ทุกคนต่างก็พากันรอดู ว่าจะมีใครกล้ามาขอราชาเทพคนใหม่ปรุงยาให้
วันเวลาของหลิวหลีกับหนานกงเวิ่นเทียนผ่านไปด้วยการปรุงยาในบางครั้ง และเจอคนอื่นบ้างในบางครั้ง ช่วงนี้มีคนที่คิดจะกลั่นแกล้งพวกเขา เพียงแต่หนานกงเวิ่นเทียนไม่ได้กินหญ้า เขาจึงจัดการกลับไป คนส่วนใหญ่พกความมั่นใจมา แต่กลับต้องเดินคอตกกลับไป ทุกคนต่างก็คิดว่าผู้ปกป้องคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“น้องพี่ ข้ารู้สึกว่าพวกเราควรจะเข้าฌานได้แล้ว” ไม่มีใครมาขอให้ภรรยาของเขาปรุงยาให้ มีแค่คนแวะเวียนผ่านไปมาเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายอะไร
“รอก่อน น่าจะใกล้แล้ว” หลิวหลีรู้สึกว่าจะต้องมีผู้กล้าปรากฏตัวแน่ แต่ว่า ตัวเองควรจะต้องถ่อมตัวเสียหน่อย
ในวันนี้ หลิวหลีเตรียมที่จะปรุงยา ผลคือมีแขกมาพบนาง
“ที่นี่เป็นที่อยู่ของราชาเทพอัคคีองค์จริงใช่หรือไม่” ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด พูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ใช่แล้ว เจ้าคือ” หนานกงเวิ่นเทียนเข้าใจทันที คนผู้นี้คงเพิ่งเข้าร่วมการประลองมา
“รบกวนราชาเทพอัคคีที่แท้จริงปรุงยาให้ข้าด้วย ส่วนค่าตอบแทน ข้าจะแบ่งชำระได้หรือไม่?”
แบ่งชำระ หลิวหลีมองไปที่คนที่มาอย่างตื่นเต้น หรือจะเป็นคนประเภทเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะใช้คำที่นางรู้สึกคุ้นเคยเช่นนี้ได้อย่างไร แบ่งชำระ
“แบ่งจ่ายหลายรอบ ตอนนี้เงินในกระเป๋าของข้ามีไม่พอ จ่ายครั้งเดียวไม่ได้ดังนั้นรบกวนราชาเทพอัคคีที่แท้จริงช่วยปรุงยาให้ข้าได้หรือไม่ ส่วนค่าตอบแทน ข้าจะแบ่งจ่ายให้” คนที่มาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แจกแจงอย่างชัดเจน
“เจ้าใช้เองหรือ?” หลิวหลีมองคนผู้นั้นแล้วถามขึ้น ไม่จำเป็น ถึงจะมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ชวนให้ตกใจไม่น้อย แต่หากรักษาตัวดีๆ ก็ไม่จำเป็นต้องกินยา
“ไม่ใช่ เป็นน้องชายของข้า ข้ามีนามว่าชวีจิ้ง น้องชายของข้ามีนามว่าชวีคัง คนที่ได้รับบาดเจ็บคือน้องชายของข้า ชวีคัง แพ้การประลองมา ถึงแม้จะบอกว่าไม่ว่าจะเป็นตาย แต่ข้ามีน้องชายเพียงคนเดียว ประคับประคองกันมาจนถึงตอนนี้ ราชาเทพอัคคีที่แท้จริงได้โปรดเมตตา ช่วยเหลือด้วย” ชวีจิ้งพูดด้วยท่าทีอ้อนวอน
“ได้ ไม่จำเป็นต้องแบ่งชำระหรอก เห็นแก่ความรักที่เจ้ามีต่อน้องชาย เจ้านำยาเม็ดนี้กลับไปรักษาเขาก่อน แล้วค่อยกลับเล่าบอกอาการบาดเจ็บของเขาโดยละเอียด” หลิวหลีไม่มีทางบอกว่าให้ไปเพราะชื่อของพวกเขาเป็นแน่
“ขอบคุณท่านมาก” ชวีจิ้งรับยามาด้วยมือสั่นเทา แล้วก็รีบจากไปในทันที เห็นได้ชัดว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีที่มีความรักและเอ็นดูต่อน้องชาย
“พี่ใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง” หญิงสาวผู้หนึ่งถามขึ้นอย่างร้อนรน หญิงสาวนางนั้นคือ หยวนโหรวภรรยาของชวีคัง ถึงแม้จะไม่ใช่ราชาเทพ แต่นางก็ติดตามสองคนนี้มาด้วย มีสิทธิพิเศษแบบนี้ เพียงแต่พวกหลิวหลีไม่รู้เท่านั้นเอง
“ราชาเทพอัคคีองค์จริงมอบยาศักดิ์สิทธิ์ให้ข้า 1 เม็ด บอกให้ข้ารักษาอาการของอาคังก่อน แล้วค่อยว่ากัน” ชวีจิ้งนำยาออกมา ไม่สนใจหยวนโหรวที่ดูเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็เงียบไปแล้วป้อนยาให้ชวีคัง
เมื่อเห็นว่าอาการบาดเจ็บของชวีคังดีขึ้น เขาก็โล่งใจแม้ว่าน้องชายจะยังไม่ฟื้นก็ตาม
“พี่ใหญ่ ราชาเทพอัคคีองค์จริงเชื่อถือได้หรือไม่ หากไม่ไหวจริงๆ ข้ายอมพลีกายให้กับนักปรุงยาเจียงหวายก็ได้” หยวนโหรวแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย เสมือนหนึ่งพร้อมยอมเสียสละ
“ทำไม รังเกียจน้องชายข้าแล้วหรือ เจ้าก็รู้ดีว่าทำไมน้องชายข้าถึงเป็นเช่นนี้ ยังจะกล้าพูดแบบนี้อีก คงจะพอใจกับคำสัญญาที่เจียงหวายให้ไว้ล่ะสิ หน้าตาแบบเจ้า ข้ารับรองได้ว่าผ่านไปไม่นานเจียงหวายก็เบื่อเจ้าแน่ นึกว่าตัวเองเป็นสาวงามที่ทุกคนต้องแย่งชิง คิดว่านี่เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่มากล่ะสิ” ชวีจิ้งพูดตอกกลับอย่างไม่เกรงใจ เขาไม่ชอบน้องสะใภ้คนนี้มาตั้งแต่แรก รู้สึกว่านางมีจุดประสงค์อื่น คาดว่าพอมาถึงที่เขาเทพกับพวกเขา ใจก็คงจะไม่ได้อยู่กับพวกเขาแล้ว
“พี่ใหญ่ ในเมื่อท่านพูดแล้ว ข้าก็จะไม่เกรงใจ ใช่ ข้าอยากมาที่ภูเขาเทวาน้องชายที่โง่เขลาของเจ้าให้โอกาสนี้กับข้า ตอนนี้ข้ามีทางที่ดีกว่า ใครจะทนอยู่ในสถานที่แย่ๆของพวกเจ้า แต่ข้าก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักบุญคุณคน ข้าไปอยู่กับนักปรุงยาเจียงหวายแล้ว ข้าจะขอให้เขาปรุงยาให้ชวีคัง ถือเสียว่าเป็นการจบความสัมพันธ์สามีภรรยาของเรา” หยวนโหรวไม่เสแสร้งอีกต่อไป และเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา
“เจ้า หลงระเริงกับชื่อเสียงเกียรติยศ น้องชายข้าเคยทำอะไรผิดต่อเจ้าหรือ” ชวีจิ้งโมโหอย่างมาก น้องชายเขาเกือบตายเพราะผู้หญิงคนนี้ แต่นางกลับใจดำอำมหิต ถึงขนาดคิดจะทิ้งอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดาย
“ไม่ได้ทำ แต่ว่าคนเดินขึ้นที่สูง น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ ชวีจิ้งเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจแทนน้องชายของเจ้า” หยวนโหรวถูปลายผมไปมา
“พี่ข้าไม่มีสิทธิ์ แต่ข้ามี เจ้าไปเถอะ คิดเสียว่าข้าตาบอด ต่อไปนี้เจ้าเดินทางของเจ้า ข้าก็เดินทางของข้า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นตายร้ายดี ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าชวีคังอีกต่อไป”
“อาคัง เจ้าฟื้นแล้ว” ชวีจิ้งประหลาดใจน้อยๆ น้องชายของเขาฟื้นแล้ว ราชาเทพอัคคีที่แท้จริงไม่ธรรมดาจริงๆ ดูท่าแล้วเขาไปหาไม่ผิดคนจริงๆ
“พี่ใหญ่ ให้ผู้หญิงคนนั้นไปเถอะ ในเมื่อใจเจ้าไม่ได้อยู่กับข้า ฝืนไปก็เท่านั้น แล้วยังทำให้พวกเราสองพี่น้องไม่สามารถอยู่ได้อย่างสงบสุข หยวนโหรว เจ้าไปเถอะ ออกไปจากที่นี่ เจ้าไม่ใช่ภรรยาของข้าชวีคังอีกต่อไป” ชวีคังกำมือพูด
“ขอบคุณมาก” หยวนโหรวพูดจบ ก็เดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย
ชวีคังน้ำตาไหลอาบแก้ม เขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ผู้หญิงคนนี้กลับจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปคนเดียว ไม่ดูแลเขา เขาเป็นคนที่มีตาก็เหมือนไม่มีจริงๆ
“พี่ใหญ่ ข้าดูคนไม่ออก ไม่ฟังคำเตือนของท่าพี่ ทำให้ทั้งท่านและตัวข้าต้องลำบาก” ตอนนี้ชวีคังรู้สึกผิดกับพี่ชายคนนี้เป็นอย่างมาก
“พวกเราเป็นพี่น้องกัน ไม่ต้องพูดอะไรแบบนี้หรอก ผู้หญิงคนนั้นไปก็ดีแล้ว แบบนี้เจ้าก็จะได้ตั้งใจบำเพ็ญฝึกฝน รักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง นางคงคิดว่าตัวเองจะได้ไปสวรรค์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปลงนรก มีความสุขอยู่ตรงหน้าไม่รู้จักรักษาไว้ ผู้หญิงคนนั้นช่างไร้วาสนาจริงๆ” ชวีจิ้งกล่าว
“พี่ใหญ่ ท่านรู้อะไรมาใช่หรือไม่” ชวีคังกล่าวถาม
“เคยได้ยินมาว่า นิสัยของราชานักปรุงยาเจียงหวายแตกต่างจากฝีมือการปรุงยาของเขาเป็นอย่างมาก ปรุงยาพอใช้ได้ แต่นิสัยแย่มาก บ้าผู้หญิง แต่แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานก็จะเริ่มรู้สึกเบื่อ หากไม่ส่งต่อให้คนอื่น ผู้หญิงพวกนั้นก็จะกลายเป็นสาวใช้ หยวนโหรวหน้าตาเช่นนั้นคาดว่าคงจะไม่นาน” ชวีจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น และไม่ปกปิดสายตาเย็นชาที่ฉายชัดในดวงตา น้องชายของข้าเกือบจะมองหน้ากับพี่ใหญ่ของเขาไม่ติดเพื่อเจ้า เจ้าผู้หญิงคนนี้ยังไม่เห็นค่า สมแล้วที่จะต้องเจอแบบนั้น
“เหอะๆ นางหาเรื่องใส่ตัวเอง ว่าแต่พี่ใหญ่ ท่านไปขอให้ใครปรุงยาให้หรือ ต้องแลกอะไรมาหรือไม่ ถึงแม้อาการบาดเจ็บของข้าจะไม่หายดี ยังไม่สามารถใช้พลังเทพได้ แต่พอจะเดินเหินได้ปกติเหมือนคนทั่วไป” ชวีคังเริ่มใจสงบ แต่ก่อนเขาทะนุถนอมหยวนโหรวมากเท่าไร ตอนนี้ก็อยากจะทิ้งนางไปให้ไกลมากเท่านั้น
“ราชาเทพที่เพิ่งมาใหม่ ราชาเทพอัคคีที่แท้จริง พวกเราแค่ได้ยินมาว่าราชาเทพอัคคีที่แท้จริงสามารถปรุงยาได้ มีแต่คนคอยจับตามอง แต่ไม่มีใครกล้าไปขอ ข้าเลยไปลองดู นึกไม่ถึงว่าจะสำเร็จ ราชาเทพอัคคีที่แท้จริงได้บอกไว้ ยานี้แค่จะรักษาอาการของเจ้าให้คงที่เท่านั้น อาจจะเป็นเพราะว่าเห็นข้ารีบร้อน นางเลยให้ยาเม็ดนี้แก่ข้ามา ส่วนเรื่องรายละเอียดรอให้อาการของเจ้าดีขึ้นก่อน ค่อยไปบอกนาง นางจะได้ปรุงยาให้ถูก” ชวีจิ้งอธิบายที่มาของยาเม็ดนี้
“นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเช่นนี้” ชวีจิ้งเข้าใจทันที นึกไม่ถึงว่าพี่ชายจะโชคดีเช่นนี้
…………………………..