Ch.180 – เบาะแสองค์กร Z

Provider : Muntra

 

 

ลง 3ตอน 180 181 182

 

กดLikeเพจเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ : คลิ๊ก

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.180 – เบาะแสองค์กร Z

 

ชายคนนี้เองก็มีรอยสัก และคาดว่าน่าจะรู้เรื่องมากกว่าอีกคนหนึ่ง

 

เพราะยังไงซะ เขาก็เป็นผู้ใช้พลังเลเวล F เพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มนี้!

 

ฉินเฟิงกวาดสายตามองทีละคน เมื่อเห็นว่าคนไหนไม่มีรอยสัก เขาก็เลื่อนผ่านไป

 

“ท่านผู้ใหญ่ เชิญตรวจสอบดูได้ ผมไม่มีรอยสัก!”

 

“ท่านผู้ใหญ่ ผมเองก็ไม่มี!”

 

“ท่านผู้ใหญ่ ทั้งตัวฉันไม่ได้สักอะไรเลย ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ!”

 

คนอื่นๆร้องวิงวอน

 

ฉินเฟิงพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “นั่นสินะ ดูเหมือนว่าจะไม่มีรอยสักจริงๆ”

 

คนเหล่านั้นพอได้ฟังก็ถอนหายใจโล่งอก

 

ทว่าวินาทีต่อมา เปลวเพลิงสีแดงดำก็พลันหยดย้อยลงจากฟากฟ้า โถมเข้าปกคลุมทั้งหมดที่เพิ่งแหกปากร้องขอความเมตตา

 

“ในเมื่อไม่มีรอยสัก อยู่ต่อไปก็ไร้ค่า!”

 

ฟุ้ม!

 

เปลวเพลิงส่งเสียงปะทุโหม กว่า 20 คนจากกลุ่มจงอางดำถูกแผดเผากลายเป็นเถ้าถ่าน

 

เมื่อเห็นถึงความโหดเหี้ยมไร้ปราณีของฉินเฟิง สายตาของเลเวล F กลายเป็นหนักแน่น คล้ายตัดสินใจเด็ดขาดได้แล้ว แต่ไม่รอให้เขาได้ขยับตัว ฉินเฟิงก็ก้าวเข้ามา

 

ผัวะ!

 

หนึ่งหมัดกระทุ้งเข้าใส่ปากเลเวล F โดยตรง เรี่ยวแรงมหาศาลที่ส่งผ่านมาทำเอาหัวอีกฝ่ายสะบัดไปด้านข้าง

 

อ๊อก!

 

เลเวล F กระอักเลือดออกมาพร้อมกับฟันหลายสิบซี่ ไม่ทราบว่าเหมือนกันว่าในปากยังมีฟันหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่

 

ผัวะ!

ผัวะ ผัวะ ผัวะ!!

 

ฉินเฟิงต่อยออกไปสี่หมัดติดต่อกัน แต่ละหมัดโจมตีตามข้อต่อแขนขา ก่อนจะบิดข้อมือ และวางฝ่ามือลงบนตันเถียนของอีกฝ่าย

 

“ทักษะลับกลืนดารา!”

 

กำลังภายในของเลเวล F ถูกดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง ตันเถียนพลันเหือดแห้ง ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย

 

ฉินเฟิงยกนิ้วชี้ขึ้น ไฟโลกันต์ลุกพรึบบนมัน เผาเส้นผมบนหัว และจี้ลงบนเสื้อของอีกฝ่าย

 

เพล้ง!

 

ภายใต้อุณหภูมิสูง หลอดทดลองพลันระเบิดออก ของเหลวสีฟ้าที่ไหลออกมา ผู้คนที่เฝ้ามองคล้ายสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายอย่างแปลกประหลาดจากมัน

 

ฉินเฟิงได้บดบังแสงสุดท้ายของอีกฝ่ายจดมิด มิหลงเหลือความหวังให้หนีรอด!

 

“ร่างทดลองมนุษย์กลายพันธ์สินะ … เหอะ!” ฉินเฟิงมองมาที่ชายคนนั้นด้วยรอยยิ้มเย็นชา

 

แต่เลเวล F ไม่มีสมาธิสนใจสายตาและน้ำเสียงเย้ยหยันของฉินเฟิง เขาถูกโจมตีอย่างรวดเร็วและรุนแรง ปัจจุบันเจ็บปวดจนแทบมิอาจเปล่งเสียงร้องออกมาได้

 

วิธีการของฉินเฟิงเป็นมืออาชีพอย่างมาก

 

เขาเริ่มจากทุบทำลายฟัน มิให้ฝ่ายตรงข้ามกัดลิ้นฆ่าตัวตาย เผาผมเพื่อป้องกันอุปกรณ์ดักฟัง

 

ส่วนสี่แขนและขาที่ถูกซัดจนกระดูกหัก นั่นก็เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์สื่อสารระดับสูง

 

สำหรับเสื้อผ้าที่เผาเป็นอย่างสุดท้าย โดยปกติแล้วมักจะทำเพื่อป้องกันเผื่อว่าอีกฝ่ายจะมีไพ่ตายซุกซ่อนไว้ และผลก็ไม่ต่างจากที่คาด เป็นหลอดฉีดยา

 

หลังจากนั้น ฉินเฟิงก็ไม่สนใจใยดีเลเวล F อีก สายตาของเขาเลื่อนไปตกลงบนร่างของชายหนุ่มเลเวล G ที่อยู่อีกฝั่ง

 

“ถ้าอยากมีสภาพเป็นเหมือนกับเขา แน่จริงก็ลองขยับดู!” ฉินเฟิงคำรามคุกคามดังก้อง

 

“ไม่ขอรับ กระผมไม่อยากเป็นแบบนั้น!” ชายหนุ่มพูดตะกุกตะกัก คล้ายกำลังจะกลายเป็นบ้า

 

ฉินเฟิงลากกลุ่มจงอางดำสองคนที่เหลือไป ก่อนจะโยนซ้อนทับกันราวกับเป็นเพียงก้อนเนื้อ จากนั้นเจ้าตัวก็ชักปืนออกมา

 

“ไม่ ได้โปรดอย่าฆ่าผม!” ชายหนุ่มกล่าว

 

ฉินเฟิงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า หยิบกระสุนที่มีขนาดกว้างสองนิ้ว ค่อยๆยัดใส่เข้าไปในรังเพลิงและ—

 

–ปัง!

 

เสียงปืนดังขึ้น ใยแมงมุมสีขาวราวหิมะขนาดใหญ่ถูกกางออก ปกคลุมทั้งสองไว้อย่างรวดเร็ว

 

ฉินเฟิงค่อยๆเตะทั้งสองที่อยู่ในตาข่ายไปข้างหน้า ทั้งคนทั้งตาข่ายม้วนกลิ้งมีสภาพราวกับขวดน้ำเต้า

 

จากนั้น ฉินเฟิงก็ลากทั้งสองขึ้นไปบนหลังคารถ แล้วเริ่มมัดพวกเขาให้แน่น

เมื่อเสร็จธุระ ฉินเฟิงก็กำลังจะกลับขึ้นไปบนรถศึก แต่ในขณะนั้นเอง ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล F จากฝั่งรถบรรทุกก็เดินเข้ามา เอ่ยปากกล่าว “ท่านผู้ใหญ่ ขอบคุณที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทน ทางเรามีสินค้าอยู่ในรถ ท่านสนใจจะเลือกกลับไปสักหนึ่งหรือไม่?”

 

ฉินเฟิงมองไปทางอีกฝ่าย และจดจำชื่อได้ ชายคนนี้ถูกเรียกว่า ‘หลิวเฮ็ง’

 

เขาความแข็งแกร่งอยู่ในค่าเฉลี่ย ต่อสู้ไม่เก่งเท่าไหร่ ในชีวิตก่อนหน้าคือหนึ่งในคนที่ถูกสังหารลงโดยผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล F ของกลุ่มจงอางดำ

 

อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการบริหารของเขาไม่เลวเลย มีหัวใจของนักธุรกิจ มิฉะนั้นเขาคงไม่เลือกทำธุรกิจแบบนี้

 

ฉินเฟิงตอบกลับไป “ฉันขอซื้อสินค้าทั้งหมดในรถของพวกคุณ ไม่ต้องไปส่งมันที่เมืองไห่ แต่ให้ขนกลับมาที่สถานชุมชนเฟิงหลี พอไปถึงก็บอกชื่อ ‘ฉินเฟิง’ ออกไป แล้วพวกเขาจะมอบรางวัลให้อย่างงาม”

 

หลิวเฮ็งจ้องมองฉินเฟิงก้าวขึ้นไปบนรถลิมูซีนด้วยแววตาว่างเปล่า แต่ในช่วงท้ายของสายตาเขา สามารถเห็นอีกคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งข้างคนขับ

 

เธอคือเด็กสาวที่งดงามจนสามารถก่อเกิดความหายนะล่มชาติได้ และบนหน้าอกของเธอ ยังติดไว้ซึ่งโลโก้ผู้ใช้พลังเลเวล E

 

ระหว่างที่หลิวเฮ็งกำลังเหม่อลอย และประตูกำลังปิดลง สายตาของเด็กสาวก็เบนมาทางเขา วินาทีนั้นหลิวเฮ็งสั่นสะท้านไปทั้งกาย คล้ายถูกจ้องมองโดยสัตว์ร้ายน่าสะพรึงกลัว ความรู้สึกไม่ดีผุดขึ้นในจิตใจของเขา

 

นี่ตนใช่กำลังสอดรู้สอดเห็นมากเกินไปหรือไม่? ไม่เพียงท่านผู้ใหญ่จะเป็นผู้ใช้พลังเลเวล E แต่คนข้างกายเขาก็อยู่ในเลเวล E เช่นกัน …. การที่ตนเองต้องไปส่งสินค้าให้กับทั้งสอง หลังจากนี้ไปคงไม่เกิดปัญหาหรอกใช่ไหม?

 

แต่ไม่นาน ในจิตใจของเขาก็ปรากฏอีกความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา

 

“ฉินเฟิงงั้นหรอ? ทำไมชื่อนี้ถึงฟังดูคุ้นๆจัง ไหนจะสถานชุมชนเฟิงหลีอีก … ”  ทันใดนั้นสีหน้าของหลิวเฮ็งก็เผยถึงความตกใจ เหมือนว่าเขาจะเคยได้ยินชื่อเสียงของฉินเฟิงมาก่อน

 

 

ฉินเฟิงไม่ทราบว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร เวลานี้ตนจับตัวเชลยทั้งสอง ขับออกจากถนนใหญ่อย่างรวดเร็ว มองหาสถานที่สงบๆในระยะไกลออกไป

 

เมื่อหาที่เหมาะๆได้ ฉินเฟิงก็ลากทั้งสองลงจากรถ

 

“ตอนนี้คงได้เวลาบอกในสิ่งที่ฉันอยากรู้แล้วใช่ไหม?” ฉินเฟิงกล่าว

 

เลเวล F ปิดปากเงียบ ตรงกันข้ามกับชายหนุ่มเลเวล G  ที่เร่งเอ่ยถามขึ้นทันใด “ท่านผู้ใหญ่อยากรู้เรื่องอะไร ได้โปรดถามผม ผมจะบอก! บอกทุกอย่างเลย!”

 

“หุบปากซะ!” เลเวล F ตะโกนด้วยน้ำเสียงคลุมเครือ เขาไม่มีฟัน ตอนนี้กระทั่งกัดลิ้นฆ่าตัวตายยังไม่อาจทำได้

 

แน่นอน ว่าอันที่จริงเขาสามารถระเบิดตันเถียนตัวเองก็ได้ แต่ฉินเฟิงได้ใช้ทักษะลับกลืนดาราช่วงชิงกำลังภายในของเขาจนมันไม่อาจควบรวมได้แล้ว

 

“ใครกันแน่ที่ควรหุบปาก มันควรจะเป็นแกไม่ใช่หรอ?” ฉินเฟิงบีบคอผู้ใช้พลังเลเวล F แต่สายตายังคงจับจ้องมาทางชายหนุ่ม

 

“จงบอกมา ว่ารอยสักของแก ไปได้มันมาจากที่ไหน”

 

“เป็นบอส! บอสพาฉันไปสักมัน! แต่เรื่องสถานที่ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ตรงไหน!” ชายหนุ่มยอมปริปากอย่างว่าง่าย หักหลังเพื่อนร่วมกลุ่มของเขา

 

เลเวล F จ้องชายหนุ่มตาแทบถลน ตอนนี้เริ่มบังเกิดความรู้สึกเสียใจ ที่เลือกชักชวนเจ้าหมอนี่เข้าร่วมองค์กร

 

คือตอนแรกก็คิดแค่ว่า .. ไอ้หนุ่มนี่ใจคอโหดร้าย ไร้ความปราณีกับทุกผู้คน น่าจะเหมาะสำหรับสายงานนี้ ตนเลยยอมรับอีกฝ่าย แต่ไม่คาดคิดเลยว่าผลลัพธ์จะกลายเป็นแบบนี้

 

แต่พอได้ลองมาย้อนคิดดูดีๆ คนประเภทนั้น จะเป็นคนที่ซื่อสัตย์และภักดีไปได้อย่างไร?

 

“งั้นที่พวกแกพยายามปล้นรถบรรทุกในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่ออะไร?” ฉินเฟิงถามต่อ

 

ชายหนุ่มรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “สำหรับพวกทาส บอสบอกว่าจะนำพวกมันขายออกไป แต่ที่จริงแล้วตั้งใจจะลักพาตัวไปทำการทดลอง!”

 

“ดูเหมือนว่าฉันจะจับเหยื่อไม่ผิดตัวแล้ว พวกแกคือคนขององค์กร Z จริงๆ”

 

เลเวล F เมื่อได้ยินฉินเฟิงเอ่ยคำนี้ พลันเบิ่งตาโพลง

 

เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ยังคาดไม่ถึง ว่าฉินเฟิงจะทราบถึงเรื่องขององค์กรพวกเขาอย่างกระทันหัน

 

ไม่นาน สีหน้าของเขาก็เริ่มกลายเป็นด้านชา ปรากฏร่องรอยดุร้ายในสายตา

 

“ในเมื่อแกรู้จักองค์กรของพวกเรา งั้นก็ควรจะรู้เหมือนกันใช่ไหม ว่าองค์กรของพวกเราทรงอำนาจถึงขนาดไหน ไม่ต้องกล่าวถึงฟูเฉิง แต่ในอีกหลายๆเมืองใหญ่ ในทุกๆที่ล้วนมีฐานของพวกเราตั้งอยู่ แต่แกกลับกล้าทำแบบนี้กับคนในองค์กร ผลที่ตามมา—”

 

ตูม!

 

“อ๊อก … ”

 

ฉินเฟิงจามกำปั้นใส่หน้าผู้ใช้พลังเลเวล F ตะคอกกลับไป “ในสภาพแบบนี้ ยังกล้าคิดข่มขู่ฉันอีกอย่างงั้นหรือ?”

 

“แค่ก แค่ก … ”

 

เลเวล F ไอเป็นเลือด ปรากฏความหวาดกลัวฉายชัดในแววตาของเขา

 

เจ้าตัวหุบปากลงอย่างรวดเร็ว ไม่ตั้งใจจะเอ่ยสิ่งใดอีก เพราะยิ่งพูด ก็เท่ากับว่าตนยิ่งมีค่าน้อยลง —ตายเร็วขึ้นกว่าเดิม!