บทที่ 55 ปลามังกร
เขาอินทรีโรยนั้นไม่กว้างใหญ่หรือมีป่าลึกเหมือนกับเทือกเขาสีเลือด แต่มันก็มีอันตรายที่ซุกซ่อนอยู่เช่นกัน
ทิวเขาเรียงตัวกันเป็นผาสูงชัน ผาแล้วผาเล่า ตั้งตระหง่านราวพุ่มมีด ดังนั้นจึงมีอีกชื่อเรียกหนึ่งคือเทือกเขาปลายแหลม
โดยบนเขามีป่าหนาแน่นเป็นกระจุก ๆ มีหินขนาดใหญ่โผล่สูงขึ้นอยู่ตรงกลาง ดูคล้ายกับคนที่กลางศีรษะล้านอย่างไรก็อย่างนั้น
ลำธารสายหนึ่งไหลยาวคดเคี้ยวกินพื้นที่ทั่วทิวเขา เพิ่มชีวิตชีวาให้สิ่งแวดล้อมโดยรอบ มันให้ความชุ่มชื้นแก่ดินทั้งหลาย ทำให้มีพืชพันธุ์มากมายเจริญเติบโตงอกงาม
ธารน้ำสายนี้มีชื่อว่าแม่น้ำเหวินชาง
แม่น้ำเหวินชางเป็นแม่น้ำสาขาหนึ่งของลุ่มน้ำทอง ทุก ๆ ปีพวกปลาจะพากันว่ายทวนน้ำมาวางไข่ที่นี่
ดังนั้นแม่น้ำสายนี้จึงกลายเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งบนเขาอินทรีโรย ทำให้พื้นที่โดยรอบธารน้ำมีอสูรร้ายร่อนเร่อยู่มากมาย
หลังจากไหลตัดผ่านทิวเขาหลากหลายแห่ง แม่น้ำเหวินชางก็ไหลมาจนถึงหุบเขาที่ล้อมรอบไปด้วยเขาสูง อันเป็นสถานที่ที่หุบเขาพันเถ้าตั้งอยู่
และภายในหุบเขาพันเถ้า แม่น้ำเหวินชางก็แตกแขนงออกเป็นทะเลสาบโบราณไม่รากู่
ทะเลสาบโบราณไม่รากู่เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแคว้นหลงซาง อีกทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของปลาน้ำจืดทั้งหลายที่พากันมาวางไข่ ฟักไข่ และเติบโตในทะเลสาบแห่งนี้ ก่อนที่จะกลับไปยังแม่น้ำเดิมของมัน โดยในกระบวนการเหล่านั้นมีลูกปลานับพันนับหมื่นที่ต้องกลายเป็นอาหารให้อสูรร้ายทุก ๆ ปี
ทะเลสาบโบราณไม่รากู่จึงนับเป็นสถานที่ที่มีความแตกต่างที่สุดในเขาอินทรีโรย ทั้งอสูรร้ายที่มีพลังสูงส่งที่สุดและฝูงอสูรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดต่างก็พำนักอยู่ที่นี่ อันเป็นสาเหตุให้ดึงดูดเหล่าผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดทั้งหลายให้เข้ามา……
หลังจากไต่เขามาสองวัน กลุ่มพิสุทธิ์ก็เดินทางมาถึงจุดหมายที่เฝ้าฝันมานานเสียที
“ดูสิ หุบเขาพันเถ้าอยู่ข้างหน้านั่นเอง !” ตู้ฉิงโบกมือไปมาแล้วตะโกนเสียงตื่นเต้น
“เรามาถึงสักที รีบเร่งฝีเท้าแล้วเดินทางให้ถึงก่อนค่ำเถอะ” เจิ้งเซี่ยตะโกนบอก
“ไปกัน !” ทุกคนเปล่งเสียงขึ้นด้วยความยินดี ก่อนจะพากันมุ่งหน้าไปยังหุบเขาพันเถ้า
หลังจากเข้าหุบเขาพันเถ้ามาแล้วก็ถูกล้อมรอบด้วยผืนผ่าเขียวชอุ่มและหญ้าเขียวขจี ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินจัด มีเมฆล่องลอยอยู่บ้างเป็นกระจุก ๆ พระอาทิตย์ที่กำลังจะตกส่องแสงสีทองสะท้อนบนผิวน้ำในทะเลสาบใสกระจ่าง
“ที่นี่สวยจริง” ตู้ฉิงยืนอยู่บนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งแล้วแหงนหน้ามองฟ้า
จากมุมของนาง สามารถเห็นฝูงกวางหลังดอกกำลังเดินอยู่บนที่ราบขนาดใหญ่ บางครั้งพวกมันก็จะก้มหัวลงกินหญ้า บ้างก็เปล่งเสียงร้องเบาออกมา
มองไกลไปกว่านั้นก็เห็นควายเขายักษ์อยู่สองสามตัวกำลังเดินเอื้อง ๆ อยู่ริมทะเลสาบ บางตัวก็ดื่มน้ำท่าทางระมัดระวัง บ่อยครั้งที่เหลียวไปมองด้านหลังคอยระวังภัย
หลายครั้งที่เห็นกระต่ายลายจุดดำโผล่หัวขึ้นมาจากหลุมของมัน หูขนาดใหญ่ของมันตั้งตรงขึ้นขณะที่หันมองไปรอบทิศ
ที่ราบหญ้าเขียวขจีแห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายจริง ๆ
“ถูกต้อง ที่นี่สวยมาก” เจิ้งเซี่ย เหยียนฟู่ซิง และคนอื่น ๆ ต่างก็พากันขึ้นมายืนมองภาพพื้นที่โดยรอบกับนางด้วยเช่นกัน
“ดูนั่นสิ มันคืออะไรน่ะ ?” ตู้ฉิงชี้นิ้วไปยังที่ไกล
นางกำลังชี้นิ้วไปยังดอกไม้ดอกหนึ่งที่ลอยไหว ๆ อยู่ในทะเลสาบ บางครั้งก็จะเปล่งแสงเรืองอ่อน ๆ ออกมา
ซุนจี้จู่สายตาเฉียบคม เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้นทันที “เป็นดอกบัวแก่นน้ำเงิน อีกทั้งยังสุกงอมได้ที่แล้วด้วย !”
ดอกบัวแก่นน้ำเงินนั้นนับเป็นของหายากที่มีราคาอยู่พอตัว
“ดูตรงนั้นสิ ! นั่นมันดอกชบาหน้าหยกไม่ใช่หรือ ?” เจิ้งเซี่ยเองก็ร้องขึ้นบ้าง
ดอกไม้สีชมพูลอยอยู่ในทะเลสาบ มันคือดอกชบาหน้าหยกที่เจิ้งเซี่ยกล่าวเมื่อครู่นั่นเอง นับเป็นของหายากเช่นกัน
เมื่อพบของมากมายเช่นนี้ คนอื่น ๆ จึงเริ่มมองหาสมุนไพรหายากที่เติบโตอยู่ในทะเลสาบกันต่อไป
คนที่ชำนาญด้านการปรุงยาก็จะสามารถบอกชื่อสมุนไพรเหล่านั้นได้นับสิบ มีทั้งไตรริษยาที่ก็เป็นสมุนไพรหายากชนิดหนึ่งเช่นกัน
สมุนไพรระดับหายากเช่นนี้ก็หาได้ไม่มากแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงสมุนไพรระดับตำนานอย่างดอกซากวิญญาณเลย
ไตรริษยาเป็นสมุนไพรหายากระดับต่ำ สามารถใช้กระตุ้นสายเลือดได้ ดังนั้นจึงมักใช้ปรุงยาปลุกสายเลือดหรือหรือยาประตุ้นสายเลือด ซึ่งเป็นยาที่ผู้คนต้องการมากมายทั้ง 2 ชนิด
เมื่อมองไปทางไหนก็พบแต่สมุนไพรยา ต่างคนก็พากันร้องตะโกนด้วยความยินดี พุ่งตัวไปในพลัน คิดในใจว่าหุบเขาพันเถ้าช่างเป็นสถานที่อันอุดมสมบูรณ์เสียจริง
อวิ๋นเป้าขมวดคิ้วแน่น แต่ซูเฉินก็ได้ร้องตะโกนขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้เปิดปากพูด “รอเดี๋ยว !”
ทุกคนหันมามองซูเฉิน
ซูเฉินเอ่ยต่อเสียงสงบ “ข้าเชื่อว่าหุบเขาพันเถ้านั้นเต็มไปด้วยสมุนไพรล้ำค่ามากมาย แต่เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือที่พวกมันต่างพากันเติบโตกันอุดมสมบูรณ์ในสถานที่ที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งเช่นนี้ ? หรือก็คือพวกเจ้าเชื่อจริง ๆ หรือว่าศิษย์ที่เดินทางมายังหุบเขาพันเถ้าก่อนหน้านี้พากันตาบอด ไม่เห็นของล้ำค่าเหล่านี้กันทุกคน ?”
ทุกคนชะงักค้างไป
ก็แปลกจริง ๆ นั่นล่ะที่สมุนไพรล้ำค่าเช่นนี้มาเติบโตอยู่ในสถานที่ที่พบเห็นได้ง่ายดาย
คงจะมีเพียงสองเหตุผลที่พวกมันยังอยู่ดีไม่มีใครเก็บกลับไป ไม่ทุกคนที่เคยผ่านมาต่างพากันตาบอดมองไม่เห็นของดี ก็แปลว่าจะต้องมีปัญหาซ่อนอยู่
ในเมื่อศิษย์สถาบันมังกรซ่อนเร้นย่อมไม่ได้ตาบอดเป็นแน่ เช่นนั้นก็มีแต่เหตุผลที่สองแล้ว
เจิ้งเซี่ยเดินกลับมาหาซูเฉิน “แล้วเจ้าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ ?”
ซูเฉินตอบ “ที่นี่ดูสงบสุขมาก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายดูท่าทางไร้อันตราย แต่กลับไม่เห็นเงาอสูรร้ายสักตัว เจ้าไม่คิดว่าสถานที่ที่มีสัตว์อยู่มากมายเช่นนี้ไม่ใช่แหล่งอาหารชั้นดีหรือ ?”
แหล่งอาหารชั้นดี ?
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจิ้งเซี่ยก็เข้าใจสิ่งที่ซูเฉินจะสื่อ
กวางหลังดอกเติบโตเร็วมาก กวางตัวเมียจะคลอดลูกกวางได้มากสุดสองตัวภายใน 3 เดือน อีกทั้งตัวลูกยังเติบโตเร็วนัก ปีเดียวก็โตเต็มวัยแล้ว
ควายเขายักษ์ใช้เวลาเติบโตนานกว่า แต่ควายตัวหนึ่งก็มีเนื้อหนังเท่ากับกวางตัวเต็มวัยหลายตัว
กระต่ายลายจุดดำยิ่งเติบโตได้เร็วกว่า แม้จะตัวเล็กแต่ก็แพร่พันธุ์รวดเร็วมาก ทุกปีให้กำเนิดลูกได้ 2 ครอก แต่ละครอกมีลูกกระตาย 8-12 ตัว ใช้เวลาเพียง 3 เดือนก็เติบโตเต็มวัย
ปลาตัวอ้วนในธารน้ำ กวางหลังดอก ควายเขายักษ์ และกระต่ายลายจุดดำคือจุดต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร มีชีวิตอยู่เพื่อเป็นอาหารให้เหล่าอสูรร้ายเท่านั้น
ดังนั้นแม้ภาพเบื้องหน้าจะดูสงบสุขเพียงไหน แต่เบื้องหลังต้องมีภัยซุ่มซ่อนอยู่เป็นแน่
เมื่อรู้เช่นนี้ กลุ่มพิสุทธิ์ก็ไม่ผลีผลามลงมือทำอะไรอีก เดินอ้อมทะเลสาบไปยังป่าที่วางแผนจะเดินทางเข้าไปแทน
ตอนที่เพิ่งจะเดินทางมาถึงชายป่าก็พบว่าที่ด้านหลังเกิดเรื่องเอะอะขึ้น
ทุกคนหันกลับไป พบศิษย์สถาบันคนหนึ่งกำลังพุ่งตัวลงทะเลสาบไปพร้อมกับร้องตะโกน “รวยแล้ว !”
ดูท่าจะคิดไปเก็บสมุนไพรที่กลางทะเลสาบเป็นแน่
แม้จะรู้ว่าสมุนไพรเหล่านี้หากอยากได้มาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ยังอดรู้สึกเจ็บปวดใจเมื่อเห็นคนอื่นพุ่งไปหมายจะเก็บมันไม่ได้เช่นกัน บางคนกระทั่งรู้สึกเสียใจที่ดันฟังคำซูเฉิน ทิ้งโอกาสชั้นยอดไปเสียได้
หากแต่พริบตาต่อมาความเสียใจก็หายไปสิ้น
เมื่อศิษย์คนนั้นพุ่งเข้าไปริมทะเลสาบ ก้มตัวลงจะเก็บกล้วยไม้จินดานั่นเอง คลื่นน้ำยักษ์ก็พลันพุ่งขึ้นมาจากผิวน้ำ
หลังจากคลื่นยักษ์ก็บังเกิดน้ำวนขนาดใหญ่ในทะเลสาบ
คลื่นน้ำวนมีแรงดูดรุนแรงมาก มันดูดเอาตัวศิษย์คนนั้นเข้าไปทั้งตัว
หากมองดูดี ๆ แล้ว พวกเขาก็จะพบว่านั่นไม่ใช่น้ำวน แต่เป็นปากปลาที่เต็มไปด้วยฟันคมดั่งใบมีดต่างหาก
แค่ปากมันก็มีขนาดใหญ่เท่าบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่งแล้ว มันเผยกายขึ้นมาบนผิวน้ำ ดูดน้ำเข้าไปจำนวนมหาศาล กลืนศิษย์คนนั้นเข้าไปในพริบตา ส่วนกล้วยไม้จินดาก็ยังอยู่ดีมีสุขไม่มีใครแตะต้อง
เมื่อมันกลับลงน้ำไป ผืนน้ำก็พลันกลับคืนสู่ความสงบราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น จะมีก็แต่ศิษย์สถาบันมังกรซ่อนเร้นคนหนึ่งที่หายไปในพริบตา
ทุกคนได้แต่มองภาพนั้นด้วยความตกตะลึง
“ขั้นสุด…… นั่นมันอสูรร้ายระดับสูงสุดเลยนี่” ซุนจี้จู่เอ่ยเสียงสั่น
เจ้าปลาตัวยักษ์ที่ตัวใหญ่คล้ายหอสูงนั้นเป็นอสูรร้ายระดับสูงสุด มีพละกำลังเทียบเท่ากับได้กับผู้เชี่ยวชาญด่านกลั่นโลหิต และถึงแม้จริง ๆ แล้วกำลังของอสูรร้ายไม่อาจเทียบกับของมนุษย์ได้ หากแต่อสูรร้ายระดับสูงสุดก็สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญอย่างหลี เยียนหั่ว และถงลู่ได้อย่างง่ายดาย มีเพียงคนที่มาจากตระกูลสายเลือดชั้นสูงเท่านั้นที่สู้กับมันไหว
หรือจะกล่าวได้ว่าระดับขั้นของอสูรต่าง ๆ นั้นถูกกำหนดตามความแกร่งของตระกูลสายเลือดชั้นสูงต่าง ๆ นั่นเอง
“ไม่แปลกที่มีสมุนไพรอยู่มาก” หวังโต้วซานพึมพำ “เพราะมันใช้สมุนไพรเป็นเหยื่อล่อพวกเรานี่เอง”
อวิ๋นเป้าพลันเอ่ย “มันคือปลามังกร มีสายเลือดมังกรอสูร นับได้ว่าเป็นอสูรกาย ปลามังกรไม่กินสิ่งมีชีวิตปกติธรรมดา จะกินเฉพาะที่มีพลังต้นกำเนิดอยู่ในร่างเท่านั้น ดังนั้นที่พวกกวางหลังดอกหรือควายเขายักษ์ยังอยู่รอดที่นี่ได้ ไม่ใช่เพียงเพราะที่นี่อุดมสมบูรณ์ แต่เพราะได้ปลามังกรคอยปกป้องด้วย และนั่นก็หมายว่าปลามังกรใช้สัตว์ธรรมดาเป็นตัวล่ออสูรร้าย ใช้สมุนไพรล้ำค่าเป็นตัวล่อผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดนั่นเอง”
ปลามังกรนั้นนับว่าแข็งแกร่งมากในหมู่อสูรร้ายระดับสูงสุด ในเมื่อคนที่มีขั้นพลังด่านกลั่นโลหิตขึ้นไปไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามายังเขาอินทรีโรย มันก็ยิ่งกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจมีใครสู้ได้ไปเลย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไร้ทางรับมือกับมัน
อย่างไรมันก็เป็นแค่อสูรร้ายตัวหนึ่ง หากเหล่าศิษย์ร่วมมือกันก็อาจเอาชนะมันได้
แต่การร่วมมือกันเช่นนั้นก็ไม่ง่าย คนมาก เรื่องยิ่งมากตาม
หรือก็คือสถาบันมังกรซ่อนเร้นไม่คิดให้เหล่าศิษย์ได้ทำเช่นนั้น
เหตุที่ปลามังกรอยู่ที่นี่ก็เพราะถูกทางสถาบันนำมาปล่อยเพื่อทดสอบเหล่าศิษย์ทั้งหลาย
ทำให้เหล่าคนที่ไร้อำนาจต่อกรแต่มีสายตาเฉียบแหลม มีไหวพริบเฉียบคมก็จะรู้จักหลบเลี่ยง ผิดกับคนที่ไร้ทั้งพลังและสายตาที่จะกลายเป็นอาหารของมันไป
ส่วนคนมีความสามารถย่อมใช้ความสามารถในการเก็บเกี่ยวเอาสมุนไพรเหล่านั้นมา
และหากสังหารปลามังกรด้วยกำลังตนได้ ทางสถาบันมังกรซ่อนเร้นย่อมรับรู้ถึงความแกร่งของคนผู้นั้น
สถาบันมังกรซ่อนเร้นนั้นตั้งกฎไว้ชัดเจนว่าสามารถรวมกลุ่มได้มากสุดเพียง 7 คนเท่านั้น
และหากมีคนมากเกินจำนวนก็อาจยังไม่ทันได้ตั้งกลุ่ม อาจารย์ก็จะมาไล่ตะเพิดไปแล้ว
“น่าเสียดาย มีสมุนไพรอยู่มากมายแท้ ๆ” หวังโต้วซานมองเหล่าสมุนไพรที่ลอยอยู่ในทะเลสาบแล้วก็ถอนใจ
ซูเฉินจ้องผิวน้ำนิ่ง เค้นสมองหาทางที่จะเก็บเอาสมุนไพรบางส่วนขึ้นมาจากผิวน้ำ