บทที่ 369 : ล้างบางเมืองจิงฉู (18) – แก๊งมังกรเขียว!

ที่บ้านเดี่ยวหลังหนึ่งในถนนหลินเจียง..

ร่างสูงใหญ่ของเตาฉีผู้ที่มีแผลเป็นบนใบหน้า กำลังเดินไปมารอบๆลานบ้านด้วยความกระวนกระวายใจไม่ต่างจากสุนัขติดจั่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล

เตาฉีเป็นหัวหน้าดูแลกลุ่มนักเลงบนถนนเส้นนี้ ไม่ว่าบนถนนหลินเจียงนี้จะมีเรื่องอะไรที่เกิดขึ้น เขาย่อมได้รับข่าวคราวอย่างรวดเร็ว รวมถึงข่าวเรื่องที่หลิงหยุนไปทุบทำลายสำนางานรื้อถอนก็เช่นกัน

ตอนนี้เตาฉีรู้ว่าหลิงหยุนกำลังไปที่หมู่บ้านหลินเจียงเพื่อจัดการรื้อถอนบ้านของเถียนเป๋อเตาเป็นรายต่อไป เขาจึงได้แต่ละล้าละลังและสับสนอย่างบอกไม่ถูก!

“พี่เตา.. พี่ต้องตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ฝ่ายใหน?”

เวลานี้ลูกน้องคนสนิททั้งสี่ของเตาหยงที่กำลังยืนรอฟังการตัดสินใจของตาฉีอยู่ข้างๆ ได้เอ่ยถามออกมาอย่างร้อนใจ

“พวกแกไม่ต้องมาเร่ง.. ไม่เห็นหรือยังไงว่าฉันกำลังใช้สมองอยู่?!” เตาฉีส่ายหน้าที่มีแผลเป็นของเขาพร้อมกับร้องบอกไป

เมื่อครั้งที่เถียนป๋อเตาพาคนไปรื้อถอนบ้านของหลิงหยุนนั้น เตาฉีเองก็พยายามติดต่อหลิงหยุน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนตี้เสี่ยวอู๋ก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน เพราะถูกตำรวจจับกุมตัวไปแล้ว!

เจ้าหน้าที่ของทางการเป็นผู้นำทีมรื้อถอนสิบกว่าคนเข้าไปทำการรื้อถอนบ้านของหลิงหยุน แล้วนักเลงอย่างเตาฉีจะมีอำนาจอะไรที่จะสามารถเข้าไปขัดขวางเจ้าหน้าที่ได้ อีกทั้งหลิงหยุนเองก็หายตัวไปหลายวัน ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายกันแน่!

แต่ตอนนี้หลิงหยุนกลับมาแล้ว และดูเหมือนจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมมากด้วย เมื่อมาถึงก็จัดการทุบทำลายสำนักงานรื้อถอนและบ้านของเถียนป๋อเตาเป็นการแก้แค้นทันที เตาฉีเองจึงทำตัวไม่ถูกว่าจะเลือกเข้าข้างใหนดี?

หากเขาเลือกอยู่ข้างหลิงหยุน.. และหลิงหยุนถูกทางการจับกุมตัวขึ้นมา แน่นอนว่าคนของทางการที่นำโดยเถียนป๋อเตา ก็ต้องกลับมาเล่นงานเขาอย่างแน่นอน และเขาคงยากที่จะต่อกรได้

แต่หากเตาฉีเลือกเข้าข้างเถียนป๋อเตา และเข้าไปช่วยเขาจัดการหยุดหลิงหยุน ครั้งนี้หากหลิงหยุนจี้จุดของเขาอีกครั้ง เขามิต้องตายทั้งเป็น หรือจบชีวิตเลยงั้นหรือ?!

เขาไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้.. คนหนึ่งก็คือหลิงหยุนที่สามารถควบคุมบงการชีวิตของเขาได้ ส่วนเถียนป๋อเตาก็เป็นเจ้าหน้าที่ของทางการ ตอนนี้หลิงหยุนกลับมาแล้ว และสองฝั่งต่างก็ร้อนแรงดั่งไฟ แต่เตาฉีจำต้องเลือกเพียงข้างเดียว!

เตาฉีไม่รู้ว่าหลิงหยุนมีไพ่ตายอะไรอยู่ในมือบ้าง แต่จากที่เขาคิดนั้น เพียงแค่กำลังความสามารถของหลิงหยุนคนเดียว ก็แข็งแกร่งหาใครเทียบได้ยากแล้ว และแน่นอนว่าหลิงหยุนจะสามารถจัดการเถียนป๋อเตาให้อยู่หรือตายได้อย่างแน่นอน!

เตาฉีจุดบุหรี่ขึ้นสูบ และจู่ๆคิ้วหนาของเขาก็ขมวดเข้าหากัน ดวงตาหรี่ลงพร้อมกับพูดรอดไรฟันว่า

“รีบไปช่วยหลิงหยุน!”

“พวกแกทั้งสี่คนไปรวบรวมลูกน้องที่มีฝีมือ แล้วไปที่บ้านของเถียนป๋อเตา และรอฟังคำสั่งจากหลิงหยุนเท่านั้น ไม่ว่าหลิงหยุนจะสั่งให้ทำอะไร พวกแกก็ให้ความร่วมมือเขาอย่างเต็มที่!”

เตาฉีกดบุหรี่ที่เหลืออยู่ครึ่งตัวลงบนพื้น และกัดฟันพูดอย่างคนที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว!

การเลือกอยู่ฝ่ายหลิงหยุนนั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้หรือไม่นั้น อย่างน้อยเตาฉีก็ไม่ต้องโดนหลิงหยุนจี้จุดอีก ส่วนปัญหาเรื่องอื่นนั้นเตาฉีเชื่อว่าเขาสามารถเอาตัวรอดได้

แต่หากหลิงหยุนเป็นฝ่ายชนะ แน่นอนว่าเตาฉีก็นับว่าเลือกข้างถูก แต่ต่อให้หลิงหยุนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และถูกจับกุมตัว เขาก็ยังพอมีหนทางที่จะสามารถหลบหนีจากจิงฉูได้

แต่หากเตาฉีไม่เลือกอยู่ข้างหลิงหยุน ไม่ว่าหลิงหยุนจะแพ้หรือชนะ เขาก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เกินวันที่ 8 มิถุนายนอยู่ดี เพราะหลิงหยุนเคยบอกกับเขาไว้ว่า จะให้ตี้เสี่ยวอู๋มาคลายจุดสุดท้ายให้กับเขาในวันนั้น..

“ลูกพี่ไม่ไปด้วยเหรอ?!” มังกรถามขึ้นมา

เตาฉีตอบกลับไปว่า “ฉันไปไม่ได้หรอก! ฉันไม่เหมือนพวกแก.. ถ้าฉันไปก็จะเป็นที่สะดุดตา ฉันกลัวว่าถ้าฉันไป ยังไม่ทันที่จะได้ช่วยหลิงหยุน ก็จะถูกตำรวจจับกุมตัวก่อนแล้วน่ะสิ!”

“หลิงหยุนถึงขนาดกล้าบุกเดี่ยวเข้าไปรื้อทำลายบ้านของเถียนป๋อเตา ฉันว่าแค่ความแข็งแกร่งของหลิงหยุนเพียงคนเดียว พวกแกคงแทบไม่ต้องช่วยอะไรเขามากนัก นอกจากช่วยจัดการสถานการณ์ที่อาจโกลาหลเท่านั้น พูดอย่างตรงไปตรงมา หากหลิงหยุนเป็นฝ่ายชนะ พวกแกก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากมาย แต่หากเขาพ่ายแพ้ อย่างมากพวกแกก็ถูกจับติดคุกสองสามวัน แล้วพอเรื่องซาตำรวจก็คงปล่อยตัว..”

จู่ๆเตาฉีก็มองคนสนิททั้งสี่พร้อมกับพูดยิ้มๆว่า “แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง.. ฉันนี่ล่ะที่จะเป็นคนที่โชคร้ายที่สุด..”

แต่ถ้าเตาฉีไม่เลือกข้าง.. ผลก็คือเขานี่ล่ะที่จะเป็นผู้ที่โชคร้ายที่สุดอีกเช่นกัน!

เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หมาป่าก็พูดขึ้นว่า “พี่เตา.. ทำไมถึงได้พูดแบบนั้น! พี่ไปกับพวกเราเถอะ ไม่ว่าหลิงหยุนจะเป็นฝ่ายชนะหรือพ่ายแพ้ พวกเราจะทำทุกหนทางให้หลิงหยุนคลายจุดให้กับพี่เอง!”

มังกรเองก็พูดออกมาอย่างร้อนใจ “พี่เตา.. หลายปีที่ผ่านมาพี่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพวกเรา ครั้งนี้เป็นเรื่องความเป็นความตายของพี่ พวกเรายินดีทำทุกอย่างเพื่อพี่!”

“ทุกคน.. ไปกันได้แล้ว!”

ลูกน้องคนสนิททั้งสี่ต่างก็โค้งคำนับเตาฉี พร้อมกับเดินออกจากลานบ้านไปทันที..

เตาฉีมองตามเงาทั้งสี่ไปอย่างเงียบๆอยู่ครู่ใหญ่ แล้วก็ถอนหายใจออกมาในที่สุด “น้องรัก.. ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาก็แล้วกัน!”

…………

ตรงข้ามกับหัวหน้าแก๊งมังกรเขียวอย่างหลงคุน.. ทันทีที่เขารู้ข่าว ก็รีบเรียกประชุมทันที จากนั้นก็รีบนั่งรถไปที่หมู่บ้านหลินเจียงพร้อมกับลูกสาว-หลงหวู่ทันที!

“หลิงหยุนนี่ก็ช่างเหลือเกินจริงๆ! จู่ๆก็หายตัวไปเป็นอาทิตย์ แต่พอกลับมาก็สร้างความโกลาหลไปทั่ว! ทำไมเขาถึงชอบสร้างแต่ปัญหานักนะ..”

ภายในรถ.. หลงคุนและหลงหวู่นั่งคู่กันอยู่ที่เบาะด้านหลัง และหลงหวู่ก็ส่ายหน้าบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจในตัวหลิงหยุน

หลงคุนที่มีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อได้ยินหลงหวู่บ่นพึมพำ ก็ถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับตอบไปว่า

“ถ้าไม่สร้างปัญหา.. ก็คงไม่ใช่หลิงหยหยุนน่ะสิ! อีกอย่าง.. เขาหายตัวไปตั้งหลายวัน แต่พอกลับมาก็พบว่าที่บ้านเกิดเรื่องมากมาย แล้วจะไม่ให้เขาโกรธได้ยังไงกัน?”

หลงหวู่ทำเสียงขึ้นจมูกและพูดอย่างไม่พอใจ “หลิงหยุนเจ้าเล่ห์จะตายไป กฎหมายทำอะไรเขาไม่ได้หรอกค่ะ เราไม่เห็นต้องไปช่วยเขาเลย!”

หลงคุนตอบกลับไปยิ้มๆ “อย่ามั่นใจขนาดนั้นว่าหลิงหยุนจะไม่ต้องการความช่วยเหลือกจากเรา การไปของเราครั้งนี้ จะช่วยเขาให้มีพลังต่อรองและสร้างแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมาก..”

หลงหวู่ตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย “หลิงหยุนจะไปรื้อทำลายบ้านของคนอื่น ยังไงตำรวจก็ต้องมาแน่นอน! พ่อคะ.. พ่อคิดว่าแก๊งมังกรเขียวจะสู้รบปรบมือกับตำรวจไหวเหรอคะ?”

หลงคุนฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้ม “แล้วใครบอกล่ะว่าเราจะต้องไปสู้รบปรบมือกับตำรวจ? พวกเราจะไปคุยกับตำรวจดีๆต่างหาก? ไม่อย่างนั้นพ่อจะพาลูกสาวที่จบกฏหมายจากฮาร์วาร์ดมาด้วยทำไมกัน?”

หลงหวู่ได้ฟังคำชมของพ่อก็ได้แต่ทำหน้าอายๆแล้วตอบกลับไปว่า “พ่อคะ.. หนูเรียนจบกฎหมายระหว่างประเทศนะคะ อีกอย่างกฏหมายของแต่ละประเทศก็แตกต่างกัน..”

หลงคุนตอบกลับไปว่า “แต่ความจริงภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงนี้ก็เหมือนกันทุกทีล่ะน่า! หลิงหยุนทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว.. ในเมื่อคนอื่นรื้อทำลายบ้านของเขาได้ ทำไมเขาจะรื้อทำลายบ้านของคนอื่นคืนบ้างไม่ได้ล่ะ?!”

“หลัวจ้งดูเหมือนจะรีบร้อนลงมือไปหน่อย?! เขาคงคิดว่าสามารถเอาชนะถังเทียนห่าวได้แล้วสินะ! ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงนี้ ยังมีเรื่องที่ปืนไม่สามารถแก้ปัญหาหรือข่มขู่ใครได้!”

ดูเหมือนว่าหลงคุนจะไม่ค่อยพอใจนัก เขาพูดต่อว่า “ถ้าพ่อเดาไม่ผิด ครั้งนี้หลัวจ้งต้องไปดูเหตุการณ์ด้วยตัวเองแน่ ถ้าได้พบกับเขาครั้งนี้ พ่อเองก็มีเรื่องที่จะต้องคุยกับเขาเหมือนกัน..”

…..

ที่บ้านของเถียนป๋อเตาในหมู่บ้านหลินเจียง..

ตอนนี้หน้าบ้านของเถียนป๋อเตามีฝูงชนมุงอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้คนที่อยู่ระแวกนั้นเมื่อได้ข่าวก็พากันตามมาดูด้วยเช่นกัน คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหลินเจียงเอง เมื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นในหมู่บ้าน ก็พากันวิ่งออกจากบ้านมาดูด้วยเช่นกัน ดังนั้นบริเวณรอบบ้านของเถียนป๋อเตาจึงเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก!

คนที่มามุงดูต่างก็ตกใจกับภาพที่เห็น.. หญิงสาวทั้งเก้าคนกำลังวิ่งหน้าตื่นออกมาจากบ้านของเถียนป๋อเตาในสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยี่ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง!

“พระเจ้า.. นี่มันฮาเร็มหรือบ้านอยู่อาศัยกันแน่?!”

“โอ้โห.. สาวๆพวกนั้น เห็นแล้วหัวใจจะวาย”

“ไม่รอดแน่.. ครั้งนี้เถียนป๋อเตาต้องตายแน่ๆ! สมน้ำหน้ามันจริงๆ!”

“มัจจุราชหวังยังอยู่ในบ้าน รอดูว่ามันจะออกมาพูดยังไง?”

สาวๆทั้งเก้าคนต่างพากันยืนก้มหน้าก้มตาและเอามือปิดบังใบหน้าไว้ ในขณะที่ฝูงชนกำลังชี้มือชี้ไม้มาทางพวกเธอ

“ออกไปได้แล้วเถียนป๋อเตา! ใส่กางเกงในสีแดงตัวเดียวนั่นล่ะ..”

หลิงหยุนไม่รอให้เถียนป๋อเตาแต่งตัวเรียบร้อย เขาจัดการถีบร่างของเถียนป๋อเต๋า และบังคับให้เดินลงบันไดไป

เถียนป๋อเตาได้ยินเสียงดังจากข้างนอก ก็รู้ได้ว่าครั้งนี้เขาคงต้องจบสิ้นทุกอย่าง และจะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เถียนป๋อเตาปฏิเสธที่จะลงไปข้างล่าง แต่ก็ถูกหลิงหยุนถีบลงไป

ถังเมิ่งที่เดินตามมาก็ช่วยหลิงหยุน เขาทั้งลากและส่งเสียงตะโกนด่าเถียนป๋อเตา

“ทำไม.. ตอนนี้รู้จักอายงั้นเหรอ? เป็นไงบ้างล่ะ นอนกับผู้หญิงทีเดียวตั้งเก้าคน สนุกมากไม๊? ตอนทำไม่อาย ตอนนี้ทำเป็นอาย?”

เถียนป๋อเตานั่งยองๆ แต่ในไม่ช้าก็ถูกลากออกมานอกบ้าน ถังเมิ่งมองฝูงชนที่มุงดูอยู่ก็ถึงกับเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที!

“พี่หยุน.. คนมากันเยอะมาก?!”

หลิงหยุนยังคงสสงบนิ่งและตอบกลับไปยิ้มๆ “เยอะสิดี! จะได้มีชีวิตชีวาหน่อย..”