ตอนที่ 295 แก้แค้น

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 295 แก้แค้น

หลังจากกล่าวกับอันหลิงเกอจบ ชิงเยว่ก็หันไปจ้องชายแปลกหน้าที่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่อย่างระแวดระวัง หากไป๋หลี่เฉินกล้าทำร้ายคุณหนู นางจักพุ่งเข้าขัดขวางอย่างสุดชีวิต

“เขามิได้เป็นศัตรู”

อันหลิงเกอกลัวว่านางจักพุ่งเข้าไปต่อสู้กับไป๋หลี่เฉินจนบาดเจ็บอีกจึงรีบชี้แจงทันที

ทว่าต่อให้อันหลิงเกอกล่าวเช่นนี้ ชางเยว่ก็ยังมิไว้ใจอยู่ดี

ชายแปลกหน้ามาปรากฏตัวในเรือนคุณหนู ถ้ามิได้มาร้ายหรือจักมาแย่งคนรักของนายท่าน ?

เมื่อคิดว่าไป๋หลี่เฉินจักมาแย่งอันหลิงเกอจากมู่จวินฮาน ใบหน้าของชางเยว่ก็เข้มขึ้นทันที

เจ้านายของนางเพิ่งเดินทางไปม่อเป่ย ส่วนทางนี้ก็มีคนคิดแย่งอันหลิงเกอไปเสียแล้ว

นางต้องหาวิธีส่งข่าวไปให้นายท่าน

อันหลิงเกอมิรู้ว่าตอนนี้ชางเยว่กำลังคิดอันใดอยู่จึงอธิบายการมาของไป๋หลี่เฉินให้นางฟังอีกรอบ

เมื่อได้ยินว่าหลี่ซื่อกับอันหลิงอีถึงขั้นตามหาคนที่เป็นกามโรค ใบหน้าของชางเยว่ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นไปอีก

“คุณหนู บ่าวกำลังจักแจ้งเรื่องนี้ให้ท่านทราบพอดีเจ้าค่ะ” นางเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง แววตาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด “บ่าวไปหาท่านหมอที่ตรวจอาการให้คุณหนูสามและถามเขาว่าคุณหนูสามเป็นเยี่ยงไรบ้าง มีอาการเป็นเช่นไร ทว่าท่านหมอมิยอมกล่าวอันใดเลยเจ้าค่ะ กล่าวเพียงแค่ว่าคุณหนูสามตกใจเท่านั้น”

“บ่าวจึงใช้วิธีบางอย่างจนท่านหมอยอมเปิดปากพูดว่านายหญิงรองถามเขาว่าทำอย่างไรจึงสามารถป้องกันมิให้ติดกามโรคได้เจ้าค่ะ”

แววตาของชางเยว่เย็นชาในทันที อันหลิงเกอเป็นนางในดวงใจของนายท่าน แต่หลี่ซื่อกล้าใช้วิธีต่ำทรามเช่นนี้มาทำร้ายนาง

ส่วนวิธีที่ตนใช้เพื่อบังคับหมอให้ตอบคำถาม อันหลิงเกอมิได้ถามแต่อย่างใด

เพราะรู้ว่าเหล่าองครักษ์มีหลักปฏิบัติของตนเอง เรื่องนี้นางจักมิเข้าไปก้าวก่าย

เมื่อนำคำพูดของไป๋หลี่เฉินและชางเยว่มารวมกัน อันหลิงเกอก็ยิ่งมั่นใจเรื่องแผนร้ายของหลี่ซื่อ

โชคดีที่เข็มเล่มนั้นมิได้ทิ่มนางแต่เป็นอันหลิงอีแทน เกรงว่าทั้งสองคนนั้นคงตื่นตระหนกกันยกใหญ่จนมิรู้จักทำอย่างไรแล้วกระมัง

ทำชั่วได้ชั่ว คำกล่าวนี้ช่างเหมาะสมกับสองแม่ลูกเสียจริง !

ดวงตาของอันหลิงเกอทอประกายเย็นยะเยือก แต่ภายในใจรู้สึกดียิ่งนัก

หากอันหลิงอีติดกามโรคขึ้นมา คงมิต้องบอกว่าอันหลิงอีจักเสียใจมากเพียงใด แค่หลี่ซื่อได้เห็นบุตรีสุดที่รักต้องทนทรมานกับโรคนี้ก็คงเจ็บปวดราวกับมีคนเอามีดมากรีดหัวใจเป็นแน่ เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่นางเห็นจุนเกอร์เอ๋อโดนรังแกในวัง

ทุกอย่างที่สองแม่ลูกติดค้างนางไว้ นางจักค่อย ๆ เอาคืนอย่างสาสม !

อันหลิงเกอที่กำลังครุ่นคิดอยู่จึงมิทันสังเกตสายตาของไป๋หลี่เฉินที่มองไปยังชางเยว่คล้ายกำลังประเมินบางอย่างอยู่

สาวใช้ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งกลับมีวรยุทธถึงเพียงนี้ ดูมิเหมือนสาวใช้ที่เติบโตขึ้นในจวนโหวแม้แต่น้อย

หากนางมิใช่สาวใช้ที่เติบโตขึ้นในจวนโหว แต่สามารถมาอยู่ข้างกายอันหลิงเกอได้ ถ้ามิใช่สายลับที่ผู้อื่นส่งเข้ามาก็ต้องเป็นคนที่อันหลิงเกอเชื่อใจเอาไว้เพื่อคอยปกป้องจนเป็นแน่

ถ้าดูจากท่าทางที่แสดงออกมาเมื่อครู่ สาวใช้คนนี้น่าจักมาเพื่อปกป้องเสียมากกว่า

ผู้ใดที่สามารถส่งสาวใช้มาให้อันหลิงเกอ หรือกล่าวอีกอย่างว่าส่งองครักษ์มาก็ได้

ไป๋หลี่เฉินคิดได้เช่นนั้นก็แอบหงุดหงิดอยู่ภายในใจราวกับว่าของที่ตนชอบมีเจ้าของตั้งนานแล้ว

เขามิชอบความรู้สึกเช่นนี้เอาเสียเลย ดังนั้นจึงหันไปบอกลาอันหลิงเกอแล้วหายตัวไปทันที

“เป็นคนเยี่ยงไรกัน ? ช่างประหลาดเสียจริง”

ชางเยว่พึมพำออกมา แต่รู้ดีว่าคงมิได้คำตอบใดจากอันหลิงเกออยู่ดี

เมื่อครู่ที่นางประมือกับคนผู้นั้นก็รู้ได้ทันทีว่าวรยุทธของเขามิด้อยไปกว่านายท่านเลย

ดังนั้นคนผู้นี้ต้องมิใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

อันหลิงเกอเองก็ตกตะลึงเช่นกัน นางคิดว่าที่ไป๋หลี่เฉินบุกเข้ามาวันนี้เพราะมีเรื่องสำคัญมากกว่าเรื่องสองแม่ลูก ทว่าสุดท้ายแค่ทักทายแล้วก็จากไป ช่างแปลกคนเสียจริง

หลังจากไป๋หลี่เฉินจากไปแล้ว อันหลิงเกอจึงถอนหายใจออกมา

การที่คนมีวรยุทธสูงส่งและมิได้สนิทชิดเชื้อมาอยู่ในเรือนของนาง ทำให้ต้องคอยระแวดระวังตลอดเวลาเพื่อป้องกันมิให้เขาทำอันใดพวกนาง

เมื่อไป๋หลี่เฉินยอมจากไปแล้วจึงสามารถถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ไป๋หลี่เฉินมาอย่างกะทันหันและจากไปอย่างกะทันหัน อันหลิงเกอจึงมิใส่ใจอันใดมากนัก

“มิต้องสนใจเขาหรอก”

อันหลิงเกอสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นก็พาชางเยว่กลับไปที่ห้องนอน

ในเมื่อตอนนี้รู้แผนการของสองแม่ลูกแล้ว หากมิโต้กลับเลยก็ดูจักเป็นการดูถูกสองแม่ลูกคู่นั้นเกินไป

เมื่อคิดได้เช่นนี้ อันหลิงเกอจึงกระซิบสั่งการบางอย่างที่ข้างหูของชางเยว่พร้อมกับมุมปากที่เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา

“เจ้าค่ะ บ่าวจักไปจัดการเดี๋ยวนี้”

ชางเยว่ได้รับคำสั่งจากอันหลิงเกอแล้วจึงรีบสั่งคนในปกครองไปทำเรื่องนี้ทันที

อันหลิงเกอเฝ้ารอจนถึงเวลากลางคืนที่ภายในจวนเงียบสงัดจึงให้ชางเยว่พาตนไปยังเรือนของอันหลิงอี

ยามที่แสงรัตติกาลเข้าปกคลุม หลายคนกำลังหลับใหล แต่ภายในเรือนของอันหลิงอียังมีแสงไฟส่องสว่าง

อันหลิงเกอมิได้รู้สึกถึงความลำบากในการลอบเข้ามาในเรือนของอันหลิงอีแม้แต่น้อย ชางเยว่พานางเดินมาตามหลังคาและคอยระวังมิให้เกิดเสียงใดขึ้น

นี่เป็นครั้งแรกที่ทำเรื่องเช่นนี้ อันหลิงเกอรู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี มิมีอันใดผิดพลาดเกิดขึ้น

เมื่อถึงเรือนอันหลิงอี นางก็นอนคว่ำลงตามชางเยว่จากนั้นก็นำกระเบื้องหลังคาออกทีละแผ่น มินานนักก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวภายในเรือนของอันหลิงอีกับตา

นางเห็นอันหลิงอีนั่งอยู่บนเก้าอี้และมีหน้าตาเคร่งเครียด มือข้างหนึ่งถือกรรไกรไว้ แล้วตัดตุ๊กตาผ้าตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้าอย่างเคียดแค้น

“คนสารเลวสมควรตาย ! ”

นางพ่นคำหยาบออกมา ต่อให้มิเห็นตุ๊กตาตัวนั้น อันหลิงเกอก็รู้ได้ทันทีว่านางกำลังด่าผู้ใดอยู่

เมื่อเห็นเช่นนั้นสีหน้าของชางเยว่ก็นิ่งขึ้นทันที รู้สึกอยากลงไปสั่งสอนสักหน่อย แต่ถูกอันหลิงเกอห้ามไว้เสียก่อน

อันหลิงเกอมองชางเยว่และส่ายหน้าเพื่อห้ามการกระทำ จากนั้นจึงเฝ้าดูต่อไป

ขณะนี้ภายในห้องของอันหลิงอีเต็มไปด้วยเครื่องลายครามที่โดนทำลายจนแตกละเอียดเป็นชิ้นแสดงให้เห็นว่าอันหลิงอีโมโหมากเพียงใด

“คนสารเลวตาย ตายไปเสีย ! ”

อันหลิงอีสบถออกมาราวกับคนเสียสติ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำและใช้กรรไกรตัดไปบนตัวตุ๊กตาอย่างบ้าคลั่งราวกับเห็นอันหลิงเกอยืนอยู่เบื้องหน้าอย่างไรอย่างนั้น

นางไล่สาวใช้ออกไปจนหมดจึงทำให้มิมีสาวใช้คนไหนได้เห็นท่าทางคลุ้มคลั่งเช่นนี้ แต่นางหารู้ไม่ว่าสองคนที่อยู่บนหลังคาได้เห็นการกระทำทั้งหมดของนางแล้ว

“คุณหนู จักให้บ่าว…”

ชางเยว่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนอดทำท่าทางให้อันหลิงเกอได้รับรู้มิไหว

แต่อันหลิงเกอยังคงส่ายศีรษะ เมื่อเห็นอันหลิงอีที่อยู่ด้านล่างค่อย ๆ สงบลงจึงหยิบยาขวดหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแขนเสื้อ

นางมิเคยคิดว่าตนเป็นคนดีมาก่อน ทว่าการแก้แค้นคนชั่วเยี่ยงหลี่ซื่อและอันหลิงอี วิธีที่ใช้ย่อมต้องเป็นความลับ

ซึ่งการใช้ยาเป็นวิธีสะดวกและถนัดที่สุดสำหรับนาง

ชางเยว่เห็นอันหลิงเกอเทผงยาออกมาจากขวด จากนั้นก็นำด้ายเส้นเล็ก ๆ ออกมาแล้วค่อยเทยาลงไปตามเส้นด้ายจนตกไปในถ้วยชาที่อยู่ข้างกายของอันหลิงอี

นั่นเป็นเพียงเครื่องลายครามชิ้นเดียวในห้องที่ยังมิโดนทำลาย ดูจากท่าทางคลุ้มคลั่งของอันหลิงอีแล้วอีกมินานเกินรอนางต้องเหนื่อยจนกระหายน้ำอย่างแน่นอน

หากอันหลิงอีดื่มน้ำชาที่ผสมยาลงไป ทีนี้เราก็จักได้ดูละครสนุกกันแล้ว

เมื่อเห็นเช่นนั้น มุมปากของชางเยว่ก็ยกขึ้นจนปรากฏเป็นรอยยิ้ม นางรู้ผลลัพธ์ของยานี้ดีแค่รอถึงพรุ่งนี้เช้าที่ทุกคนในจวนตื่นขึ้นมาและเรือนของอันหลิงอีต้องสนุกอย่างแน่นอน

ส่วนจักสนุกเยี่ยงไรนั้น…