ตอนที่ 294 เรารีบหมั้นกันเถอะ

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

“ถ้าตอนนั้นนายไม่ลงมาช่วยฉัน นายก็คงไม่บาดเจ็บ แล้วก็ไม่…” ซูฉิงมองมาที่เขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจและรู้สึกผิดต่อเขา
ยังไม่ทันพูดจบ ฮ่อหยุนเฉิงก็ก้มศีรษะลงกดจูบที่หางตาและจูบซับน้ำตาที่เปล่งประกายบนใบหน้า
เสียงดึงดูดของเขาดังขึ้นข้างใบหูซูฉิง “ซูฉิง ฉันยินดีที่จะช่วยเธอเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ฉันรักมากที่สุด ยังไงฉันก็ต้องปกป้องเธออยู่แล้ว”
หัวใจของซูฉิงเต้นแรงในก่อนจะโผเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ทั้งยังโอบแขนรอบเอวของเขา
เวลานี้ เธอแค่อยากจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่แนบอิงอยู่ในอ้อมกอดของคนที่ชอบและดูดซับความอบอุ่นจากเขา
ซูฉิงเม้มริมฝีปาก “ฮ่อหยุนเฉิง เรารีบหมั้นกันเถอะ”
ผู้ชายคนนี้ทำเพื่อเธอมามากแล้ว และเธอไม่อยากจะรั้งรออีก
“ไม่ต้องรีบ พ่อบ้านหลี่กำลังหาผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยมาดูมงคลที่ใกล้ที่สุด” ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้วและพูดด้วยเสียงต่ำ
เรื่องงานหมั้นต้องค่อยเป็นค่อยไป เขาต้องการให้งานหมั้นที่หรูหรายิ่งใหญ่ที่สุดกับเธอ
ถ้าคุณปู่ได้เห็นก็คงดี
ฮ่อหยุนเฉิงมองออกไปนอกหน้าต่าง คุณปู่อยู่ในอาการโคม่ามานานแล้ว เมื่อไหร่เขาจะตื่นสักที?
“นายกำลังคิดถึงคุณปู่ใช่ไหม?”
เพียงซูฉิงมองก็รู้ความคิดของฮ่อหยุนเฉิง ก่อนจะรีบพูดขึ้น “ทำไมเราไม่ไปหาคุณปู่ล่ะ”
“เอาสิ” ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าเห็นด้วย
ซูฉิงประคองเขาขึ้นรถเข็น ก่อนทั้งสองคนก็เข็นรถไปทางห้องของท่านผู้เฒ่าฮ่อ
เห็นเพียงท่านผู้เฒ่าฮ่อยังคงนอนอยู่บนเตียงแบบไร้ชีวิตชีวา ร่างกายเต็มไปด้วยท่อที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ ตรงด้านข้าง และเครื่องตรวจจับหัวใจที่เต้นอย่างอ่อนๆ
ตัวเลขไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
ซูฉิงมองฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ข้างๆ อย่างกังวลก่อนจะยกมือกุมฝ่ามือใหญ่
“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันเชื่อว่าพระเจ้าต้องอวยพรท่านและต้องดีขึ้นแน่”
“เดี๋ยวรอคุณปู่ฟื้นตัวสักระดับหนึ่ง ฉันจะฝังเข็มให้กับคุณปู่ทันที ถึงตอนนั้นคุณปู่ต้องตื่นขึ้นอย่างแน่นอน”
เธอพูดออกมาอย่างมั่นใจ
ซูฉิงมีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษานายท่านผู้เฒ่าฮ่อได้
“ฉันเชื่อเธอ” ริมฝีปากบางของฮ่อหยุนเฉิงยกขึ้นเล็กน้อย…
ฮ่อหยุนจับมือของท่านผู้เฒ่าฮ่อ ก้มศีรษะมองด้วยดวงตาที่สดใส และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “คุณปู่ ผมมีข่าวดีจะบอก ผมกับซูฉิงจะหมั้นกันแล้วนะครับ”
เสียงของเขาส่งออกไป แต่ท่านผู้เฒ่าฮ่อยังคงนอนอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงหรี่ลงเล็กน้อย ตอนนี้คุณปู่อยู่ในอาการโคม่า จะไปได้ยินเขาพูดได้ยังไง
แต่ในขณะนั้น ซูฉิงก็คว้าแขนของเขาด้วยความประหลาดใจ “หยุนเฉิง ดูสิ นิ้วของคุณปู่ขยับ”
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงตกลงไปอยู่ที่มือของท่านผู้เฒ่าฮ่อและเขาก็เห็นมือของท่านผู้เฒ่าฮ่อขยับ
ดวงตาของเขาเป็นประกายทันที
ซูฉิงรีบกดกริ่งที่ด้านข้าง เรียกพยาบาลและหมอหนีเพื่อมาตรวจร่างกายของท่านผู้เฒ่าฮ่อ
หลังจากที่หมอหนีตรวจเสร็จ น้ำเสียงของเขาก็เบาลงเล็กน้อย “คุณฮ่อครับ ตอนนี้สภาพร่างกายของท่านผู้เฒ่าฮ่อดีขึ้นแล้ว เดิมทีท่านอยู่ในอาการโคม่าลึก ทั้งยังเคยอาการหนักก่อนหน้านี้ จริงๆ แล้วเราคิดว่าจะไม่มีหวังแล้วล่ะครับ”
หมอหนีหยุดชะงักก่อนจะพูดต่อ “โชคดีที่มีคุณซู เมื่อกี้เราตรวจร่างกายของท่านผู้เฒ่าฮ่อแล้ว ทุกส่วนของร่างกายเขากำลังค่อยๆ ฟื้นตัวครับ”
ฮ่อหยุนเฉิงได้ยินอย่างนั้นก็โล่งอก
ซูฉิงจับมือใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิงพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หยุนเฉิง ไม่ต้องห่วงนะ อาการของคุณปู่ฮ่อดีขึ้นมาก อีกไม่กี่วันฉันก็จะได้ฝังเข็มให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ถึงตอนนั้นเขาต้องฟื้นแน่”
“อืม” ฮ่อหยุนเฉิงตอบเบาๆ
ฮ่อหยุนเฉิงเห็นความมั่นใจที่ออกมาจากดวงตาของซูฉิง แสดงว่าเธอต้องแน่ใจอย่างแน่นอนว่าเธอจะสามารถรักษาคุณปู่ได้ถึงพูดออกมา
เขามองไปที่หมอหนีอีกครั้ง “งั้นต่อไปหวังว่าหมอหนีจะมาคอยดูอาการของคุณปู่นะครับ”
“ไม่มีปัญหาครับ” หมอหนีตอบตกลงทันที
ซูฉิงจับมือฮ่อหยุนเฉิง “ไม่ต้องห่วงนะ เรากลับห้องกันก่อนเถอะ”
เธอรู้ดีว่าที่เมื่อกี้เขาบอกท่าผู้เฒ่าถึงเรื่องที่กำลังจะหมั้น ท่านผู้เฒ่าที่อยู่ในอาการโคม่าได้ยินก็ตอบสนองอย่างตื่นเต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
กลับมาที่ห้องของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็กำลังผ่านก็คิดจะกลับห้องตัวเอง
แต่ทว่ากลับถูกฮ่อหยุนเฉิงดึงเอาไว้
“มีอะไรหรือเปล่า?” ซูฉิงหันมองอย่างสงสัย
“อยู่กับฉันนะ” ฮ่อหยุนเฉิงยกยิ้มริมฝีปากบางเล็กน้อยก่อนจะดึงซูฉิงเข้าห้องเขา
เมื่อมองไปที่ดวงตาที่เร่าร้อนของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตกลง
ซูฉิงนั่งข้างหัวเตียง หยิบยาของฉียวี่ชูออกมา และเตรียมที่จะเปลี่ยนยาสำหรับฝ่าเท้าของเธอ
เธอต้องรีบหายให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะรักษาท่านผู้เฒ่าฮ่อได้
อีกทั้วเธอยังต้องเตรียมครีมลบรอยแผลเป็นให้ฮ่อหยุนเฉิงด้วย
เธอจะไม่ยอมให้มีรอยแผลเป็นบนร่างกายของเขา
ชูฉิงถือครีม ก้มศีรษะลงและเริ่มทายา แต่เส้นผมที่ทัดหูไว้ก็ตกลงมาบดบังการมองเห็น ทัดหูหลายต่อหลายครั้งก็ยังคงร่วงอยู่อย่างนั้น
เธอเงยหน้าขึ้นมองหากิ๊บ ทว่ากลับไม่รู้ว่าเมื่อไรฮ่อหยุนเฉิงที่นั่งข้างเธอก็หยิบครีมจากมือเธอไป ดวงตาสีเข้มก็ฉายถึงความอ่อนโยน
“เมื่อกี้เธอช่วยฉันทายา คราวนี้ฉันช่วยเธอเอง”
ไม่รอให้ซูฉิงปฏิเสธ ฮ่อหยุนเฉิงก็หยิบคอตตอนบัดและทาฝ่าเท้าของเธอ
เดิมทีพอยาโดนฝ่าเท้าก็จะรู้สึกแสบ เต่ไม่รู้ทำไมตอนที่ฮ่อหยุนเฉิงทำให้ เธอถึงรู้สึกจักจี้
และก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บแสบ รู้สึกแค่จักจี้ จักจี้มาถึงหัวใจ
ซูฉิงเหยียดเท้าออกและเห็นว่าเท้าของเธอเล็กมากในฝ่ามือใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิง เขาจับและทายาให้เธออย่างระมัดระวัง
ไม่นานเท้าข้างหนึ่งก็เสร็จ ฮ่อหยุนเฉิงจับเท้าอีกข้างของเธออีกครั้ง ใบหน้านั้นที่เย็นชาต่อหน้าคนอื่นเสมอ แต่จริงจังและอ่อนโยนต่อเธอมาก
เขาดูแลเธออย่างจริงจัง ท่าทางที่อ่อนโยนราวกับว่าเขากลัวที่จะเผลอทำเธอเจ็บ
อุณหภูมิฝ่ามือของฮ่อหยุนเฉิงนั้นสูงมาก ซูฉิงรู้สึกว่าเท้าของเธอร้อนทว่ากลับไม่อยากผละออก
เธอรู้สึกเพียงว่าใบหน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ หน้าผากร้อนระอุจนเหงื่อซึม
หลังจากที่ฮ่อหยุนเฉิงทายาเสร็จ ซูฉิงก็รีบหดเท้าของเธอ
บรรยากาศรอบๆ คลุมเครือเกินไป
ฮ่อหยุนเฉิงวางของที่อยู่ในมือก่อนจะเชยตามองใบหน้าที่แดงก่ำของซูฉิง
“เธอร้อนเหรอ?”
เขากระตุกริมฝีปากบางก่อนจะมองเธอด้วยดวงตาลึกซึ้ง
ซูฉิงรีบส่ายหัว “เปล่า แค่รู้สึกว่าห้องนี้อากาศไม่ค่อยถ่ายเทนิดหน่อย”
เธอเบือนหน้าหนีไม่มองเขา
ซูฉิงพิงพนักพิงด้านหลัง หลับตาแสร้งทำเป็นพักผ่อน
แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงกลิ่นมิ้นต์จางๆ ของลมหายใจ
ซูฉิงลืมตาขึ้น จากนั้นเธอก็เห็นใบหน้าฮ่อหยุนเฉิงที่ใกล้เธอมาก
เธอจ้องไปที่นัยน์ตาของอีกคน “ทำไมนายถึงเข้ามาอยู่ใกล้ฉันล่ะ?”
ซูฉิงยกมือขึ้นดันเขาออกโดยไม่รู้ตัว ทว่าฮ่อหยุนเฉิงกลับคว้าข้อมือของเธอทันที
“เราเป็นคู่หมั้นกันแล้วนะ เธอยังจะบอกว่าทำไมฉันถึงเข้าใกล้เธอเหรอ?”
ซูฉิง: ???
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่พิการไปแล้วเหรอ?
ทำไมถึงยังคิดอะไรแบบนี้!
ซูฉิงคิดว่าเขาไม่ได้มีไข้ แต่เป็นเธอที่มีไข้แน่!