เฉียนลี่ขี่สัตว์ร้ายและอาวุธยาวทรงพลังได้พุ่งเข้าใส่เจียงหลี
ไม่ว่าที่แห่งหนใดก็ตาม ทหารจยาเซียนและทหารซีเฉียนจำนวนมากก็ถูกสัตว์ร้ายชนกระเด็น
ขณะที่เขาค่อยๆ เข้ามากดดัน เจียงหลีที่ยืนอยู่บนแท่นศิลาบอกอาณาเขตกลับหันหน้ามองเขาอย่างช้าๆ ด้วยสายตาที่เย็นชาและไร้ความปรานี
ทันใดนั้น หัวใจของเฉียนลี่ก็สั่นสะท้าน
สายตาอันหยิ่งผยอง ทำให้ขณะนี้เขารู้สึกหวาดกลัวต่อวิญญาณของหญิงสาวผู้นี้
เป็นไปได้อย่างไร!
เฉียนลี่ไม่อยากเชื่อเลยว่าหญิงสาวที่เคยมีระดับการฝึกฝนใกล้เคียงกับเขาจะก้าวสู่ระดับที่สูงถึงเพียงนี้
เขาทั้งตกใจและหวาดกลัว
แต่ทว่า สัตว์ร้ายที่เขาขี่อยู่นั้นกลับไร้ซึ่งความหวาดกลัวและยังคงนำพาเขาไปยังทิศทางของเจียงหลี
หยุด! รีบหยุดเร็ว! เฉียนลี่ตะโกนในใจแต่กลับถูกพลังอำนาจของเจียงหลีกดทับไว้จนเปล่งเสียงไม่ได้
เจียงหลีมองเขาอย่างยั่วยุ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยเย้ยหยัน เมื่อเฉียนลี่พุ่งตัวมาอยู่ตรงหน้า นางกลับยิ้ม และรอยยิ้มนั้นแพรวพราวเป็นพิเศษ
“เฉียนลี่เจ้าเป็นเพียงหลิงเจี้ยงจะเอาอะไรมาสู้กับข้า อยากฆ่าข้า เจ้าฝันอยู่รึ” นางพูดด้วยเสียงเรียบ ซึ่งฟังแล้วธรรมดาอย่างมาก
นังหยิ่งผยอง นังบ้า!
แน่นอนว่าความหยิ่งผยอง ย่อมมีต้นทุน!
ดวงตาแดงก่ำของเฉียนลี่เบิกกว้างและเงยหน้าขึ้น คำพูดของเจียงหลีประดุจปีศาจร้ายก็มิปาน และวนเวียนอยู่ข้างหูของเขาตลอดเวลา
“อ๊ากกก! ” ทันใดนั้น เสียงร้องของเขา ราวกับพยายามจะเอาชนะตาข่ายปีศาจอยู่
เขาเตะสัตว์ร้ายที่อยู่ด้านล่างเขาอย่างแรง สัตว์ร้ายนั้นก็รู้สึกถึงพลังนั้นทันที มันงอขาหน้าและคุกเข่าลงกับพื้น ส่วนเฉียนลี่ใช้โอกาสนี้ทะยานขึ้นไปกลางอากาศด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้ายและน่าเกรงขามแล้วยกอาวุธยาวพุ่งเข้าใส่เพื่อสังหารเจียงหลี
ทันใดนั้นแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา เนตรญาณทั้งสองดวงถูกเปิดออก โดยด้านในมีวิญญาณยุทธ์อันดุร้ายและน่าสะพรึงกลัวกำลังดิ้นรนและคำรามอยู่
“ฆ่า…!”
พลังวิญญาณที่รุนแรงระเบิดออกมาจากร่างของเฉียนลี่ และพุ่งวนไปทางเจียงหลี ซึ่งดูแล้วเหมือนจะครอบร่างของนางไว้
เพี๊ยะ…!
หลังจากนั้น เสียงแส้ที่ชัดเจนดังขึ้นอย่างกะทันหัน
ซึ่งกลางอากาศนั้น ประดุจมังกรพเนจรปรากฏตัวขึ้นและพุ่งโจมตีไปที่เฉียนลี่
“ฟิ้ว!”
เขาถูกทักษะการต่อสู้เล่นงาน เฉียนลี่เงยหน้าขึ้นแล้วพ่นเลือดออกมาจำนวนมากและร่างของเขาก็ร่วงลงกับพื้น
ทันใดนั้น เงาของแส้ก็กวาดผ่านและพุ่งมาหาเขา
เขาลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วและพยายามหลบหลีกเงาแส้นั่น แต่น่าเสียดายที่การเคลื่อนไหวของเขาสู้วิญญาณร้ายที่กลายร่างเป็นแส้ยาวของเจียวหลีไม่ได้
แส้ยาวว่องไวประดุจงู เพียงชั่วพริบตาก็สามารถรัดคอของเฉียนลี่และดึงเขากลับมาได้แล้ว
คอของเฉียนลี่ถูกรัดและยกขึ้นกลางอากาศ ความรู้สึกหายใจไม่ออกทำให้เขาปล่อยอาวุธยาวในมือลง วิญญาณยุทธ์ที่อยู่ด้านหลังเขาก็สลายไป เพราะเนื่องจากไม่มีพลังวิญญาณคอยสนับสนุน เขาจึงจับเชือกที่พันรอบคอของเขาอย่างแน่น ดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง ตอนนี้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วง ดวงตาแดงก่ำ และเส้นเอ็นสีเขียวก็ปรากฏขึ้น
เขากรีดร้องอย่างไร้เสียงและถูกเจียงหลีสะบัดร่างของเขาออกไปอย่างแรงและกระแทกไปที่แท่นศิลาใต้เท้าของนาง
“พอแล้ว!”
เจียงหลีตะโกนเสียงเบา ซึ่งเสียงที่หลั่งไหลเข้าสู่พลังวิญญาณดังก้องกังวานไปทั่วสนามรบหลัก ไม่ว่าจะเป็นกองทัพของอาณาจักรจยาเซียน หรือกองทัพของอาณาจักรซีเฉียนต่างได้ยินเสียงของนางและหยุดต่อสู้ทั้งหมด
พวกเขามองไปที่จักรพรรดินีซึ่งยืนอยู่บนแท่นหินบอกอาณาเขต
จากนั้น ก่อนที่พวกเขาจะตกตะลึงกับพลังอำนาจของจักรพรรดินีผู้นี้ พวกเขากลับถูกดึงดูดโดยร่างที่ดิ้นรนบนแท่นศิลานั่นแทน
“องค์รัชทายาท…!”
สีหน้าของกองทัพซีเฉียนเริ่มเปลี่ยนสี
กองทัพของอาณาจักรจยาเซียนกลับแสดงสีหน้าแห่งความยินดีและตะโกนพร้อมเพรียงกัน “ฝ่าบาททรงอานุภาพ…! ”
“ฝ่าบาททรงอานุภาพ…!”
เจียงหลียกมือขึ้นและเสียงฮึกเหิมนั้นก็หยุดลงทันที แม้ว่าเสียงฮึกเหิมจะหยุดลง แต่ก็ยากที่จะเก็บซ่อนความมุ่งมั่นในแววตาของพลทหารเหล่านั้นไปได้
เจียงหลีลดสายตาลงและมองไปที่รัชทายาทซีเฉียนซึ่งถูกแขวนอยู่บนแท่นศิลา ประกายแสงจากดวงตาอันประชดประชันทำให้เขารู้สึกแสบตา
เขาถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้นและมองไปที่หญิงสาวซึ่งยืนอยู่เหนือเขา
“องค์รัชทายาท พวกเราพูดคุยกันหน่อยจะดีหรือไม่” จู่ๆ เจียงหลีก็พูดด้วยรอยยิ้ม
พูดคุยหรือ
นั่นหมายความว่าไม่ต้องตายแล้ว!
เขาพยักหน้าอย่างสุดแรง ขอเพียงไม่ต้องตาย เขาสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง
ความปรารถนาในการอยู่รอดของเขาทำให้เจียงหลีพอใจ นางยิ่งยิ้มยิ่งน่าประทับใจ แต่นางกลับไม่ยอมปล่อยแส้ทันที “ใช่ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความเป็นและความตาย หากองค์รัชทายาทตายในสนามรบเพื่ออาณาจักรซีเฉียน ข้าสงสัยเหลือเกินว่าฮ่องเต้ซีเฉียนจะหลั่งน้ำตาสักสองสามหยดหรือไม่ และไม่รู้ว่าองค์ชายรองจะร้องไห้ต่อหน้าพระศพของท่านหรือไม่ หรือหัวใจของเขาเต็มไปด้วยการรอคอยที่จะสืบทอดตำแหน่งองค์รัชทายาทอย่างตื่นเต้นแทน”
ดวงตาของเขาเบิกกว้างและจ้องไปที่นางอย่างแน่วแน่น
คำพูดของนางทำให้เกิดคลื่นอันใหญ่หลวงในใจและสะเทือนใจเขาอย่างมาก
ทันใดนั้น เฉียนลี่รู้สึกว่าคอของเขาได้คลายลงและร่างของเขาร่วงหล่นโดยปราศจากการควบคุมและกระแทกกับแท่นศิลาอย่างหนัก ถึงขั้นกลิ้งกับพื้นไปหลายรอบ
เขาลุกขึ้นจากพื้นด้วยความซมซาน และมองไปที่เจียงหลีด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
เจียงหลีลงมาจากแท่นศิลาบอกอาณาเขตอย่างแผ่วเบา ไขว้มือไว้ด้านหลัง และเดินไปทางเฉียนลี่
อย่างสบายอกสบายใจ “เนื่องจากตอนนี้องค์รัชทายาทเป็นเชลยของข้าแล้ว โปรดกลับค่ายกับข้าในฐานะแขกเถิด”
เขาเอ่ยยิ้มเยาะตัวเองว่า “เจ้าจับข้าไว้ จะสามารถข่มขู่เสด็จพ่อข้าได้อย่างนั้นหรือ”
เจียงหลีส่ายศีรษะ “ข้ามิได้โง่เขลาเช่นนั้น ตอนอยู่ที่ซีเฉียน ข้าเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าระหว่างองค์รัชทายาทกับองค์ชายรองมีแค่เพียงใดในหัวใจของฮ่องเต้ซีเฉียน หากวันนี้คนที่ข้าจับได้คือเฉียนจวิ้น ฮ่องเต้ซีเฉียนคงจะไถ่ตัวเขากลับไปเป็นแน่ แต่ตอนนี้ข้าจับท่านมาได้…”
นางยังไม่ทันพูดจบประโยค ก็ได้เผยรอยยิ้มอย่างเย้าแหย่ออกมาก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านี้ได้ทิ่มแทงหัวใจของเฉียนลี่อย่างรุนแรง
แน่นอน! เสด็จพ่อของเขาอยากให้เขาตายในเร็ววันมากกว่า จะได้หลีกทางให้กับบุตรชายอันเป็นที่รักของเขา
เจียงหลียิ้มอย่างมีเลศนัยและสั่งการไปทางซ้ายขวา “ถอยทัพ เชิญองค์รัชทายาทซีเฉียนกลับค่ายในฐานะแขก”
พอพูดถึงตรงนี้ นางก็หันหลังเดินจากไป
สิ่งที่เกิดขึ้นบนสนามรบแห่งนี้ ดูเหมือนจะอยู่ภายใต้การควบคุมของนางและดำเนินไปตามที่นางต้องการทั้งหมด
…
เฉียนลี่ถูกนำตัวกลับไปที่ค่ายของอาณาจักรจยาเซียน ถึงขั้นถูกส่งตัวไปยังที่พักหลักของเจียงหลี
“เจ้าต้องการทำอะไร” เขามองไปที่หญิงสาวที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าอย่างระมัดระวัง
ครั้งหนึ่ง เขาเคย “เชิญ” นางเข้าพบและสมคบคิดการใหญ่ แต่สุดท้ายก็ถูกนางปฏิเสธ เมื่อพบกันใหม่อีกครั้ง นางได้กลายเป็นองค์ราชาปกครองใต้ฟ้า แต่เขากลับกลายเป็นเชลยของนาง
“แน่นอนว่าเป็นการซื้อขายที่เราทั้งสองต่างได้ผลประโยชน์” เจียงหลีพูดอย่างตรงไปตรงมา
ซื้อขายหรือ
เฉียนลี่หรี่ตามองไปที่นาง ซึ่งขณะนี้เจียงหลีดูเหมือนผู้หญิงที่มีเสน่ห์ยั่วยวนในสายตาของเขา นางสวยกว่าเมื่อก่อนมาก สวยมากจนเหมือนโดนสะกด เย้ายวนใจ และงดงามเป็นที่สุด แววตาที่ก้าวร้าวของเฉียนลี่ค่อยๆ ปรากฏขึ้น
ดูเหมือนหลังจากแน่ใจแล้วว่าเจียงหลีจะไม่ฆ่าเขา สัญชาตญาณของเขาจึงเริ่มปรากฏอีกครั้ง
โดยเฉพาะคำพูดทุกคำของนาง ล้วนดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังเวทย์มนตร์ที่ทิ่มแทงหัวใจเขาและกระตุ้นความปรารถนาอันแรงกล้าในส่วนลึกของหัวใจเขา
“องค์รัชทายาทมิใช่ต้องการครองบัลลังก์ของซีเฉียน ต้องการให้องค์ชายรองที่ได้รับความโปรดปรานมากกว่าท่านคุกเข่าแทบเท้าและขอความเมตตาจากท่าน ต้องการให้ฮ่องเต้ซีเฉียนรู้ว่าท่านเป็นผู้เหมาะสมที่จะเป็นองค์รัชทายาทมากที่สุด ไม่ใช่หรือ” เสียงของเจียงหลีดังขึ้นภายในที่พักของนาง
“ใช่…” ดวงตาของเฉียนลี่เต็มไปด้วยเงาของเจียงหลีและอดไม่ได้ที่จะพูดความในใจออกมา