กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 257

เมื่อเจคอบพูดแบบนี้ ทุกคนก็มองเขาด้วยสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ

เอเลนถามเจคอบด้วยความประหลาดใจว่า “คุณกำลังบอกฉันว่า มีคนต้องการใช้เงินสามแสนดอลลาร์สำหรับสิ่งที่ดูรุ่งริ่งนี้ ฉันไม่คิดว่าคุณจะขายได้ในราคาห้าสิบดอลลาร์ด้วยซ้ำ!”

เจคอบตอบอย่างมีชัยว่า “ทำไมผมต้องโกหกคุณด้วย? ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณดูประวัติข้อความของผมก็ได้นะ?”

ทันทีที่เขาพูดจบ เจคอบก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา ก่อนที่เขาจะเปิดข้อความและคลิกไปที่ไฟล์บันทึกเสียงที่ส่งถึงเขาโดยซาคารี

ในขณะนี้เสียงของซาคารีดังขึ้นจากโทรศัพท์ “ลุงเจคอบคุณมีที่เสียบปากกาที่ดีมากอยู่ในมือ! ผมคิดว่าที่เสียบปากกามาจากราชวงศ์ชิงจริง ๆ! ทำไมคุณไม่ขายที่เสียบปากกาให้ผมแทนล่ะ? ผมจะให้เงินคุณสามแสนดอลลาร์!”

เอเลนประหลาดใจมากและรีบพูดไปว่า “โอ้พระเจ้า! นี่คุณกำลังพูดความจริงกับเรา! เจคอบคุณเหลือเชื่อมาก คุณซื้อที่เสียบปากกาในราคาห้าพันดอลลาร์ แต่คุณขายได้จริงในราคาสามแสนดอลลาร์! ถ้าทำแบบนี้อีกสักสองสามครั้งเราก็จะรวย!”

เจคอบฮัมเสียงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะถามไปว่า “ตอนนี้คุณมั่นใจแล้วหรือยัง? ในที่สุดคุณก็เชื่อแล้วใช่ไหมล่ะ?”

“ใช่ ฉันเชื่อคุณที่สุดเลยค่ะ!” เอเลนตอบทันที อย่างไรก็ตาม เอเลนเป็นแฟนตัวยงของเงินมาโดยตลอด เธอมักจะสนับสนุนทุกคนที่มีเงิน ทันทีที่เธอได้ยินว่าเจคอบขายที่เสียบปากกาในราคาสาม แสนดอลลาร์ได้ เธอก็ลืมทุกอย่างที่เคยพูดไปอย่างรวดเร็ว เธอยิ้มและพูดออกไปว่า “สามีของฉันนี่น่าทึ่งจริง ๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณมีทักษะที่น่าทึ่งในการซื้อขายของเก่าจริง ๆ! ดูเหมือนว่าชาร์ลียังคงเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในครอบครัวนี้”

สีหน้าของชาร์ลีเปลี่ยนไปในทันที ตอนนี้เกี่ยวอะไรกับเขา? เจคอบลืมไปแล้วหรือว่า ครั้งที่แล้วเขาเป็นคนที่ทำยาสมุนไพรให้ ทำให้เขาขายได้สำเร็จ?

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ชาร์ลีรู้สึกว่าเขาต้องหาโอกาสถามซาคารีจริง ๆ ว่าเขาขายที่เสียบปากกาให้กับใคร สิ่งที่ซาคารีกำลังทำนั้นเทียบเท่ากับการให้เงินพ่อตาของเขาฟรี ๆ!

เจคอบยื่นปากกาให้ชาร์ลีด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น ก่อนที่เขาพูดไปว่า “ชาร์ลี พรุ่งนี้นายช่วยฉันนำสิ่งนี้ไปส่งให้ซาคารี ที่ แอนทีค สตรีท นะ เขาบอกกับฉันว่าเขาจะเตรียมเงินสดไว้ให้เราสามแสนดอลลาร์และนายก็นำเงินกลับบ้านมาให้ฉัน”

ชาร์ลีพยักหน้าทันที “โอเคครับพ่อ”

เจคอบพอใจเป็นอย่างมากและพูดต่อว่า “ชาร์ลี นายควรติดตามฉันไปค้าขายของเก่านะ บางทีนายอาจสามารถพัฒนาสายตาในการหาของเก่าได้เช่นเดียวกับฉัน และสามารถค้าขายของเก่าต่าง ๆ ได้ในอนาคต หลังจากนั้นเราจะได้มีโชคไปด้วยกัน! นายคิดยังไงล่ะ?”

ชาร์ลีสามารถตอบว่าเห็นด้วยได้ ทางคำพูดเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาคิดในใจจริง ๆ คือปัญหาในอดีตทั้งหมดที่เจคอบเคยทำไว้กับเขา เจคอบมีความกล้าจากไหนให้เขาไปเรียนรู้การหาของเก่าจากเขาได้? เขาลืมไปหมดแล้วหรอเกี่ยวกับแจกันโบราณที่เขาทำลายในร้านวินเทจ ดีลักซ์? ในตอนนั้น ถ้าชาร์ลีไม่ได้อยู่กับเขาและช่วยเขาซ่อมแจกันโบราณอันนั้น เจคอบก็คงถูกขังอยู่ในคุกแล้ว! เขาจะสามารถจ่ายค่าแจกันโบราณนั้นได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม หลังจากคิดเรื่องนี้ชาร์ลีรู้สึกว่าพ่อตาของเขาก็เหมือนเด็กหนุ่ม เขาแค่อยากทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบและนั่นทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเอง

เช้าวันรุ่งขึ้นเจคอบเรียกหาชาร์ลีอย่างกระตือรือร้นและถามว่า “ชาร์ลีนายไปหาซาคารีได้แล้วหรือยัง? ฉันต้องการให้นายส่งที่เสียบปากกาให้เขาโดยเร็วที่สุดเพื่อที่นายจะได้เก็บเงินมาให้ฉัน!”

ชาร์ลีพยักหน้าก่อนที่เขาจะถามไปว่า “คุณพ่อไม่ไปกับผมหรอครับ?”

เจคอบตอบกลับไปว่า “วันนี้ฉันจะไปร่วมงานที่จัดโดยสมาคมการประดิษฐ์ตัวอักษรและภาพวาด พวกเขาเชิญฉันเข้าร่วมการประชุมด้วย! หลังจากเข้าร่วมการประชุมนี้แล้ว ฉันมั่นใจว่าจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประมูลภาพวาดและการประดิษฐ์ตัวอักษรภายในอีกจำนวนมาก!”

ชาร์ลีทำได้เพียงตอบกลับอย่างช่วยไม่ได้ “โอเคครับ ผมจะไปหาซาคารีที่แอนทีค สตรีท”

เนื่องจากเจคอบได้ขอให้เขาทำเช่นนี้ให้ ชาร์ลีจึงมุ่งหน้าไปหาซาคาลีที่แอนทีค สตรีททันที

วันนี้แคลร์ก็หยุดพักจากงาน และเธอก็รู้สึกเบื่อเป็นอย่างมาก เธอจึงบอกกับชาร์ลีว่า “ฉันจะไปกับคุณด้วยค่ะ”

ชาร์ลีพยักหน้าและพูดกลับไปว่า “ได้สิ งั้นเราขับรถคุณไปที่นั่นกันเถอะ”

แคลร์ตอบกลับมาว่า “วันนี้ฉันเหนื่อยฉันรู้สึกไม่อยากขับรถเลย คุณช่วยขับรถแทนฉันนะ”