ตอนที่ 1538 ภูผาสุสานเทพ (2) / ตอนที่ 1539 ภูผาสุสานเทพ (3)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1538 ภูผาสุสานเทพ (2)  

 

 

“นายหญิง พวกเราหนีกันเถอะ” เสียงของเสี่ยวโม่ดังขึ้นที่ข้างหูนาง “พวกเรายังพอมีโอกาสเล็กน้อยที่จะหนี ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตายอยู่ที่นี่” 

 

 

เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมาเจอกองทัพโครงกระดูกทันทีที่เข้ามาในภูผาสุสานเทพ ไม่ใช่ว่าเขตรอบนอกของภูผาสุสานเทพไม่อันตรายหรอกหรือ 

 

 

แต่ว่า…สิ่งที่เสี่ยวโม่ไม่รู้ก็คือพวกเขาแค่โชคไม่ดี กองทัพโครงกระดูกจะมาออกลาดตระเวนเดือนละครั้งเท่านั้น แต่พวกเขาก็ดันบังเอิญมาเจอตอนพวกมันเดินตรวจตราประจำเดือนนี้พอดี… 

 

 

“อวิ๋นอี้” อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้วแล้วเรียกอย่างเย็นชา 

 

 

อวิ๋นอี้เข้าใจคำสั่งของเจ้านายทันที เขายื่นมือข้างหนึ่งมาโอบเอวอวิ๋นลั่วเฟิง ส่วนอีกมือก็จับเสี่ยวโม่ก่อนจะพุ่งเข้าไปหากลุ่มโครงกระดูกที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา 

 

 

ถ้าพวกเขาต้องการจะเข้าภูผาสุสานเทพ พวกเขาก็ต้องผ่านกองทัพโคงกระดูกพวกนี้ไปก่อน ถ้าพวกเขาถอยหลังก็หมายความว่าพวกเขาจะเข้าไปข้างในไม่ได้ 

 

 

ไฟนรกในเบ้าตาของโครงกระดูกเข้มขึ้น พวกมันสะบัดกระดูกในมือไปหาอวิ๋นอี้ 

 

 

ถึงแม้ว่าอวิ๋นอี้จะเป็นหุ่นเชิดที่เกิดจากเหล็ก แต่เขาก็ไม่สามารถทนการโจมตีของโครงกระดูกได้ ร่างว่องไวของเขาเกิดเป็นรูเหมือนถูกกระบี่แทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

 

 

โครงกระดูกอาจจะแค่ถือกระบองกระดูกในมือ แต่กระบองกระดูกนี้คมยิ่งกว่าอาวุธใดๆ แล้วแต่ละการโจมตีก็ทำให้เกิดหลุม 

 

 

ถ้ากระดูกพวกนี้โดนตัวอวิ๋นลั่วเฟิงก็คงไม่พ้นร่างเป็นรู 

 

 

อวิ๋นอี้เป็นแค่หุ่นเชิดไม่มีวิญญาณหรือความรู้สึกเจ็บปวด เขารู้แค่วิธีเชื่อฟังคำสั่งของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วพุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น 

 

 

… 

 

 

เมื่อเห็นอวิ๋นอี้หนีไป โครงกระดูกก็ไล่ตามพวกเขาขณะที่แกว่งกระบองในมือไปด้วย 

 

 

“ดูเหมือนว่าโครงกระดูกพวกนี้นางจะตายไปแล้ว แต่พวกมันจะรู้จักไล่ตามศัตรูไม่เหมือนกับหุ่นเชิดอย่างอวิ๋นอี้” อวิ๋นลั่วเฟิงครุ่นคิด “หลังจากนี้ข้าคงต้องดัดแปลงอวิ๋นอี้เสียแล้ว” 

 

 

จู่ๆ อวิ๋นอี้ก็หยุด อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้าขึ้น แล้วนางก็เห็นว่ามีหน้าผาลึกไร้ก้นบึ้งตรงหน้าพวกนาง 

 

 

“นายหญิง หน้าผานี่มีบางอย่างแปลกๆ” เสี่ยวโม่ขมวดคิ้ว “ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีข้อจำกัด ถ้าท่านกระโดดลงไป ท่านจะไม่สามารถลอยกลางอากาศได้” 

 

 

อวิ่นลั่วเฟิงหันหลังแล้วเห็นคนที่ไล่ตามพวกนางก่อนจะหันกลับมาที่หน้าผาไร้ก้นบึ้ง ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชาขณะที่นางออกคำสั่งอย่างเคร่งเครียด “อวิ๋นอี้ ลงไป” 

 

 

อวิ่นอี้ไม่ลังเลเพราะเขาเป็นหุ่นเชิด เขาไม่มีความกลัวและกระโดดลงหน้าผาด้วยสีหน้าเฉยชา 

 

 

สายลมพัดผ่านพวกเขา และแรงของมันก็ทำให้นางไม่สามารถลืมตาได้ สายลมคมๆ ทำให้นางเจ็บปวดไปทั้งตัวราวกับว่ามีมีดกำลังเฉือนผิวหนังของนาง… 

 

 

นางรีบหลับตาแล้วรอให้ถึงพื้น 

 

 

แต่ว่าก่อนที่นางจะถึงพื้น นางก็หมดสติไปก่อน จากนั้นความมืดก็เข้าปกคลุมนาง อวิ๋นลั่วเฟิงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป… 

 

 

… 

 

 

ตอนที่นางกำลังมึนงง อวิ๋นลั่วเฟิงก็ได้ยินคนเรียก 

 

 

“แม่นาง ตื่น ตื่นเถอะ…” 

 

 

นางขมวดคิ้วแล้วลืมตาอย่างรำคาญ ใบหน้าอ่อนเยาว์และหล่อเหลาของเด็กหนุ่มปรากฏสู่สายตาของนาง 

 

 

ชายหนุ่มสวมชุดผ้าป่านตัวยาว ใบหน้าดูดีของเขาเข้ากับผิวสุขภาพดีสีน้ำตาลของเขา ดวงตาสีเทาของเขาปรากฏร่องรอยความวิตกกังวล เมื่อเขาเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงลืมตา หัวใจเขาก็พลันมีความสุข “แม่นาง เจ้าตื่นแล้วหรือ” 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงได้สติกลับมา นางนวดขมับแล้วปีนลงจากเตียง “ข้าจำได้ว่าข้าเจอกับกองทัพโครงกระดูกในภูผาสุสานเทพนี่ ข้าอยู่ที่ไหน” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1539 ภูผาสุสานเทพ (3)  

 

 

ชายหนุ่ม “พวกเราอยู่ที่ภูผาสุสานเทพ แล้วเจ้าก็ปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นี่” 

 

 

ชายหนุ่มอธิบายทุกอย่างให้นาง 

 

 

กลายเป็นว่าคนที่นี่เป็นคนที่เข้ามาในภูผาสุสานเทพแล้วเผชิญอันตรายข้างในตลอดหนึ่งร้อยหนึ่งพันปีที่ผ่านมา ไม่ว่าพวกเขาจะถูกโครงกระดูกหรือสัตว์อสูรวิญญาณไล่ตาม พวกเขาก็หนีมาถึงที่นี่ เพราะว่าสัตว์อสูรวิญญาณเข้ามาที่นี่ไม่ได้ พวกเขาจึงเริ่มอาศัยอยู่ที่นี่เงียบๆ 

 

 

แน่นอนว่ามีคนที่อยากออกไป แต่เมื่อพวกเขาเข้ามาที่ใต้หน้าผา พวกเขาก็ไม่สามารถออกไปได้ ดังนั้นสถานที่นี้จึงเกิดเป็นเมืองขึ้น ถึงแม้ว่าประชากรที่นี่จะมีน้อยนิด แต่ก็มีเมืองหลวงและตลาดไม่ต่างจากโลกข้างนอก 

 

 

ถึงแม้ว่าสัตว์อสูรวิญญาณและโครงกระดูกจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะมีโอกาสออกไปจากที่นี่หรือไม่ ทำให้สุดท้ายอาณาจักรนี้มีกฎว่าชายที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นที่เด็กกว่าจะสามารถเป็นราชาในอาณาจักรนี้ได้! คนรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่งจะถูกคณะผู้อาวุโสทาบทาม 

 

 

การแต่งงานของราชาจะถูกตัดสินโดยคณะผู้อาวุโส ในฐานะราชา เขาไม่มีสิทธิ์แต่งงานกับคนที่เขารักที่สุดได้! มีแค่สตรีที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะสามารถขึ้นเป็นราชินี ดังนั้นตำแหน่งราชาและราชินีจึงไม่มั่นคง ถ้ามีคนที่เอาชนะพวกเขาได้ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็จะถูกแทนที่ สรุปแล้ว ในอาณาจักรนี้ คนที่แข็งแกร่งมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่าง การสืบทอดตำแหน่งจากบิดาไปสู่บุตรชายเหมือนโลกข้างนอกนั้นไม่สามารถใช้ที่นี่ได้ 

 

 

เห็นได้ชัดว่าชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นราชาของอาณาจักรนี้! แต่เมื่อดูจากการแต่งตัวของเขาแล้ว นางก็บอกได้เลยว่าราชวงศ์ที่นี่ยากจนขนาดไหน พวกเขาไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าที่เหมาะสม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงอยากออกไปจากที่นี่ 

 

 

ชายหนุ่มหล่อเหลาเกาศีรษะแล้วถามอย่างอบอุ่น “ข้าบอกเจ้าไปหมดทุกอย่างแล้ว เจ้าบอกชื่อข้าได้หรือไม่” 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนตอบ “อวิ๋นลั่วเฟิง” 

 

 

คนที่นี่เก็บตัวอยู่ในนี้มาหลายปี ดังนั้นต่อให้นางพูดชื่อนางไป พวกเขาก็ไม่รู้ว่านางคือใครอยู่ดี ดังนั้นนางจึงไม่ต้องกังวลแม้แต่น้อย… 

 

 

“ใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตอยู่ที่นี่” ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ท่าทางของเขาแสดงความกังวล 

 

 

เขาเกิดและโตในภูผาสุสานเทพและไม่เคยเจอโลกภายนอก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องโลกภายนอก 

 

 

“พวกเราไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้จริงๆ หรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้ว นางต้องออกไป! อวิ๋นเซียวกำลังรอนางอยู่! 

 

 

“ใช่แล้ว คนที่เข้ามาที่นี่ไม่สามารถออกไปได้” ชายหนุ่มหล่อเหลาตอบด้วยรอยยิ้มบาง “ดังนั้น เจ้าอยู่ที่นี่ได้โดยไม่ต้องกังวล จริงสิ ข้ายังไม่ได้ชื่อของข้าเลย ข้าชื่อเสวียนหยวน” 

 

 

“จริงสิ…” ทันใดนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็นึกถึงอวิ๋นอี้และเสี่ยวโม่ จากนั้นนางก็รีบตรวจสอบสถานการณ์ภายในมิติคัมภีร์เซียน แล้วนางก็เห็นว่าอวิ๋นอี้ที่ถูกทำร้ายกำลังนอนอยู่บนหญ้า ส่วนเสี่ยวโม่นั้นกำลังนั่งเงียบๆ อยู่ข้างเขา 

 

 

เมื่อเห็นพวกเขา อวิ๋นลั่วเฟิงก็โล่งอก 

 

 

“ลืมมันไปเถอะ ในเมื่อพวกเราทำอะไรไม่ได้ พวกเราก็รอดูไปก่อน ข้าเชื่อว่าพวกเราสามารถหาทางออกไปได้” 

 

 

… 

 

 

ภายในห้องนอน สตรีงดงามอ่อนโยนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วฟังรายงานจากนางกำนัล ดวงตาของนางปรากฏประกายเย็นชาพาดผ่าน