ตอนที่ 345 เย่เซวียนอยากฆ่าเย่เฉิน

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 345 เย่เซวียนอยากฆ่าเย่เฉิน

ซูมู่ชิงชะงักไป หญิงสาวเหม่อมองหน้าเย่เฉิน “แสดงละครเหรอ? คุณหมายความว่ายังไง?”

เย่เฉินแค่นเสียง “หมายความว่ายังไง? คุณยังจะถามผมอีกเหรอว่าหมายความว่าอะไร?”

“คุณรู้ตั้งนานแล้วว่าฉินหงเหยียนโดนคนตระกูลซูของพวกคุณจับตัวไป แล้วรู้นานแล้วด้วยว่าแฟนผมโดนจับไปไว้ที่ไหน ไม่อย่างนั้นคุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าหล่อนปลอดภัย แต่ทำไมถึงได้รู้เรื่องของแฟนผมเยอะแยะขนาดนั้น? หงเหยียนโดนคนตระกูลซูจับไปแน่นอน!”

“หงเหยียนโดนพวกคุณตระกูลซูจับไป!”

ซูมู่ชิงมองเย่เฉินด้วยใบหน้าตัดพ้อ “เย่เฉิน คุณเชื่อฉันเถอะนะ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าฉินหงเหยียนอยู่ที่ไหน แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าหล่อนโดนคนที่บ้านฉันจับไปหรือเปล่า แต่ฉันเชื่อว่าคุณปู่กับน้องชายฉันไม่มีทางหลอกฉัน”

“เชื่อคุณ? ทำไมผมต้องเชื่อผู้หญิงตระกูลซูอย่างคุณด้วย!” เย่เฉินตอกหน้าหญิงสาวอย่างไม่เกรงใจ

ซูมู่ชิงใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังเหมือนหวังเจียเหยาที่งดงามชวนให้คนลุ่มหลง และเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบจนไร้ที่ติ

แล้วผู้หญิงสวยๆ อย่างหวังเจียเหยายังเป็นคนขี้โกหก ดังนั้นเย่เฉินจึงรู้สึกว่าซูมู่ชิงน่าจะเป็นผู้หญิงประเภทเดียวกับหวังเจียเหยาแน่นอน

เพียงแต่ว่าซูมู่ชิงปกปิดได้แนบเนียนกว่าอีกฝ่ายเท่านั้น

ซูมู่ชิงรีบร้อนอธิบาย หญิงสาวคว้าหมับเข้าที่แขนเสื้อของอีกฝ่ายอย่างร้อนใจ “เย่เฉินฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงฉินหงเหยียน แต่ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าหล่อนอยู่ที่ไหน ทำไมฉันต้องหลอกคุณด้วย?”

เย่เฉินสะบัดซูมู่ชิงทิ้ง “ทำไมล่ะ? ไม่ใช่เพราะคุณอยากแต่งงานกับผม อยากเป็นสะใภ้ตระกูลซูของเราหรือไง! ตระกูลซูของคุณกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะได้เส้นสายในระดับโลกของตระกูลซูเรา หลังจากคุณแต่งงานกับผมแล้ว ตระกูลซูของคุณก็จะยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศนี้!”

ซูมู่ชิงทำหน้าไม่ถูกโดนผู้ชายว่าแบบนี้ หล่อนย่อมไม่ยอมรับแน่นอน “ฉันไม่ได้อยากจะแต่งงานกับคุณ…”

เย่เฉินกล่าวเสียงเย็น “อยากหรือเปล่าคุณรู้ดีแก่ใจ! ซูมู่ชิงวันนี้ผมบอกคุณได้อย่างชัดเจนเลยนะว่า ผมเย่เฉินจะแต่งงานกับฉินหงเหยียนแค่คนเดียวเท่านั้น คุณอย่าได้คิดอยากจะเป็นผู้หญิงของผม! ส่วนบ้านรองผมก็คงจะไม่พิจารณาคุณ!”

ซูมู่ชิงได้ยินคำพูดแบบนี้ ทันใดนั้นเองสีหน้าก็แดงก่ำด้วยความเคอะเขิน นี่เป็นคำพูดที่น่าอายที่สุดในชีวิตที่ตนเองเคยได้ยินมาก่อน!

ผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองหลวงอย่างหล่อน เป็นคนที่ผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนไล่ตามจีบ คิดไม่ถึงว่าจะโดนผู้ชายบอกว่าไม่ยินดีรับหล่อนเป็นภรรยาคนที่สอง!

ซูมู่ชิงโดนเย่เฉินทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง

ซูมู่ชิงเป็นผู้หญิงที่เย่อหยิ่ง หล่อนยังคงปฏิเสธต่อ “เย่เฉิน ฉันเองก็ไม่ได้ชอบคุณ เมื่อสี่ปีก่อนคุณทำร้ายฉันแบบนั้น ฉันจะชอบผู้ชายที่เคยขืนใจฉันได้ยังไง?”

บางทีถ้าเย่เฉินได้ยินคำพูดนี้เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เขาอาจยังพอเชื่อ

แต่ว่าในช่วงหลังๆ มานี้ตอนเขาดักฟังฉินหงเหยียนกับสวี่ฉู่หมิง เย่เฉินได้ยินเองอย่างชัดเจนกับหูเลยว่าซูมู่ชิงพูดกับฉินหงเหยียนว่าหล่อนชอบเขา

ดังนั้นเย่เฉินจึงยิ่งแน่ใจว่าซูมู่ชิงกำลังโกหก!

ดังนั้นเย่เฉินจึงยิ่งปักใจเชื่อในข้อสันนิษฐานที่ว่าซูมู่ชิงเป็นคนที่จับตัวฉินหงเหยียนไป

เย่เฉินกล่าวว่า “ผมจะไปรู้ได้ยังไง? ผมได้ยินมาว่าผู้หญิงร้อยละ 80 ต่างก็อยากโดนข่มขืนบางทีคุณอาจมีรสนิยมแบบนี้ก็ได้”

เพราะรีบร้อนหาข่าวของฉินหงเหยียน เย่เฉินถึงได้ปากกล้าพูดจาไม่คิด

เพี้ยะ!

ส่วนซูมู่ชิงเองได้ยินเรื่องนี้ก็ทนไม่ไหว หญิงสาวยกมือขึ้นแล้วฟาดประทับฝ่ามือลงบนหน้าเย่เฉิน!

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง น้ำตาจากความสะเทือนในของซูมู่ชิงก็ร่วงหล่นออกมาไม่หยุด!

ในตอนที่น้ำตาร่วงหยดลงบนวงหน้างดงามของซูมู่ชิง น้ำตานั้นวาววับส่องกระกายราวเพชรน้ำงาม

ส่วนดวงตาที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำตาของซูมู่ชิงนั้นทำให้คนเกิดความสงสาร แววตานั้นราวกับพูดได้ เย่เฉินจำต้องยอมรับว่าเขาไม่เคยเห็นดวงตาที่งดงามเช่นนี้มาก่อน!

ซูมู่ชิงกล่าวด้วยเสียงสะอื้น “เย่เฉิน คุณจะมาดูถูกฉันแบบนี้ไม่ได้! เมื่อสี่ปีก่อนหลังจากที่ฉันออกมาจากห้องดำแล้วกลับมาที่นี่ ฉันก็กลายเป็นโรคซึมเศร้า น้ำหนักลงเหลือแค่ 40 กว่ากิโลกรัม ฉันไม่ได้แพศยาอย่างที่คุณพูด! เย่เฉินคุณว่าฉันแบบนี้ ทำร้ายจิตใจฉันเกินไป! ฉันเกลียดคุณ!”

พูดจบซูมู่ชิงก็วิ่งออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา

“ซูมู่ชิง…”

เห็นท่าทางเศร้าโศกเสียในของซูมู่ชิง ในวินาทีนี้เย่เฉินอยากจะร้องเรียกหญิงสาว และอยากจะวิ่งโร่ตามหล่อนไป

ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อโดนซูมู่ชิงตบแล้ว เย่เฉินกลับรู้สึกว่าหญิงสาวดูมีความเป็นคนมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา

ซูมู่ชิงยิ่งใจกว้างมากเท่าไหร่ ยิ่งไม่คิดเล็กคิดน้อยเท่าไหร่ เย่เฉินก็ยิ่งรู้สึกว่าพิกล

แต่ถ้าซูมู่ชิงเกลียดเขา ถึงจะทำให้เย่เฉินสบายใจเสียกว่า…

และในเวลานี้เองเย่เฉินก็รู้สึกว่าคำพูดที่เขาเพิ่งพูดเมื่อครู่น่าจะแรงเกินไป

ที่จริงแล้วด้วยความสามารถของเย่เฉิน น่าจะมองออกนานแล้วว่าซูมู่ชิงไม่ได้รู้เรื่องราวความเป็นไปของฉินหงเหยียนแม้แต่น้อย

ต่อให้ฉินหงเหยียนโดนคนตระกูลซูจับตัวไปจริงๆ ซูมู่ชิงเองก็ไม่น่าจะรู้เรื่องอะไรด้วย

แต่ว่าเย่เฉินรักฉินหงเหยียนมากเกินไป เพราะก่อนหน้านี้เขาเกือบจะเสียฉินหงเหยียนไปแล้ว

นี่เขาเพิ่งจะแย่งหญิงสาวมาจากเงื้อมมือของสวี่ฉู่หมิงได้สองวันเท่านั้นเองก็ต้องมาเสียหญิงสาวไปอีกครั้ง ทำให้เย่เฉินจึงไม่สามารถจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้

ซูมู่ชิงเดินออกมาจากเรือนสี่ประสานเปิดประตูรถ JEEP ออกแล้วตรงดิ่งไปที่บ้านของซูเจิ้นหาง

“คุณหนูเป็นอะไรไปครับ?”

เพิ่งมาถึงห้องรับแขกด็มีชายชราอายุ 60 กว่าปีเห็นใบหน้าเศร้าสร้อย เปื้อนน้ำตาของหญิงสาวก็ถามอย่างห่วงใย

ชายชราคนนี้เป็นคนรับใช้ของตระกูลซูและนับว่าเป็นพ่อบ้าน เขาเห็นพวกซูมู่ชิงตั้งแต่เด็กจนโต

“พ่อบ้านเฉิง คุณปู่อยู่บ้านไหมคะ? หนูมีเรื่องอยากคุยกับคุณปู่”

ซูมุ่ชิงเองรับกระดาษมาซับน้ำตา

พ่อบ้านเฉิงกล่าวว่า “ตอนนี้นายท่านอยู่ที่ห้องทำงานกำลังคุยงานอยู่ คุณหนูนั่งพักก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมชงชาให้”

และในเวลาเดียวกัน ณ ห้องทำงานของซูเจิ้นหาง

“นายท่าน เมื่อวานเราเจอคนที่น่าสงสับว่าคือเย่เซวียน เหมือนเขาจะมาที่เมืองหลวง!”

ชายหนุ่มอ่อนวัยกล่าวรายงานกับซูเจิ้นหาง

ซูเจิ้นหางหรี่ตาลง“เย่เซวียนไอ้คนขวัญกล้าเทียมฟ้า รู้ทั้งรู้ว่าฉันจะไม่ปล่อยเขาไปแน่ คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้ากลับมาที่เมืองหลวง!”

ชายอ่อนวัยกล่าวต่อว่า “หรือเขารู้ว่าวันนี้เราทะเลาะกับเย่เฉิน ดังนั้นถึงได้มาเพื่อเป็นกองหนุน? หรือว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคอยควบคุม UFO คือเขาหรือเปล่านะครับ?”

ซูเจิ้นหางกลับส่ายหน้า “UFO น่าจะเป็นแผนการที่เย่เฉินวางเอาไว้ก่อนจะออกจากเมืองหลวงเมื่อคราวก่อน ไม่น่าจะเกี่ยวกับเย่เซวียน เย่เซวียนเองก็ไม่น่าจะสนใจความเป็นตายของเย่เฉินนักหนา!”

ชายอ่อนวัยคนนั้นสับสน “ทำไมล่ะครับ? เย่เฉินไม่ใช่พี่น้องกับเย่เซวียนเหรอ?”

ซูเจิ้นหางแค่นเสียงเย็นชา “เย่เซวียนคนนี้เจ้าเล่ห์กลับกลอกกว่าเย่เฉินเป็นหมื่นเท่า ถึงแม่ว่าเย่เฉินจะใจกล้าและมีสมอง แต่เขาเองก็เป็นคนซื่อสัตย์ถือได้ว่าเป็นคนดี ไม่เคยทำเรื่องเหลวไหลมาก่อน แต่เย่เซวียนนั้นไม่เหมือนเย่เฉิน เขาเป็นจอมปีศาจ ที่เขาทำทั้งหมดนี้จะต้องมีแผนอะไรแน่”

ในระยะนี้ฉันลองคิดอย่างละเอียดแล้วว่าทำไมเขาถึงได้โยนซูมู่ชิงให้เย่เฉินย่ำยี ก็เพื่อให้เราเกลียดเย่เฉินจริงไหม? ก็เป็นไปได้มากเลยนะ เขาอยากจะอาศัยมือของตระกูลซูเรากำจัดเย่เฉินทิ้ง!”

ชายหนุ่มตกตะลึง “เย่เซวียนอยากจะยืมมือเราฆ่าคน อยากจะใช้เราฆ่าน้องชายแท้ๆ ของตัวเองเหรอครับ? หมอนี่อำมหิตเกินไปแล้ว!”