เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาตื่นกันหมดทุกคนแล้ว 

 

 

จากนั้นก็ถูกบุคลากรที่ทำหน้าที่ต้อนรับพวกเขาก่อนหน้านี้เรียกเข้าไปพบ เมื่อไปถึงห้องสำนักงานบุคลากรคนนั้นก็ถามขึ้น: “ฉันจำได้ว่าในพวกนายมีคนที่อยู่คณะการขนส่งทางทะเลด้วย ไหนคนไหน” 

 

 

ชุยหังยกมือขึ้น ส่วนอีกสามคนที่เหลือก็เหลือบตามองมาทางเขา 

 

 

ชุยหังรู้สึกอายๆ นิดหน่อย ก็ติดนิสัยยกมือนี่มันติดมาจากความเคยชินในห้องเรียนสมัยมัธยม ที่ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็ต้องยกมือก่อน 

 

 

“อาจารย์ที่ปรึกษาของพวกนายรออยู่ข้างล่างตึก เดี๋ยวเอากระเป๋าสัมภาระไว้ที่นี่ก่อนแล้วก็รีบไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาเถอะ” 

 

 

“ไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาของเราหรอครับ” ชุยหังงงงวยนิดหน่อยไม่เข้าใจว่าทำไม 

 

 

คนนั้นพูดขึ้นต่อ: “หอพักของพวกนายยังไม่ได้ติดใบรายชื่อเลยให้นายไปช่วยหน่อย” 

 

 

ชุยหังเข้าใจแล้วอันที่จริงนี่ก็นับว่าเป็นโอกาสที่จะได้ไปปรากฏตัวต่อหน้าอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว 

 

 

อาจารย์ที่ปรึกษาหนึ่งคนต้องคอยดูแลนักศึกษาในชั้นปีกว่าหลายร้อยคนและก่อนที่คนพวกนั้นจะมา การที่เขาสามารถทำให้อาจารย์ที่ปรึกษาจำได้ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร 

 

 

“ผมรับทราบครับอาจารย์ ขอตัวก่อนนะครับ” ชุยหังพูดจบก็เดินออกไป 

 

 

อาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเขาดูเป็นคนตัวผอมๆ หน่อย มองดูแล้วเหมือนจะเป็นผู้ชายที่ยังหนุ่มๆ อยู่เลย พอเห็นชุยหังเดินลงมาก็เข้ามาถามด้วยภาษาจีนกลางที่ปนด้วยสำเนียงเหอหนานนิดหน่อย: “ใช่คณะการขนส่งทางทะเลหรือเปล่า” 

 

 

ชุยหังรีบตอบกลับ: “สวัสดีครับอาจารย์ ผมชื่อชุยหัง เป็นนักศึกษาห้องสามของรุ่นนี้ครับ” 

 

 

“ชุยหัง [1] ชื่อนี้จำง่ายดีนะ เข้ากับคณะการขนส่งทางทะเลของเราพอดี ฉันนามสกุลหม่า ไปเถอะตามฉันมาทำงานสักหน่อย” อาจารย์ที่ปรึกษาคนนั้นพูด 

 

 

ชุยหังเดินตามหลังเขาไปอย่างเชื่อฟัง แต่ว่าสิ่งที่เขาเคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักอย่าง 

 

 

เขาไม่ค่อยรู้จักวิธีตีสนิทกับอาจารย์ที่ปรึกษา อันที่จริงก่อนจะมาที่มหา’ ลัยเหล่าเพื่อนสนิทของเขาเคยบอกวิธีการทำความสนิทสนมกับอาจารย์ที่ปรึกษาไว้ด้วย แต่เขากลับไม่ได้เอามันออกมาใช้เลยสักวิธี 

 

 

นิสัยของเขาก็ไม่ได้เป็นคนติดเหนียมอายอะไรสักเท่าไหร่ดูออกจะดูหยิ่งๆ สักหน่อย แต่นับว่าเป็นพวกที่ภายนอกดูเหนียมอายแต่อันที่จริงค่อนข้างจะเป็นคนร่าเริงสดใส 

 

 

ถ้าหากมีคนที่เข้ามาพูดคุยทักทายกับเขาก่อน เขาอาจจะค่อนข้างพูดมากกับฝ่ายตรงข้ามเยอะหน่อย 

 

 

แต่ว่าถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เป็นฝ่ายพูดทักก่อน ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็มักจะมีความรู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่ 

 

 

หอพักของพวกเขาคือตึกหอพักพุๆ พังๆ เก่าๆ ที่ก่อนหน้านี้ชุยหังแอบสังหรณ์ใจไม่ดีกับมันสักเท่าไหร่ ด้านบนมีตัวเลขขนาดใหญ่เขียนติดไว้ “6” 

 

 

อาจารย์หม่าบอกเขาว่านี่เป็นหอพักประจำคณะการขนส่งทางทะเลของพวกเรามาโดยตลอด ทุกคนต่างก็เรียกมันว่า ‘ตึกหกเก่าแก่’ 

 

 

“อาจารย์ครับ ห้องนอนของพวกเราห้องหนึ่งอยู่กันกี่คนหรอครับ” ในที่สุดชุยหังก็รวบรวมความกล้าถามประโยคนี้ออกไปแถมยังเป็นเรื่องไร้สาระอีกด้วย 

 

 

อาจารย์หม่าตอบกลับ: “หกคน นักศึกษาใหม่รุ่นนี้ทั้งหมดจะพักอยู่ที่ชั้นสามกับชั้นสี่” 

 

 

เพราะตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อนดังนั้นภายในหอพักจึงมีแสงอาทิตย์สาดส่องเข้าทั่วทุกมุม และเพราะที่นี่เป็นหอพักผู้ชายขนาดไม่มีคนอยู่ที่นี่ในตอนช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาแต่ก็ยังคงมีกลิ่นผู้ชายอบอวลเต็มไปหมด 

 

 

ชุยหังไม่ได้พูดอะไรได้แต่เดินตามอาจารย์หม่าขึ้นมาที่ชั้นสามของหอพัก จากนั้นก็เริ่มติดรายชื่อของนักศึกษาที่จะเข้าพักในห้องเอาไว้ด้านหน้าประตูทุกๆ ห้องนอน 

 

 

“นายอยู่ชั้นสี่ 426” จู่ๆ อาจารย์หม่าก็พูดขึ้น 

 

 

ชุยหังยิ้มๆ แล้วพูดตอบรับ: “อ้อ” 

 

 

อันที่จริงเขาค่อนข้างแอบรู้สึกผิดหวังกับตัวเองนิดหน่อย ตัวเองไม่กล้าเป็นฝ่ายเริ่มต้นพูดก่อนก็ไม่เป็นไรแต่มาตอนนี้ขนาดอาจารย์หม่าเป็นฝ่ายพูดกับเขาก่อน เขายังตอบรับได้ไม่ดีเลย 

 

 

แต่ว่าตัวเขาก็แอบรู้สึกอยากรู้เหมือนกันว่าคนที่ตัวเองต้องอยู่ด้วยจะเป็นใครกันนะ 

 

 

ยุ่งทำงานอยู่นานกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ในที่สุดก็เอารายชื่อของนักศึกษาทั้งหมดติดแปะจนครบทุกห้องแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบชุยหังไม่ได้พูดคุยอะไรกับอาจารย์หม่าเลยแม้แต่นิดเดียว 

 

 

“อีกเดี๋ยวจะเริ่มรายงานตัวแล้ว นายรีบไปเตรียมตัวรายงานตัวเถอะไป” อาจารย์หม่าพูดขึ้น 

 

 

 

 

 

====== 

 

 

[1] หัง (航)แปลว่า เดินเรือ