คำตอบของเฉียนลี่ทำให้ระหว่างคิ้วของเจียงหลีเต็มไปด้วยความสุข
นางพูดต่อ “หากเป็นเช่นนี้ ทำไมท่านไม่ร่วมมือกับข้าเล่า” ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร สงครามก็นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งในแง่ของชีวิตและทรัพย์สินกันทั้งนั้น
การบุกโจมตีซีเฉียนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่นางต้องทำคือสูญเสียให้น้อยที่สุด
อืม นี่คือ…คำสอนจากลู่เจี้ย
แน่นอนว่าจักรพรรดินีฉลาดยิ่งนัก เพียงนิดเดียวก็สามารถเข้าใจได้แล้ว!
“ร่วมมืออย่างไร” ดวงตาของเฉียนลี่สว่างขึ้น แต่ร่างอันน่าหลงใหลในดวงตาของเขา อย่างไรก็ลืมไม่ลง
เขาเคยเสนอให้เจียงหลีแต่งงานกับตน แต่เวลานั้นทำไปเพื่อบัลลังก์และใต้หล้า
แต่บัดนี้ หากเสนอเรื่องแต่งงานอีกครั้ง เขารู้สึกว่าเขาจะทำเพื่อผู้หญิงคนนี้! ผู้หญิงคนนี้สามารถทำให้ผู้ชายคลั่งไคล้และหลงใหล
“ข้าสามารถช่วยให้ท่านขึ้นสู่บัลลังก์แห่งซีเฉียนและกำจัดเสี้ยนหนามของท่านได้” เจียงหลีหันกลับมาเอ่ยกับเขา
ดวงตาของเฉียนลี่หดลงเล็กน้อยและพยายามดึงตัวเองออกจากความงามของนาง “เจ้าจะช่วยข้าหรือ” เขาถามอย่างสงสัย
เจียงหลีพยักหน้า
เฉียนลี่ยิ้มและมองไปที่นางอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้าช่วยข้า อยากได้ประโยชน์อะไร หากเจ้าต้องการให้อาณาจักรซีเฉียนสวามิภักดิ์ต่ออาณาจักรจยาเซียนก็หยุดพูดเสียเถิด”
“ข้าไม่ได้ต้องการให้อาณาจักรซีเฉียนสวามิภักดิ์” เจียงหลีพูดด้วยรอยยิ้ม โดยสิ่งที่นางต้องการคือไม่มีอาณาจักรซีเฉียนบนโลกแห่งนี้
เฉียนลี่ขมวดคิ้ว “แล้วเจ้าต้องการอะไร ในเมื่อจะร่วมมือกัน ก็ต้องมีสิ่งที่เจ้าอยากได้”
แต่เจียงหลีกลับแบมือและนั่งลงอย่างเกียจคร้าน ปล่อยให้ร่างกายที่น่าหลงใหลปรากฏต่อหน้าเขา “ข้าเป็นผู้หญิงและใจแคบนัก ฮ่องเต้ซีเฉียนและเฉียนจวิ้นทำให้ข้าคับแค้นใจ แค้นนี้ติดอยู่ในใจข้าเสมอ ข้าช่วยท่าน เพราะว่าเราบังเอิญมีศัตรูคนเดียวกันเท่านั้น อีกอย่าง ข้าจะไม่ช่วยเจ้าเปล่าๆ ค่าชดเชยอะไรเหล่านี้ ข้าไม่อยากพูดถึงแล้ว เมื่อบรรลุเป้าหมาย ข้าต้องการทรัพยากรการฝึกฝนของอาณาจักรซีเฉียนครึ่งหนึ่ง” นางยักคิ้ว
แววตาของเฉียนลี่ประดุจมีดแหลมคมและคว้านร่างของนางสองถึงสามครั้งอย่างละโมบ เขาค่อยๆเดินเข้าไปหานางและถามกับตัวเองว่า ทำไมครั้งที่แล้วที่พบเจอกัน นางมิได้น่าหลงใหลเท่ากับครั้งนี้เล่า
“ครึ่งหนึ่งของทรัพยากรการฝึกฝนรึ เจ้าช่างโลภมากเสียจริง” เฉียนลี่ยืนอยู่ตรงหน้าเจียงหลี พร้อมกับจดจ้องนางขึ้นลงไปมาอย่างไร้ความเกรงใจ
ซึ่งตอนนี้เจียงหลีจะไม่รู้สึกถึงแววตาเช่นนั้นได้อย่างไร
นางยิ้มอย่างเย็นชาและพูดกับเฉียนลี่ว่า “หากองค์ชายไม่สามารถควบคุมแววตาที่ไร้มารยาทคู่นั้นได้ ข้าคงต้องควักมันออกมาด้วยตัวเอง”
ดวงตาของเฉียนลี่เป็นประกาย และนึกถึงความแข็งกร้าวของหญิงสาวก่อนหน้านี้ ดวงตาก็หรี่ลงเล็กน้อย แต่ปากยังขยับอย่างกล้าหาญ “เจ้าอยากได้ทรัพยากรการฝึกฝนของอาณาจักรซีเฉียน อันที่จริงแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำมันให้ซับซ้อนเช่นนั้น ขอเพียงแค่เจ้าแต่งงานกับข้า ทั้งบัลลังก์ซีเฉียนและทรัพยากรการฝึกฝน ล้วนเป็นของเจ้ากับข้าทั้งหมด”
“องค์รัชทายาทต้องการแต่งงานกับข้ามากขนาดเช่นนี้ ไม่กลัวว่าวันหนึ่งเมื่อท่านตื่นจากความฝัน จะพบว่าถูกสังหารด้วยการตัดศีรษะหรอกหรือ” เจียงหลียิ้มอย่างประชดประชัน
“เป็นผีเจ้าชู้ก็ไม่เลวเลย” เฉียนลี่ยื่นมือออกไปและพยายามจับมือเล็กๆ ของเจียงหลี
หลังจากนั้น เมื่อดวงตาที่เย็นชาของเจียงหลีจดจ้องไปที่หลังมือของเขา เขากลับดึงมือกลับประดุจถูกเข็มทิ่มแทงก็ไม่ปาน
“องค์รัชทายาทฟังวิธีของข้าก่อน หากท่านไม่เห็นด้วย เห็นทีข้าคงต้องส่งท่านนำหน้าไปก่อนแล้ว” เจียงหลีหัวเราะเยาะ
เมื่อเฉียนลี่ได้ยินคำขู่ภายในคำพูดนั้น ดวงตาของเขาหรี่ลงและพูดกับเจียงหลี “ข้าจะรอฟัง”
เจียงหลีหรี่ตาลงเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สังหารฮ่องเต้ซีเฉียน โยนความผิดให้เฉียนจวิ้น ท่านขึ้นครองราชย์ในฐานะองค์รัชทายาท แขวนคอองค์ชายรองกับบริวาร และนับจากนั้นเป็นต้นไป ท่านก็คือฮ่องเต้แห่งซีเฉียน”
ดวงตาของเฉียนลี่หดตัวและมองไปที่เจียงหลีด้วยความตกใจ
แผนการของนาง ช่างกล้าหาญและบ้าคลั่งอย่างมาก ซึ่งทำให้คนต้องการทำตามสิ่งที่นางพูดโดยไม่ยั้งคิด
“ฆ่าพ่อ! ” เฉียนลี่กัดฟันและกลั่นคำพูดทั้งสองพยางค์ออกมาจากช่องระหว่างฟัน
“ผิดแล้ว” เจียงหลีค่อยๆ โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อแก้ไขคำพูดของเขา “ผู้ที่ฆ่าพ่อคือเฉียนจวิ้น ส่วนท่านคือผู้ชำระแค้นให้แก่เสด็จพ่อ และเป็นฮ่องเต้ผู้ผดุงซึ่งคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สามารถลงโทษได้แม้จะเป็นญาติมิตร”
ดวงตาของเฉียนลี่วูบไหวเล็กน้อยและปรากฏร่องรอยของการต่อสู้
เจียงหลีโค้งริมฝีปากขึ้นและล่อใจเขาต่อไป “ลองคิดดูสิว่าราชวงศ์ซีเฉียนรังเกียจท่านเช่นไร เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกชายเหมือนกัน แต่กลับมอบความรักทั้งหมดให้กับเฉียนจวิ้น ซึ่งแม้แต่ตำแหน่งองค์รัชทายาทของท่านก็ต้องการเอาคืนและมอบให้กับเฉียนจวิ้น มีสิทธิอะไร เพราะท่านไม่สูงส่งเท่าเฉียนจวิ้นหรือ ขณะที่เฉียนจวิ้นได้รับความรัก ความเอ็นดูจากฮ่องเต้ซีเฉียนเพียงผู้เดียว และไม่เคยเห็นพี่ชายอย่างท่านอยู่ในสายตา ท่านต้องการบัลลังก์ เขาก็ต้องการบัลลังก์เช่นกัน แต่บัลลังก์มีเพียงหนึ่งเดียว เวลานี้ท่านใจอ่อน วันข้างหน้า หากเขาได้รับโอกาส เขาจะไว้ชีวิตท่านหรือ”
เสียงของเจียงหลียังคงดังก้องในหูเฉียนลี่
ทุกคำพูด ชักนำเขาให้ถลำลึกลงไปเรื่อยๆ
ใช่! พวกเขาเคยเห็นข้าอยู่ในสายตาที่ไหน ทุกคนต่างมองว่าข้าเป็นเหมือนหนามยอกอก ข้าแค่ปกป้องตัวเอง และไม่ยอมตายอย่างไม่เป็นธรรม แววตาของเฉียนลี่เริ่มหนักแน่นและดุร้าย
เขาเงยหน้าขึ้นมองเจียงหลีและถามอย่างเคร่งขรึม “มียอดฝีมืออยู่ข้างกายเสด็จพ่อมากมาย จะลอบสังหารไม่ง่ายเลย ยิ่งไปกว่านั้น ข้าอยู่ชายแดน แม้ว่าจะทำสำเร็จ ด้วยความโหดเหี้ยมของเฉียนจวิ้น เขาคงฉวยโอกาสแย่งชิงบัลลังก์เป็นแน่ ถึงตอนนั้น ข้าลำบากแทบตาย สุดท้ายกลับต้องยกประโยชน์ให้เขาไปเสียเฉยๆ”
เจียงหลีเอนหลังพิงเก้าอี้อีกครั้งและยิ้มอย่างเกียจคร้าน “องค์รัชทายาทยังคงไร้เดียงสาเกินไป!”
เฉียนลี่ขมวดคิ้ว “เจ้าหมายความว่าอะไร”
“ฮ่องเต้ซีเฉียนระวังคนนอกเท่านั้น จะระวังลูกชายสุดที่รักของตนหรือ ให้วางยาในนามของเฉียนจวิ้น เรื่องนี้ก็จะง่ายขึ้นมาก และข้าจะมอบชัยชนะให้กับท่าน ให้ท่านกลับเมืองอู๋อิ๋นอย่างสง่างาม เมื่อองค์ชายรองเห็นว่าท่านสร้างความดีความชอบทางการทหาร ต้องกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการของเขาในการแย่งชิงบัลลังก์ จึงลอบวางยาฮ่องเต้ซีเฉียน และต้องการฉวยโอกาสสังหารท่านหลังจากกลับไปเป็นแน่ แล้วค่อยขึ้นครองราชย์ ขณะที่ท่านรู้ทันแผนการลอบสังหารนี้ แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยชีวิตฮ่องเต้ซีเฉียน แต่ท่านก็ได้สังหารฆาตกรเพื่อชำระแค้นให้แก่เสด็จพ่อของตน และขึ้นครองบัลลังก์อย่างไร้คำครหา” เจียงหลียิ้มพลางมองไปที่เขา
ความตกใจในใจของเฉียนลี่ราวกับว่ามีอำนาจและอภิสิทธิ์มหาศาล
เขาเพียงมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าที่พูดถึงกลอุบายอย่างสนุกสนาน ความคิดในใจจึงผุดขึ้น หากได้หญิงผู้นี้มาครอบครอง คงได้ทุกสิ่งในใต้หล้า
“ดึกแล้ว องค์รัชทายาทกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด และลองคิดทบทวนข้อเสนอของข้าดู ข้าช่วยท่านวางแผนทั้งหมดเพื่อแลกกับทรัพยากรการฝึกฝนของราชวงศ์เพียงครึ่งเดียว ซึ่งถือว่าเป็นการซื้อขายที่ทั้งขายและทั้งแถม พรุ่งนี้เช้าท่านค่อยให้คำตอบข้า” เจียงหลีผายมือเป็นการแสดงว่าส่งแขก
แต่ทว่าเมื่อเห็นท่าทางอันน่าหลงใหลของนาง เฉียนลี่กลับก็ไม่อยากเดินจากไป
แน่นอนว่าสำหรับเจียงหลีแล้วจะอยู่หรือไป ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เขา
จนท้ายที่สุด เจียงเฮ่าผู้มีสีหน้าเย็นชาได้เชิญเฉียนลี่ออกไป
ทันทีที่เขาเดินออกไป ที่พักเพิ่งจะกลับสู่ความเงียบสงบ เจียงหลีก็รู้สึกว่ามีเงาอยู่เหนือศีรษะ นางเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ ซึ่งความระมัดระวังและความแหลมคมในดวงตาของนางได้หายไปในทันทีเมื่อนางเห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน นางจึงพูดอย่างประหลาดใจว่า “ท่านอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
มหาเทพตี้จวินไม่สนใจกับความประหลาดใจของนางและมองออกไปนอกที่พักอย่างไร้ความรู้สึก จากนั้นก็หันกลับมาจ้องมองเจียงหลีพลางพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “เขาคิดไม่ซื่อกับเจ้า”