เมื่อทุกคนได้ยินเรื่องของประธานฟ่านและสิ่งที่โม่ถิงตั้งใจจะมอบให้เขา สถานการณ์ของประธานฟ่านพลันไม่ราบรื่นขึ้นมาทันตา อย่างไรเสียคนในวงการก็มักจะไขว่คว้าผลประโยชน์และหลีกเลี่ยงการสูญเสียของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นการอยู่ให้ห่างจากอันตรายจึงเป็นผลตอบรับตามปกติ
ด้วยเหตุนี้ประธานฟ่านจึงได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
แม้แต่คุณหมอโจรสลัดก็ยังไปไม่รอดหลังจากที่ผู้ลงทุนถอนเงินทุนสร้างโดยไร้ซึ่งสัญญาณเตือน
และทั้งหมดนี้เป็นฝีมือถังหนิง
ถึงอย่างไรประธานฟ่านเองก็รู้ดีกว่าใครว่าการแสดงที่เกิดขึ้นที่พิธีรำลึกของเฉียวเซินเป็นฝีมือของถัง
หนิงเอง หมายความว่าถังหนิงได้กล่าวโทษเขาในสิ่งที่เขาไม่ได้ลงมือทำ หากแต่เขาไม่อาจทำสิ่งใดกับมันได้
ประธานฟ่านจึงตัดสินใจเดินทางไปยังหมู่บ้านบนเขาที่ห่างไกลเพื่อไปหาปู่ที่เกษียณอายุของตัวเอง ทุกๆ รุ่นของตระกูลฝานมีเส้นสายกับวงการใต้ดิน ปู่เขาจึงหนีไปหลบบนเขาเพื่อซ่อนตัวจากศัตรู
แม้ว่าประธานฟ่านจะดูเหมือนแค่มาเยี่ยมปู่ของเขาเฉยๆ ทว่าแท้จริงเขามาที่นี่เพื่อเรียนรู้บางอย่างในการจัดการกับคนอื่น
“พอได้ยินแกพูดถึงเรื่องของผู้หญิงคนนั้น เธอดูกล้าและเด็ดเดี่ยวดีนะ ไม่อย่างนั้นแกคงไม่หมดท่าให้เธอขนาดนี้หรอก”
“ปู่ครับ เธอเป็นคนรักของโม่ถิง ปู่ก็น่าจะเคยได้ยินว่าโม่ถิงเป็นคนโหดเ**้ยมเลือดเย็น ถ้าเขาไม่ได้ปกป้องเธอเอาไว้ ผมคงฉีกเธอเป็นชิ้นๆ ไปแล้วครับ” ประธานฟ่านเอ่ยขณะที่รินชาให้ชายแก่ “ผมถึงได้หวังจะได้คำแนะนำจากปู่ไงครับ”
อีกฝ่ายมองหน้าประธานฟ่านก่อนยิ้มเยาะ แต่เขาก็ยังรักหลานชายของตัวเองจึงตอบกลับ “แกบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนกตัญญูและมีคุณธรรม คนอย่างนั้นมักมีจุดอ่อนนั่นก็คือคนที่อยู่รอบตัวเธอ เธออาจจะจัดการได้ไม่ง่ายและโม่ถิงก็เช่นกัน แล้วคนอื่นๆ ล่ะ
“อย่าบอกฉันนะว่าแกก็ไม่มีปัญญาจัดการคนรอบข้างเธอน่ะ”
ด้วยลัวเซิงเกี่ยวข้องกับคุณหมอโจรสลัดโดยตรง ประธานฟ่านจึงไม่อาจแตะต้องเขาได้ไม่เช่นนั้นจะเป็นการโจ่งแจ้งเกินไป ดังนั้นหลินเฉี่ยนถึงเป็นคนที่เหลือรอบตัวถังหนิงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้น้อยที่สุด
จริงอยู่ที่หลินเฉี่ยนเป็นลูกสาวตระกูลกู้ ทว่าเธอยังไม่ได้กลับไปเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเสียทีเดียว อีกทั้งเธอยังแต่งงานกับนายพลที่ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเสียด้วย ดูเหมือนว่าการลงมือกับเธอคงเป็นวิธีที่ง่ายดายที่สุด
“คนเฒ่าคนแก่มักจะฉลาดกว่าจริงๆ สินะ”
“จะเป็นการดีที่สุดถ้าแกจะอยู่เงียบๆ และคอยดูสถานการณ์ ทุกคนกำลังฮือฮากันเพราะเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ศัตรูของแกกำลังเฝ้าระวังแกอยู่ ถ้าแกทำอะไรไปตอนนี้มีหวังได้ขุดหลุมฝังตัวเองแน่
“ใจเย็นๆ ทนไว้อีกหน่อยและรอให้ถึงเวลา”
ประธานฟ่านพยักหน้ารับ คนที่ยิ่งแก่ก็ยิ่งมองสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งจริงๆ
“ต่อให้มันจะทำให้แกต้องสูญเสียไปสักหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวสุดท้ายแกก็จะหาทางทวงมันกลับคืนมาได้ ปล่อยให้เธอดื่มด่ำกับการอยู่เหนือกว่าไปก่อน แล้วโจมตีเธอตอนที่เธอวางใจและไม่ทันได้ระวังตัว เมื่อเวลานั้นมาถึงเธอจะไม่ทันตั้งรับในการต่อสู้เลยสักนิด”
คำพูดชายสูงวัยมีประโยชน์และทุกอย่างที่เขาพูดนั้นผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดี ดังนั้นประธานฟ่านจึงตัดสินใจอยู่เงียบๆ สักพักหนึ่งเพราะเขาไม่ควรที่จะปรากฏตัวสู่สายตาของคนภายนอกตอนนี้
เขากำลังคอยดูว่าถังหนิงจะไปได้ไกลแค่ไหน
ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครเห็นประธานฟ่านพยายามออกมาแก้ข่าวหรือตามรังควานถังหนิงอีก กลับดูเหมือนว่าเขาจะยอมแพ้เสียแล้ว
ถึงทุกคนจะคอยวิพากษ์วิจารณ์เขา ตราบใดที่เขาไม่ไปอ่าน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาอยู่ดี ส่วนเรื่องเงินเขาอาจจะสูญเสียไปในวันนี้แต่ก็จะได้กลับมาในวันข้างหน้าเช่นกัน ทว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนึ่งสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือเขาจะไม่ปล่อยให้ถังหนิงได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
…
“ฉันได้ยินว่าประธานฟ่านให้ความร่วมมือกับทางตำรวจอย่างดีเลยล่ะค่ะ ดูไม่ใช่เขาเลยนะคะ อยู่ๆ เขาก็รู้สึกตัวได้ขึ้นมาเหรอยังไงกัน” หลงเจี่ยครุ่นคิดถึงไอ้สารเลวคนนั้น “ลัวเซิงแค่ปฏิเสธละครของเขา จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ”
“เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นต่างหาก รวมถึงความเกลียดชังที่เกิดขึ้นด้วย”
“โชคดีนะคะที่คนนอกไม่ได้คาดหวังกับมดราชินีไว้สูง ประธานฟ่านเลยไม่เห็นมันเป็นเป้าหมาย ไม่งั้นฉันมั่นใจว่าตอนนี้เขาจะต้องหาทางทำลายมันแล้วแน่ค่ะ นี่เป็นการปิดบังที่น่ายินดีจริงๆ ค่ะ”
หากแต่ถังหนิงไม่ได้ระวังตัวน้อยลง ถึงเธอจะทำให้ประธานฟ่านทุกข์ทรมานกับการสูญเสียครั้งใหญ่ แต่เธอก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดคิดว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้หลังจากนั้นจริงๆ มันกลับทำให้เธอระวังตัวมากขึ้นเสียอีก
ผู้คนให้ความสนใจกับเรื่องของประธานฟ่าน ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็จำเรื่องความขัดแย้งระหว่างถังหนิงกับสื่อได้เช่นกัน
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอดูถูกดูแคลนสื่อมวลชนอยู่
ทว่าหากเธอรังเกียจพวกเขามากนัก ทำไมเธอยังคงทำงานอยู่ในวงการบันเทิงกัน
หรือท่าทีแข็งกร้าวและเด็ดเดี่ยวของเธอจะเป็นเพียงการแสดง
เธอเหยียดหยามสื่อมวลชน แต่เธอก็ยังต้องการพวกเขา…
ถังหนิงรู้ว่ามีหลายคนที่คิดต่อว่าเธอเช่นนี้ แต่เธอกลับแสร้งเป็นไม่เห็น ไม่รับฟังพวกเขา
เธอมีหลายสิ่งที่ต้องสนใจและต้องการเปลี่ยนแปลง ทุกๆ ระดับในวงการมีการแข่งขันและวิธีจัดการของตัวเอง และผลประโยชน์เป็นสิ่งที่นำพาพวกเขาให้มารวมกัน
เมื่อเห็นสีหน้าอ่านยากของถังหนิง หลงเจี่ยก็เอ่ยเตือน “ตอนนี้คุณท้องอยู่นะคะ ทำไมถึงเอาเรื่องมาคิดมากอย่างนี้ล่ะ ถังหนิง คุณเองก็เข้าวงการมานานแล้วนะ คุณยังไม่รู้อีกเหรอว่ามีบางอย่างที่คุณไปเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเองไม่ได้น่ะ
“แค่ทำสิ่งที่คุณต้องการก็พอ ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วค่ะ
“ทุกคนกำลังโกรธ แต่ผลที่ออกมาสุดท้ายจะต้องทำให้พวกเขาต้องอึ้งแน่ค่ะ”
ถังหนิงพยักหน้า พลันตั้งคำถามกับตัวเองว่าเธอยังรักในอาชีพของตัวเองหรือไม่
คำตอบคือใช่ ไม่เช่นนั้นเธอคงจะไม่ยืนหยัดกับการสร้างมดราชินีอย่างนี้
เธอถึงได้สามารถเมินเฉยกับความคิดของคนอื่นก่อนหน้านี้ได้ แต่ตอนนี้เธอกลับมาสนใจความเห็นของพวกเขาหรือ
คิดได้ดังนั้น ถังหนิงก็มองหลงเจี่ยและส่งยิ้มให้ “ฉันเข้าใจ…เธอกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ”
อย่างไรก็ตาม เธอก็แปลกใจที่ประธานฟ่านไม่ได้มาตามรังควานอีก
ในขณะเดียวกัน ลัวเซิงกลายเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงที่มีจิตสำนึกเพราะการตัดสินใจปฏิเสธร่วมแสดงคุณหมดโจรสลัดและทุกคนต่างชื่นชมเขาที่เป็นคนที่ยืนหยัดในศีลธรรม ด้วยเหตุนี้มันจึงช่วยเขาได้มากในยามที่เขาพยายามรักษางานของเขาไว้
อย่างน้อยสาธารณชนก็มั่นใจได้ว่าเขาเป็นนักแสดงที่ไม่เคยเล่นละครที่ไม่มีคุณภาพ!
…
ไม่นาน ถังหนิงก็มาถึงกองถ่ายมดราชินีเพื่อดูว่าอันจื่อเฮ่าต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือไม่ ทว่าเขากลับได้ดำดิ่งเข้าสู่โลกของภาพยนตร์ไซไฟเหมือนอย่างเฉียวเซิน
“ผมเข้าใจว่าทำไมเฉียวเซินถึงตื่นเต้นกับหนังเรื่องนี้แล้วล่ะ มันสุดยอดไปเลย!
“ตอนนี้ผมมีงานล้นมือเลยล่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไหนๆ คุณก็วางใจให้ผมทำงานนี้แล้ว ผมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เลย”
“ขอบคุณนะจื่อเฮ่า” ถังหนิงกล่าวขอบคุณ
“คนรักของคุณแสดงได้ไม่เลวเลยนะ”
ถังหนิงระบายยิ้มกับคำชมที่ได้รับอย่างกะทันหัน เหลืออีกเพียงสามเดือนก็จะถ่ายทำเสร็จแล้ว เดิมทีถังหนิงคิดว่าจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ แต่ด้วยการทำงานที่รวดเร็วทั้งวันทั้งคืนของอันจื่อเฮ่า การถ่ายทำจึงเสร็จสิ้นภายในสองเดือนครึ่งข้างหน้าเท่านั้น!
กลางดึกคืนนั้นเอง ในขณะที่ทุกคนกำลังเฉลิมฉลองกัน หลินเฉี่ยนก็ได้รับสายจากคุณนายหลี่…