บทที่ 368 ของแปลกประหลาด

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

บทที่ 368 ของแปลกประหลาด

บทที่ 368 ของแปลกประหลาด

“แล้ว…ฝีมือฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”

“สวยมากเลยครับ!”

เมื่อได้ยินคำถามด้วยความไม่มั่นใจของเธอ อวี้ฮ่าวหรานก็เอ่ยชมทันที เขาเดินออกจากห้องครัว และปล่อยให้เธอมีสมาธิกับการทำอาหารต่อ

ตัวชายหนุ่มรู้ดีว่าหากตนเองอยู่ด้วย เจ้าหล่อนคงไม่อาจสงบสติอารมณ์ทำอาหารต่อได้

กว่ายี่สิบนาทีต่อมา อาหารทั้งหมดก็พร้อมเสิร์ฟ ทั้งสี่คนจึงทานข้าวร่วมโต๊ะกัน

“ฮ่า ๆ ในฐานะพ่อ ฉันต้องขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย ไวน์แก้วนี้ถือว่าชำละล้างความเข้าใจผิดก่อนหน้านี้!”

ซูกว่างไห่ลุกขึ้นเอ่ย ซูหว่านผิงซึ่งนั่งข้าง ๆ ก็ลุกขึ้นยกแก้วไวน์เป็นการขอโทษเช่นกัน

อวี้ฮ่าวหรานไว้หน้าพวกเขา จึงยอมชนแก้วจิบไวน์เล็กน้อย

ถึงอย่างไรอวี้ฮ่าวหรานก็เอ็นดูซูหว่านเอ๋อไม่น้อย

ไม่เพียงแค่เพราะนิสัยใจคอของเธอ แต่ของสะสมของเธอยังช่วยเสริมพลังให้เขาได้

หลังจากได้ลองชิม อาหารแต่ละจานล้วนมีรสชาติอร่อย แม้จะไม่ใช่รสชาติต้นตำรับ แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

มื้อเที่ยงสิ้นสุดลง พ่อลูกตระกูลซูจึงขอตัวออกไปทำธุระ

“ตามมาสิคะ ช่วงนี้ฉันได้วัตถุโบราณมาเยอะเลย อีกทั้งหลายชิ้นก็เป็นของมีค่า” ซูหว่านเอ๋อเดินนำทางไป

“ฮ่า ๆ คุณเป็นผู้หญิงที่รวยมากเลยนะครับ”

อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำของเธอ

“ฮึ่ย! ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อยค่ะ”

ทั้งคู่รู้จักกันมานาน ซูหว่านเอ๋อจึงว่าขึ้นอย่างแง่งอน เธอไขกุญแจเปิดเข้าไปในห้องของสะสม

พวกเขาเดินเข้าไปด้านในห้อง

นอกจากวัตถุโบราณที่เขาเคยเห็นมาก่อน ยังมีอีกหลายชิ้นภายในห้องนี้

รวมถึงโต๊ะเครื่องแป้งซึ่งเธอประมูลมาได้ครั้งก่อน

“นี่ค่ะ ทั้งหมดนี้เป็นของที่ฉันสะสมหลังจากเดินสายประมูลมาหลายที่”

ซูหว่านเอ๋อมองของสะสมของตนเอง สายตาเปี่ยมกระตือรือร้น ดูภูมิใจนำเสนอเต็มที่

อวี้ฮ่าวหรานกวาดสายตามอง ส่วนใหญ่เป็นวัตถุโบราณของแท้ที่เธอเพิ่งได้มา

ตัวตนของผู้หญิงคนนี้ช่างน่าทึ่ง เขาอดแอบถอนหายใจไม่ได้

น่าเสียดายที่ในบรรดาของเหล่านี้ ไม่มีพลังจักรวาลโบราณแฝงอยู่เลย หากแต่เขาก็ไม่คิดถอดใจ ด้วยสิ่งที่ได้มายากนั้นย่อมคุ้มค่าเสมอ

“นี่เป็นดาบทองแดงจากสมัยราชวงศ์โจว อีกทั้งยังได้รับการเก็บรักษาอย่างดีเลย คุณไปได้มาจากไหนเหรอครับ?”

อวี้ฮ่าวหรานจ้องมองดาบทองแดงล้ำค่า พลางนึกแปลกใจเล็กน้อยที่เธอหาของโบราณขนาดนี้มาได้

ต่างรู้กันดีว่าแม้แต่ในงานประมูล สมบัติล้ำค่าแบบนี้ก็ยังหาได้ยาก ยิ่งไปกว่านั้นภายในไม่กี่เดือน เธอหาซื้อของสะสมได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ?

“ฉันวิ่งเต้นหาซื้อไปทั่วเลยล่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูหว่านเอ๋อเดินไปลูบดาบทองแดงโบราณด้วยสีหน้ามีความสุข

“กว่าฉันจะซื้อดาบนี้ได้ ต้องเจรจาอยู่นานเลยค่ะ”

ดูท่าเธอจะชอบมันมากทีเดียว

อวี้ฮ่าวหรานตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นแววตากระตือรือร้นของเธอ ยากจะเชื่อว่าหญิงสาวตัวเล็กอย่างเธอจะหลงใหลวัตถุโบราณขนาดนี้

“แล้วก็ยังมีชามหยกนี้อีกค่ะ ฉันไม่ได้ต่อรองราคาเลย ซื้อมาจากบ้านคุณลุงสี่แสนหยวน”

“ครับ ของจริงซะด้วย น่าจะมาจากสมัยราชวงศ์หมิงนะครับ”

อวี้ฮ่าวหรานเห็นเธอตื่นเต้นขณะหยิบชามหยกขึ้นมา เขาจึงเอ่ยเสริม

“ดีจังเลยค่ะ! ก่อนหน้านี้ฉันยังไม่มั่นใจนักน่ะค่ะ”

ซูหว่านเอ๋อตกตะลึง หลายปีที่ผ่านมาความสามารถในการประเมินอายุโบราณวัตถุของเขาทำให้เธอมั่นใจเต็มร้อย

ระหว่างเล่าที่มาที่ไปให้เขาฟัง เธอพลันนึกบางอย่างขึ้นได้

“อวี้ฮ่าวหรานคะ เมื่อหลายวันก่อนฉันไปหาซื้อวัตถุโบราณที่ร้านแถวชานเมือง เจอของแปลก ๆ มาด้วยค่ะ”

“ของแปลก ๆ เหรอครับ?”

อวี้ฮ่าวหรานกำลังเพลิดเพลินกับการชมวัตถุโบราณ เมื่อได้ยินเธอบอก เขาก็นึกสนใจขึ้นมาทันที

“แปลกยังไงเหรอครับ?”

ซูหว่านเอ๋อครุ่นคิดครู่หนึ่ง พยักหน้าหงึกหงัก

“ค่ะ แปลกมาก ๆ แปลกสุด ๆ เลยล่ะค่ะ!”

อวี้ฮ่าวหรานถึงกับพูดไม่ออก หลังจากเกริ่นออกมาหญิงสาวกลับตอบวนไปมา

“ถ้าจะไม่เล่าให้ผมฟัง ผมขอตัวแล้วกันครับ”

“เอ๋! เล่าค่ะ…เล่าแล้ว”

ซูหว่านเอ๋อถึงกับลนลานเมื่อได้ยินคำเขาพูดออกมา จึงรีบเล่าให้ฟัง

“ฉันไปดูโบราณวัตถุเมื่อหลายวันก่อนค่ะ เจ้าของร้านบอกว่ามีปิ่นหยกจะขายให้ฉันในราคาถูก ๆ แต่ว่าเก็บอยู่ที่ชั้นใต้ดิน”

พูดถึงจุดนี้ คิ้วเรียวก็อดที่จะขมวดมุ่นไม่ได้

“แต่ว่า…พอฉันเข้าไปมันเหมือนกับเข้าไปให้มิติพิศวงเลยค่ะ รู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้านอยู่พักหนึ่ง แต่พอฉันได้สติก็กลับมาอยู่ที่หน้าประตูชั้นใต้ดินค่ะ”

“แปลกขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”

อวี้ฮ่าวหรานชะงักไปเล็กน้อย หากเป็นจริงต้องไม่ใช่เรื่องผิดปกติแน่

“ค่ะ! ตอนหลังบอดี้การ์ดของฉันไปถาม เห็นว่าเดิมทีปิ่นหยกเป็นมรดกตกทอดประจำตระกูล แต่ว่าเมื่อเดือนก่อนเกิดเรื่องขึ้นกับปิ่นหยกก็เลยอยากจะขายมันค่ะ”

เธอเล่าทั้งที่หน้านิ่วคิ้วขมวด

“ไปดูกันเถอะครับ”

อวี้ฮ่าวหรานฮึกเหิมขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาไม่กลัวว่ามันจะเป็นของประหลาด หากแต่กลัวว่ามันจะเป็นของสุดแสนธรรมดาต่างหาก!

ด้วยประสบการณ์ชีวิตมากกว่าสามหมื่นปี เขาจึงคุ้นเคยกับเรื่องราวพิศวง แม้จะอันตรายแต่มีอานุภาพมหาศาล

“คะ? เดี๋ยวนี้เลยเหรอคะ?”

เธอผงะเมื่อได้ยินแบบนั้น หากแต่ก็ไม่ได้คัดค้าน

“ครับ! เดี๋ยวนี้เลย!”

อวี้ฮ่าวหรานถึงกับเป็นฝ่ายจับมือเธอเดินออกไปก่อน เขาต้องการไปดูให้เห็นกับตาตนเอง

ปิ่นหยกลึกลับอาจมีพลังวิญญาณแฝงอยู่มากก็เป็นได้!

“ฉัน…ฉัน…”

ซูหว่านเอ๋อถูกจูงมือไป เธอรับรู้ได้ถึงสัมผัสอบอุ่นแข็งแกร่งซึ่งชวนให้เธอใจลอย

กระทั่งเธอถูกจูงมือออกมาจนถึงนอกบ้าน

“ฉันไม่พร้อมออกไปตอนนี้ค่ะ ถ้าจะไปชานเมือง พ่อจะต้องส่งบอดี้การ์ดมากับฉันด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ! ผมจะเป็นบอดี้การ์ดให้คุณเอง” อวี้ฮ่าวหรานใจร้อน รับคำหนักแน่นเมื่อเธอบอก

แม้จะดูเหมือนพูดเล่น หากแต่ด้วยพลังในระดับขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูงของเขา มันยังไม่เหนือชั้นกว่าบอดี้การ์ดอีกหรือ?

“อย่างนั้น…ก็ไปกันเถอะค่ะ”

ซูหว่านเอ๋อพลันหน้าแดงเรื่อ เธอพยักหน้ารับเมื่อได้ยินคำเขา

เธอเคยเห็นฝีมือของเขา มันน่าทึ่งมากทีเดียว

หลังขึ้นรถมา อวี้ฮ่าวหรานก็เร่งเครื่องขับรถออกจากคฤหาสน์สกุลซูในเวลาเที่ยง

ซูหว่านเอ๋อคอยบอกทาง รถสปอร์ตค่อย ๆ แล่นออกจากตัวเมือง ทิวทัศน์ธรรมชาติสองข้างทางปรากฏขึ้น

ราวสองชั่วโมงต่อมา

“ใกล้ถึงแล้วค่ะ มีถนนลูกรังเชื่อมไปอยู่ ลงเดินอีกสักพักก็ถึงค่ะ”

เธอมองสำรวจด้านนอกและเอ่ยขึ้น

“ครับ ไกลอยู่เหมือนกันนะเนี่ย”

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้ารับ ระยะทางไกลกว่าที่เขาคาดคิดไว้

ชายหนุ่มขับรถมาด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ยังใช้เวลาถึงสองชั่วโมง

เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ชานเมืองฮ่วยอัน ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถจอดพักที่ปั๊มน้ำมันข้างทาง

“ไปต่อกันเถอะค่ะ ยังอีกไกล”

“ไกลจังเลยครับ”

อวี้ฮ่าวหรานท้อใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาก็ลืมถามไปเสียสนิทว่าอยู่ไกลแค่ไหน

ตอนนี้ลำพังแค่ขับรถก็ใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งแล้ว หากลงเดินต่อคงกินเวลามากกว่าสามชั่วโมง