สนามบินคนเยอะ ยังมีเสียงประกาศดังอยู่เหนือศีรษะ
เป็นครั้งแรกที่เฉิงเจวี้ยนรู้สึกว่าเสียงประกาศน่ารำคาญ
เขาลดสายตาลง เอาแต่จ้องเธออยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีการหลบเลี่ยง
วันนี้ฉินหร่านยังคงสวมเสื้อสเวตเตอร์สีดำเหมือนทุกวัน ผมริมหูห้อยอยู่บริเวณติ่งหู อารมณ์เย็นชา มองจากด้านข้างจะเห็นโครงหน้าที่เกลี้ยงเกลาอยู่รำไร
เฉิงเจวี้ยนเห็นว่าเธอไม่ตอบจึงหดมือกลับ
ท่านี้ค่อนข้างใกล้กันไปหน่อย เวลาคุยกันไอร้อนจะเข้าหู รู้สึกชาเล็กน้อยเหมือนมีไฟฟ้าสถิตที่ปลายนิ้ว
ขนตาฉินหร่านสั่นระริก “อย่าเข้ามาใกล้ไป”
เขาเม้มริมฝีปากสีเข้ม ใบหน้าสีหิมะดูอาลัยอาวรณ์และยังปกคลุมไปด้วยความอ่อนโยน ไม่ได้ดูเฉยเมยอย่างที่เห็นเป็นประจำ เสียงเบาลงและยังแฝงไปด้วยความลุ่มหลง เหมือนมีแสงส่องมาที่ตัว “งั้นเธอพิจารณาฉันหน่อยดีไหม?”
เสียงประกาศเหนือศีรษะและผู้คนโดยรอบที่สัญจรไปมากันขวักไขว่แทบจะกลายเป็นภาพหลอน
ฉินหร่านมองใบหน้าที่ราวกับภาพวาดหมึกจีนโบราณที่ลากไปทีละเส้นด้วยความประณีต…
เธอเป็นคนประเภทมองคนที่หน้าตาหรือเปล่า?
ฉินหร่านคิดอยู่ในใจสักพัก จากนั้นก็ก้มหน้ารับชะตากรรม——
ใช่ เธอเป็น…
“งั้นฉันจะลองพิจารณาดู” เธอตอบ
แม้สนามบินจะมีผู้คนมากมาย แต่เนื่องจากรูปร่างหน้าตาของทั้งสองโดดเด่นเกินไป น้อยมากที่จะเห็นหน้าตาอย่างพวกเขาสองคนอยู่บนภาพที่สวยหรูในโทรทัศน์ คนเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดสายตาคนทั่วไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนที่อยู่ด้วยกัน
ฉินหร่านดึงหมวกเสื้อสเวตเตอร์ขึ้นคลุมกว่าครึ่งหน้า “เครื่องบินจะออกแล้ว”
“อื้อ” เฉิงเจวี้ยนปัดเส้นผมที่คางเธอ เสียงของเขาเบาลงเล็กน้อย “เธอพิจารณาเสร็จหรือยัง?”
ฉินหร่านไม่พูด
เธอเดินมาจนถึงบนเครื่องบิน ก่อนจะเก็บอาการทั้งหมด
**
เมืองหลวง ตระกูลเฉิง
ลูกน้องของหัวหน้าหน่วยสองกำลังลากสินค้าตามมาทีหลัง ส่วนหัวหน้าหน่วยสองกลับไปรายงานผลการปฏิบัติงานที่บ้านตระกูลเฉิงก่อน
ในช่วงสองวันที่ผ่านมาอาการนายท่านเฉิงไม่ค่อยนิ่ง เรื่องที่ว่านายท่านเฉิงมอบงานชิ้นใหญ่ในเมือง C ให้เฉิงเจวี้ยนได้แพร่กระจายออกไปแล้ว
มีข่าวลือภายในตระกูลเฉิงบอกว่าเฉิงเจวี้ยนไม่ได้ทำอะไรเลยตอนที่อยู่เมือง C แค่เที่ยวเล่นกับแฟนสาวตัวน้อยคนนั้น
เนื่องจากเฉิงเจวี้ยนละเลยหน้าที่ กองกำลังและทรัพย์สินในเมือง C จึงหดลงไปครึ่งหนึ่ง
ไม่มีใครล่วงรู้ทุกย่างก้าวของเฉิงเจวี้ยนได้ดีไปกว่าคนสนิทของเฉิงเหราฮั่นในเมือง C วันนี้เขาไม่ได้ออกไปไหนเป็นพิเศษและยังอยู่ที่บ้านตระกูลเฉิงกับหัวหน้าหน่วยคนอื่นๆ เพื่อรอหัวหน้าหน่วยสองกลับมา
หัวหน้าหน่วยสองได้รายงานเวลาให้นายท่านเฉิงทราบล่วงหน้าแล้ว
กลุ่มคนเหล่านั้นรอไม่ถึงสองนาทีก็เจอหัวหน้าหน่วยสอง เขายังคงดูกระฉับกระเฉงต่างจากสีหน้าหดหู่ที่ทุกคนในห้องโถงจินตนาการเอาไว้ ท่าทางสงบเสงี่ยม ถ้าจะบอกว่ามีอะไรที่ต่างออกไปก็คงบอกได้ว่าเขาเหมือนจะดูดีขึ้นกว่าเดิม
นายท่านเฉิงวางถ้วยชาลงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณชายสามล่ะ?”
“คุณชายสามไปส่งคุณหนูฉินกลับมหาวิทยาลัยครับ” หัวหน้าหน่วยสองก้มตัวตอบด้วยความเคารพ
ทันทีที่หัวหน้าหน่วยคนอื่นๆ ในห้องโถงได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน เฉิงเจวี้ยนได้ชื่อว่าไม่สนใจเรื่องราวในตระกูลเฉิง ทว่าครั้งนี้ดูจะเกินไปหน่อย เพราะแม้แต่ภารกิจที่ผู้นำตระกูลมอบหมายให้ทำก็ทำได้ไม่สำเร็จ แล้วยังไปขลุกอยู่กับเด็กสาวคนนั้น สาวงามทำร้ายคนได้จริงๆ
“นายท่าน คุณชายสามใจไม่นิ่งพอ ให้ความสำคัญกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ทายาทตระกูลเฉิงสามคนนี้เขาดูจะขี้ขลาดไปหน่อย” ชายวัยกลางคนที่มีสายตาแหลมคมผิวคล้ำกล่าว
นายท่านเฉิงเม้มริมฝีปาก พอพูดถึงเรื่องนี้ก็หน้าขรึมลง
“การไปเมือง C ในครั้งนี้ คุณชายสามทำได้น่าผิดหวังมาก ถึงเขาจะเป็นคนฉลาด แต่เขาก็เน้นใช้อารมณ์ส่วนตัวในเรื่องสำคัญมากจนเกินไป เมื่อไม่กี่ปีก่อนท่านเคยให้เขาไปนำคนที่ฐานทัพ เขานำไปได้ครึ่งทางก็ไปเรียนหมอซะแล้ว คราวนี้กองกำลังในเมือง C เสียหายอย่างหนัก ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเขาละเลยต่อหน้าที่ ใจเขายังไม่นิ่งพอ ยากที่จะแบกรับคานบ้านตระกูลเฉิง” อีกคนลุกขึ้นมา
เฉิงเหราฮั่นนั่งฟังคนเหล่านี้พูด เขายังคงอยู่นิ่งๆ โดยไม่พูดอะไร
หัวหน้าหน่วยสองได้ยินคำกล่าวหาสุดท้ายก็ถึงกับผงะ จากนั้นก็รายงานนายท่านเฉิง “ผู้นำตระกูล กองกำลังในเมือง C ไม่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก คุณชายสามรวบรวมกลับมายังเมืองหลวงได้สำเร็จแล้วครับ ใกล้จะถึงตระกูลเฉิงแล้ว”
“รวบรวมมาได้สำเร็จ? กลับมาตระกูลเฉิงทั้งหมด? หัวหน้าหน่วยสองยังไงก็เป็นหัวหน้าหน่วยสอง ภายในเวลาเพียงสามวันก็สามารถเคลื่อนย้ายมาได้แล้ว” เฉิงเหราฮั่นมองหัวหน้าหน่วยสองโดยกล่าวคำชื่นชมที่แฝงความนัย
หัวหน้าหน่วยสองฟังออกว่าเฉิงเหราฮั่นกำลังประชดเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ พูดอย่างเคร่งขรึม “นอกจากกำลังคนทีมเล็กแล้ว อย่างอื่นเรียบร้อยหมดแล้วครับ”
เฉิงเหราฮั่นมองหัวหน้าหน่วยสองอย่างแน่วแน่ ทำเป็นนิ่งเฉย มือที่วางบนพนักแขนชะงักเล็กน้อย
เขารู้ดีว่าข้อมูลที่เขาได้รับมาจากคนสนิทของเขาไม่มีทางผิดพลาด แต่…ท่าทีหัวหน้าหน่วยสองที่ดูสงบเสงี่ยมก็เกินความคาดหมายของเขาเช่นกัน…
ปฏิกิริยาของหัวหน้าหน่วยสองไม่ได้เป็นไปตามความคาดหมายของทุกคนในตระกูลเฉิง ถึงนายท่านเฉิงจะไปที่นั่นด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้เวลาสิบวัน ก็ยังไม่สามารถพากองกำลังทั้งหมดในเมือง C กลับมาเมืองหลวงได้
พวกเขาต่างรู้อยู่แก่ใจ แต่ไหนแต่ไรมาเฉิงเจวี้ยนก็ไม่เคยมาไกล่เกลี่ยด่านตรวจพวกนี้มาก่อน หัวหน้าหน่วยสองพากำลังคนทั้งหมดมาเมืองหลวงโดยสวัสดิภาพได้อย่างไร?
หัวหน้าหน่วยสองโมโหเฉิงเจวี้ยนจนหลงอยู่ในฝันกลางวันไปแล้วหรือไง?
ขณะนี้ พ่อบ้านเฉิงเดินเข้ามาจากข้างนอก “นายท่านครับ กำลังคนของหัวหน้าหน่วยสองกลับมาแล้วครับ อยู่ที่ประตูทางเข้าสนามใหญ่ กำลังรอท่านไปตรวจเช็ก”
กลับมาทั้งหมดจริงๆ หรือนี่ ??
เฉิงเหราฮั่นไม่เชื่อ เขาเม้มริมฝีปาก ทำหน้าอึมครึมตามนายท่านเฉิงไปที่ประตูทางเข้าสนามใหญ่
สนามใหญ่เป็นสถานที่ฝึกที่หนึ่ง
ในเวลานี้ คนจำนวนมากกำลังยืนแน่นขนัด นอกจากกำลังคนทีมเล็กของเฉิงเหราฮั่นแล้ว กำลังคนของหัวหน้าหน่วยสองก็มีไม่น้อย
หัวหน้าหน่วยหลายคนที่เพิ่งเกลี้ยกล่อมนายท่านเฉิงเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ในห้องโถงเมื่อสักครู่นี้ต่างมองหน้ากันไปมา ชายผิวคล้ำเดินเข้าไปหาเฉิงเหราฮั่น “คุณชายใหญ่ ไหนคุณบอกว่าคุณชายสามไม่ได้ไกล่เกลี่ยด่านตรวจไง? ทำไมให้ผมไปเป่าหูนายท่าน? ‘บุญคุณ’ ครั้งนี้ ผมจะจดจำไว้”
เฉิงเหราฮั่น “…” เขากัดเลือดจดไว้แล้ว เขาจะคิดได้ที่ไหนกันว่าที่แท้แล้วเฉิงเจวี้ยนที่ไม่เคยเล่นอุบายมาก่อนก็เล่นอุบายเป็น!
แม้หัวหน้าหน่วยคนอื่นๆ จะไม่พูดอะไรก็ตาม แต่พวกเขาก็วิพากษ์วิจารณ์เฉิงเหราฮั่นเพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้เช่นกัน
หากข้อมูลที่เฉิงเหราฮั่นเสนอมาเป็นความจริง ก็ถือว่าสำคัญมากสำหรับหัวหน้าหน่วยเหล่านี้ ทว่า…ถ้าข้อมูลที่เฉิงเหราฮั่นเสนอมาเป็นเท็จ ก็จะทำให้หัวหน้าหน่วยหลายคนที่กลับมามองเฉิงเหราฮั่นเป็นคน “จิตใจคับแคบ”
หลังกลุ่มคน
หัวหน้าหน่วยสองกลับสอบถามเรื่องเฉิงมู่กับพ่อบ้านเฉิง
“เฉิงมู่?” พ่อบ้านเฉิงไม่คิดว่าหัวหน้าหน่วยสองจะถามถึงเฉิงมู่ขึ้นมากะทันหัน “เขามาจากค่ายฝึกพิเศษพร้อมกับพวกพี่ๆ เขา”
“ค่ายฝึกพิเศษ?” หัวหน้าหน่วยสองชื่นชมด้วยความเลื่อมใส “ไม่คิดว่าค่ายฝึกพิเศษในเมืองหลวงจะยอดเยี่ยมขนาดนี้”
“เฉิงมู่แค่ติดตามคุณชายสามเท่านั้น” พ่อบ้านเฉิงค่อยๆ อธิบายให้หัวหน้าหน่วยสองฟัง “เหมือนว่า จิน-มู่-สุ่ย-หั่ว-ถู่ เป็นคนที่คุณชายสามเก็บมาจากข้างนอกตั้งแต่เด็ก ประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจน ปกติพวกเขาจะไม่ยุ่งเรื่องตระกูลเฉิง พวกเราแค่เจอเฉิงมู่มากหน่อยเท่านั้นเอง”
หัวหน้าหน่วยสองพยักหน้า เขารู้มาตลอดว่าตระกูลเฉิงเก่งกาจ แต่ไม่คิดว่าจะเก่งกาจถึงขนาดนี้ ใครก็ตามที่มาจากค่ายฝึกพิเศษต่างก็แข็งแกร่งมาก
เขารู้สึกเคารพพ่อบ้านเฉิงจากใจขึ้นมาทันใด
หลังจากส่งหัวหน้าหน่วยสองไป พ่อบ้านเฉิงก็หดรูม่านตาด้วยความสับสน หัวหน้าหน่วยสองคนนี้…แปลกจริงๆ
**
ด้านนี้
ฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยนยังอยู่ระหว่างทางไปเขตที่พักอวิ๋นจิ่น หลังจากไปเมือง C ได้ไม่กี่วัน ก่อนจากมาฉินหลิงก็มีของที่อยากจะฝากมาให้ฉินฮั่นชิว
และฉินหร่านก็อยากมารายงานฉินฮั่นชิวว่าฉินหลิงไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก
ตอนที่ทั้งสองมาถึง อาเหวินไม่ได้อยู่ที่นั่น ฉินฮั่นชิวยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องโถง พลิกดูเอกสาร
“ตอนเย็นทานข้าวที่นี่เถอะ? ช่วงเช้าพ่อไปซื้ออาหารมาพอดี” พ่อบ้านฉินไม่อนุญาตให้ฉินฮั่นชิวไปซื้ออาหารหรือเดินซื้อของอะไรพวกนี้ แต่ถ้ามีโอกาสฉินฮั่นชิวก็ไม่พลาด
ฉินหร่านเงยหน้าสำรวจมองการจัดเรียงข้าวของภายในบ้าน พยักหน้าอย่างเฉยชา
เมื่อฉินฮั่นชิวเห็นเธอตอบตกลง ใบหน้าก็เผยให้เห็นถึงความยินดี อีกทั้งเขายังเอาเอกสารไปสอบถามเฉิงเจวี้ยน
เฉิงเจวี้ยนวิเคราะห์ประเด็นทางเศรษฐกิจแต่ละประเด็นอย่างละเอียดให้เขาฟัง ทันทีที่เฉิงเจวี้ยนยกประเด็นทางเศรษฐกิจที่เข้าใจยากและซับซ้อนบนกระดาษเหล่านี้มาอ้างอิง ฉินฮั่นชิวก็เข้าใจโดยพลัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว…
พอฉินฮั่นชิวมองแผ่นหลังเฉิงเจวี้ยนที่เดินเข้าไปรินน้ำในครัว ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า ดูเหมือนครั้งนี้เสี่ยวเฉิงจะสุภาพกับเขาขึ้นมาหน่อย…
หลังจากกินข้าวกับฉินฮั่นชิวเสร็จ ฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยนก็กลับไปที่ถิงหลาน
ทั้งสองเพิ่งจะไปได้ไม่นาน
พ่อบ้านฉินกับอาเหวินก็มาฝึกสอนเขา
“ขอโทษครับคุณชายสอง” พ่อบ้านฉินก้มหน้า “ช่วงสองวันที่ผ่านมาเรากำลังยุ่งอยู่กับการพัฒนาโปรเจกต์ซอฟต์แวร์ ก็เลยย้ายมาสอนคุณตอนเย็น”
“ไม่เป็นไร วันนี้เสี่ยวเฉิงมา เขาสอนฉันแล้ว” ฉินฮั่นชิวดันเอกสารไปตรงหน้าพ่อบ้านฉิน
พ่อบ้านฉินอ่านคำอธิบายบนเอกสารของฉินฮั่นชิวโดยละเอียดรวมทั้งข้อเสนอแนะที่เขียนไว้อย่างเป็นระเบียบ เสี่ยวเฉิงคนนั้นอีกแล้ว?
แฟนหนุ่มคนนั้นของฉินหร่านที่ฉินฮั่นชิวพูดติดปาก?
พ่อบ้านฉินอึ้งไปสักพัก ก็จริงที่เป็นถึงนักศึกษาภาควิชาฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยเมืองหลวง ถ้าเป็นแฟนเธอได้ก็ต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาแน่นอน
เขาออกไปพร้อมกับเอกสารที่ฉินฮั่นชิวเขียนไว้ กลับไปถึงรถก็อดไม่ได้ที่จะโทรหาฉินซิวเฉิน
ขณะนี้ฉินซิวเฉินยังคงอยู่ในโรงแรมเมือง C
ตอนที่โทรศัพท์ดังขึ้น เขากำลังออกมาจากห้องน้ำ สวมชุดคลุมอาบน้ำ ปลายนิ้วขาวรวบคอเสื้อ ฉินหลิงเขียนกระดาษคำตอบของวันนี้เสร็จแล้วก็เปิดเกมบนคอมพิวเตอร์
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้เล่นเกมคอนโซลที่ฉินซิวเฉินรวบรวมหามาให้และยังเป็นครั้งแรกที่เขาเล่นเกมที่ฉินหร่านดาวน์โหลดมาให้ต่อหน้าฉินซิวเฉิน
โดยไม่ต้องหลบเลี่ยง
ขณะที่ถือโทรศัพท์ ฉินซิวเฉินก็มองมาทางฉินหลิง กำลังจะกดปุ่มโทรออก มือของเขาก็หยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของฉินหลิง ดวงตาดำขลับที่สวยงามก็เผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ…