บทที่ 54 สิทธิพิเศษแดนฝัน
ซูเฉินคุยเล่นกับอวิ๋นเป้าอีกพักหนึ่งก่อนจะกลับไปนอน
เขาบอกว่าจะไปพักผ่อน แต่แท้จริงแล้วเข้าไปฝึกบ่มเพาะพลังในแดนฝันต่างหาก
การทำเช่นนี้กลายเป็นสิ่งที่ซูเฉินทำจนเป็นนิสัยไปทุกคืน
ลวดลายบนหลังมือของเขาค่อย ๆ หมุนเวียนวนช้า ๆ นำพาจิตของซูเฉินเข้าสู่แดนฝัน
ซูเฉินปรากฏตัวขึ้นที่โถงแห่งความรู้ในปราสาทแดนฝันที่เขา ‘ตัดการติดต่อ’ จากแดนเมื่อครั้งก่อน
เขาเดินเข้าไปยังห้องด้านข้าง เริ่มหาประกาศที่ส่งออกไป เป็นประกาศเรื่องตำราเปิดพลังไคฮวง แต่ทว่าเด็กหนุ่มกลับหามันไม่พบ
เกิดอะไรขึ้นกัน ?
เขาประกาศขายตำราเปิดพลังไคฮวงไปเมื่อคืนวาน จากนั้นก็กลับไปฝึกทักษะต้นกำเนิดต่อ
เขาคิดว่าอย่างน้อย ๆ ก็คงจะขายได้บ้าง แต่ในวันนี้กลับพบว่าประกาศของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย รายละเอียดการซื้อขายระบุไว้เพียงว่ามีคนผู้หนึ่งที่ซื้อวิชาไปเท่านั้น
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่ ?
ในตอนที่เขากำลังพยายามคิดหาเหตุผลอยู่นั่นเอง นัยน์ตาก็พลันพร่ามัว จู่ ๆ ภูติแดนฝันลู่ลู่ก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้า
ภูติแดนฝันเปล่งเสียงหัวเราะชอบใจออกมาแล้วบินวนไปในอากาศ “เจ้ามาสักที ! ข้ารอเจ้ามาทั้งวันเลยนะ”
“เหตุใดประกาศที่ข้าลงไว้เมื่อวานถึงหายไปเล่า ?” ซูเฉินเอ่ยถาม
“เรื่องนี้ล่ะที่ข้าอยากคุยกับเจ้า เจ้าเป็นคนคิดค้นวิธีทะลวงเข้าสู่ด่านกลั่นโลหิตโดยไร้สายเลือดหรือ ?”
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า ข้าแค่อยากรู้ว่าเหตุใดมันจึงหายไปเช่นนี้” ซูเฉินถามขึ้นอีก น้ำเสียงฟังดูไม่พอใจเท่าไรนัก
ภูติแดนฝันบินวนเป็นวงกลม “ยังต้องถามอีกหรือ ? ก็เพราะมีคนซ่อนประกาศเจ้าไว้อย่างไรเล่า ซ่อนเอาไว้ไม่ให้คนอื่น ๆ เห็น”
“ซ่อนไว้หรือ ?” นัยน์ตาซูเฉินพลันเย็นยะเยือกขึ้น
เช่นนั้นก็คือมีคนมายุ่งวุ่นวายอยู่เบื้องหลังสินะ
จริง ๆ แล้วตอนเขาส่งประกาศตำราเปิดพลังไคฮวงไปในแดนฝัน ซูเฉินก็มีความรู้สึกเป็นลางแล้วว่าเรื่องราวจะต้องไม่ดำเนินไปอย่างราบรื่นแน่ แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะลงมือรวดเร็วเสียขนาดนี้ เขาเพิ่งจะส่งประกาศไปก็มีคนมาซ่อนมันไว้เสียแล้ว
“แล้วเหตุใดข้อมูลที่ข้าประกาศออกไปจึงถูกคนอื่นปิดบังได้เล่า ?” ซูเฉินถามขึ้น
“เจ้าไม่ถามว่าใครทำและทำไปเพื่ออะไร ดีมาก หมายความว่าเจ้าได้เตรียมตัวรับมือปัญหานี้ไว้แล้ว” ลู่ลู่กะพรือปีกแล้วหัวเราะร่า
“ตอบคำถามข้ามา !” ซูเฉินเอ่ยย้ำ เริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมา
“ก็เพราะว่ามีสิทธิพิเศษอย่างไรเล่า !” ลู่ลู่เอ่ยตอบ “ก็เหมือนกับบนโลกจริงของเจ้านั่นล่ะ คนแกร่งกว่าย่อมเหนือกว่าคนอ่อนแอ ภายในแดนฝันแห่งนี้ คนที่มีระดับสิทธิ์สูงกว่าก็จะมีอำนาจพิเศษเหนือคนอื่น ๆ สามารถอ่านสามารถส่งประกาศได้ตามใจปรารถนา อีกทั้งยังซ่อนหรือปิดบังประกาศที่ต้องการได้ ดูแล้วคงจะมีผู้มีอำนาจไม่ชอบประกาศของเจ้าเข้าก็เลยซ่อนมันไว้เสีย”
“พวกเจ้ามอบอำนาจเช่นนี้ให้เลยหรือ ?”
“ย่อมใช่ แต่การเพิ่มระดับสิทธิ์ในแดนฝันนั้นจะต้องใช้ละอองฝันมากมายเลยน่า” ลู่ลู่บินวนอยู่ตรงหน้าเขา “หากไร้ประโยชน์เหล่านี้แล้ว จะมีใครอยากเลื่อนระดับสิทธิ์ในแดนฝันอีกเล่า ?”
“เจ้าแดนฝันหาเงินเก่งจริง ๆ” ซูเฉินเอ่ยเสียงเคือง
“เขาก็ต้องทำมาหากินนั่นล่ะ” ลู่ลู่หัวเราะคิก
“……”
หลังจากพูดคุยกับลู่ลู่แล้ว ซูเฉินก็พบว่าในแดนฝันนั้นมีระดับสิทธิ์หลักอยู่ 3 ระดับ นั่นคือ แขกแดนฝันระดับต่ำ เจ้าหน้าที่แห่งฝันระดับกลาง และราชันแห่งฝันเป็นระดับสูง โดยแต่ละระดับก็มีอำนาจและประโยชน์ของตน ทั้งยังมีขั้นต่าง ๆ ในแต่ละระดับ การจะเลื่อนขั้นต้องใช้ทั้งเวลาและเงิน อีกทั้งยังใช้พลังจิตอีกด้วย
คนเช่นซูเฉินยังนับว่าเป็นแขกแดนฝันระดับต่ำอยู่จึงไม่ได้มีอำนาจพิเศษอะไรมากนัก คนอื่น ๆ จึงมีอำนาจเหนือเขา
มีเพียงราชันแห่งฝันระดับสูงเท่านั้นที่จะสามารถซ่อนประกาศของคนอื่นได้
หมายความว่าข้อมูลที่ซูเฉินต้องการประกาศถูกราชันแห่งฝันระดับสูงซ่อนไว้นั่นเอง
“เช่นนั้นหากราชันแห่งฝันผู้นี้ยังอยู่ ข้าก็ไม่อาจประกาศสิ่งที่ต้องการออกไปได้เลยสินะ?” ซูเฉินเอ่ยเสียงเศร้า
“ก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น” ภูติแดนฝันสะบัดปีกบิน “ข้าจะบอกความลับเล็ก ๆ อย่างหนึ่งให้เจ้าฟัง ราชันแห่งฝันปิดบังประกาศเจ้าได้ แต่ลบไม่ได้ อีกทั้งจะปิดบังประกาศใครยังต้องจ่ายเป็นละอองฝัน”
ซูเฉินเริ่มตาเป็นประกาย “เจ้าจะบอกว่าอีกฝ่ายจำต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งทุกวันงั้นหรือ ?”
“ถูกต้อง ! อีกทั้งการปิดบังประกาศของคนที่มีระดับสิทธิ์แตกต่างกันก็ใช้เงินมากน้อยแตกต่างกัน หากเจ้าไม่อยากให้ประกาศถูกซ่อนอีกก็จงยกระดับสิทธิ์ตัวเองเสียเถอะ ยิ่งระดับสูงขึ้นอีกฝ่ายก็ต้องจ่ายเงินเพื่อซ่อนประกาศเจ้าสูงขึ้น และหากเจ้าได้เป็นราชันแห่งฝันระดับสูงเมื่อไร อีกฝ่ายก็ไม่อาจซ่อนประกาศเจ้าได้อีกแล้วล่ะ !”
“แล้วเจ้ายังจะหาเงินได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ”
ซูเฉินเข้าใจในพลัน
นี่มันความลับอะไรกัน ? เป็นเพียงกลยุทธ์หนึ่งที่เจ้าแห่งแดนฝันใช้หาเงินเข้าตัวต่างหากเล่า
เพื่อไม่ให้ประกาศบางอย่างถูกซ่อนไว้ได้ตลอด พวกที่มีสิทธิ์สูงทั้งหลายจำต้องยอมจ่ายละอองฝันให้เจ้าแดนฝันทุกวัน ก็นับว่าเป็นความคิดที่ดีไม่น้อย
แต่ ‘ปัญหา’ ที่ใหญ่ที่สุดในแดนฝันก็คือไม่อาจทำการซื้อขายสิ่งของที่จับต้องได้เลย มีเพียงซื้อขายข้อมูลกันได้เท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าแห่งแดนฝันคงเสียเวลาเค้นสมองเพื่อหาทางสร้างค่าให้แดนฝันไปไม่น้อยเลยทีเดียว
การสร้างระดับสิทธิ์ที่แตกต่างกันเช่นนี้นับเป็นอุบายของเจ้าแห่งแดนฝัน
“ถูกต้อง !” ภูติแดนฝันตอบ “อีกอย่าง หากไม่อยากให้มีคนอื่น ๆ มาซ่อนประกาศเจ้าได้อีกก็จงยกระดับสิทธิ์ตัวเองเสีย”
“ข้าไม่สนใจจะถูกเจ้าหลอกใช้ประโยชน์หรอก” ซูเฉินส่ายหัว เตรียมจะออกจากแดนฝัน
“เจ้าฟังคำข้าจะดีที่สุดนะ” ภูติแดนฝันหัวเราะคิกคัก “ข้าจะบอกความลับอีกอย่างให้ฟัง”
“เจ้าหมายความว่าอะไร ?” เด็กหนุ่มพลันรู้สึกมีลางสังหรณ์แปลก ๆ
“ราชันแห่งฝันระดับสูงที่ซ่อนประกาศของเจ้าคนนั้นกำลังพยายามหาตัวตนที่แท้จริงของเจ้าอยู่ หากไม่อยากถูกพบตัวก็รีบเพิ่มระดับสิทธิ์ตัวเองเสียเถอะ !”