บทที่ 116 ดาร์ก เดม่อนไม่สามารถเลือกระหว่างเวลากับความรักได้

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 116 ดาร์ก เดม่อนไม่สามารถเลือกระหว่างเวลากับความรักได้
บทที่ 116 ดาร์ก เดม่อนไม่สามารถเลือกระหว่างเวลากับความรักได้

ดาร์กเทน้ำแอปเปิ้ลและน้ำลูกแพร์คั้นสดลงในแก้วสองแก้ว แล้วส่งให้ไดแอนนากับโรส

เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สองคนชอบรสชาติของน้ำผลไม้ทั้งสองอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงหยิบแก้วและจิบเข้าไปโดยไม่ลังเลเลย

ดาร์กเทน้ำให้ตัวเองอีกแก้วแล้วถามอย่างสบาย ๆ “แล้วพวกเธออยากรู้อะไรล่ะ?”

ไดแอนนา “แน่นอนว่าทุกอย่าง– โอ๊ย!”

โรสหยิกเอวเพื่อนของเธอทันทีและกระซิบถามว่า “มันจบแล้วเหรอ?”

ดาร์กตอบ “มันจบลงแล้ว”

โรสตบหน้าอกของเธอ ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดีแล้ว”

เมื่อเธอพูดจบก็ดึงไดแอนนาขึ้นและกล่าวว่า “ราตรีสวัสดิ์” แล้วเดินออกจากห้องไป

หลังจากที่ดาร์กส่งเด็กหญิงทั้งสองออกไปแล้ว เขาก็กดล็อกประตูอีกครั้ง โดยแทบจะทันที สีหน้าของเขากลับมาเคร่งขรึมเล็กน้อย ท่าทางดูเคร่งเครียดและจริงจัง

สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้เกินความคาดหมายของดาร์กจริง ๆ และอันที่จริงเขาไม่ได้ผ่อนคลายอย่างที่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นเลยสักนิด

“เดือนใหม่แล้ว”

อย่างแรกเลย ดาร์กคิดที่จะตรวจสอบค่ามหาบาปในตอนนี้ก่อนแล้วจึงค่อยวางแผนใหม่ ในขณะที่จิตใจของเขายังชัดเจนอยู่

ทว่าก่อนอื่นนั้น…ควรอาบน้ำก่อนจะดีกว่า

แม้ว่าก่อนหน้านี้ผมจะถูกเป่าให้แห้งแล้ว แต่ความจริงตัวเขาก็เปียกฝนมา ถ้าไม่ระวัง เขาอาจจะต้องไปห้องพยาบาลในวันพรุ่งนี้จริง ๆ

วันแรกของเดือนพฤศจิกายนเป็นวันฮัลโลวีน และวันพุธจะเป็นวันหยุดของนักเรียน

ดาร์กใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำร้อน เปลือกตาหรี่ลงและหวนคิดถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ทันใดนั้น เขาก็นึกได้ว่าหญิงสาวผมสั้นที่ถูกเขาชกคว่ำในวิหาร ดูเหมือนจะสวมชุดเดียวกันกับเวอร์เธอร์…

“ไม่มีทางน่า?”

เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับโรเบิร์ต จู่ ๆ ดาร์กก็รู้สึกไม่ดี

หลังจากอาบน้ำแล้ว ดาร์กก็เป่าผมให้แห้ง ห่อผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกจากห้องน้ำ

แต่ทันทีที่ก้าวเท้าออกมา เขาก็กระโดดกลับเข้าไปในห้องน้ำทันที

“อาบเสร็จแล้วเหรอ?” เสียงเกียจคร้านของศาสตราจารย์ลิลลี่ดังมาจากเตียงในห้องนอน

ดาร์กหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่อตัวไว้ ก่อนจะออกไปหยิบเสื้อผ้า

“ศาสตราจารย์ครับ การบุกเข้ามาในหอพักนักเรียนไม่ใช่สิ่งที่ภูตที่ดีควรทำเลยนะครับ”

ศาสตราจารย์ลิลลี่ตบหน้าอกของเธอทันที และถอนหายใจด้วยความโล่งอก “โชคดีที่ฉันไม่ใช่ภูตที่ดี”

“เมี้ยว เมี้ยว~” หญ้าแมวปีนขึ้นไปบนเตียงแล้วถูตัวของมันกับแขนของเธอ

เธออุ้มหญ้าแมวไว้ในอ้อมแขน หยอกล้อเล่นกับมัน แล้วพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “ดาร์ก ไม่คิดเลยว่าเธอจะสนใจเลี้ยงแมวด้วย”

ดาร์กตอบ “นั่นมันต้นไม้ครับ”

ศาสตราจารย์ลิลลี่ “นี่มันแมว!”

หญ้าแมว “เมี้ยว!”

ดาร์กหยิบชุดนอนและเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุด หลังจากที่เขาออกมา เขาก็พูดว่า “ศาสตราจารย์ครับ คุณมาหาผมตอนดึกดื่นเพื่อเล่นกับแมวเหรอ?”

ศาสตราจารย์ลิลลี่ยังคงจดจ่ออยู่กับการเล่นกับแมว โดยไม่สนใจดาร์กเลย

สักพักเธอก็เดินไปที่หัวเตียงและลุกขึ้นนั่ง วางหญ้าแมวไว้บนเข่าของเธอ แล้วกวักมือเรียกดาร์กให้นั่งลงข้างเธอ

ภูตตัวน้อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่ง และทำหน้าตาสดชื่นราวกับอยู่ในทุ่งแจ้ง

ดาร์กนั่งลงข้างเธอ พร้อมที่จะฟังสิ่งที่เธอกำลังจะพูด

ศาสตราจารย์ลิลลี่กระซิบเบา ๆ หลังจากสงบลง “ดาร์ก เธอเคยชอบใครสักคนไหม?”

ดาร์กส่ายหัวของเขา

ศาสตราจารย์ลิลลี่ว่าต่อ “ฉันก็ว่างั้น เธอยังเด็กมากนี่นา”

จู่ ๆ ดาร์กก็ถามว่า “แล้วศาสตราจารย์ล่ะครับ?”

ศาสตราจารย์ลิลลี่กล่าวอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอน ฉันมีสิ ฉันอายุเยอะแล้วนะ!”

ดาร์กใช้โอกาสนี้ถามคำถามที่เขาอยากถามมาตลอดว่า “อาจารย์อายุเท่าไหร่ครับ?”

ศาสตราจารย์ลิลลี่ตอบ “ไม่แก่มากหรอก แค่สองร้อยปีเท่านั้นเอง”

ดาร์กคำนวณคร่าว ๆ แล้วพูดด้วยความประหลาดใจ “สำหรับภูตแล้วนั่นยังนับว่าเป็นวัยเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?”

ศาสตราจารย์ลิลลี่แย้ง “นี่! ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ!”

ดาร์ก “…”

ศาสตราจารย์ลิลลี่กล่าวต่อ “ช่วงชีวิตของมนุษย์อย่างเธอนั้นสั้นเกินไป พวกเธอทุกคนสามารถหายไปได้ในพริบตา เอลลี่ก็เป็นแบบนี้ พุดจ์ก็เป็นแบบนี้ และเอมิเน็มก็เป็นแบบนี้…”

ดาร์ก “พวกเขาคือใคร?”

ศาสตราจารย์ลิลลี่ตอบ “เอลลี่เป็นเพื่อนคนแรกของฉัน ก่อนดีดี้เสียอีก! เธออ่อนโยนมาก ทำอาหารเก่ง และบิสกิตวานิลลาฝีมือเธอก็อร่อยมาก เธอสูงพอ ๆ กับฉัน แต่เธอก็ทำได้ทุกอย่าง… น่าเสียดาย วันหนึ่งฉันกลับบ้านไปแล้วไม่ได้เจอเธออีกเลย”

ดาร์กถามต่ “แล้วพุดจ์ล่ะครับ?”

“พุดจ์”

ศาสตราจารย์ลิลลี่ลูบแก้มเธอครู่หนึ่งแล้วคิดว่า “เขาเป็นพ่อค้าเนื้อ แต่ทุกครั้งที่เขาฆ่าหมู เขาจะไปโบสถ์เพื่อสารภาพบาป ฉันได้ยินมาว่าภายหลังเขาแต่งงานกับแม่ชีในโบสถ์ ให้กำเนิดลูก และได้เป็นหมอ”

ดาร์กถามต่อ “แล้วเอมิเน็มล่ะครับ?”

ศาสตราจารย์ลิลลี่เงียบไปครู่หนึ่ง “เอมิเน็ม… เอมิเน็มเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เขาน่าทึ่งและก็อายุน้อยมาก แต่เขาสามารถใช้ดาบได้ดีกว่าฉัน เราลงทะเบียนทีมผจญภัยและไปในสถานที่อันตรายเสมอ แล้วก็…เป็นเขาที่ช่วยฉันไว้ทุกครั้ง”

ดาร์กถาม “ทีมผจญภัย?”

ศาสตราจารย์ลิลลี่ “อืม ทีมผจญภัยสี่คน มีฉัน ดีดี้ เคเซอร์ และเอมิเน็ม”

เมื่อพูดจบเธอก็ดึงการ์ดดอกไม้สวยงามที่มีดอกไม้สีน้ำเงินออกมา

นั่นคือแม่มดสีคราม ซึ่งเป็นกุหลาบสีน้ำเงินที่หายากมาก

แม่มดสีครามนั้นเป็นตัวแทนของความรักอันบริสุทธิ์และความเมตตากรุณา อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของสัญญาชั่วนิรันดร์

ศาสตราจารย์ลิลลี่ใส่พลังเวทมนตร์เข้าไปในการ์ดดอกไม้ แล้วแม่มดสีครามก็เริ่มผลิบานทีละดอก

เมื่อดอกไม้โผล่ออกมาจากพื้นผิวการ์ดและกระจัดกระจายออกไปด้านนอก ใบหน้าก็ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวการ์ด

มันเป็นเด็กวัยรุ่นที่มีใบหน้ากลมและยิ้มหวานราวกับภูต

ดาร์กเคยเห็นครั้งหนึ่ง ในวันที่ศาสตราจารย์ลิลลี่เมา

ชั่วโมงนั้นยาวนานและกลางคืนก็มืดมิด

ศาสตราจารย์ลิลลี่ถือการ์ดดอกไม้และเล่าเรื่องราวของเธอกับเอมิเน็ม ดีดี้ และเคเซอร์

นั่นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขและน่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตสองร้อยปีของเธอ เป็นช่วงที่เธอคิดถึงมากที่สุด

นักดาบหนุ่มที่ขี้อายและใจดี ภูตผู้เย่อหยิ่งและดื้อรั้น ภูตตัวน้อยจอมซน และนักเล่นแร่แปรธาตุก็อบลินที่พยายามดูแลพวกเขาเหมือนพ่อแม่อย่างดีที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง

มีเพียงการดูแลกันและชดเชยข้อบกพร่องของกันและกันเท่านั้นจึงจะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ยาวนาน

แน่นอน มันเป็นเพียงห้าปี แต่ลิลลี่รู้สึกว่าช่วงนั้นยาวนานเหมือนห้าสิบปี

ในปีที่ห้าของการเดินทางร่วมกัน พวกเขาอาศัยแผนที่ที่ขาดรุ่งริ่งเพื่อค้นหาวิหารโบราณที่ถูกฝังไว้ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ในใต้ดินของป่าที่ไร้ผู้คน

มีภาพจิตรกรรมฝาผนังต่าง ๆ ที่แกะสลักไว้ในวิหาร เผยให้เห็นอดีตอย่างเงียบ ๆ

มีรูปปั้นมากมายในส่วนลึกของวิหาร

บ้างก็หัก บ้างก็สมบูรณ์

บ้างก็ถูกทอดทิ้งอย่างสมบูรณ์ และบ้างยังมีร่องรอยของพระเจ้าหลงเหลืออยู่

จนกระทั่งเข้าไปในโถงแห่งการวิงวอนของเทพธิดาแห่งจันทรา พวกเขาก็พบกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งทีมมา

หลังจากฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ในที่สุด พวกเขาก็เผลอไปกระตุ้นร่องรอยสุดท้ายที่ว่านั้น

คนทั้งสี่จะสามารถออกจากวิหารได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาผ่านการทดสอบขั้นสุดท้ายไปได้เท่านั้น

สิ่งที่เรียกว่าการทดสอบนั้นคือ การเลือกระหว่าง ‘ความรัก’ และ ‘กาลเวลา’

ดีดี้เลือก ‘เวลา’

เคเซอร์เลือก ‘ความรัก’

ลิลลี่เลือก ‘ความรัก’

เอมิเน็มเลือก ‘เวลา’

ดาร์กอุ้มหญ้าแมวออกมา แล้วคลุมตัวของลิลลี่ด้วยผ้าห่ม