บทที่ 363 ช่วยเหลือ

บทที่ 363 ช่วยเหลือ

หลังฝ่ายตรงข้ามปีนข้ามกำแพงมา พวกเขาตามไล่ล่ามาติด ๆ

หวังเหยียนบาดเจ็บที่กระดูก ไม่มีทางที่เขาจะหลบหนีได้เต็มกำลัง

ทว่าก็ยังถือว่าไม่ย่ำแย่นัก หากไม่ใช่เพราะมีพลังภายใน คนธรรมดาที่บาดเจ็บขนาดนี้อาจจะไม่มีปัญญาลุกจากเตียงได้ด้วยซ้ำ

คงได้แต่นอนรอความตายเท่านั้น…

“คราวนี้แย่แล้วจริง ๆ”

หวังเหยียนเอ่ยขึ้น หน้านิ่วคิ้วขมวด สีหน้าซีดเซียว พลังภายในถูกดึงมาใช้ประคองอาการบาดเจ็บ จึงไม่สามารถใช้ต่อสู้กำจัดคนที่ตามไล่หลังมาได้

อีกทั้งอีกฝ่ายยังดูท่าจะแข็งแกร่งไม่น้อย สถานการณ์แบบนี้ชวนให้หงุดหงิดใจเป็นที่สุด!

ทันใดนั้นเขาพลันนึกได้ว่าบ้านของอวี้ฮ่าวหรานอยู่แถวนี้!

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดความหวังในใจขึ้นทันที!

ขอเพียงมีอวี้ฮ่าวหรานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นใครหรือเกิดอะไรขึ้นต้องเอาชนะได้อย่างแน่นอน!

ในขณะเดียวกัน หลี่หรงมักกลับมาถึงบ้านหลัง 4 โมงเย็น อวี้ฮ่าวหรานจึงถือโอกาสนี้ฝึกตน

เมื่อไร้พลังจักรวาลโบราณหนุน ดูเหมือนความก้าวหน้าในการฝึกของเขาจะเชื่องช้ามาก

แน่นอนว่าแม้เทียบกับการบรรลุขอบเขตก่อรากฐาน ความเร็วในการฝึกของเขาจะเรียกได้ว่าน่าทึ่งก็ตาม

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้ฝึกเพื่อก้าวหน้า แต่เพื่อฟื้นฟูพลังของตนเองต่างหาก และเมื่อพ้นช่วงนี้ไป พลังวิญญาณเข้าขั้น พลังเทวะจะกลับคืนมาอีกครั้ง!

ระหว่างนี้ถวนถวนเล่นกับลูกหมาสองตัวอย่างมีความสุขด้านนอกห้อง

การ์ตูนหมาแมวซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกำลังฉายอยู่ทางโทรทัศน์

เด็กอย่างไรก็เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ นอกจากเล่นเปียโนแล้ว เธอก็ยังชอบดูการ์ตูนอีกด้วย

นอกเหนือจากประกาศนียบัตรจากโรงเรียนอนุบาล ยังมีเหรียญทองและประกาศนียบัตรอื่น ๆ แขวนเอาไว้บนผนังห้องนั่งเล่น

ถือว่าเป็นยามเย็นที่แสนสงบสุข

ทันใดนั้นกลับมีเสียงเคาะประตูรัวดังขึ้น

ถวนถวนสะดุ้งโหยง เธอไม่ได้ลุกขึ้นไปเปิดประตูทันทีหลังได้ยินเสียงลนลานเคาะประตู

แม้อวี้ฮ่าวหรานจะอยู่ระหว่างการฝึกตน แต่เขาก็ไม่ประมาท เขาจึงหยุดการฝึกตนทันทีเมื่อได้ยินเสียง

ชายหนุ่มลืมตาขึ้นเพ่งมอง เห็นร่างหวังเหยียนอยู่ด้านนอกประตู

ท่าทีอีกฝ่ายดูตื่นตระหนกไม่น้อย และเมื่ออวี้ฮ่าวหรานรู้ว่าคนภายนอกเป็นใคร จึงรีบลุกออกจากเตียง

“พ่อคะ เราควรเปิดประตูเหรอคะ?”

เสียงเคาะระรัวทำให้ถวนถวนหวาดกลัว เธอลังเลใจจึงไม่คิดเปิดประตูให้

“ไม่เป็นไรลูก ลูกเข้าไปเล่นกับเจ้าลูกกวาดในห้องก่อนนะ”

เขาปลอบลูกสาวพลางตั้งท่าจะเดินไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน

เมื่อได้ยินคำเขา เด็กหญิงตัวน้อยก็พยักหน้ารับ ปิดโทรทัศน์และเดินเข้าในห้องตนเองอย่างว่าง่าย

ทันใดนั้นเหตุการณ์ด้านนอกเปลี่ยนแปลงไป!

“ฮึ่ม! ยังจะคิดหนีอีกเหรอ? หวังเหยียน! วันนี้แกจบเห่แน่! ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิแห่งมวลเทพก็ช่วยแกไม่ได้หรอก!”

“แกเป็นลูกน้องของหลิ่วอวี้จิงไม่ใช่เหรอ? กลุ่มวาฬยักษ์ของแกเก่งนักไม่ใช่เหรอ? ทำไมแกถึงได้หนีหัวซุกหัวซุนล่ะ?”

หวังเหยียนเคาะประตูแต่ไม่มีเสียงตอบรับ เขาอดรู้สึกสิ้นหวังในใจไม่ได้

เวลานี้เป็นไปได้สูงว่าเจ้าของบ้านอาจไม่อยู่

“ฮ่า ๆ ฉันกำจัดแกได้ โจวเฟยหู่จะเหลือลูกน้องแบบนี้อีกไหม? พลังภายในขั้นสูงเนี่ยนะ! ถุย นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะตกอยู่ในเงื้อมมือของฉัน!”

ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายตรงข้ามว่าเย้ยหยัน

“อะไรกัน? ยังหวังให้ใครมาช่วยแกอีกเหรอ? นอกจากอวี้ฮ่าวหรานแล้ว ก็ไม่มีใครช่วยแกได้หรอก!”

ระหว่างนี้เอง ประตูพลันเปิดออก!

“มาหาที่ตายกันหรือยังไง?” อวี้ฮ่าวหรานเดินออกมายืนบังเบื้องหน้าหวังเหยียน

ทั้งสามคนผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นเช่นนี้!

“แก…แกเป็นใคร?”

คนที่ไม่เคยเห็นเขาดูงุนงง แต่ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นหัวหน้ารู้จักดี

“อวี้…อวี้ฮ่าวหราน!”

เขาจำอีกฝ่ายได้ทันที อดจะก้าวถอยหลังอย่างหวาดหวั่นไม่ได้! พลางแอบสบถขึ้นกับตนเองในเวลาเดียวกัน อวี้ฮ่าวหรานอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน!

ตอนนี้ได้แต่ร้องว่าพูดถึงโจโฉโจโฉก็มา*![1]

“ฮ่า ๆ คราวนี้พี่อวี้ได้เล่นงานแกอีกแน่ หนีไม่รอดหรอก”

เมื่อหวังเหยียนเห็นเขาออกมาอยู่ด้านหน้าก็นึกโล่งใจขึ้นมาทันที ตราบใดที่มีเขาอยู่ ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

หากไม่ใช่เพราะเขาไม่ชอบเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องความบาดหมางของฝักฝ่ายต่าง ๆ เกรงว่าเขาคงเป็นใหญ่ในเมืองฮ่วยอันไปแล้ว

อวี้ฮ่าวหรานมองทั้งสามคนเบื้องหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ

“ในเมื่อโผล่หัวมาก็มาสู้กันสักตั้ง!”

“แกเป็นใคร! อวดดีเกินไปไหม?”

ชายชุดดำซึ่งไม่รู้จักเขาเอ่ยท้าทายเมื่อเห็นท่าทีจองหองของเขา

“หุบ…หุบปากเดี๋ยวนี้!”

หัวหน้าเมื่อเห็นลูกน้องพูดเช่นนี้ ออกอาการตื่นตระหนกและไม่พอใจขึ้นมาทันที

ทำแบบนี้ไม่ต่างกับรนหาที่ตาย!

อวี้ฮ่าวหรานไม่ใส่ใจ เขายกมือ และพลังวิญญาณไหลเวียนในร่างกาย ฝ่ายตรงข้ามทั้งสามคนตรงหน้าถูกกระแทกล้มไปกองอย่างง่ายดาย

เขาไม่สามารถฆ่าใครหน้าบ้านตนเองได้

เมื่อเห็นพวกเขาทรุดลงกับพื้น อวี้ฮ่าวหรานหันมองหวังเหยียนซึ่งยืนพิงกำแพงอยู่

“เอาล่ะ เข้ามาสิ เรียกคนของนายให้รีบมาเอาพวกมันออกไปด้วย”

เขาหันหลังกลับเข้าห้อง

ตอนนี้หวังเหยียนไร้เรี่ยวแรง เขาจึงรีบตามอีกฝ่ายไป ลำพังแค่ประคองร่างกายตนเองมาถึงที่นี่ได้ก็ใช้พลังไปมาก ตอนนี้ต้องการที่พักที่ปลอดภัยโดยด่วน

“นี่…พี่อวี้ ทำไมยังอยู่ที่นี่อีก”

เมื่อหวังเหยียนเข้ามาในบ้าน เขามองสำรวจโดยรอบ เท่าที่รู้มา อีกฝ่ายอยู่ที่นี่ตั้งแต่ 2 ถึง 3 เดือนก่อน

คนที่เป็นหัวหน้าอยู่ในบ้านแบบนี้ไม่สมฐานะแม้แต่น้อย

“อยู่ที่นี่ก็สบายดี” อวี้ฮ่าวหรานไม่อธิบายยืดยาว

เขาอยู่ที่นี่มาตั้งแต่แต่งงานกับหลี่เม่ย

ความทรงจำทั้งหมดของกันและกันอยู่ที่นี่ ชายหนุ่มจึงไม่คิดย้ายไปอยู่ที่อื่น

“เจอเรื่องคับขันมาเหรอ?”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งลง เขาจึงเทน้ำให้พลางถาม

“ฉัน…ฉัน…”

หวังเหยียนเห็นเขาเทน้ำให้ รู้สึกซาบซึ้งใจจนพูดไม่ออก หากแต่พยายามสงบใจลงอย่างรวดเร็ว

“เรื่องสถานการณ์ ตอนนี้ฉันเองก็ไม่รู้แน่ชัดหรอก พวกมันแค่บุกมาหาฉันตอนที่รักษาตัวในโรงพยาบาล”

“แสดงว่าตั้งใจจะมาฆ่าน่ะสิ”

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้า ครุ่นคิดในใจ ก่อนส่งโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายทันที

“เรียกคนของนายให้มาจัดการกับสามคนข้างนอกซะสิ”

ระหว่างนี้พลันนึกขึ้นได้ “แล้วก็โทรหาโจวเฟ่ยหูด้วย ถามว่าทางเขาเป็นยังไงบ้าง”

ในเมื่อจงใจจะมาฆ่ากัน แสดงว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มวาฬยักษ์กับกลุ่มฉลามคลั่ง

“ได้”

หวังเหยียนโทรติดต่อทันที

เขาโทรหาลูกน้องเพื่อสั่งการ กลับต้องโทรไปถึงสองครั้ง แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้!

“หรือว่า…”

เขาอดหน้าเสียไม่ได้พร้อมสังหรณ์ร้ายที่ผุดขึ้นในใจ

[1] พูดถึงโจโฉโจโฉก็มา = พูดถึงใครคนหนึ่งอยู่แล้วคนนั้นบังเอิญมาพอดี