ตอนที่ 83 นายกวางเผือกกับยายบ้านนอก

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

โอ๊ยตายแล้ว! นี่เธอเพิ่งชกเซิ่งอี่เจ๋อถึงตายเหรอเนี่ย! 

 

 

หญิงสาวคุกเข่าลงตรวจดูเซิ่งอี่เจ๋ออย่างลังเล 

 

 

เขาดูซีดเซียวมาก ผมชื้นๆ แนบติดไปกับแก้ม เจ้าไฝเม็ดจิ๋วใต้ตาเขาช่างน่ารักชะมัดเลย 

 

 

“นี่… เซิ่งอี่เจ๋อ! เซิ่งอี่เจ๋อ นายทำฉันกลัวนะ! ตื่นสิ!” อันซย่าซย่าแทบน้ำตาไหล 

 

 

แต่มีเพียงความเงียบกริบเท่านั้นที่ตอบกลับเสียงร้องของเธอ 

 

 

– 

 

 

เมื่อเซิ่งอี่เจ๋อรู้สึกตัวอีกครั้ง เขาก็สับสนงุนงงไปหมด 

 

 

เหนือหัวของเขาคือหลังคาที่สร้างด้วยอิฐกับกระเบื้องที่ทรุดโทรม เขาเห็นแมงมุมกำลังตั้งหน้าตั้งตาชักใยอยู่ที่มุมเพดานด้วย 

 

 

ฟูกที่นอนใต้ร่างเขารู้สึกค่อนข้างแข็ง ผ้านวมบนตัวเขาก็เก่าจนชายลุ่ย แต่มันก็สะอาดมาก—เขาแทบได้กลิ่นแสงแดดจากมันเลยด้วยซ้ำ 

 

 

เขาลุกขึ้นนั่งพลางมองไปรอบๆ ห้อง พิจารณาจากสิ่งที่เห็นแล้ว เขาคงอยู่ในบ้านชาวไร่ในเทือกเขา 

 

 

ชายหนุ่มเดินช้าๆ ออกจากห้อง ภายนอกนั้น ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าและท้องฟ้าก็ดูสวยงามภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง ควันไฟจากการทำอาหารม้วนตัวอยู่ในอากาศ แล้วเขาก็เห็นอันซย่าซย่าในชุดลายดอกไม้ เธอกำลังช่วยผู้หญิงคนหนึ่งหั่นผักสำหรับทำมื้อค่ำ รอยยิ้มบนใบหน้าเธอนั้นทำให้เขาว้าวุ่นใจนิดๆ 

 

 

ตอนนั้นเองเธอก็เงยหน้าขึ้นมามอง อาจเป็นเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าของเขา จากนั้นก็มองมาที่เขาด้วยความดีใจ “เซิ่งอี่เจ๋อ นายตื่นแล้ว!” 

 

 

“อือ” เขาตอบ อันซย่าซย่าโผเข้าสู่อ้อมแขนของเขา “เยี่ยมไปเลย! ฉันดีใจมากที่นายไม่เป็นไร!” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อชะงักอยู่กับที่เพราะกอดนั้น จากนั้นก็กระแอมก่อนจะดันตัวเธอออกห่าง “อยู่ห่างๆ ฉันไวยัยดอกเดซี่” 

 

 

อันซย่าซย่าโกรธจัด “เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าไงนะ ยัยดอกเดซี่งั้นเรอะ นายว่าฉันบ้านนอกเรอะ! ไหนดูซิว่านายหล่อแค่ไหน ไอ้กวางเผือก!” 

 

 

เธออยากจะถ่ายรูปเขาให้ดูจริงๆ ตอนนี้เขาดูไม่มีออร่าเจิดจรัสอะไรเลย เสื้อกล้ามหลวมโพรก กางเกงอยู่บ้านขาสั้นกับรองเท้าแตะ สภาพของเขาตอนนี้ไม่มีอะไรบ่งบอกได้เลยว่าเขาเป็นถึงไอดอลดังระดับประเทศ 

 

 

ใบหน้าเขาถมึงทึงและกำลังจะตอกกลับเมื่อผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้อย่างอบอุ่น หล่อนมีสำเนียงเข้มๆ อย่างคนที่อาศัยอยู่ในแถบภูเขา “เธอสองคนนี่เป็นพี่น้องที่รักกันดีจริง เอ้า ไปนั่งข้างในก่อนสิ เดี๋ยวข้าวเย็นก็เสร็จแล้ว!” 

 

 

อันซย่าซย่าตอบพร้อมกับยิ้มหวานๆ “ขอบคุณค่ะป้า” 

 

 

หญิงคนนั้นยิ้มตอบ จากนั้นก็นำผักเข้าไปในครัวและเริ่มลงมือทำอาหาร 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “เธออธิบายมาดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่” 

 

 

อันซย่าซย่าตอบอย่างโมโหเดือด “นายจะมาตั้งคำถามอะไรฉันตอนนี้! ทำไมนายไม่บอกล่ะว่าบาดเจ็บ อยู่ดีๆ ก็ล้มตึงลงไปแบบนั้น! นายรู้บ้างไหมว่าฉันเป็นห่วงแค่ไหน ขอบคุณพระเจ้าที่ป๊าเคยสอนขั้นตอนการปฐมพยาบาลให้ฉันมาบ้าง ไม่งั้นนายคงตายอยู่ตรงนั้นแล้ว!” 

 

 

“ฮึ… แล้วคิดว่าทำไมฉันถึงบาดเจ็บล่ะ ก็เพื่อช่วยเธอไง! อันซย่าซย่าเธอควรพูดให้มันถูกหน่อยนะ” เซิ่งอี่เจ๋อตอบโต้อย่างเฉยเมย 

 

 

ทันใดนั้นเอง เธอก็เขย่งปลายเท้าและยกมือขึ้นปิดปากเขา จากนั้นก็พูดด้วยเสียงกระซิบเบาๆ “จุ๊ๆ ฉันกลัวว่าพวกเขาจะทำอะไรลับหลังเรา ก็เลยบอกพวกเขาว่าเราเป็นพี่น้องกัน ตอนนี้ฉันไม่ใช่อันซย่าซย่าแต่เป็นเซิ่งซย่าซย่า นายเป็นพี่ชายฉันและฉันก็เป็นน้องสาวนาย เข้าใจไหม” 

 

 

ชายหนุ่มเกือบจะยิ้มออกมากับความระแวดระวังตัวของเธอ 

 

 

“ถ้าพูดถึงทางพันธุกรรม คือเป็นไปได้ยากมากที่ฉันจะมีน้องสาวที่ซื่อบื้ออย่างเธอ” เซิ่งอี่เจ๋อวิจารณ์อย่างเยาะเย้ยถากถาง 

 

 

หญิงสาวมีท่าทีเจ็บปวด “ไม่ต้องมาพูดกับฉัน! นายรู้บ้างไหมว่านายน่ะตัวหนักแค่ไหน ฉันลากนายมาตั้งไกล แล้วก็โชคดีเหลือเกินที่ฉันมาเจอเข้ากับลุงที่ออกจากหมู่บ้านมาเก็บสมุนไพร! นาย…” 

 

 

เธอไม่รู้จะสรรหาอะไรมาต่อว่าเขาอีก “นาย!” เธอกระทืบเท้าแล้วก็เดินฟึดฟัดจากไป 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งด้วยความงุนงง ก่อนที่อันซย่าซย่าจะหันกลับมาและเดินกลับมาหาเขาด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา “เซิ่งอี่เจ๋อ นายต้องขอบใจฉันนะ ฉันอุตส่าห์ซักกางเกงในให้นาย อ้อ แล้วก็-นายไม่มีอะไรให้ดูเลยจริงๆ! ฮึ!” 

 

 

ตอนนี้เซิ่งอี่เจ๋อกลับเป็นฝ่ายตกตะลึงเสียเอง