บทที่ 216 ข้ายังไม่ตาย เจ้าเสียดายมากสินะ

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 216 ข้ายังไม่ตาย เจ้าเสียดายมากสินะ

กู้โม่หานเห็นเช่นนี้ หัวใจก็บีบรัดอย่างฉับพลัน

เขาไม่สนใจว่า หยุนอี่ว์โหรวกำลังดึงแขนเสื้อของเขา สาวเท้าเข้าไปหาหนานหว่านเยียนที่อยู่ในสภาพจนตรอก

“หนานหว่านเยียน เจ้าเป็นอะไรไป?”

เมื่อหยุนอี่ว์โหรวและเชี่ยนปี้เห็นใบหน้าของหนานหว่านเยียนขฌ พวกนางก็ตกใจจนถึงขีดสุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยุนอี่ว์โหรว รูม่านตาหรี่ลงอย่างรุนแรง ใบหน้าซูบซีดของนางกลายเป็นมีสีเลือดทันที

หนานหว่านเยียนยังไม่ตายงั้นหรือ?!

มีนักฆ่ามากมายขนาดนั้น แต่นางยังสามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้อีก!

หนานหว่านเยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร เสิ่นอี่ว์ก็กล่าวขึ้น “ทูลท่านอ๋อง พอกระหม่อมไปถึง ก็พบว่ามีนักฆ่าต้องการสังหารพระชายา ทั้งหมดมีสิบสองคน”

“ไม่ทราบตัวตนของนักฆ่าเหล่านั้น แต่จากการพิจารณาเบื้องต้นของกระหม่อม น่าจะเป็นนักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีในยุทธจักร”

นักฆ่า?!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในใจของหลายคนก็สั่นสะท้าน

ดวงตาสีดำเข้มของกู้โม่หรี่ลง ใบหน้าอันหล่อเหลาเคร่งขรึมขึ้นมาก

อะไรจะบังเอิญเช่นนี้?หญ รีบฉวยโอกาสตอนที่เขากลับจวนอ๋องก่อน ทำการลอบสังหารหนานหว่านเยียน…

อีกอย่างยังเป็นนักฆ่ามืออาชีพ หรือว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับผู้ที่ลอบสังหารหนานหว่านเยียนและลูกสาวก่อนหน้านี้?

พ่อบ้านกาวเพิ่งกระจ่างในเวลานี้เอง

ไม่น่าแปลกใจที่หนานหว่านเยียนโกรธจัดเช่นนั้นในตอนที่กลับมาถึงจวน วันนี้หากเสิ่นอี่ว์ช้าไป ผลที่ตามมาเกรงว่าจะ…เลวร้ายจนไม่กล้าคิด!

หนานหว่านเยียนไม่แม้แต่จะเหลือบมองกู้โม่หาน แววตาที่ดุดันของนางจับจ้องไปที่หยุนอี่ว์โหรว เอ่ยออกมาอย่างเชือดเฉือน

“พระชายารอง เหตุใดถึงประหลาดใจและตื่นตระหนกถึงเพียงนั้น ทำไมหรือ เห็นฆ่ายังไม่ตาย เจ้าเสียใจมากงั้นหรือ?”

ร่างสูงใหญ่ของกู้โม่หานสั่นสะท้าน มองไปยังหยุนอี่ว์โหรวที่อยู่บนเตียงด้วยสายตาลุ่มลึก

ในตอนแรกเขากำลังครุ่นคิด ความสัมพันธ์ระหว่างนักฆ่ากลุ่มนี้กับนักฆ่าก่อนหน้า แต่ตอนนี้เมื่อหนานหว่านเยียนพูดขึ้นมาเช่นนี้ เขาก็อดมองไปที่หยุนอี่ว์โหรวไม่ได้

เขากลับมาจากวังก่อนกำหนด หนานหว่านเยียนก็เกิดเรื่อง มันจะบังเอิญเช่นนี้หรือ…

เดิมทีหยุนอี่ว์โหรวก็นั่งไม่ติดอยู่แล้ว พอเห็นกู้โม่หานก็มองมาที่นางเช่นกัน ร่างกายก็อดสั่นสะท้านไม่ได้ นางแสร้งทำเป็นไม่อยากจะเชื่อและคับข้องใจที่ได้รับความอยุติธรรมทันที น้ำตาไหลอาบแก้ม

“พระชายาทำไมพูดเช่นนี้? โหรวเอ๋อร์จะรู้สึกเสียใจได้ยังไง? ท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์ปวดมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ปวดท้อง แต่ปวดใจยิ่งกว่า”

“โหรวเอ๋อร์ไม่รู้ว่าเหตุใดพระชายาถึงใส่ความโหรวเอ๋อร์ พระชายาเกิดเรื่อง โหรวเอ๋อร์ก็รู้สึกตกใจ หวาดกลัวจนลนลาน ทำไมถึงถูกพระชายาเข้าใจผิดได้? ท่านอ๋องได้โปรดเชื่อใจโหรวเอ๋อร์!”

ใช่แล้ว นางไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก

แม้คราวนี้นางจะหุนหันพลันแล่นเกินไป ต้องการฆ่าหนานหว่านเยียนเพื่อจบปัญหาหลัก

แต่หากล้มเหลวก็ไม่เป็นไร

ทุกอย่างผ่านมือของหยุนโม่หราน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง

และเมื่อครู่นี้เสิ่นอี่ว์ก็บอกแล้ว นักฆ่าเหล่านั้นไม่มีใครรอด

หนานหว่านเยียนแค่อยากหลอกถามความจริงจากนางเท่านั้น นางไม่มีหลักฐานแน่นอน!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนานหว่านเยียนก็ยิ้มเยาะ นางรู้ว่าแม่ดอกบัวขาวดอกนี้ฉลาดมีไหวพริบ มีวิธีการมากมาย ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้คนมาอยู่ในมือได้มากมายขนาดนี้

หลายครั้งหลายคราก็ยืนอยู่ในจุดที่ไม่มีทางพ่ายแพ้

แต่การทำเรื่องแย่ๆ มากเกินไปสักวันก็ต้องมีพิรุธเผยออกมา อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี จะไม่แปดเปื้อนมลทินได้อย่างไร รอนางเจอหลักฐานก่อนเถอะ จะตอบแทนแม่ดอกบัวขาวให้สาสม

แน่นอน ตอนนี้นางจะไม่ยอมปล่อยหยุนอี่ว์โหรวไปง่ายๆ!

“หยุนอี่ว์โหรว เจ้ามีความสามารถมากนะ นอนอยู่บนเตียงเล่นบทหญิงอ่อนแอ ดูเหมือนกระต่ายน้อยไร้เดียงสา แต่ความจริงร้ายกาจกว่าใครๆ!”

หนานหว่านเยียนวางอำนาจบาตรใหญ่ คว้ามือของหยุนอี่ว์โหรวไว้ กดจุดจื้อวูของหยุนอี่ว์โหรวด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เป็นจุดฝังเข็มที่กระตุ้นระดูได้

ยังคิดจะตามหมอมาตรวจระดูอีก อยากหายดีหรือ?

ถ้าอย่างนั้นนางจะทำให้หยุนอี่ว์โหรวไม่หาย ทุกวันต้องเจ็บปวดเจียนตาย!

“เจ็บมากเพคะ ท่านอ๋องช่วยโหรวเอ๋อร์ด้วย!” หยุนอี่ว์โหรวรู้สึกเพียงความเจ็บปวด ทรมานในท้องเป็นอย่างมาก สายตาของหนานหว่านเยียนทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจและเกลียดชัง “ท่านอ๋อง…พระชายาเข้าใจโหรวเอ๋อร์ผิดไปจริงๆ!”

หนานหว่านเยียน หญิงสารเลวสมควรตาย ไร้ความสามารถ ใช้กำลังหยาบคายกับนาง!

ฮ่า โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้ว ยังโง่เหมือนเดิม!

เพียงแต่ว่า มันปวดเจียนตายจริงๆ!

“หนานหว่านเยียน ปล่อยมือ!” กู้โม่หานเห็นหนานหว่านเยียนเหมือนผู้หญิงปากร้าย ป่าเถื่อนกับหยุนอี่ว์โหรว เขาขมวดคิ้วคว้าแขนของหนานหว่านเยียนไว้ทันที

หนานหว่านเยียนสลัดเขาออกอย่างแรง ไม่พูดจากไร้สาระอีก ก่อนพบหลักฐาน นางจะไม่พูดเรื่องนักฆ่าอีก แค่ต้องการหาข้ออ้าง เพื่อแอบระบายความโกรธให้ตัวเอง!

“กู้โม่หาน อำนาจจัดการในจวนที่เจ้ารับปากข้าไว้ จงมอบให้เดี๋ยวนี้”

อำนาจจัดการในจวน?

หนานหว่านเยียนพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?!

หยุนอี่ว์โหรวได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่ว่าร่างกายของนางจะเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออกสักปานใด ก็รีบคว้าแขนเสื้อของกู้โม่หานด้วยความตื่นตระหนก

ริมฝีปากของนางซูบซีดเพราะความเจ็บปวด ดูอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงมาก

“ท่านอ๋อง อำนาจจัดการในจวนท่านมอบให้โหรวเอ๋อร์ ท่านจะเอามันกลับไปในตอนนี้งั้นหรือ? โหรวเอ๋อร์ไม่ได้ส่งนักฆ่าไปจริงๆญท ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้โปรด ท่านอย่าเข้าใจโหรวเอ๋อร์ผิดได้ไหม?”

“หนานหว่านเยียนไม่มีหลักฐานใดๆ ก็ปักใจว่าเจ้าเป็นคนจัดการเรื่องนักฆ่า มันนางทำไม่ถูกต้อง ข้าไม่เชื่อนาง แต่ว่า…” กู้โม่หานก้มลงมองหยุนอี่ว์โหรว “ไม่ว่าจะมีเรื่องนักฆ่าหรือไม่ก็ตาม ข้าได้รับปากหนานหว่านเยียนไว้แล้วว่าจะยกอำนาจจัดการจวนให้นาง”

เรื่องนักฆ่า แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่เขาก็ยังไม่ยอมสงสัยในตัวหยุนอี่ว์โหรว

หยุนอี่ว์โหรวรู้จักเล่ห์เหลี่ยม แต่นางไม่ใช่ผู้หญิงที่ชั่วร้ายขนาดนั้น เรื่องฆ่าคน นางทำไม่ได้แน่นอน

หยุนอี่ว์โหรวเหมือนถูกฟ้าผ่า เจ็บปวดใจอย่างรุนแรง

ตอนนี้นางยังไม่สามารถร่วมหอลงโรงกับเขาได้ หากไม่ให้กำเนิดบุตร อำนาจจัดการจวนเป็นเพียงวิธีเดียวที่นางมีไว้ติดตัว!

สิ่งนี้สำคัญกว่าชีวิตของนางเสียอีก!

จะสูญเสียมันไปได้อย่างไร!

หยุนอี่ว์โหรวเกลียดชังหนานหว่านเยียนจนดวงตาแดงก่ำ ความเจ็บปวดในอวัยวะภายในไม่มีอะไรเทียบได้กับความคับแค้นในใจของนาง

นางมองไปทางกู้โม่หาน อ่อนแอไร้เรี่ยวแรงราวกับว่าจะเป็นลมในวินาทีถัดไป

“ไม่! ท่านอ๋อง ถ้าโหรวเอ๋อร์ไม่มีอำนาจจัดการจวน นางจะอยู่ในจวนอ๋องแห่งนี้ได้อย่างไร?!”

“วันนี้ท่านก็เห็นแล้ว พระชายาทรงบีบคั้น ผลักเรื่องทุกอย่างมาใส่ตัวโหรวเอ๋อร์ แล้วท่านจะ จะทำได้ยังไง…”

นางพูดพลางน้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง

หนานหว่านเยียนเห็นหยุนอี่ว์โหรวทั้งโกรธทั้งเจ็บปวด รู้สึกสะใจเหลือเกิน

ไม่เพียงแต่ทำร้ายร่างกาย แต่ยังทำร้ายจิตใจด้วยหภ ยิ่งหยุนอี่ว์โหรวสนใจอำนาจจัดการจวนมากเท่าไหร่ การที่นางได้อำนาจจัดการจวนกลับคืนมา ก็ยิ่งทำให้หยุนอี่ว์โหรวเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น

มันเป็นเหมือนราชบัลลังก์

ไม่เคยเป็นฮ่องเต้มาก่อนก็ไม่เป็นไร แต่ยังได้ปลอบใจตัวเองว่าเป็นผู้แพ้ เหน็ดเหนื่อยในชาติหน้า ได้ขึ้นครองตำแหน่งฮ่องเต้แล้ว แต่เป็นได้ไม่กี่วันก็ถูกคนถีบลงมาอย่างโหดเหี้ยม จะไม่ให้โกรธได้อย่างไร!

ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่ๆ!

นอกจากนี้ นางเพิ่งกดจุดฝังเข็มของหยุนอี่ว์โหรวไป หยุนอี่ว์โหรวยิ่งโกรธก็ยิ่งเจ็บปวด ยิ่งเจ็บปวดก็ยิ่งโกรธ มันเป็นวงจรอุบาทว์ ทำให้ชีวิตสั้นลงอย่างแน่นอน…

หนานหว่านเยียนยิ้มเยาะ คำพูดของนางทำให้หยุนอี่ว์โหรวโกรธจนควันออกหู

“หยุนอี่ว์โหรว เจ้า…”