บทที่ 367 ไปเยือนบ้านสกุลซู

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

ตอนที่ 367 ไปเยือนบ้านสกุลซู

ตอนที่ 367 ไปเยือนบ้านสกุลซู

แผนของกงซุนซาล้มเหลวทั้งสองทาง ดังนั้นจึงปลุกระดมฝักฝ่ายต่าง ๆ ในเมืองฮ่วยอันทันที

พยัคฆ์เวหาและวาฬยักษ์เข้าปะทะกัน

แม้วาฬยักษ์จะร่วมมือกับฉลามคลั่ง แต่กงซุนซาก็ยังปล่อยให้ลูกน้องลงมือ และไม่ได้ออกโรงเองเต็มที่

ด้วยเหตุนี้โจวเฟยหู่จึงตกเป็นรอง การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายยังคงไม่อาจหาที่สิ้นสุดได้

ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้เข้ามาข้องเกี่ยว เขาพาถวนถวนไปบริษัทด้วยกันแต่เช้าตรู่

หลังการแข่งขันเปียโนจบ เธอก็ไม่ได้คร่ำเคร่งกับการเรียนเปียโนนัก แต่กลับเล่นเพื่อความสนุกเท่านั้น…

“ฮิฮิ ถวนถวนจะไปเล่นเปียโน!”

ทันทีที่รถสปอร์ตสีเหลืองสดจอดสนิท เธอก็เปิดประตูวิ่งลงไป

“ค่อย ๆ เดินลูก”

เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานจึงรีบลงจากรถ และวิ่งไล่ตามเธอไป

ระหว่างเดินเข้าบริษัท หวังจุนซึ่งดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปได้รับเอกสารที่ต้องจัดการต่อไปจากเขา

ดังนั้นเขาจึงมีเวลาอยู่เล่นกับถวนถวนตลอดช่วงเช้า กระทั่งถึงเวลาเที่ยง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

“อวี้…อวี้ฮ่าวหราน คุณมาที่นี่หน่อยได้ไหมคะ?”

เป็นสายจากซูหว่านเอ๋อ เสียงแผ่วเบาบ่งบอกสถานการณ์ได้ทันที

“หือ? เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”

อวี้ฮ่าวหรานชะงัก ด้วยคิดว่าเขาเพิ่งจะกินข้าวกับอีกฝ่ายไปเมื่อไม่นานมานี้

“ไม่มีอะไรหรอก แค่…ช่วงนี้ฉันได้ของโบราณมาเยอะน่ะค่ะ คิดว่าคุณน่าจะถูกใจเลยอยากให้คุณแวะมาดูหน่อย”

น้ำเสียงของเธอส่อลังเลใจ เธอไม่ถนัดการเอ่ยเชิญชวนคนอื่นก่อนนัก

“เรื่องโบราณวัตถุนี่เอง”

อวี้ฮ่าวหรานตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น ช่วงนี้ชายหนุ่มไปงานประมูลบ่อยแต่ไม่ได้ของติดไม้ติดมือมามากนัก

หากเธอได้โบราณวัตถุมาหลายชิ้น เขาจะลองไปสำรวจดู

“ได้ครับ ตอนนี้เลยเหรอครับ?”

“หือ…คุณ…คุณจะมาจริงเหรอคะ?”

ซูหว่านเอ๋อแทบไม่อยากเชื่อหูตนเองเมื่อได้ยินคำตอบของเขา

“แน่นอน เดี๋ยวผมไปบ้านคุณ”

ยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าอวี้ฮ่าวหรานเมื่อได้ยินน้ำเสียงลนลานของเธอ

“ได้ค่ะ… อย่างนั้น ฉันจะเตรียมของเอาไว้ให้นะคะ”

เธอรีบวางสาย ซูหว่านเอ๋อนึกไม่ถึงว่าจะเอ่ยชวนสำเร็จ เธอใจเต้นไม่เป็นส่ำ และไปเตรียมตัว

“ถ้าได้อะไรกลับมาบ้างก็คงดี”

หลังวางสาย อวี้ฮ่าวหรานก็นั่งมองลูกสาวเล่นอยู่ห่าง ๆ พลางคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ด้วยความหวัง

โบราณวัตถุทุกชิ้นมีพลังโบราณที่ช่วยเสริมกำลังให้เขา

ตอนนี้พลังของเขาอยู่ในขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูง หากต้องการก้าวหน้าด้วยอาศัยพลังตนเองอาจกินเวลายาวนาน…

ชายหนุ่มมีครอบครัวต้องดูแล เขาจึงไม่อาจทุ่มเทเวลาทั้งหมดที่ต้องใช้กับครอบครัวไปกับการฝึกตนได้

มันค่อนข้างน่าเสียดายไปบ้าง

หลังจากลองไตร่ตรองดู อวี้ฮ่าวหรานจึงเรียกถวนถวนมาหา

“ถวนถวน พ่อไม่อยู่แปปหนึ่งนะ เดี๋ยวลุงหวังจะมาอยู่เป็นเพื่อน”

“ค่ะ พ่อไปเถอะ ถวนถวนเล่นคนเดียวได้”

เด็กน้อยฉลาดเกินวัย ไม่งอแงรั้งเขาไว้

ไม่นานผู้จัดการหวังก็เข้ามาในห้องเด็กเล่น

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับประธานอวี้ ไว้ใจผมได้เลย ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ”

“อืม งั้นฉันไปก่อนนะ”

อวี้ฮ่าวหรานวางใจเขา ตอนนี้ระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทแน่นหนาขึ้นหลายเท่า เรียกได้ว่าที่นี่มีความปลอดภัยที่สุด

ไม่นานเขาก็ขับรถออกจากบริษัทไป

รถสปอร์ตสีเหลืองสดโลดแล่นบนท้องถนน เขามาถึงคฤหาสน์สกุลซูภายในยี่สิบนาทีต่อมา

พระอาทิตย์เคลื่อนขยับมาอยู่เหนือหัว ส่องลงยังทะเลสาบจนส่งประกายระยิบระยับ คฤหาสน์สกุลซูตั้งอยู่ข้างทะเลสาบ ถือเป็นทำเลทอง

นึกไม่ถึงว่าพ่อลูกตระกูลซูจะรอเขาอยู่

“พี่อวี้! มาถึงเร็วจังครับ! ดีเลย!”

ทันทีที่ลงจากรถ ซูหว่านผิงรีบเอ่ยทักทายเขาด้วยความตื่นเต้น อย่างกับไม่ได้เจอพี่ชายมาเนิ่นนาน

อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ถูกชะตากับเขานักจึงไม่ได้ใส่ใจ แม้อีกฝ่ายจะเป็นพี่ชายของซูหว่านเอ๋อ ชายหนุ่มก็ยังจำได้ดีว่าอีกฝ่ายพาคนมาก่อเรื่องวุ่นวายที่บ้านของเขา

“ฮ่า ๆ หลานอวี้ยังนิสัยเหมือนเดิมเลยนะ”

เป็นซูกว่างไห่ที่เอ่ยทักทายเขา ท่าทีดูกระตือรือร้นยิ่งกว่า

“ครับ ซูหว่านเอ๋ออยู่ไหนครับ?”

อวี้ฮ่าวหรานคร้านจะเสวนากับพวกเขา แววตาจึงเผยความเย็นชา

ซูกว่างไห่ทำทีใช้หน้าอุ่นแปะก้นเย็น*[1] เขาไม่ได้ตอบโต้กลับ

“หลานอวี้ ตามฉันมาสิ หว่านเอ๋อกำลังง่วนอยู่ในครัว เห็นบอกว่าอยากทำอาหารให้ทานน่ะ”

หลังเกิดเหตุคราวก่อน เขาก็ตามสืบเรื่องของอีกฝ่าย หากแต่ยิ่งตามสืบยิ่งหวั่นเกรง ชวนให้เสียใจกับการกระทำของตน

ชายหนุ่มคนนี้ช่างน่าทึ่ง! หาช่องโหว่ไม่พบแต่อย่างใด

อวี้ฮ่าวหรานแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าซูหว่านเอ๋อทำอาหาร

เขาเห็นว่าหญิงสาวคนนี้ดูไม่ถนัดงานครัวนัก

“ไปกันเถอะ”

เขาไม่ได้แสดงท่าทีตอบสนอง ทำเพียงเอ่ยสั้น ๆ

ภายในโถงกลางของคฤหาสน์ อาหารน่าทานหลายจานตั้งอยู่บนโต๊ะ พวกมันหน้าตาชวนเอร็ดอร่อย เพียงแค่มองก็ชวนให้น้ำลายสอ

“ฮ่า ๆ หว่านเอ๋อของฉันเรียนทำอาหารมา ถึงจะเทียบกับพ่อครัวในโรงแรมไม่ได้ แต่ว่าก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง”

“ใช่แล้ว น้องสาวผมไม่เคยลงมือทำอาหารเองที่บ้านเลย ครั้งนี้พอได้ยินว่าคุณจะมาก็รีบเข้าครัวเลยล่ะ”

พ่อลูกตระกูลซูเห็นสีหน้าตะลึงของอีกฝ่ายจึงรีบอธิบาย

“ใช่แล้ว รสชาติอร่อยมากด้วยนะ”

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะดูน่าทานมากจริง ๆ

“นั่งเถอะครับ เดี๋ยวผมจะไปหาเธอสักหน่อย”

ครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงตัดสินใจเข้าครัวไปดูว่าเหตุใดเธอถึงได้มีความสามารถนัก

ถึงอย่างไรการแกะสลักดอกไม้และวิหคเพลิงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พ่อลูกตระกูลซูได้ยินว่าเขาสนใจจึงไม่คิดรั้งไว้

ประตูห้องครัวเปิดออก อวี้ฮ่าวหรานมองสำรวจด้านใน

ซูหว่านเอ๋อก้มหน้าก้มตาจัดจานอย่างตั้งใจ ท่าทางจริงจังของเธอมีเสน่ห์สะกดใจคนมอง

“อืม…น่าจะได้แล้วนะ”

เธอตั้งท่าเตรียมจานต่อไป ถอนหายใจอย่างโล่งอก พลันรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนจับจ้องอยู่

“เอ๋? อวี้…อวี้ฮ่าวหราน คุณมาถึงเร็วจังเลยค่ะ”

แก้มใสของเธอแปรเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อทันที สายตาวาววับราวไข่มุกดำที่มองเขาเปี่ยมล้นความตื่นเต้น

“อืม ผมนึกไม่ถึงว่าคุณจะทำอาหารได้ด้วย เก่งจังเลยครับ”

เขาพยักหน้าพลางเอ่ยชม

“ไม่หรอกค่ะ…แค่…ฉันร่างกายอ่อนแอเลยป่วยตั้งแต่เด็ก หมอบอกว่าให้ฉันออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพ ฉันก็เลยหากิจกรรมทำค่ะ”

นับเป็นครั้งแรกที่เธอถูกชม ดูเหมือนซูหว่านเอ๋อจะยิ่งทำตัวไม่ถูก อีกทั้งเธอยังหวั่นไหวกับคนที่ตนเองสนใจได้ง่าย

[1] ใช้หน้าอุ่นแปะก้นเย็น = แสดงความรู้สึกอันอบอุ่นกับความเย็นชาของอีกฝ่าย หรือถูกดูแคลนต่อเจตนาที่ดี