวิตอยู่มานานเพียงใดแล้วก็ไม่อาจทราบได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเรื่องแปลก ๆ เช่นนี้

ผลการรักษาบาดแผลของสัญญาที่ทำขึ้นเมื่อครู่แข็งแกร่งกว่ายารักษาอาการบาดเจ็บที่มีประสิทธิภาพของนายท่านเสียอีก

เสี่ยวหงกล่าว “มันช่างน่าพิศวงดีแท้ หุ่นเชิดรบที่ทําพันธสัญญาไว้สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าในอนาคตคงจะต้องหาหุ่นเชิดรบให้นายท่านเพิ่มอีกสองสามตัว เมื่อนายท่านตกอยู่ในอันตรายก็ให้ทำพันธสัญญากันจะได้หายดี”

อู๋ตี้กลอกตา  กล่าวว่า “เจ้าคิดว่าหุ่นเชิดทุกตัวจะได้ผลเช่นนี้หรือ ? ข้าเกรงว่าจะมีเพียงเจ้าท่อนไม้นี้เท่านั้นที่มีความพิเศษ”

— ปัง! —

หลังจากทําพันธสัญญาเรียบร้อยแล้ว อาการบาดเจ็บของมู่เฉียนซีก็ดีขึ้นมาก แต่ชิงอิ่งกลับหมดแรงและสลบใสลไปในทันที

เสี่ยวหงและอู๋ตี้ร้อนรนขึ้นมาอีกครั้ง “อ๊าก! นายท่านยังไม่ได้สติเลยแล้วเจ้าหมอนี่ก็ยังมาสลบไปอีกคน แล้วจะทําอย่างไรดี ?”

“ยา… เม็ดยาอย่างไรเล่า! ให้เขากินเม็ดยาสิ เขาจะได้ฟื้นฟูพลัง” อู๋ตี้กล่าวเสียงตื่นเต้น

เสี่ยวหงอยากจะร้องไห้ มันกล่าวว่า “แต่เมื่อครู่เขาพานายท่านหนีออกมาได้ก็เพราะกินยาทั้งหมดหมดเกลี้ยงไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว”

“แล้วจะทําอย่างไรกันดี ?”

— ตูม!  ตูม! —

เวลานี้ งูเหลือมพิษหลายตัวกําลังใกล้เข้ามาอย่างดุเดือด

เสี่ยวหงและอู๋ตี้กังวลอย่างมาก สถานการณ์ย่ำแย่อยู่แท้ ๆ ยังถูกกระหน่ำซ้ำอีก ต้องตายแน่ ๆ

อู๋ตี้กล่าว “ข้าจะสู้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรั้งไว้จนกว่านายท่านจะได้สติขึ้นมา”

— ซู่ม! —

เปลวไฟของเสี่ยวหง กวาดผ่านไป

— ตูม!  ตูม! —

ความแข็งแกร่งของงูเหลือมพิษเหล่านี้มิใช่น้อย ๆ เลย  แต่เสี่ยวหงและอู๋ตี้ได้ใช้พลังงานทั้งหมดต่อสู้กับชายชุดขาวลึกลับเหล่านั้น และในเวลานี้ก็ใกล้มาถึงจุดจบแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องกัดฟันสู้จนกว่านายท่านของพวกมันจะฟื้นขึ้นมา

พวกมันจะไม่ปล่อยให้นายท่านเป็นอะไรไปเด็ดขาด

.