บทที่ 365: ล้างบางเมืองจิงฉู (14) – หลิงหยุนสุดยอด!

พนักงานในสำนักงานต่างพากันหวาดกลัว! พวกเขาไม่ได้เสแสร้ง แต่หวาดกลัวกันจริงๆ!

พนักงานเหล่านี้มีหรือจะไม่รู้ขั้นตอนการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างว่าต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าของบ้านเสียก่อน อีกทั้งยังต้องมีการจ่ายเงินชดเชยให้ด้วย แต่เพราะเป็นเพียงแค่ผู้ใต้บังคับบัญชา และถูกกดดันกันต่อมาเป็นทอดๆ

ทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่า.. การรื้อถอนบ้านของหลิงหยุนนั้น พวกเขาต่างก็ไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่แอบรื้อถอนกันอย่างเงียบๆ

ดังนั้น.. พนักงานทุกคนจึงพากันเหงื่อแตกพลั่ก เพราะรู้ตัวดีว่าได้กระทำการไปโดยพละการ และไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของบ้าน การกระทำของพวกเขาจึงไม่ต่างจากพวกหัวขโมยเลยแม้แต่น้อย!

กู่เหลียนซันเองก็เคยพูดกับทุกคนว่า นี่เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย หากเจ้าของบ้านโวยวายและลุกขึ้นต่อต้าน ก็คงจะมีปัญหา..

แต่กู่เหลียนซันก็ยังเลือกที่จะทำ!

เพราะเห็นว่านางฉินจิวยื่อไม่อยู่ในจิงฉู และหลิงหยุนก็ได้หายตัวไปกว่าหนึ่งอาทิตย์แล้ว ตอนนี้มีเพียงหนิงหลิงยู่คนเดียวเท่านั้น กู่เหลียงซันจึงกล้าที่จะลงมือ อีกทั้งเขายังมีผู้ที่คอยให้การสนับสนุนอย่างเสียเจิ้นติงและหลัวจ้ง ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีแก๊งอันธพาลที่เป็นคนของเถียนป๋อเตาคอยเป็นมือเป็นเท้าให้ ทำให้กู่เหลียนซันไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด!

คำพูดของกู่เหลียนซันในตอนนั้นเต็มไปด้วยความลำพอง “ลงมือได้เลย! พวกมันไม่กลับมาหรอกน่า.. แต่ก็ต้องนับว่าเป็นโชคดีของพวกมันที่ไม่กลับมา เพราะถ้าใครกล้าเข้ามาขวาง ฉันจะให้มันถูกกระทืบตายไม่ต่างจากมดตัวหนึ่งเลยเชียว.. ไม่ต้องไปสนใจอะไร!”

จากนั้น.. กู่เหลียนซันและเถียนป๋อเตาก็สั่งการให้ทุบบ้านของหลิงหยุนทันที และเพียงแค่พริบตาเดียวบ้านทั้งหลังก็พังทลายไม่เหลือซาก พนักงานที่รับคำสั่งก็ยังคงกังวล และหวาดกลัวว่าครอบครัวของหลิงหยุนจะกลับมาสร้างปัญหาให้กับพวกเขา

แต่หลังจากผ่านไปแล้วสองวัน เหตุการณ์ก็ยังคงสงบนิ่ง ทุกคนจึงวางใจว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว และวันนี้พวกเขาก็เตรียมตัวที่จะทำงานอย่างอื่นต่อ และไม่มีใครคาดคิดว่าหลิงหยุนจะกลับมาแม้แต่คนเดียว!

แต่ทันทีที่หลิงหยุนปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน เขากลับดูมีพลังอำนาจและน่าเกรงขามอย่างมาก เพราะเมื่อมาถึงหลิงหยุนก็ตรงเข้าเล่นงานกู่เหลียนซัน พร้อมกับจับเขาโยนออกไปนอกออฟฟิศทันที

กู่เหลียนซันเป็นชายร่างใหญ่ที่หนักกว่า 170 กิโลกรัม แต่หลิงหยุนกลับใช้มือเพียงข้างเดียวจับเขาโยนออกไปข้างนอกได้อย่างง่ายดาย และดูเหมือนว่าหลิงหยุนจะไม่ต้องพยายามออกแรงเลยแม้แต่น้อย!

พนักงานทุกคนต่างก็รู้ตัวว่าพวกเขาได้ทำการรื้อถอนอย่างไม่ถูกต้องตามขั้นตอน และนับว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย เมื่อเห็นหลิงหยุนปรากฏตัวขึ้นที่สำนักงาน มีหรือที่พวกเขาจะไม่หวาดกลัว? แต่ละคนล้วนตกใจกลัวจนตัวสั่น มีสองคนถึงกับฉี่รดกางเกงด้วยซ้ำไป!

ทุกคนล้วนเห็นภาพที่หลิงหยุนจับกู่เหลียนซันโยนออกไปนอกประตู จึงไม่มีใครกล้าหือหรือลุกขึ้นต่อต้านแม้แต่คนเดียว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนทำเหมือนกันนั่นก็คือ.. ทุกคนต่างก็ยกโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาคนรู้จัก แต่เมื่อหลิงหยุนหันไปมอง พวกเขาต่างก็กลัวลนลานจนถึงกับโยนโทรศัพท์ทิ้งลงกับพื้นทันที!

แต่หลิงหยุนกลับยิ้มให้และพูดขึ้นว่า “ทุกคนอยากจะโทรหาคนรู้จักไม่ใช่เหรอ? เชิญเลย.. จะโทรหากี่คนก็เชิญตามสบาย! แล้วก็อย่าลืมรีบพากันออกไปแจ้งความที่สถานีตำรวจด้วยนะ.. อย่ามายืนเกะกะฉันทำงานที่นี่! รีบไปซะ.. ไอ้พวกสวะ!”

ตอนนี้หลิงหยุนต้องการถล่มสำนักงานแห่งนี้ให้ราบเป็นหน้ากองโดยเร็วที่สุด!

หลังจากที่ทุกคนพากันวิ่งหนีออกไป.. หลิงหยุนก็หยิบเอกสารต่างๆที่วางอยู่บนโต๊ะลงมากองรวมกัน แล้วจัดการใช้ยันต์อัคนีเผาทิ้งจนหมด!

จากนั้นก็เรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมา แล้วจัดการฟันโต๊ะเก้าอี้ภายในสำนักงานจนพังเรียบ แล้วจึงฟันเข้าที่กำแพงเป็นลำดับต่อไป!

หลิงหยุนแทบไม่ต้องออกแรงมากมาย เขาถือกระบี่ไว้ในมือขวา และเดินไปที่ผนังของสำนักงาน จากนั้นก็ยกกระบี่ขึ้นฟันลงไปที่ผนังโดยรอบ

‘อีกไม่นานหรอก.. สำนักงานนี่ก็จะพังทลายลง! เยี่ยม.. แทบไม่ต่างจากการลงมือตัดเต้าหู้!’ หลิงหยุนคิดในใจพร้อมกับค่อยๆเดินแสยะยิ้มออกมาจากสำนักงาน..

เมื่อออกมาด้านนอก หลิงหยุนก็ใช้มังกรพรางร่างสำรวจไปรอบๆสำนักงานด้านนอก จากนั้นจึงค่อยหยุด และใช้มือทั้งสองข้างผลักผนัง สำนักงานก็ค่อยๆพังครืนและถล่มลงมาอย่างช้าๆ

ระหว่างที่ทุกคนกำลังยืนมองหลิงหยุนด้วยความงุนงง เพราะไม่รู้ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรอยู่นั้น ทุกคนก็ได้ยินเสียงครืนดังขึ้นพร้อมๆกัน!

“เสียงฟ้าร้องเหรอ!? นี่มัน..”

“แย่แล้ว.. สำนักงานกำลังจะถล่ม!”

“ชิบหายแล้วสิ.. มันถล่มลงมาแล้ว!”

“หนีเร็วเข้า..”

ครืน..! ครืน!

เสียงสำนักงานที่กำลังพังครืนลงมาดังมากขึ้นเรื่อยๆ และได้ยินออกไปไกลถึงห้าร้อยเมตร คนแถวถนนหลินเจียงที่อยู่ในรัศมีห้าร้อยเมตรต่างก็ได้ยินเสียงดังปัง! และสำนักงานก็พังทลายลงมา จนฝุ่นคลุ้งกระจายไปในอากาศ และผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็พากันสำลักฝุ่นและไอกันเป็นแถว!

แม้แต่ถังเมิ่งเองยังตกตะลึงเช่นกัน เขาได้แต่คิดในใจว่าลูกพี่ของเขาช่างโหดและดุดันมากจริงๆ! นี่เพียงแค่รื้อถอนสำนักงานของพวกมัน ยังไม่ถึงคิวของบ้านเถียนป๋อเตา!

หลังจากที่หลิงหยุนไล่พนักงานออกจากออฟฟิศจนหมดแล้ว ผู้คนที่อยู่แถวถนนหลินเจียงต่างก็พากันวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับภาพสำนักงานที่พังทลายลงต่อหน้าต่อตา..

“นี่.. นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?!”

“สำนักงานของไอ้พวกที่จะมารื้อถอนบ้านนี่นา.. ทำไมถึงได้พังลงมาแบบนั้นล่ะ ฮ่า ฮ่า?! แต่ก็สมน้ำหน้ามัน!”

“ใช่.. สมน้ำหน้ามัน! พวกมันเอาแต่จะกดเงินค่าชดเชย สมควรแล้วที่ได้รับกรรม!”

“นั่นมันลูกชายของฉินจิวยื่อ-หลิงหยุนไม่ใช่เหรอ? หลิงหยุนกลับมาแล้วพวกเรา! เขากลับมาแก้แค้นคืนแล้ว!”

“จริงๆด้วย ใช่หลิงหยุนจริงๆด้วย! แต่ดูเหมือนเขาจะผอมลงไปมาก?”

“นี่เขาทำลายสำนักงานขนาดใหญ่แบบนี้ได้ยังไง?! ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากใหน?”

ผู้คนบนถนนหลินเจียงต่างพากันออกความเห็นกันไปต่างๆนานา หลายวันที่ผ่านมาพวกเขาล้วนแต่ถูกคนของกู่เหลียนซันข่มเหง ตอนนี้ได้มาเห็นสำนักงานของกู่เหลียนซันถูกทำลาย ส่วนตัวกู่เหลียนซันเองก็นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไม่ต่างจากสุนัขที่กำลังหมดลมหายใจ มีหรือที่ทุกคนจะไม่พากันสะใจ!

เสียงสำนักงานถล่มดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว แม้แต่หลี่หงเม่ยที่ยืนส่งหลิงหยุน และกำลังสังหรณ์ใจว่าจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทันทีที่ได้ยินเสียงดังขึ้น เธอจึงเป็นคนแรกที่วิ่งมาดู!

 “โอ้!! นั่นมัน..” หลี่หงเม่ยแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง หลิงหยุนเพิ่งจะบอกกับเธอว่าให้รอดูอะไรสนุกๆ ที่แท้เขาก็มารื้อสำนักงานรื้อถอนนี่เอง!

หลิงหยุนเห็นผู้คนกว่าสามร้อยเข้ามามุงกันในชั่วพริบตาเดียว เขาปัดฝุ่นที่มือและตามร่างกายออกพร้อมกับยิ้มและพูดกับฝูงชนว่า

“ทุกท่าน.. วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผมกับครอบครัวไม่อยู่บ้าน แต่ไอ้สวะพวกนี้แอบมารื้อถอนบ้านของผมโดยที่ยังไม่ได้รับการยินยอม ตอนนี้ผมก็เลยกลับมาแก้แค้นพวกมันคืน ถ้ายังไงขอให้ทุกท่านช่วยเป็นพยานให้ผมด้วยนะครับ!”

เสียงผู้คนพากันปรบมือจนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว!

“ได้.. ไม่มีปัญหา! พวกเราเองก็ไม่พอใจเหมือนกัน พวกมันสมควรได้รับกรรมแล้ว!”

“หลิงหยุน.. เธอเก่งมากเลยนะที่จัดการกับไอ้พวกสวะรกโลกนั่นได้!”

“พวกมันมีแต่คนสาระเลว ห้องของฉันตั้งสี่ร้อยตารางเมตร แต่พวกมันกลับจ่ายค่าชดเชยให้ฉันแค่หกร้อยหยวน เงินแค่นั้นฉันจะไปพอหาที่อยู่ใหม่ได้ยังไงกัน!”

ในเวลานั้น ผู้คนต่างก็พากันวิ่งมาดู แต่ละคนต่างก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ!

หลิงหยุนส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ จากนั้นก็พูดกับกู่เหลียนซันและพนักงานของเขาว่า

“พวกแกทุกคนฟังให้ดี! กลับไปบอกู่เหลียนเฉิงว่า ถ้ามันต้องการจะรื้อถอนบ้านของคนที่นี่ จะต้องยินยอมจ่ายเงินชดเชยในราคาที่ชาวบ้านพอใจเท่านั้น ไม่อย่างนั้น.. ใครก็ไม่มีสิทธิ์รื้อถอนบ้านหลังใหนทั้งนั้น!”

คำพูดของหลิงหยุนทำให้ชาวบ้านทุกคนต่างก็พากันโห่ร้องและปรบมือด้วยความดีใจ!

สีหน้าของพนักงานต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาแทบอยากจะวิ่งหนีและไปหาที่หลบซ่อน..

“ส่วนเรื่องที่พวกแกแอบไปรื้อทำลายบ้านของฉัน รับรองว่าเรื่องนี้ต้องถึงโรงถึงศาลแน่ มันจะไม่จบเพียงเท่านี้!”

หลังจากที่หลิงหยุนพูดจบ เขาก็หันไปมองตู้กู่โม่กับถังเมิ่ง จากนั้นก็ใช้มือเพียงข้างเดียวลากกู่เหลียนซันที่อยู่ในสภาพร่อแร่ขึ้นไปบนรถฮัมเมอร์

“พ่อแม่พี่น้อง.. หลายปีมานี้พวกท่านถูกเถียนป๋อห่าวรังแก? มันกับกู่เหลียนซันรวมหัวกันรื้อบ้านของผม? ตอนนี้ผมจะไปรื้อบ้านของมันคืน ทุกท่านอยากจะดูไม๊?!”

แน่นอนว่าเป็นภาพที่ทุกคนอยากจะเห็น เมื่อได้ยินหลิงหยุนพูดว่าจะไปหาเรื่องเถียนป๋อเตาต่อ พวกเขาจึงต้องการจะตามไป!

“หลิงหยุน.. ฉันจะนำทางไปเอง..”

“ไปพวกเรา.. ไปกัน!”

“เชอะ.. เจ้าเถียนป๋อเตามันคงยังไม่รู้ชะตากรรมสิท่า..?! ครั้งที่แล้วมันก็ถูกหลิงหยุนอัดจนน่วม นี่ยังกล้ารวมหัวกับคนอื่นแอบมาทุบบ้านของหลิงหยุนหวังจะแก้แค้น! ช่างรนหาที่แท้ๆ”

“นั่นน่ะสิ.. หลายปีมานี้หลานชายของเถียนป๋อเตามากินข้าวที่ร้านฉัน รวมๆแล้วก็เกือบสองหมื่นหยวน แต่ก็ไม่ยอมจ่ายแม้แต่หยวนเดียว!”

“ไปพวกเรา.. ตามไปดูกันดีกว่า..”

หลิงหยุนสั่งถังเมิ่งให้ชะรอรถฮัมเมอร์ เพื่อให้คนที่เดินตามมาสามารถตามได้ทัน คนหลายร้อยคนต่างก็พากันเดินมุ่งหน้าไปทางตะวันออก และเลี้ยวไปทางทิศใต้ ทุกคนต่างก็มุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านหลินเจียงเพื่อดูหลิงหยุนจัดการกับเถียนป๋อเตา

หลิงหยุนนั่งอยู่ในรถมองใบหน้าที่เจ็บปวดของกู่เหลียนซัน แล้วพูดน้ำเสียงเนิบๆ “ใครสั่งให้แกทำ? ถ้าแกยอมบอก ฉันก็จะทำให้แกหายเจ็บปวด..”

“ไม่.. ไม่มีใครสั่ง..” กู่เหลียนซันกัดฟันและดิ้นขลุกขลักไปมา

หลิงหยุนมองหน้าพร้อมกับหัวเราะ จากนั้นก็ใช้นิ้วโป้งกดลงไป “เอาล่ะ.. นี่เป็นกระดูกของแก ฉันจะดูซิว่าแกจะทนได้นานแค่ใหน!”

เพียงไม่นาน หลิงหยุนก็มาถึงหน้าทางเข้าหมู่บ้านหลินเจียง เขาสั่งให้ตู้กู่โม่เฝ้ากู่เหลียนซันอยู่ในรถ และสั่งให้ถังเมิ่งจอดรถอยู่ด้านนอก จากนั้นจึงเปิดประตูรถลงไป

“นี่มันอะไรกัน.. พวกเขาพากันมาที่นี่ทำไม?”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่หน้าหมู่บ้านร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นผู้คนพากันเข้ามาที่หมู่บ้านจำนวนมาก และก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

หลิงหยุนยิ้มให้กับพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งสามคน พร้อมกับถามยิ้มๆ “ขอโทษครับ.. ไม่ทราบว่าบ้านของผู้อำนวยการเถียนอยู่หลังใหนครับ?”