เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1060 ตรวจสอบโชค

แปลโดย iPAT

 

แม่น้ำหม้อหลอมรวมเหมือนเข็มขัดสีเขียวที่ทอดตัวยาวอยู่ทางทิศตะวันออกของภาคกลาง

 

อิงอู๋เซี่ยยืนอยู่ริมแม่น้ำ เขากำลังรอฟงฉานซื่อ

 

ในขณะเดียวกันไห่ลั่วหลัน ซื่อหนิว และไท่เป่ยหยุนเฉิงก็ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับอิงอู๋เซี่ย

 

น้ำไหลอย่างเอื่อยเฉื่อย แมลงปอสองตัวบินลงมายังกอหญ้าที่อยู่ใกล้ๆ

 

มันเป็นกอหญ้าที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำเรียกว่าหญ้าหม้อหลอมรวม

 

ปลายก้านใบของมันมีผลสีน้ำตาล

 

ผลไม้ชนิดนี้มีขนาดเท่ากำปั้น มันมีช่องว่างเปิดออกเล็กน้อยขณะที่ด้านในว่างเปล่า

 

เมื่อแมลงปอบินตามกลิ่นผลไม้เข้าไปภายใน พวกมันจะไม่สามารถกลับออกมา

 

อิงอู๋เซี่ยเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆ

 

เขารู้ว่าอีกไม่กี่เดือนผลไม้จะเติบโตขึ้นและจะดึงดูดแมลงรวมถึงปลาและกุ้งได้มากขึ้น เมื่อมันเติบโตเต็มที่ ผลของมันจะปิดตัวลงทำให้มันดูเหมือนหม้อสีน้ำตาล

 

เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ผลไม้เหล่านี้จะถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำ

 

ผู้ใช้วิญญาณจะเก็บเกี่ยวผลไม้ทั้งหมด

 

หลังจากทุบทำลายหม้อใบนี้ พวกเขาอาจได้รับวิญญาณบางดวงที่ถือกำเนิดขึ้นภายใน

 

วิญญาณเหล่านี้สามารถปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย

 

นิกายเมฆาวายุเป็นหนึ่งในสิบนิกายโบราณที่รับผิดชอบแม่น้ำสายนี้ ในช่วงเวลานี้ของทุกปีพวกเขาจะจัดงานเทศกาลรอบแม่น้ำหม้อหลอมรวม ผู้ใช้วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนจะเดินทางมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมเทศกาลนี้

 

ขณะที่อิงอู๋เซี่ยมองหญ้าหม้อหลอมรวม จิตใจของเขาล่องลอยไปอื่น

 

เพื่อให้ได้รับแสงแรกกำเนิด เขารออยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว

 

ภายนอกเขาดูสงบนิ่งแต่ภายในกลับปั่นป่วนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

‘ข้ามีวิญญาณกาลเวลา แต่ตอนนี้มันถูกปิดผนึกและไม่สามารถใช้งาน ก่อนที่ข้าจะปรับแต่งมัน ข้าจะถูกจับตามองโดยเจตจำนงสวรรค์ นอกจากนั้นเจตจำนงสวรรค์ยังส่งอิทธิพลต่ออารมณ์ของข้าอย่างลับๆ มันสามารถวางแผนให้ผู้อื่นโจมตีข้า ข้าไม่ควรปล่อยให้เจตจำนงสวรรค์มีเวลาเตรียมตัว ข้าไม่สามารถอยู่ที่เดิมได้เป็นเวลานาน หากฟงฉานซื่อไม่ปรากฏตัวอีก ข้าต้องยอมแพ้เรื่องนี้’ อิงอู๋เซี่ยตัดสินใจ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ร่างสีเขียวบินเข้ามาหาอิงอู๋เซี่ย

 

“มันคือหุ่นเชิดพฤกษา!”

 

“ระวังตัว อาจเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด!”

 

สมาชิกนิกายเงาลอบถ่ายทอดเสียงถึงกันอย่างลับๆ

 

หุ่นเชิดพฤกษาแสดงออกด้วยความเย่อหยิ่ง “แสงแรกกำเนิดมีอยู่ที่นี่ แต่นายท่านบอกว่าราคาก่อนหน้านี้ยังไม่เพียงพอ เจ้าต้องจ่ายเพิ่มอีกสามสิบส่วน”

 

“อันใด? สามสิบส่วน?”

 

“นี่เป็นการกรรโชกทรัพย์ชัดๆ ฟงฉานซื่อช่างกล้าหาญนัก!”

 

“ราคาสูงมาก เพิ่มอีกสามสิบส่วน มันแพงเกินไป!”

 

ซื่อหนิวและไท่เป่ยหยุนเฉิงแสดงความคิดเห็น

 

อิงอู๋เซี่ยโกรธมากเช่นกันแต่เขาไม่มีทางเลือก เขาต้องการแสงแรกกำเนิดเพื่อหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ แสงแรกกำเนิดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด

 

หลังจากเงียบอยู่ชั่วขณะ อิงอู๋เซี่ยพยักหน้า “ข้าตกลง”

 

อิงอู๋เซี่ยเตรียมตัวมาแล้ว ทั้งสองฝ่ายจึงสามารถทำธุรกรรมกันอย่างรวดเร็ว

 

หุ่นเชิดพฤกษานับเงินก่อนจะแสดงออกด้วยท่าทางพึงพอใจ

 

อิงอู๋เซี่ยประสบความสูญเสียครั้งใหญ่แต่ในที่สุดเขาก็ได้รับแสงแรกกำเนิด โดยรวมแล้วเขาค่อนข้างพอใจกับเรื่องนี้

 

เขาเผยรอยยิ้ม “มันเป็นธุรกรรมที่น่าพอใจ เราควรแลกเปลี่ยนกันอีกในอนาคต”

 

หุ่นเชิดพฤกษาตอบ “หือ อีกงั้นหรือ? นั่นขึ้นอยู่กับอารมณ์ของนายท่านของข้า แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้นายท่านไม่ต้องการแลกเปลี่ยน แต่ท่านแพ้พนันให้กับหลางจื้อชิวและต้องการชดเชยความสูญเสีย หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้นายท่านย่อมไม่ขายแสงแรกกำเนิดให้กับเจ้าอย่างแน่นอน!”

 

“ข้าเข้าใจ ที่นี่มีสมบัติมากมาย แสงแรกกำเนิดไม่ถือเป็นสิ่งใด แม้มันจะหายไปก็ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น” อิงอู๋เซี่ยกล่าวอย่างสุภาพ

 

“เอาล่ะ เสร็จธุระแล้วก็รีบไป อย่าอยู่ที่นี่นานนัก” หุ่นเชิดพฤกษาตัดบทและจากไป

 

แม้จะไม่มีการแจ้งเตือน อิงอู๋เซี่ยก็ต้องการจากไปอย่างรวดเร็วที่สุดอยู่แล้ว

 

หลังจากบินมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยลงไปในป่าไร้นามเพื่อพักผ่อน

 

“ตอนนี้แม้เราจะได้รับแสงแรกกำเนิด แต่ราคาของมันก็สูงเกินไป เรายังต้องหาทรัพยากรอื่นอีก”

 

“โชคดีที่ได้แสงแรกกำเนิดมากล้ว เรื่องอื่นสามารถแก้ไข” ไท่เป่ยหยุนเฉิงกล่าว

 

“สิ่งสำคัญก็คือแสงแรกกำเนิดที่มีสามารถหลอมรวมวิญญาณได้กี่ครั้ง?” ไห่ลั่วหลันถามเข้าประเด็นสำคัญ

 

เมื่อผู้อมตะต้องการหลอมรวมวิญญาณอมตะ ทรัพยากรเพียงชุดเดียวยังไม่เพียงพอ

 

ปราศจากวิธีการหลอมรวมของมนุษย์ขน วิธีการหลอมรวมของมนุษย์มีโอกาสประสบความสำเร็จน้อยกว่าหนึ่งส่วนร้อย

 

ในทางทฤษฎี อิงอู๋เซี่ยควรเตรียมทรัพยากรหนึ่งร้อยชุด

 

แต่ในทางปฏิบัติ มันยิ่งโหดร้ายมากกว่า

 

โอกาสประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณทรัพยากรเท่านั้น แม้จะมีทรัพยากรมากกว่าร้อยชุด พวกเขาก็อาจไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว

 

“แสงแรกกำเนิดที่มีสามารถหลอมรวมได้เก้าครั้ง” อิงอู๋เซี่ยตอบ

 

เขากระตุ้นใช้วิญญาณอมตะอย่างลับๆ

 

มันคือวิญญาณอมตะตรวจสอบโชคระดับหก

 

เดิมทีวิญญาณอมตะดวงนี้เป็นของฉินไป่เฉิง แต่ซื่อหนิวได้รับมันมาก่อนหน้านี้

 

หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน นิกายเงาล่มสลาย สุดท้ายวิญญาณอมตะตรวจสอบโชคจึงย้ายมาอยู่กับอิงอู๋เซี่ย

 

นี่คือวิญญาณที่สามารถตรวจสอบโชคของผู้คน

 

ดวงตาของอิงอู๋เซี่ยส่องประกายขึ้นขณะที่เขามองขึ้นไปด้านบน

 

เขาเห็นเสาแสงขนาดใหญ่

 

อิงอู๋เซี่ยตกใจ ‘หือ เหตุใดโชคของข้าจึงดีนัก?”

 

เขาตรวจสอบโชคของตนเองมาก่อนหน้านี้แต่มันแย่มาก อย่างไรก็ตามตอนนี้มันกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

 

‘อย่าบอกข้าว่า…’ ความคิดหนึ่งพุ่งผ่านจิตใจของอิงอู๋เซี่ย

 

เขานึกถึงฟางหยวน

 

‘นิกายเงาบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและได้รับส่วนหนึ่งของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวม พวกเรากระทั่งทำลายวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขไปโดยบังเอิญ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเตรียมหลอมรวมมันขึ้นมาอีกครั้งและพึ่งประสบความสำเร็จเมื่อเร็วๆนี้ บางทีวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขอาจถูกยืมไปโดยฟางหยวน’

 

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกว่าสิ่งนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก

 

ไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้รับแจ้งจากสายลับที่อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาว่าภัยพิบัติของฟางหยวนมาถึงแล้ว

 

‘ต้องเป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน!’

 

‘เดิมทีฟางหยวนเชื่อมโยงโชคของเขากับหลายคน โชคของพวกเขาจะถูกแบ่งปันอย่างเท่าเทียม หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ร่างกายของข้าเป็นของฟางหยวน ขณะที่เขายังใช้ดวงวิญญาณเดิม’

 

‘เมื่อเขาใช้วิญญาณอมตะโชคอึสุนัขเพื่อปรับปรุงโชคของตนเอง โชคดีของเขาจึงไหลไปหาเย่ฟาน ฮันหลี่ หงอี้ ไห่ลั่วหลัน รวมถึงร่างกายของข้าก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน’

 

‘ไม่แปลกใจเลยที่ข้าประสบความสำเร็จในการแลกเปลี่ยนแสงแรกกำเนิด’

 

หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ อิงอู๋เซี่ยจึงตระหนักถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของฟางหยวน

 

‘มิติช่องว่างของเขาต้องผ่านภัยพิบัติทุกสองเดือน เขาต้องใช้วิญญาณอมตะโชคอึสุนัขอย่างต่อเนื่องเพื่อลดพลังอำนาจของภัยพิบัติ ด้วยวิธีนี้ข้าจะได้รับประโยชน์จากมัน! ข้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไปที่ภาคเหนือเพื่อยืมโชคจากถ้ำสวรรค์นิรันดร!’

 

‘แม้เขาจะรู้ตัวว่าสิ่งนี้จะทำให้ศัตรูแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาไม่มีทางเลือกเพราะภัยพิบัติจากมิติช่องว่างจักรพรรดิ เขาต้องทำทุกสิ่งเพื่อความอยู่รอด อย่างไรก็ตามเขาเลือกรับภัยพิบัติที่แดนน้ำแข็งของภาคเหนือ มันเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เจตจำนงสวรรค์จะทำให้ภัยพิบัติรุนแรงขึ้นแต่ที่แดนน้ำแข็ง เขาจะได้รับความหมายที่แท้จริงส่วนหนึ่งจากเทพปีศาจคลั่ง ฮืม ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดชีวิตจากสิ่งนี้ แล้วข้าจะนำร่างกายของเจ้ากลับมาในวันหนึ่ง!’

 

หลังจากพักผ่อนอยู่ในป่าไร้นามระยะหนึ่ง อิงอู๋เซี่ยกับคนอื่นๆก็ออกเดินทางอีกครั้ง

 

อิงอู๋เซี่ยเคลื่อนไหวเร็วมากเพราะเขาถูกกดดันโดยกรอบเวลา

 

ไม่เพียงร่างหลักของเขาจะติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน เขายังต้องอาศัยโชคดีในการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

ภาคเหนือ แดนน้ำแข็ง

 

“ท่านอาจารย์ เราต้องอยู่ที่นี่นานเท่าใด?” ผู้อมตะใหม่บนเส้นทางความแข็งแกร่งถาม

 

ชูตู๋มองแดนน้ำแข็งตรงหน้าและถอนหายใจ

 

เขาไม่ตอบศิษย์แต่ลอบเสียใจอยู่ภายใน

 

‘ก่อนหน้านี้ข้ารีบร้อนเกินไป เหตุใดข้าจึงโจมตีเขาโดยไม่คิดให้รอบคอบ?’

 

‘เมื่อเขารู้วิธีดึงความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งออกมา มันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่ข้าจะได้รับวิธีการนี้ไม่ว่ามันจะเป็นท่าไม้ตายอมตะหรือคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็ตาม’

 

‘แม้ข้าจะฆ่าเขา แต่ข้าก็ต้องป้องกันไม่ให้เขาระเบิดวิญญาณของตนเอง มิฉะนั้นทุกอย่างจะกลายเป็นความว่างเปล่าและทำให้ข้าสูญเสียโอกาสอันยิ่งใหญ่’

 

‘ข้าต้องรอบคอบกว่านี้ อย่างน้อยข้าก็ควรสุภาพก่อนจะใช้กำลัง!’

 

‘ตอนนี้เขาซ่อมแซมมิติช่องว่างเรียบร้อยแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ข้าจะเจาะทะลวงเข้าไป’

 

‘มันยังไม่สายเกินไปที่จะกอบกู้สถานการณ์ บางทีข้าอาจสามารถพูดคุยกับเขา สิ่งสำคัญก็คือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบของเขาอยู่กับข้า ข้าสามารถใช้มันในการต่อรอง!’