ตอนที่ 246 - สัตว์อสูร ระดับ 5 -หนึ่งกระบี่จู่โจมเข้าที่หัว !

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 246 – สัตว์อสูร ระดับ 5 -หนึ่งกระบี่จู่โจมเข้าที่หัว !

เจี้ยนเฉินไม่มีความรู้สึกกลัวอยู่ในจิตใจของเขาเมื่อต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับ 5 ทั้งสามตัวนี้ กลับกันเขารู้สึกเกลียดชังเพียงอย่างเดียว !

สัตว์อสูรทั้งสามยืนนิ่งอยู่กับความรู้สึกที่ครอบงำคนรอบข้าง ขณะที่ทำให้สัตว์อสูรตัวอื่นสั่นเทิ้มด้วยความกลัว แม้แต่ทหารรับจ้างที่เพิ่งต่อสู้พวกเขาก็ยังรู้สึกถึงความหวาดกลัวในใจราวกับมีก้อนหินกดทับอยู่บนตัวพวกเขา

“อะไร..นั่นอะไรกัน ? ” ในที่สุดก็มีคนพูดถึงสัตว์อสูรทั้งสาม

” มันสายเกินไปแล้ว ข้าไม่เห็นจุดจบที่ดีในตอนนี้..”

“มนุษย์วานรเกล็ดเขียว! เป็นไปได้อย่างไร ..”

“ไม่ดีแล้ว นั่นเป็นสัตว์อสูรระดับ 5 ! มีเพียงสัตว์อสูร ระดับ 5 เท่านั้นที่จะสามารถปลดปล่อยแรงกดดันเช่นนี้ … “

“ทั้งสามตัวนั้นคือสัตว์อสูรระดับ 5 ? สวรรค์ มีพวกมันถึง 3 ตัวอยู่ที่นั่นได้อย่างไร..?”

ถอย! ไม่มีใครสามารถต้านทานสัตว์อสูรระดับ 5 ได้ ! “

……

มีทหารรับจ้างไม่มากนักที่เคยพบเห็นสัตว์อสูรระดับ 5 มาก่อน แต่หนึ่งในคนที่เคยพบนั้นก็เริ่มกลัวและร้องออกมาทันทีที่เห็นพวกมัน ด้วยสัตว์อสูรระดับ 5 ทั้งสามที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ทุกคนหน้าซีดด้วยความกลัว พวกเขาพากันโยนหมวกเกราะลงไป แล้วพวกเขาก็เริ่มหนีกลับไปที่เมืองเวค

แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษผู้ซึ่งรู้เกี่ยวกับสัตว์อสูรระดับ 5 ก็เริ่มหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว แม้ว่าพวกเขาจะรู้มาก่อนหน้านี้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนปฐพีมาช่วยพวกเขา แต่สถานการณ์ก็แตกต่างไปในตอนนี้ มีสัตว์อสูรระดับ 5 ถึง 3 ตัวแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญจากเมืองจักรพรรดิก็ยังไม่เพียงพอที่จะจัดการกับมัน

ถอย ! ทุกคนหนี ! “

ทันใดนั้นทหารรับจ้างทั้งหมดก็ส่งสัญญาณให้ถอย ประตูเมืองสู่เมืองเวคมีทหารรับจ้างและทหารเกือบ 200,000 นายพยายามหลบหนีเข้าไปในเมืองเพื่อหลบหนีจากสนามรบ

“ทุกคนอย่าตื่นตระหนก พวกเราจะเป็นคนจัดการพวกสัตว์อสูรระดับ 5 เอง ! “

ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ดังออกมาจากที่ใดที่หนึ่ง ในขณะที่แสงสีแดงสองเส้นพุ่งลงมาจากกำแพงเมืองเหมือนดาวตกพุ่งไปยังสัตว์อสูรระดับ 5

เซียนปฐพีทั้งคาตาต้าและคาตาเฟยต่างก็เคลื่อนไหว แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะรออีกเล็กน้อยเพื่อซื้อเวลา แต่ด้วยความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นด้านล่าง พวกเขาไม่อาจลังเลอีกต่อไป ถ้ากำลังรบทั้งหมดล่าถอยเข้าไปในเมือง ไม่เพียงแต่จะเกิดความวุ่นวายทั้งเมือง แต่จะทำให้เมืองถูกบุกได้ง่ายขึ้น

คาตาต้าและคาตาเฟยถูกล้อมรอบไปด้วยชั้นของไฟดั่งเช่นพลังเซียน ขณะที่พวกเขาบินผ่านท้องฟ้า พวกมันใช้ระยะทางอีก 50 เมตรก่อนที่จะตกลงสู่พื้นในที่สุด แต่ยังคงล้อมรอบไปด้วยไฟเช่นเดียวกับพลังเซียน พวกเขาพุ่งตรงไปยังสัตว์อสูรระดับ 5

“พลังเซียนธาตุไฟ!”

“ไฟชนิดนั้นเหมือนแก่นแท้ นั่นมีเพียงเซียนปฐพีที่มีความเชี่ยวชาญพลังเซียนธาตุไฟอย่างลึกซึ้งเท่านั้นที่สามารถบรรลุได้!”

“เซียนปฐพี มีผู้เชี่ยวชาญเช่นนั้นอยู่ที่นั่นใช่หรือไม่ ? “

“เมื่อคิดว่ามีเซียนปฐพีอยู่ที่นี่…”

“ให้ตายเถอะ แล้วใครจะรับมือสัตว์อสูรระดับ 5 อันบัดซบอีก 2 ตัว? เรามีเซียนปฐพีผู้เชี่ยวชาญ 2 คนอยู่ข้างเรา! พี่น้อง ลุยไปข้างหน้า! ฆ่าไอ้สารเลวพวกนั้นและแก้แค้นให้กับพวกเราที่ตายไป ! “

เมื่อเห็นชั้นของไฟรอบ ๆ คาตาต้าและคาตาเฟย ทหารรับจ้างจำนวนมากก็รู้สึกดีใจและตะโกนออกมาด้วยความไม่เชื่อ การปรากฏตัวของพวกเขาเป็นเหมือนยากล่อมประสาทสำหรับคนที่ได้รับความหวาดกลัวเมื่อเห็นสัตว์อสูรระดับ 5 ทหารรับจ้างจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่ยังคงมีความกังวลอยู่บนใบหน้าของพวกเขา สัตว์อสูรมีความเหนือกว่าโดยธรรมชาติเมื่อเทียบกับมนุษยชาติ ถ้ามีสัตว์อสูรระดับ 5 สามตัวแล้ว เซียนปฐพีสองคนจะทำอะไรได้บ้าง

“ปล่อยให้ข้าจัดการกับราชาพยัคฆ์ขนทอง” เจี้ยนเฉินอุทานขณะที่เขาบินไปหาสองพี่น้องโดยไม่ลังเล กระบี่วายุโปรยของเขาพร้อมอยู่ที่ด้านข้างของเขา ในขณะที่เขาบินไปที่สัตว์อสูรระดับ 5 ทั้งสามด้วยความเร็วที่มองไม่ทัน ราวกับว่าเขากำลังร่อนไปทั่วพื้นดิน เจี้ยนเฉินได้ฟันสัตว์อสูรใด ๆ ก็ตามที่ขวางทางของเขาทันทีด้วยแสงสีฟ้าและสีม่วงจากกระบี่ของเขาทำให้เส้นทางของเขาทั้งหมดไม่มีอะไรมาขวาง

ในขณะนี้แสงสีฟ้าและสีม่วงของกระบี่วายุโปรยทำให้มันดูเหมือนคมหอกที่สามารถทำลายทุกการป้องกันและฆ่าอะไรก็ได้ แม้แต่คลื่นของสัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนก็ไม่สามารถหยุดเจี้ยนเฉินได้แม้แต่ครู่เดียว ราวกับว่าเจี้ยนเฉินเป็นเหมือนดั่งเทพเจ้าในขณะนี้ด้วยพลังที่ไม่มีอะไรเทียบได้ ยิ่งกว่านั้นมันเป็นเหมือนกับว่าเขาสามารถฆ่าได้ด้วยการยกมือและความตั้งใจ

คาตาต้าและน้องชายของเขาเข้าใกล้สัตว์อสูรระดับ 5 แล้ว ด้วยพลังเซียนธาตุไฟที่ล้อมรอบร่างของพวกเขาเพื่อเริ่มโจมตี ด้วยการโจมตีทุกครั้งของพวกเขา สัตว์อสูรระดับ 5 ทั้งสามจะตอบโต้การโจมตีของพวกเขา การต่อสู้ของพวกเขาได้เปลี่ยนบริเวณรอบ ๆ ไปจนจำไม่ได้ พลังการต่อสู้ของพวกเขาสาดกระจายไปทุกหนทุกแห่งและสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลก ในการโจมตีแต่ละครั้งพลังจะเพิ่มมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้น

“โฮก ! ” มนุษย์วานรเกล็ดเขียวคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวเมื่อกำปั้นขนาดเท่าหน้าอกของมนุษย์เปล่งประกายสีเขียวออกมาลงบนร่างคาตาต้าด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว

คาตาต้าเหวี่ยงตัวเองออกไปให้พ้นทางเพื่อหลบกำปั้น ด้วยเสียงดังปัง กำปั้นกระแทกลงบนพื้นดินที่คาตาต้าเคยยืนอยู่ พลังจำนวนมากกระเพื่อมไปทั่วพื้นดิน เมื่อกำปั้นถูกยกขึ้นจะมีหลุมลึก 3 เมตรและกว้าง 5 เมตรอยู่ด้านล่าง

อีกด้านหนึ่ง จระเข้หลังดาบจะพ่นลูกบอลสีเทาเข้าใส่คาตาเฟยในขณะที่เตรียมใบมีดบนหลัง เมื่อปรับระดับใบมีดให้ขนานกับพื้นใบมีดบนหลังก็บินไปที่คาตาเฟยด้วยความเร็วที่มองไม่เห็น

เมื่อเหลือบไปมองราชาพยัคฆ์ขนทองซึ่งเปล่งเสียงคำรามแสบแก้วหู กรงเล็บของมันแข็งแกร่งพอที่จะทำให้หินแตกกระจายและฉีกโลหะออกเป็นชิ้น ๆ ในชั่วพริบตาขณะที่พวกมันพุ่งไปที่คาตาเฟยพร้อมกับกลิ่นเลือดในปากขณะที่มันพยายามจะกัดเขา

คาตาเฟยและคาตาต้าไม่กล้าป้องกันการโจมตีใด ๆ จากสัตว์อสูรระดับ 5 ทั้งสาม พวกเขาทั้งคู่รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้สำหรับสัตว์อสูรทั้งสามอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะชนะ หากพวกเขาพยายามที่จะเผชิญหน้ากัน มันจะสิ้นเปลืองพลังเซียนอย่างรวดเร็วและหลบหนีได้ยาก สิ่งที่พวกเขาต้องการจะทำคือถ่วงเวลาและดึงความสนใจของสัตว์อสูร

ในช่วงเวลานั้นเจี้ยนเฉินก็ได้มาถึงพร้อมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อมองไปที่แผงคอสีทองของราชาพยัคฆ์ขนทอง กระบี่วายุโปรยของเขาก็เริ่มเพิ่มความน่าเกรงขามด้วยแสงสีฟ้าและสีม่วง ไม่มีใครคาดคิดว่าแสงสีฟ้าและสีม่วงที่เห็นบนกระบี่ของเจี้ยนเฉินจะมีพลังอันน่าสะพรึงกลัว

หายไปในความพร่ามัว เจี้ยนเฉินบินไปที่ราชาพยัคฆ์ขนทองที่อยู่ในท่ามกลางของการโจมตีคาตาเฟย ดวงตาของเขาเล็งอยู่ที่คอของราชาพยัคฆ์ขนทองและกระบี่วายุโปรยของเขาส่องแสงสีฟ้าและสีม่วงขณะที่มันบินไปยังสัตว์อสูร

แม้ว่ามันจะสัมผัสได้ถึงการโจมตีของเจี้ยนเฉิน แต่สัตว์อสูรระดับ 5 นั้นมีความรู้บางอย่างที่บอกมันว่า เจี้ยนเฉินนั้นอยู่ในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษเท่านั้น สำหรับราชาพยัคฆ์ขนทอง เจี้ยนเฉินไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ามด ดังนั้นมันจึงไม่สนใจเขา หางที่อยู่ด้านหลังสะบัดออกไปปะทะกับเจี้ยนเฉิน ด้วยความเร็วที่ส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งผ่านอากาศ

พลังในหางนั้นมีพลังมากอย่างไม่น่าเชื่อและแม้แต่กับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ อาวุธเซียนจะแตกเป็นชิ้น ๆ ถ้ามันถูกปะทะกับหางนี้ ทันใดนั้นหางของราชาพยัคฆ์ขนทองก็สัมผัสกับชั้นพลังของแสงสีฟ้าและสีม่วงและถูกตัดอย่างง่ายดายเป็นสองส่วน อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนที่ถูกตัดออกไปได้กระเด็นเปลี่ยนทิศทางใหม่เนื่องจากความเฉื่อยและการปะทะกับแขนของเจี้ยนเฉิน ทำให้มือที่จับกระบี่ของเจี้ยนเฉินเล็งต่ำไปจากคอของราชาพยัคฆ์

“โฮก~~~”

ราชาพยัคฆ์ขนทองส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดจนทำให้ทั้งทูตและเจี้ยนเฉินคิดว่าแก้วหูของพวกเขาจะแตก

“มันเหมือนครั้งที่แล้ว” เมื่อเห็นราชาพยัคฆ์ขนทองยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาของเจี้ยนเฉินทอประกายอันตรายในขณะที่เขาพยายามเปลี่ยนวิถีกระบี่ให้เป็นวิถีเดิม

กระบี่วายุโปรยแทงเข้าไปในคอของราชาพยัคฆ์ ทำให้ราชาพยัคฆ์ร้องออกมาอย่างน่าสมเพชอีกครั้ง ทันทีหัวของราชาพยัคฆ์ขนทองหมุนไปในอากาศพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมา ในขณะเดียวกันน้ำพุโลหิตที่พุ่งออกมาจากซากศพที่ลอยขึ้นไปในอากาศสูงถึง 2 เมตรก่อนที่จะตกลงไปบนพื้นดิน…

ราชาพยัคฆ์ขนทองระดับ 5 ได้ถูกตัดหัวภายในการโจมตีเพียงกระบวนท่าเดียว !