ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 247
เหล่าไท่จวินเองก็เอ่ยว่า “ถูกแล้ว แบบนี้ก็ออกจะเกินไป”
เหล่าไท่จวินเมื่อเห็นว่าทั้งสองขุ่นเคือง ก็ร้อนรนตามไปด้วย
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยออกมาอีกว่า “ช่างเถอะ ไม่ต้องพูดถึงแล้ว ที่นี่คนเยอะ พวกเราไปนั่งกันที่สวนดอกไม้ด้านหลังกันเถอะ หม่อมฉันเลี้ยงแมวไว้ตัวนึง น่ารักมากเพคะ ไปดูกัน? ”
ชุยไท่เฟยชอบแมวมากที่สุด ได้ยินคำของฮูหยินผู้เฒ่าว่าเลี้ยงแมวไว้ จึงอยากจะไปดู “ดีเหมือนกัน ที่นี่คนเยอะเสียงดัง ไปดูแมวกันเถอะ”
ฮูหยินหลิงหลงเตรียมการไว้แล้ว เมื่อพบเฉินเอ้อร์แล้ว ” ฮูหยิน!” เฉินเอ้อร์มักจะมาที่จวนบ่อย ๆ ดังนั้นคนในจวนจึงต้อนรับเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ฮูหยินหลิงหลงมักจะให้ไปทำธุระให้ เพราะเฉินเอ้อร์รู้จักคนกว้างขวาง แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังชื่นชอบ
ฮูหยินหลิงหลงเหลือบมองเขา “อีกครู่รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร? ”
เฉินเอ้อร์เผยรอยยิ้ยมออกมา “รู้แล้ว รู้แล้ว แต่หลังจากงานนี้จบแล้วนั้น เรื่องที่เจ้ารับปากข้าไว้จะต้องสำเร็จ”
“เจ้าวางใจได้ นายท่านจะต้องให้เงินงวดสุดท้ายแก่เจ้าแน่ แต่เจ้าต้องทำงานนี้ให้เรียบร้อย ไม่งั้น เงินที่เจ้ากินเข้าไปแล้วก็ต้องคายออกมา” ฮูหยินหลิงหลงเอ่ยเสียงเย็น
นางหมดความอดทนกับเฉินเอ้อร์ไปแล้ว เขาเรียกร้องเยอะเกินไป แต่ที่จำต้องเก็บเขาไว้นั้น เพราะเรื่องสกปรกหลายเรื่องที่มิอาจออกหน้าได้นั้น จะต้องมีคนนอกจวนคอยช่วยจัดการให้ แต่หลังจากที่คิดคำนวณจากครั้งที่แล้วนั้น เขาเอาเงินสามวันครั้ง สองวันครั้งเข้าไปแล้ว
เฉินเอ้อร์กล่าว “เขาทำกับหยวนซื่อได้เยี่ยงนี้ ต่อไปก็สามารถทำกับเจ้าได้ ยังไงก็ระวังตัวไว้หน่อย วันนึงสามีภรรยาอาจจะเป็นอื่น อย่ามาโทษว่าข้าไม่ได้เตือนเจ้านะ”
ฮูหยินหลิงหลงเร่งรีบมองไปทั้งสี่ทิศ หน้าเปลี่ยนกระซิบ “เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วรึ? หากยังให้ข้าได้ยินเจ้าพูดเยี่ยงนี้อีก ต่อไปก็ไม่ต้องมาแล้ว”
เฉินเอ้อร์เอ่ยเสียงเย็น “หวังดีเตือนเจ้า เจ้ากลับไม่ฟังก็แล้วไป”
ฮูหยินหลิงหลงไม่อยากจะคุยกับเขามากนัก ยังไงซะก็มีคนมองดูอยู่มาก โบกมือเอ่ย “พอแล้ว เจ้าไปเถอะ”
ในศาลานั้นจื่ออันมองเห็นเฉินเอ้อร์กำลังพูดคุยอยู่กับฮูหยินหลิงหลง จึงคอยจับตามองทั้งสองคนไว้
หลังจากที่เฉินเอ้อร์จากไปแล้วนั้น นางจึงเอ่ยกับเฉินหลิวหลิ่วว่า “ขอโทษนะ ข้าขอตัวสักครู่!”
เฉินหลิวหลิ่วคิดว่าจื่ออันไม่ชอบที่นางหยาบคาย ไม่ชอบที่จะพูดคุยกับนาง ค่อนข้างผิดหวัง “ตกลง เจ้าไปเถอะ ข้าชินแล้ว”
จื่ออันหันกลับมามองนาง เอื้อมมือออกไป “เจ้ารังเกียจที่จะไปกับข้าไหม?”
จู่ ๆ ใบหน้าของเฉินหลิวหลิ่วก็เบ่งบานราวกับดอกไม้ เหมือนกับจะจับมือของจื่ออันทันทีทันใด “ไม่รังเกียจ”
จื่ออันมองรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง ทำไมถึงได้มีหญิงสาวที่น่ารักเยี่ยงนี้? หากนางเป็นชายแล้ว คงจะอดตกหลุมรักนางมิได้
“จื่ออัน ข้าชอบเจ้ามากจริง ๆ เจ้าไม่เหมือนกับสุนัขอึเหม็นพวกนั้น”
“…” ช่างเถอะ เอาความคิดเมื่อครู่กลับมาก็แล้วกัน
นางมองไปยังเฉินเอ้อร์ที่ใกล้เข้ามา ตั้งใจหันกลับมาพูดคุยกับเฉินหลิวหลิ่ว “ใช่แล้ว หลิวหลิ่ว ปกติแล้วเจ้าชอบเล่นสนุกอะไรกัน?”
นางมิได้ขัดขวางเฉินเอ้อร์เลยแม้แต่น้อย เฉินเอ้อร์มักจะรู้สึกปวดแสบที่แขน เขามองมายังจื่ออัน คำสาบานถูกกลืนลงไป “คุณหนูใหญ่เดินระวังหน่อย อย่าให้ตนเองบาดเจ็บ”
ครั้งก่อนที่จื่ออันช่วยเขานั้น เขาก็รู้ได้ว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ง่ายนัก ดังนั้นจึงมิกล้าจะล่วงเกิน
เขาคลุกคลีมาแล้วหลายปี มองคนจักต้องมองให้ละเอียดรอบคอบ หากว่าครั้งนี้มิใช่ว่าได้เงินเยอะ เขาคงจะมิยินยอมล่วงเกินเซี่ยจื่ออัน
“อืม เร่งรีบจะไปไหนรึ? ” จื่ออันเหลือบมองเขาเบาๆ
“นี่เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าให้ข้าน้อยมาช่วยงาน คุณหนูใหญ่เดินระวัง!” เฉินเอ้อร์มิกล้ามองไปยังนาง เร่งรีบโค้งคำนับเพื่อส่งนาง
จื่ออันก็มิได้พูดอะไรกับเขามากนัก ลากหลิวหลิ่วเดินออกไป
เฉินเอ้อร์มองไปยังด้านหลังของทั้งสอง เอื้อมมือไปสัมผัสแขน “คุณหนูใหญ่ทั้งร่างพกหนามด้วยรึ? ชนแล้วรู้สึกดั่งโดนเข็มทิ่มแทง”
เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยกับจื่ออัน “คนผู้นี้ราวกับมีจุดประสงค์อะไร ต่อไปก็อย่าไปสนใจเขา”
“อืม?” จื่ออันแสร้งทำไม่เข้าใจ “เจ้ารู้จักเขารึ?”