ตอนที่ 826 เอ๊ะ แบบนี้ก็ได้เหรอ?

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

สภาพจิตใจญาติบางคนของคนไข้ที่เป็นโรคประสาทก็ยากจะเข้าใจ ไม่ได้มีความรับผิดชอบต่อสังคมเลยแม้แต่น้อย ไม่ยอมพาผู้ป่วยที่เป็นภัยต่อคนอื่นไปส่งโรงพยาบาลเพียงเพราะอยากประหยัดเงิน แต่กลับพูดว่าอย่าถือสาคนป่วยหลังจากที่คนป่วยก่อเหตุ 

 

 

จะให้แล้วกันไปได้ยังไง? 

 

 

วินาทีที่อวี๋หมิงหลางเห็นเสี่ยวเชี่ยนสลบไปหัวใจเขาแทบสลาย 

 

 

เขาทำเรื่องที่ทหารควรทำเสร็จแล้ว ทุกเรื่องที่เขาทำในฐานะทหารล้วนอยู่ในกฎเกณฑ์อย่างเข้มงวด แต่เมื่อเขาถอดชุดทหารออกแล้ว เขาก็จะลงมือทำในฐานะคนเป็นสามี 

 

 

หัวหน้าคิดในใจ ทำได้ดี 

 

 

เรื่องนี้ก็น่าโมโหจริงๆ นี่ถ้าเขาเป็นอวี๋หมิงหลางไม่แน่อาจควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้ แต่เข้าใจมันก็เข้าใจอยู่หรอก กฎก็ต้องเป็นกฎ 

 

 

“หมิงหลาง ทำไมตอนนั้นนายไม่ควบคุมตัวเองหน่อยล่ะ ถ้าไม่ไปเตะเขา เดี๋ยวฉันยื่นเรื่องขอผลงานให้นายยังได้” 

 

 

“การขาดอากาศหายใจจะทำให้ไม่มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง เมื่อขาดออกซิเจนเป็นเวลานานจะทำให้เกิดผลร้ายแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้” 

 

 

อวี๋หมิงหลางเห็นเสี่ยวเชี่ยนถูกรัดคอสลบไปแบบนั้น ตัวเขาโมโหแทบระเบิด 

 

 

เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่า หากภรรยาเขาที่ก่อนหน้านี้มีชีวิตชีวา ต่อมากลายเป็นร่างไร้วิญญาณ เขาคงไม่มีทางทนท่าทางของแม่ผู้ป่วยโรคประสาทคนนั้นไหว 

 

 

ชีวิตของทุกคนล้วนมีค่า แล้วผู้หญิงคนนี้มีสิทธิ์อะไรมาอ้างว่าคนบ้าฆ่าคนไม่ผิดกฎหมาย? 

 

 

“เห้อ…” หัวหน้าพอได้ฟังดังนั้นก็ถอนหายใจยาวอย่างหมดแรง 

 

 

เขาเองก็เคยได้ยินเรื่องที่คราวก่อนเสี่ยวเชี่ยนช่วยอวี๋หมิงหลางไล่อาเหม็ดกลับไป ผู้หญิงที่เก่งแบบนี้มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อวี๋หมิงหลางจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก 

 

 

“ภรรยานายเป็นไงบ้าง? ต้องการให้ทางหน่วยช่วยอะไรไหม?” 

 

 

“ฟื้นแล้วครับ เพราะช่วยไว้ได้ทันเวลาจึงไม่เป็นอะไรร้ายแรง ตอนนี้รอดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ยังพูดไม่ได้ครับ” 

 

 

​พอนึกถึงรอยม่วงตรงคอเสี่ยวเชี่ยนอวี๋หมิงหลางก็ปวดใจ เขาเกลียดที่ตัวเองเตะไปแค่ทีเดียว ยังไม่สาสมเลยด้วยซ้ำ 

 

 

“กลับไปดูแลเขาให้ดีๆ เรื่องนี้เดี๋ยวนายไปเขียนรายงานส่งมา นับจากนี้ไปถอดนายจากการเป็นรักษาการหัวหน้า กลับไปคิดทบทวนที่บ้านให้ดี ทางที่ดีใช้เวลาหลังจากนี้ไปเจรจากับญาติคนไข้นั่นเสีย ซื้อของไปขอโทษเขา” 

 

 

“ไม่มีทางครับ” 

 

 

อวี๋หมิงหลางยอมถูกลงโทษดีกว่าต้องไปขอโทษคนแบบนั้น 

 

 

หัวหน้าโมโหจนอยากถีบเขาอีกรอบ 

 

 

“สมองนายมีแต่น้ำหรือไง! ฉันจะบอกให้นะอวี๋หมิงหลาง อย่าคิดว่าก่อเรื่องแล้วจะได้อยู่บ้านสบายๆ ไม่มีทาง! กว่าฉันจะสร้างหน่วยรบพิเศษนี่ขึ้นมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องใช้นาย แล้วนายดันมาก่อเรื่องแบบนี้ น่าโมโหจริงๆ!” 

 

 

ไม่ให้โมโหได้ไง สั่งอวี๋หมิงหลางหยุดงานใครจะเดือดร้อนสุด? 

 

 

ก็หัวหน้าไง! 

 

 

ตอนนี้ในหน่วยนี้ถ้าไม่มีอวี๋หมิงหลางก็ไปต่อไม่ได้ อีกอย่างเรื่องนี้จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก 

 

 

ขอแค่อวี๋หมิงหลางยอมไปขอโทษญาติคนไข้แล้วยอมๆกันไปเสีย เรื่องก็จบ 

 

 

แต่ท่าทีของอวี๋หมิงหลางทำให้หัวหน้าอยากอัดเขาให้ตาย 

 

 

“นายนี่โง่หรือเปล่า? แค่ขอโทษก็จบแล้ว ในค่ายยังมีเรื่องตั้งเยอะแยะที่รอนายอยู่ นายจะเอาอะไรกับคนบ้านักหนา?” 

 

 

“จะให้ผมขอโทษเขาก็ได้ แต่เขาต้องมาขอโทษภรรยาผมก่อน ถ้าภรรยาผมไม่ให้อภัย ผมก็ไม่ขอโทษ ใช่ว่าผมจะอยากคิดเล็กคิดน้อยกับคนบ้า คนบ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ งั้นคนดูแลเขาโง่กันหมดหรือไง?” 

 

 

สองนัดที่อวี๋หมิงหลางยิงไปจริงๆจะเอาให้คนบ้าถึงตายเลยก็ได้ แต่จิตสำนึกของทหารทำให้เขาเคารพหนึ่งชีวิตนั้น รักษากฎของทหาร เขาไว้ชีวิตคนไข้โรคประสาท แล้วใครมาขอโทษเสียวเหม่ยที่น่าสงสารของเขาล่ะ? 

 

 

เสียวเหม่ยของเขาไปหาเรื่องใครเหรอ ถึงได้เดินอยู่ดีๆก็มีคนมาจับไปเป็นตัวประกัน 

 

 

“ผมขอถามครับ ปกติคนไข้โรคประสาทประทุษร้ายคนอื่น คนดูแลต้องรับผิดชอบด้วยส่วนหนึ่งหรือเปล่าครับ? แล้วทำไมเขาต้องไปทำเรื่องพาคนไข้ออกจากโรงพยาบาลด้วย? ทั้งๆที่รู้ว่าลูกชายตัวเองเป็นโรคหลงผิดชอบคิดว่าคนอื่นเป็นคนรัก นี่เป็นแขนงหนึ่งของโรคจิตเภท ปล่อยคนแบบนี้ออกมาแล้วยังทำอวดดีหาว่าคนที่โดนก็สมควรแล้ว แต่ใครจะไปทำร้ายลูกตัวเองเป็นไม่ได้ แบบนี้ทำไมผมต้องขอโทษเขาด้วยล่ะครับ?” 

 

 

ไม่ว่าจะต้องสูญเสียอะไร อวี๋หมิงหลางต้องเรียกความยุติธรรมให้เสียวเหม่ยให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะรู้สึกว่าตัวเองผิดต่อคำสาบานที่ให้ไว้ตอนจดทะเบียนสมรส 

 

 

ขอมอบชีวิตที่ปลอดภัยให้คุณไปตลอดชีวิตด้วยเกียรติของทหาร 

 

 

หัวหน้าอยากผ่ากะโหลกของอวี๋หมิงหลางออกมาดูจริงๆ ไอ้หมอนี่มีเส้นประสาทหัวดื้อมากกว่าคนอื่นหรือไง? 

 

 

ตอนนี้ไม่มีคนนอก งั้นก็ถือโอกาสพูดตรงๆไปเลย 

 

 

“ทำไมนายถึงได้เถรตรงแบบนี้? ตอนนี้มันเป็นเวลาที่ต้องชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียไม่ใช่เหรอ? ถอยกันคนละก้าวเพื่อคืนความสงบ นายเป็นใครไม่รู้เหรอ? ข้างหลังนายมีพี่น้องชาวเสินเจี้ยนอีกเท่าไรที่รอนายพาพวกเขาไปบุกป่าฝ่าดง แล้วนายจะให้เรื่องความรักมาเป็นตัวถ่วงเหรอ?” 

 

 

อวี๋หมิงหลางแสดงสีหน้าแบบที่หัวหน้าไม่เคยเห็นมาก่อนแล้วพูดอย่างจริงจัง 

 

 

“ถ้าข้างหลังผมคือภรรยาและคนในครอบครัวล่ะก็ ไม่มีผลได้ผลเสียให้ต้องพูดถึง ผมจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว” 

 

 

อวี๋หมิงหลางยอมรับว่าเขาไม่ควรเตะป้าคนนั้น แต่เขาไม่เสียใจและก็ไม่มีทางไปขอโทษฝ่ายนั้นแน่ จะลงโทษเขาอย่างไรก็ได้ แต่ทางนั้นก็ต้องยอมรับผิดด้วย 

 

 

“นายนี่นะ!” หัวหน้าโมโหจนไม่รู้จะทำอย่างไร เขายกมือชี้หน้าอวี๋หมิงหลาง พอเห็นอวี๋หมิงหลางมีท่าทีไม่ลดราวาศอกจึงสะบัดมือไล่ “กลับไปดูแลเมียนายให้ดี พักงานรอฟังเบื้องบนก่อนแล้วกัน” 

 

 

“ครับ!” 

 

 

พออวี๋หมิงหลางไปแล้วหัวหน้าก็ถอนหายใจ 

 

 

นิสัยหัวรั้นของไอ้หมอนี่ทำให้เขาทั้งรักทั้งเกลียด 

 

 

ถึงการที่อวี๋หมิงหลางไปเตะญาติคนไข้จะเป็นเรื่องไม่เหมาะ แต่หัวหน้าก็รู้สึกชื่นชมในความเด็ดเดี่ยวของอวี๋หมิงหลางจริงๆ 

 

 

พออวี๋หมิงหลางไปหัวหน้าก็เรียกพลาธิการมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรต่อ เพราะอวี๋หมิงหลางสร้างโจทย์อยากให้พวกเขาแล้ว 

 

 

“สมาชิกคนอื่นๆของหน่วยเสินเจี้ยนเป็นไงบ้าง?” 

 

 

“ตอนแรกก็บ่นๆกันว่าจะรวมตัวมาขอร้องให้ยกโทษให้หัวหน้าใหญ่ของพวกเขา ได้ยินว่าคิดจะประท้วงหยุดฝึกด้วย แต่ถูกอวี๋หมิงหลางจัดการจนเชื่อฟัง เหล่าอู๋ ถ้าให้ฉันพูดนะ ช่วงที่ผ่านมาอวี๋หมิงหลางทำงานใช้ได้เลยทีเดียว พวกหัวโจกในหน่วยเสินเจี้ยนยอมสยบให้อวี๋หมิงหลางหมด ถ้าพวกเราลงโทษหนักกลัวจะทำเจ้าพวกนั้นหมดกำลังใจกัน” 

 

 

ปกติเห็นชอบด่าอวี๋หมิงหลาง แต่พอเกิดเรื่องทุกคนก็สามัคคีกัน ก่อนหน้านี้ทุกคนรวมตัวกันหวังจะมาขอร้อง ถ้าไม่ติดว่าอวี๋หมิงหลางไปห้ามไว้คงเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว อวี๋หมิงหลางเป็นคนที่มีสติ มีความคิดความอ่าน เรื่องนี้เขาทำถูก 

 

 

“นับว่าอวี๋หมิงหลางยังเห็นแก่ส่วนรวมไม่ทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ ไอ้หมอนี่สั่งสอนลูกน้องเป็น แต่นิสัยแบบนี้…” 

 

 

“เหล่าอู๋ เลิกทำเป็นวางมาดเถอะน่า นายก็ชอบที่เขานิสัยแบบนี้ไม่ใช่หรือไง? ถ้าเขาไม่มีลูกบ้าแล้วจะดูแลทีมได้เหรอ? เรื่องนี้พวกเราก็ต้องคิดในมุมของเขาบ้างนะ ตอนนั้นเมียเขาเป็นตายก็ยากจะคาดเดา นี่ถ้าไม่ฟื้นคงได้นอนเป็นผักอยู่บนเตียง ไม่แปลกหรอกที่เขาจะมีอารมณ์ ไม่ทันระวังเลยกระทบกระทั่งเล็กน้อย ไม่ได้ถึงขนาดเลือดตกยางออก มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?” 

 

 

“ไม่ทันระวัง?” เอ๊ะ แบบนี้ก็ได้เหรอ?