บทที่ 290
แท็กซี่วิ่งผ่านมา แล้วถานชิวเซิงกล่าวว่า “ฉันไม่เป็นไร เอาล่ะ ฉันจะนั่งแท็กซี่กลับไปก่อน อีกสักครู่นายค่อยโบกรถกลับบ้านเองน่ะ!”

สวีจื่อหาวส่งเขาจากไป สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด

ริมถนนที่อยู่ห่างจากร้านอาหารหนึ่งกิโลเมตร มีรถเบนซ์สีดำจอดอยู่หนึ่งคัน ชายวัยกลางคนสวมชุดสูทสีดำยืนอยู่ข้างรถ มองเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเดินมาอย่างช้า ๆ ด้วยใบหน้าเย็นชาเล็กน้อย “คุณอยู่นานเกินไปแล้ว คุณก็รู้ว่านายท่านไม่ชอบให้คุณติดต่อกับผู้ชายพวกนั้น การที่คุณทำเช่นนี้ มีแต่จะทำร้ายพวกเขาเท่านั้น”

ใบหน้าของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเย็นยะเยือก “ฉันรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ ฉันเคยบอกแล้วว่าฉันจะไม่ทำอะไรผิดต่อนายท่าน ถ้าคุณกล้าแตะต้องพวกเขา ก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เตือนล่ะ!”

ดวงตาของชายวัยกลางคนเคร่งขรึม “ผมแค่เตือนคุณเท่านั้น ทางที่ดีคุณควรรู้จักสถานะของตนเอง มิเช่นนี้เมื่อทำร้ายคนอื่นแล้ว รู้สึกเสียใจมันก็สายเกินไปแล้ว!”

“คุณไม่จำเป็นต้องเตือนฉัน!” เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนกล่าวอย่างเย็นชา และเข้าไปนั่งในรถ

เมื่อเห็นรถเบนซ์สีดำแล่นออกไป เฉินซงจื่อซึ่งซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ กระโดดลงมาอย่างนุ่มนวล แล้วกลับไปที่ร้านอาหารอย่างรวดเร็ว

รายงานเรื่องทั้งหมดกับเฉินโม่ มีความหยอกล้ออยู่ในดวงตาของเฉินโม่ และเขาใช้นิ้วเคาะบนโต๊ะเบา ๆ

“ชาติก่อน ผมเป็นแค่คนธรรมดา และผมเห็นเพียงแค่เรื่องผิวเผินของโลกใบนี้เท่านั้น แต่ชาตินี้สถานะของผมไม่เหมือนเดิมแล้ว ความจริงของโลกใบนี้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าผมทีละเล็กทีละน้อย”

สวีจื่อหาวกลับไปที่ห้องอาหาร และมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“เฉินโม่ นายอย่าใส่ใจคำพูดพวกนั้นของชิวเซิงเขามีความลำบากใจของเขา!”

เฉินโม่หัวเราะเบา ๆ และกล่าวว่า “วางใจเถอะ ฉันมองออกนานแล้ว เขาไม่สามารถปิดบังฉันได้หรอก นายบอกมาสิว่าเขามีปัญหาอะไร?”

สวีจื่อหาวส่ายศีรษะ “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันได้ยินข่าวว่าหูเจี้ยนหวาได้เชิญเพื่อนนักเรียนมากมาย และพรุ่งนี้จะจัดงานเลี้ยงชุมนุมศิษย์เก่า ดูเหมือนว่า ชิวเซิงจะได้รับเชิญด้วย! นายคิดว่าท่าทางที่แปลก ๆ วันนี้ของชิวเซิงจะมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหูหรือไม่?”

หูเจี้ยนหวา เพื่อนนักเรียนสมัยมัธยมศึกษาตอนต้นของเฉินโม่ ครอบครัวของเขาเปิดโรงแรมระดับห้าดาวอยู่ในอำเภอเฟิ่งซาน เขาเป็นลูกเศรษฐี หยิ่งยโสโอหัง และเป็นศัตรูตัวฉกาจสมัยเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นของเฉินโม่

ส่วนครอบครัวของถานชิวเซิงก็มีฐานะเช่นกัน ถึงแม้ฐานะครอบครัวจะสู้หูเจี้ยนหวาไม่ได้ แต่เขาก็ไม่กลัวตระกูลหู ถ้าแค่ตระกูลหูเพียงลำพังนั้นไม่สามารถบีบบังคับให้ถานชิวเซิงเลิกเป็นเพื่อนกับเฉินโม่ได้

“ถ้าเช่นนั้น พรุ่งนี้พวกเราไปดูกันเถอะ แล้วพวกเราก็จะเข้าใจเองว่า ถานชิวเซิงมีปัญหาอะไร!” เฉินโม่กล่าว

สวีจื่อหาวพยักหน้า “ตกลง พรุ่งนี้ฉันจะไปรับนาย พวกเราไปเป็นกำลังเสริมให้ไอ้ถาน!”

เมื่อแยกจาก สวีจื่อหาวแล้ว เฉินโม่ให้เฉินซงจื่อติดตาม เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนอย่างเงียบ ๆ ส่วนเขากลับไปที่บ้านตนเอง

ตอนที่กลับถึงบ้านเป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว หลี่ซู่เฟินยังไม่นอน เห็นได้ชัดว่าเธอรอเฉินโม่กลับมา

“ทำไมลูกกลับมาคนเดียว เฉินไต้ซือล่ะ?” หลี่ซู่เฟินถาม

เฉินโม่อ้างไปเรื่อย “เขาไปทำธุระ อีกสองวันก็กลับมาแล้ว”

“ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?” เฉินจิงเย่ถามด้วยความกังวล

เฉินโม่ยิ้มด้วยความอึดอัดและกล่าวว่า “ผมแค่ไปทานอาหารกับถานชิวเซิงและคนอื่น ๆ จะมีปัญหาอะไรได้ล่ะ!”

“เอาล่ะ งั้นก็รีบไปนอนพักผ่อนเถอะ!”

“ครับ!”

หลังจากกลับมาถึงห้องนอน เฉินโม่ไม่ได้นอน แต่นั่งขัดสมาธิเพื่อฝึกวิชา

“ตอนนี้ร่างธาตุทองของผมสำเร็จสมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการฝึกร่างธาตุไม้ เพียงแต่ร่างธาตุไม้นั้นฝึกยากกว่าร่างธาตุทองมาก เกรงว่าจะต้องไปที่ป่าลึกเท่านั้น ถึงจะสามารถหาสถานที่ที่เต็มไปด้วยชี่ทิพย์ธาตุไม้ได้”

“อย่างไรก็ตาม หากผมฝึกฝนร่างธาตุไม้จนสำเร็จสมบูรณ์แล้ว ร่างกายของผมจะได้รับการซ่อมแซม ถึงแม้มือและขาจะถูกทำลาย แต่ก็สามารถซ่อมแซมได้อย่างรวดเร็ว”

“เมื่อถึงตอนนี้ผมจะไม่กลัวกระสุนธรรมดาแล้ว แต่กระสุนของปืนไรเฟิลจู่โจมนั้นยังทำร้ายผมได้ เมื่อร่างธาตุไม้ของผมสำเร็จสมบูรณ์แบบแล้ว ความสามารถในการฟื้นฟูที่ทรงพลังก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ผมไม่กลัวกระสุน แต่ระเบิดที่ทรงพลังเหล่านั้นยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อผม แต่โอกาสที่จะรักษาชีวิตของผมนั้นเพิ่มขึ้นมาก!”

บทที่ 289

บทที่ 291