บทที่ 192 ในที่สุดเธอก็ยังมีชีวิตอยู่

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ส่วนชินจัง
กลับไม่พูดสักคำ เขาก้าวเท้าเล็กๆวิ่งไปที่ครัวหยิบนมวัวกล่องหนึ่งให้หม่ามี๊ และติ่มซำสองอันที่พี่ภาเพิ่งทำออกมา
เด็กไม่กี่คนนี้ ต่างรักหม่ามี๊ของพวกเขามาก
ดังนั้นตอนเย็นวันนี้ทั้งสี่คนแม่ลูกจึงเล่นอยู่ในสวนนานมาก……
แสนรักกลับมาประมาณห้าโมงกว่า เวลานี้ ยากที่จะมีแสงแดดออกมา แต่แสงระเรื่อยังไม่จางออกไป ดังนั้นพอเขาเข้ามาแล้ว ก็เห็นฉากเช่นนี้——
ช่วงเย็นของพระอาทิตย์ตก แสงพระอาทิตย์ตกระเรื่อๆที่สีแดงจางๆสาดเข้าไปในสวน เหมือนกับเส้นด้ายนีออนที่สวยงาม สวยงามอย่างมาก ในชั้นของเส้นด้ายนี้ เด็กๆที่แสนน่ารัก เหมือนกระต่ายน้อยอันคล่องแคล่ว พวกเขาวิ่งไล่กันอย่างรวดเร็วที่ใต้ร่มเงาต้นไม้ วิ่งเล่นไป ก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขตลอดเวลา
ส่วนผู้ใหญ่ล่ะ?
กลับนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวเงียบๆ เธอผมยาวคลุมไหล่ บนตัวคลุมเสื้อคลุมสีกากีตัวหนึ่งไว้ นิ่งสงบสวยงาม
น่าจะเป็นเพราะว่าป่วยหนัก เลยไม่มีจิตใจเล่นเกมกับพวกเด็กๆ
แต่ว่า เธอมองใบหน้าพวกเขาอย่างอ่อนโยน มุมปากมีรอยยิ้มแฝง ที่ทำให้คนเห็นแล้วมองเห็นถึงความสุขของเธอ และความมีชีวิตชีวาบนตัวเธอ
ในที่สุดก็ยังมีชีวิตอยู่?
แสนรักเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้เดินไปที่คฤหาสน์อีก แต่มาในสวน
ไม่กี่นาทีถัดมา เส้นหมี่ที่กำลังมองเด็กอย่างสนุกสนาน จู่ๆก็รู้สึกว่าเก้าอี้ด้านข้างมืดลง หันหน้าไปมอง ทันใดนั้น ดวงตาสีแอปริคอตที่เพิ่งฟื้นคืนมาก็เบิกโต!
“คุณ——”
“เพิ่งดีขึ้นหน่อยก็ออกมาตากลม ยังป่วยไม่พอใช่ไหม?”
แสนรักโยนกุญแจ โทรศัพท์ โน้ตบุ๊กในมือ ไปบนโต๊ะหินข้างหน้า เสียงที่ทุ้มและดึงดูดนั้น ไม่น่าฟังเท่าไหร่เช่นเมื่อก่อน
เมื่อคืนเขาน่าจะไม่ได้นอน
วันนี้เช้าก็ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อจัดการเรื่องราวเหล่านี้ ไปบริษัทกับโรงพักไม่ได้หยุด
แต่ยัยตัวแสบนี่ดูสิ ดันออกมาตากลมเย็นๆเสียได้?เธอรู้ไหมว่าเมื่อคืนเขาลำบากแค่ไหน?
เส้นหมี่กลืนน้ำลาย
ผู้ชายคนนี้กลับมากะทันหันไป เธอไม่ได้เตรียมใจเลย
นี่เขา……กำลังใส่ใจเธออยู่เหรอ?
เธอละสายตากลับไปอย่างตื่นตระหนกทันที ใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่ ติ่งหูของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมา
“ไม่……ไม่ใช่ เด็กๆอยากลงมาเล่น ฉันเลยลงมาเป็นเพื่อนพวกเขา”
เธออธิบายอย่างตะกุกตะกัก นานมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ดูกังวลใจและไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดีต่อหน้าเขา
ริมฝีปากบางๆของแสนรักแสยะยิ้ม
เขาก็มองไปที่เด็กๆที่กำลังเล่นอยู่ข้างหน้า ยกขาเรียวยาวขึ้นมา นั่งไขว่ห้างไปด้านซ้ายอย่างสบายๆ ดูดีและสูงส่ง ส่วนมุมปากเขายกขึ้นมาเล็กน้อย
มองออกว่า ตอนนี้อารมณ์ของเขาก็ไม่แย่
“ผมคุยกับทางโรงเรียนอนุบาลแล้ว ตอนนี้ก็ใกล้จะปิดเทอมฤดูหนาวแล้ว ต่อไปพวกเขาก็ไม่ต้องไปแล้ว คุณอยู่บ้านเลี้ยงพวกเขาดีๆก็พอ”
“อ๋า?”
เส้นหมี่จ้องไปที่เขาด้วยตาโตๆอีกครั้ง:“ฉันอยู่ดูพวกเขาที่บ้าน?แล้วงานของฉันล่ะจะทำไง?ฉันยังต้องทำงานนะ”
“โรงพยาบาลเก่าๆนั่นมีอะไรให้ไปทำงานอีก?เกือบจะเอาชีวิตเข้าไปแลกแล้ว ยังขาดทุนไม่พอเหรอ?”
แสนรักไม่ไว้หน้าเลยสักนิด เยาะเย้ยขึ้นมาทันที!
เส้นหมี่ได้ยิน หน้าซีดขาวนั้นก็เปลี่ยนไปอย่างทันทีทันใด!
พอตระหนักได้ก็จะตอบโต้กลับ แต่พอเธอหันหน้าไป ก็เห็นสีหน้าเหนื่อยล้าบนใบหน้าเขา และตาที่แดงก่ำเล็กน้อย ทันใดนั้น เธอก็กล้ำกลืนคำนั้นลงไปอย่างเงียบๆทันที
“เข้าใจแล้ว”
เธอหันหน้ามองไปอีกด้านด้วยความน้อยใจ
ริมฝีปากบางๆอันเซ็กซี่ของเขาก็ยิ่งยกขึ้นไปอีก
ไม่กี่นาทีถัดมา น่าจะเห็นแด๊ดดี้ พวกเด็กๆจึงวิ่งเข้ามาจากสวน
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้กลับมาแล้ว!”
คนแรกที่วิ่งเข้ามา แน่นอนว่าเป็นคุณชายคิว เพราะว่าครั้งนี้แด๊ดดี้พูดคำไหนคำนั้น เขามีความสุขมาก และก็เต็มใจมากที่จะเข้าไปหาอ้อมกอดแด๊ดดี้อีกครั้ง
แสนรักกอดเขาไว้ แล้วบีบจมูกเล็กของเขา
“อือ กลับมาแล้ว วันนี้คิวคิวได้ทำเรื่องที่แด๊ดดี้สั่งลูกไว้ไหม?”
“ทำสิครับ พวกเราดูแลหม่ามี๊อย่างดี ไม่ให้หม่ามี๊ออกไปไหน แต่ว่าแด๊ดดี้ ตอนบ่ายพอหม่ามี๊รู้ว่าแด๊ดดี้ออกโรงเพื่อหม่ามี๊ ก็ร้องไห้ตรงหน้าทีวีอยู่นาน!”
“อิคคิว!!ลูกพูดอะไรน่ะ?!”
เส้นหมี่คิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายแล้วเด็กแสบที่เลี้ยงจนโตกับมือมานี้ จะแฉเธอเสียได้!!
ดวงตาพระจันทร์เสี้ยวเล็กๆคู่นั้นของคุณชายคิวก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาทันที
“หม่ามี๊ อย่าโกรธสิ เรื่องพวกนี้ ควรจะบอกแด๊ดดี้นะ ไม่อย่างนั้นแด๊ดดี้ทำให้ตั้งเยอะ แต่ไม่รู้ว่าหม่ามี๊คิดอย่างไรเนี่ยนะ?แด๊ดดี้คงเสียใจแย่?”
“เห็นด้วยครับ!”ชินจังก็พูดสั้นๆอย่างกระชับไปด้วย
เส้นหมี่แทบจะระเบิดออกมา!
พอจ้องมองชายหนุ่มด้านข้างที่มองเธอเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้มแล้ว เลือดทั้งตัวก็พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นหน้าเล็กๆของเธอก็แดง“พึ่บ”ขึ้นมา จนแทบอยากจะหารูมุดเข้าไป!
“พวกลูกนี่……หม่ามี๊ไม่คุยกับพวกลูกแล้ว……”
เธอทั้งอายทั้งโกรธ หลังจากยืน“พึ่บ”ขึ้นมาแล้ว ก็วิ่งออกไปทันที
โตมาขนาดนี้แล้ว ไม่เคยขายหน้ามาขนาดนี้ก่อนเลย
พวกเด็กตัวแสบทรยศนี่!