“ฮึก…! อึก!”
ราธบันกระชับอ้อมแขนที่กอดนักบุญหญิงเมื่อได้ยินเสียงครางของนางที่ยอมรับตนเข้าไปด้วยปากน้อยๆ อย่างยากลำบาก ปกติแล้วเขาจะต้องถอนตัวออกไปในชั่วขณะที่ได้ยินเสียงเช่นนี้ ไม่สิ เสียงแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกในความสัมพันธ์ของพวกเขา
เสียงเปียกแฉะจากผืนน้ำที่ดังขึ้นอย่างไร้ที่มาสะท้อนก้องในห้องอาบน้ำที่เต็มไปด้วยไอหมอก
เขาคิดว่าจะบ้าตายแล้วในทุกครั้งที่สัมผัสนาง และในตอนนี้ที่ได้สัมผัสนางใกล้กว่าที่เคย ราธบันก็ยิ่งมั่นใจแล้วว่าตนเองบ้าไปแล้ว หากไม่เช่นนั้นทุกอย่างของนางคงไม่น่าหลงใหลราวกับของบนแดนสวรรค์เยี่ยงนี้
เปลวเพลิงเริ่มโหมกระหน่ำจากทั่วทุกส่วนในร่างที่สัมผัสกับนางคล้ายจะแผดเผาอวัยวะภายในของเขาให้เป็นจุน ราธบันไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มันคือเปลวเพลิงที่รอคอยโอกาสในการเข้ายึดครองร่างกายของเขาอยู่ภายในนับครั้งไม่ถ้วน ราธบันมิได้ต่อต้านเปลวเพลิงนั้นและมอบร่างกายให้มัน ในที่สุดก็คงถึงเวลาที่มันจะแผดเผาตัวเขาแล้ว
ราธบันดึงร่างของนักบุญหญิงมาอย่างระมัดระวัง และขังนางไว้ระหว่างอ่างอาบน้ำกับตัวเขา
“ระ ราธบัน…”
นางฉวยโอกาสที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ เอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนแรง ราธบันยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำเรียกนั้น
“เรียกอีกสิขอรับ”
พูดจบ เขาก็โน้มใบหน้าลงอีกครั้งและจุมพิตขอบตาของนักบุญหญิง ชื่อของเขาถูกเรียกด้วยเสียงพึมพำอยู่รอบหูขึ้นมาทันใด แม้จะเป็นเสียงเบาๆ แต่นั่นก็ทำให้เขาหยุดนิ่งดุจคนที่ถูกล่ามโซ่และได้แต่ค้นหาร่องรอยของเสียงที่จางหายไปแล้ว
ใครจะคิดว่าชื่อของเขาที่นางเรียกจะน่าหลงใหลถึงเพียงนี้
ราธบันย้อนนึกถึงช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์และน่าหลงใหลที่สุดในชีวิตของเขา ตอนที่เข้ามาในวิหารหลวง ได้รับการศึกษาของนักบวช สอบผ่านข้อสอบเข้าเป็นสมาชิกของหน่วยอัศวินและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัศวิน ในตอนนั้นเขามั่นใจว่าชีวิตของตนคงไม่มีช่วงเวลาที่เหนือกว่านี้อีกแล้ว
ช่างเป็นความคิดที่อวดดี
ชั่วขณะที่นางเอ่ยเรียกชื่อเขา ราธบันรู้สึกได้ว่าความทรงจำอันล้ำค่าของตนทั้งหมดที่ผ่านมาขาดเป็นชิ้นๆ ราวกับกระดาษแผ่นเก่า
ช่วงเวลาที่น่าปีติยินดีอันยาวนานก็สลายไปเช่นนั้น แม้จะไม่มีทั้งพิธีแต่งตั้งอันยิ่งใหญ่ เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของผู้คน และกลีบดอกไม้ปลิวว่อน แต่ความทรงจำแสนลึกซึ้งมากมายที่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เองก็ไม่อาจมอบให้ ได้ประทับอยู่เหนือความทรงจำเหล่านั้นเป็นครั้งแรก
ราธบันเก็บช่วงเวลาทั้งหมดในตาและหู ก่อนสลักลงในหัวพลางจ้องมองนักบุญหญิง ดวงตาที่เบิกกว้างอย่างไม่รู้ต้องทำอย่างไรมีเพียงความน่ารักน่าเอ็นดู
เขาหวังว่านางจะไม่รับรู้หัวใจของตน มิเช่นนั้นนางคงวิ่งหนีไปในชั่วขณะที่ได้รับรู้การดูหมิ่นทั้งหมดที่เขาเก็บไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในจินตนาการของเขา นางเป็นคนที่สูงส่งจนเขาไม่อาจแตะต้องกระทั่งเส้นขนได้ตามใจ ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่หอบเหนื่อยด้วยความใคร่อันต่ำต้อยซึ่งไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานของเขา
“ราธ…อึบ!”
ราธบันเกี่ยวกวัดลิ้นที่เต็มไปด้วยความปรารถนากับปากที่นุ่มนิ่มและอ่อนไหวของนางอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น สัญชาตญาณที่บอกว่าด้านในของนางจะต้องถูกเติมเต็มไปด้วยตัวเขา ทำให้ร่างกายของราธบันขยับไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่าแน่ชัดกำลังทำอะไร
ร่างกายของเขาขยับไปตามสัญชาตญาณอย่างซื่อตรงเฉกเช่นทารกแรกเกิดที่ระเบิดเสียงร้องไห้เพื่อตามหาแม่ให้มีชีวิตรอด
ทุกครั้งที่เรียวลิ้นนุ่มเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ร่างกายของนางที่เกี่ยวกวัดอยู่กับเขาจะสะดุ้งและส่งเสียงครางออกมา ทว่าไร้ซึ่งความเจ็บปวด
มือของราธบันที่กอดไหล่เอาไว้ ค่อยๆ เลื่อนลงด้านล่าง ร่างกายของนางสั่นสะท้านทันทีที่มันไล้ไปตามส่วนเว้าบนแผ่นหลังซึ่งผอมแห้งเล็กน้อย นางแอ่นตัวดุจคันธนูเพื่อหลีกเลี่ยงมือของเขาราวกับจั๊กจี๊ ทำให้หน้าอกเปลือยเปล่ายิ่งแนบชิดเข้ามากับแผ่นอกของเขามากขึ้น
“อา อึก…”
หน้าอกอิ่มที่บดเบียดอย่างนุ่มนวลทำให้เสียงครางหลุดออกมาจากริมฝีปากของราธบัน
ราวกับยังไม่เพียงพอแม้จะได้ลิ้มลองไปสักพักแล้ว ริมฝีปากของราธบันที่ตอแยอยู่รอบริมฝีปากของนางจึงเลื่อนลงด้านล่างอย่างเชื่องช้า มันขบเม้มอย่างแผ่วเบาราวกับประทับตราลงบนลำคอขาวเรียวระหง ก่อนจะเริ่มรีรอขึ้นมาทีละน้อยหลังจากเลื่อนผ่านไหปลาร้า
ไม่ช้า ริมฝีปากของเขาก็หยุดลงเหนืออกอิ่ม เขาเคล้าคลึงอยู่เหนือหน้าอกบวมเต่ง และเมื่อเงยหน้าขึ้นนักบุญหญิงก็ถอนหายใจอ่อนแรงทันที ประสาทสัมผัสที่อ่อนไหวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานของเขา ทำให้เขาตระหนักได้ว่ามีความเหนื่อยล้าและความผ่อนคลายอยู่ในน้ำเสียงนั้น
ราธบันค่อยๆ เบนสายตาลงไป ตรงนั้นมีบางอย่างที่อยู่แต่ในจินตนาการของเขาเสมอจับจองพื้นที่อยู่
หากเป็นเขาเมื่อก่อน คงจะหน้าแดงและหันศีรษะไปทันที ทว่าในตอนนี้ ราธบันยกมือขึ้นกอบกุมและเคล้นคลึงมันอย่างระมัดระวัง บางทีนี่ยังนุ่มนิ่มยิ่งกว่ากำครีม[1] แล้วแกว่งมันเสียอีก มันเป็นความรู้สึกที่ราธบันไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยสักครั้งตั้งแต่เกิดมา สัมผัสที่ไม่คุ้นเคยทำให้ราธบันออกแรงเพิ่มโดยไม่รู้ตัว
“อึก…”
ทันใดนั้น เสียงร้องดังออกมาจากปากของนักบุญหญิงที่เอนกายพิงอ่างอาบน้ำด้วยดวงตาผ่อนคลายอีกครั้ง ร่างกายของนางที่นอนอย่างอ่อนแรงอยู่ในน้ำอุ่นก็แข็งเกร็งขึ้นเช่นกัน
ราธบันรีบผ่อนแรงจากมือของตนเองทันที ทันใดนั้น ความผ่อนคลายก็กระจายไปทั่วใบหน้าของนักบุญหญิง หลังจากยืนยันว่าการกระทำของตนเองไม่ได้ทำให้นางอารมณ์แย่ลง ราธบันก็กอบกุมทรวงอกของนางอย่างระมัดระวังอีกครั้ง
เขายังไม่รู้ว่าควรต้องทำอย่างไรบ้าง เพียงแค่รับรู้ได้ตามสัญชาตญาณว่าการกระทำนี้ของตนเองทำให้นางพึงพอใจ
เรียวนิ้วหนาขยำทรวงอกขาวกระจ่างและปล่อยออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือที่เต็มไปด้วยหนังด้านลูบไล้ก้อนเนื้อที่นุ่มยิ่งกว่าผ้าไหม ระหว่างนั้นเอง ราธบันสัมผัสได้ว่ายอดอกใต้ฝ่ามือของตนกำลังตั้งชันและแข็งขึ้น
ไม่นาน เนื้อสีชมพูเข้มที่โผล่พ้นระหว่างนิ้วมือก็เข้ายึดครองสายตาของเขา ราธบันขยับมือโดยไม่ละสายตาจากมันราวกับเด็กที่ได้รับของเล่นเป็นครั้งแรก
“อ๊ะ!”
ทันทีที่มือของเขาจับก้อนเนื้อที่เปลี่ยนเป็นสีแดง เสียงครางกระเส่าก็หลุดออกจากปากของนักบุญหญิงอย่างไม่อาจอดกลั้น ร่างกายของนางที่แนบชิดอยู่กับต้นขาและหน้าท้องของเขากระตุกอย่างแรง ร่างกายของราธบันเองก็สั่นสะท้านไปพร้อมกัน เขาสัมผัสได้ว่าส่วนล่างของตนกำลังเจ็บแปลบ ความเป็นชายของเขาที่กำลังตั้งขึ้นใต้ร่มผ้าเริ่มแข็งจนทำให้รู้สึกเจ็บ
“อึก…”
แก่นกายขยายใหญ่ขึ้นใต้ร่มผ้าที่แนบติดเพราะเปียกน้ำ เผยให้เห็นขนาดและรูปร่างอันน่าตกใจ เส้นเลือดที่ปูดโปนอยู่บนแท่งเนื้อที่หนายิ่งกว่าต้นแขนเด็ก ปรากฏให้เห็นอย่างแจ่มชัดแม้อยู่ใต้ร่มผ้าเปียก
ส่วนที่ใหญ่ขึ้นจนไม่อาจปิดบัง ค่อยๆ กดเข้ามาระหว่างขาและเหนือหน้าท้องของนาง ร่างกายของนักบุญหญิงเริ่มขยุกขยิกราวกับสังหรณ์ใจได้ถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ระ ราธบัน…?”
น้ำเสียงตื่นตระหนกของนาง ไม่รู้ทำไมถึงทำให้ราธบันหลุดหัวเราะออกมา
ราธบันเลื่อนสองมือลงไปจับสะโพกที่สั่นสะท้านของนาง ร่างกายของนักบุญหญิงเข้ามาใกล้ขึ้นทันที ราธบันขังนางไว้ระหว่างอ่างอาบน้ำกับร่างของตนดังเดิมและออกแรงกระชับมือที่จับนาง เขาเริ่มบดขยี้ผ้าที่เปียกชื้นในน้ำอุ่น เสียงน้ำกระทบดังขึ้นพร้อมกับแท่งเสาร้อนสัมผัสกับผิวของนาง
“ฮ ฮึกกก!”
สัมผัสขนาดใหญ่นั้นทำให้นางดิ้นไปมาด้วยสีหน้าตกใจ แต่มันไร้ประโยชน์ ราวกับคาดการณ์ปฏิกิริยาของนางเอาไว้แล้ว ราธบันจึงยิ่งออกแรงกดร่างกายของนางมาหาตนมากขึ้น ทั้งคู่หอบหายใจร้อนรุ่มเพราะสัมผัสได้ถึงร่างกายของกันและกันผ่านผ้าผืนบาง
“ฮา อ๊ะ อ๊า อือ อื้อ!”
ส่วนนั้นของเขาถูไถบนขาและหน้าท้องของนักบุญหญิงอย่างแรงราวกับจะฉีกผ้าเข้ามาเดี๋ยวนี้ ราธบันก้มศีรษะลงอีกครั้ง จากนั้นก็ขบกัดหน้าอกที่สั่นไหวพร้อมกับการเคลื่อนไหวของเขา
เรียวลิ้นกดและเลียลงไปบนก้อนเนื้อที่อ่อนไหวเต็มที่ จากนั้นก็ละเลงอย่างไร้สติราวกับเด็กน้อยที่กัดกินของหวานครั้งแรก
“อ๊า อึก! ร ราธบัน! ถ้า อ ฮึก ละเลงแบบนั้น…!”
แม้นักบุญหญิงจะเอ่ยเรียกเขาอย่างน่าสงสาร แต่ราธบันก็ยังคงฝังหน้าของตนไปบนหน้าอกอย่างไร้สติราวกับคนที่ไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น
เสียงร้องครางสั้นๆ และเร่าร้อนของนักบุญหญิงดังก้องในหูของเขา น้ำเสียงนั้นมันช่างน่าหลงใหลจนทำให้ราธบันรัวลิ้นแรงขึ้น
“อ๊ะ อ๊าาา…!”
ร่างกายของนักบุญหญิงอ่อนยวบลงหลังจากระเบิดเสียงครางกระเส่าที่คล้ายกับถึงจุดสุดยอด ส่วนนั้นของเขาที่ถูไถอยู่ระหว่างขาของนางใต้ร่มผ้าอย่างร้อนรุ่ม ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมาพร้อมกัน
สิ่งที่พวกเขาปลดปล่อยออกมากระจายไปทั่วน้ำอุ่นก่อนจะเจือจางไป
ราธบันหอบหายใจแล้วอุ้มนักบุญหญิงที่นอนหมดแรงขึ้นโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาตระหนักได้ว่าที่นี่ไม่สามารถทำได้เท่าที่ตนต้องการ
ซ่าน้ำอุ่นที่โอบล้อมคนทั้งคู่กระเซ็นลงพื้นและอ่างอาบน้ำเสียงดัง ราธบันขยับฝีก้าวโดยไม่แม้แต่จะเหลียวมอง เขารู้ว่าความเสียวซ่านที่สัมผัสได้ในทุกย่างก้าวไม่ได้เกิดจากน้ำอุ่นและไอหมอกเท่านั้น
หลังจากเดินไปถึงประตู ราธบันหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่อยู่ตรงนั้นมาห่อตัวนักบุญหญิงในอ้อมแขนของตน เขามองเห็นร่างกายที่ร้อนผ่าวจนขึ้นสีแดงและนอนไร้เรี่ยวแรง
ทุกสัดส่วนช่างน่ารักและงดงาม ทั้งดวงตากลมโตแดงระเรื่อที่เคล้าไปด้วยน้ำตาที่จ้องมองตน ทั้งริมฝีปากบวมแดงที่เขาดูดดึงไม่รู้กี่ครั้ง ทั้งหน้าอกขาวที่ขยับขึ้นลงเพราะหายใจไม่ทัน ทั้งแขนเรียวบางที่ลูบคลำหน้าอกของเขา
แค่เรือนร่างของหญิงสาวก็ทำให้เขาเป็นบ้าแล้วอย่างนั้นหรือ?
ราธบันปฏิเสธว่าไม่ใช่ได้ทันที ครึ่งหนึ่งของวิหารหลวงคือสตรี นอกจากนักบุญหญิง สตรีที่เขาพบปะและสนทนาด้วยมีมากมายนับไม่ถ้วน ทว่าพวกนางก็เป็นเพียงเพื่อนที่รวมเดินบนเส้นทางแห่งพระเจ้า และเขาไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษกับใครคนไหนมาก่อน
บางคราวในตอนที่ไปออกศึกยังเขตชายแดนห่างไกล ก็มีหญิงสาวที่มาค่ายทหารในยามวิกาลเพราะลุ่มหลงในชื่อเสียงของหน่วยอัศวินแห่งวิหารเช่นกัน ในตอนที่พวกนางปรากฏตัวด้วยการแต่งกายงดงามและใส่เครื่องหอม อย่าว่าแต่ตื่นเต้นเลย เขากลับรู้สึกขับไล่พวกนางไปด้วยจิตใจเยือกเย็นด้วยซ้ำ
เช่นนั้นแล้ว เพราะเหตุใดเขาถึงได้ถูกดึงดูดจากนางได้ถึงเพียงนี้ อะไรของนางที่ดึงดูดตนถึงขนาดนี้กันแน่ ราธบันก้าวเดินด้วยความสงสัย
ไม่นานหลังจากนั้น ราธบันก็เปิดประตูห้องนอน เตียงนอนที่สะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบอยู่เหมือนเดิมเสมอต้อนรับเขาอย่างยินดี
ราธบันวางนักบุญหญิงที่ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูลงบนเตียงนอนอย่างระมัดระวัง จากนั้น เขาก็ขึ้นไปบนนั้นแล้วเช็ดตัวให้นางอย่างเชื่องช้า รอยแดงที่เขาทำทิ้งไว้ในห้องอาบน้ำเมื่อครู่ก่อนกระจายอยู่ทั่วผิวขาวที่แทบจะเรียกว่าใส รอยซึ่งติดแน่นไปด้วยความปรารถนาสะท้อนเข้าตาของเขาอย่างแจ่มชัดแม้อยู่ใต้แสงจันทร์
ราธบันกดลงไปบนรอยพวกนั้นราวกับต้องการยืนยัน ร่างกายของนักบุญหญิงสะดุ้งน้อยๆ และมีเสียงอ่อนแรงหลุดออกจากปากในทุกครั้งที่เขาทำเช่นนั้น ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นมองนาง นางก็เอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ราธบัน”
ราธบันพบคำตอบของคำถามตนเองขึ้นมาฉับพลัน
น้ำเสียงของนางที่เอ่ยเรียกชื่อเขาเช่นนี้ทำให้เขาเป็นบ้าที่สุด ในช่วงเวลานี้ ตอนนี้ เขาไม่อยากสนใจบาดแผลหรือพิษอะไรทั้งสิ้น หวังเพียงให้น้ำเสียงนั้นเอ่ยเรียกแต่ชื่อเขาและขอลุ่มหลงมันอย่างยินดี
ราธบันก้มศีรษะจุมพิตหน้าท้องของนักบุญหญิง ริมฝีปากของเขาค่อยๆ เลื่อนลงไปใต้ล่าง เพื่อกระทำเรื่องที่ไม่อาจอภัย และไม่ต้องการได้รับการอภัย
[1] ครีม (크림) ครีมสด หรือ วิปปิ้งครีมแท้