Ch.179 – องค์กรมืด

Provider : Muntra

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.179 – องค์กรมืด

 

ปัจจุบัน รถศึกล่องเวหาสุดหรูขับตามหลังกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่ อีกทั้งมันยังไม่ได้เปิดโหมดลอยตัว ฉากนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่แถวหลังของขบวนรถบรรทุกเริ่มรู้สึกตะหงิดใจ

 

“ทำไมรถคันนี้ถึงไม่ยอมแซงพวกเราไปสักที? หรือมันเป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการ?” เนื่องจากทำงานร่วมกัน ทุกคนเล่นเชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารเข้าด้วยกันเป็นธรรมดา มือปืนที่อยู่หลังสุดขมวดคิ้วและเอ่ยออกมา เขารู้สึกว่านี่มันไม่ถูกต้อง

 

“จะเอายังไงดี ให้บิดายิงมันเลยไหม?”

 

“จะบ้าหรอ! อย่าคิดลากพวกเราไปตายกับแกเชียว ใจเย็นๆก่อน! พวกเรายังไม่รู้เลยว่าใครนั่งอยู่ในรถคันนั้น”

 

“ถ้าเป็นผู้ใช้พลังเลเวล E ขึ้นมา ก็เตรียมตัวตายได้เลย!”

 

ฝูงชนถกเถียงกันเกี่ยวกับรถลิมูซีนสุดหรู แต่ขับไปสักพักหนึ่งแล้ว รถเจ้าปัญหาก็ยังคงขับตามหลังพวกเขา

 

ทั้งหมดเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ในระหว่างนั้นเอง รถก็เริ่มแล่นเข้าสู่กลางเนินเขา สองฟากฝั่งขนาบไว้ด้วยเขาสองลูก

 

ปัง!

 

เสียงลั่นไกสะท้อนไปตามแนวภูเขา หัวของมือปืนเลเวล G ที่อยู่บนหลังคา ปรากฏหมอกโลหิตสาดกระเซ็นไกลกว่าหนึ่งเมตร แข้งขาสิ้นเรี่ยวแรง ร่างกายล้มกลิ้งลง ร่วงตกจากหลังรถ

 

“ศัตรูบุก!”

 

มือปืนคนอื่นๆกรีดร้องเสียงแหลมราวกับผู้หญิง เสียงดังสะท้อนไปถึงฟากฟ้า

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับไม่เห็นตัวศัตรูเลย หรือว่าศัตรูจะอยู่ไกลเกินไป? นี่หมายความว่ามือปืนของศัตรูของเทียบกับฝั่งตน เป็นอีกฝ่ายที่ครอบครองพลังสมาธิสูงกว่าใช่หรือไม่? ถึงสามารถใช้มันบดบังการรับรู้ได้

 

มือปืนหลังรถบรรทุกที่อยู่ภายนอก ถูกยิงสังหารลงทีละคน ทีละคน จนคนอื่นๆที่เหลือไม่กล้าเสี่ยงโผล่หัวออกมา

 

เหมือนกำลังเป็นเต่าหัวหดอยู่ข้างใน กลุ่มคนที่ซุ่มยิงเมื่อเห็นว่ากลยุทธ์แรกหมดประโยชน์ พวกเขาก็กระโจนลงมาจากภูเขาสองข้างทาง ปรากฏว่าจริงๆแล้วมีคนไม่มากนัก ประมาณแค่ 20 คนเท่านั้นเอง ทว่าเนื่องจากไม่มีมือปืนคอยยิงสกัดกั้น พวกเขาเลยสามารถเข้าประชิดรถบรรทุกได้อย่างง่ายดาย

 

ในขณะเดียวกัน เมื่อเห็นกลุ่มโจรกระโจนลงมา ทีมคุ้มกันที่เหลืออยู่ในรถบรรทุกก็คำรามด้วยความโกรธ

 

“จงสังหารพวกมันให้แก่บิดา แก้แค้นแทนเหล่าพี่น้อง!”

 

ผู้ใช้วรยุทธโบราณหลายคนทะยานออกไป แน่นอนว่าในกลุ่มนี้ ไม่มีการดำรงอยู่ของผู้ใช้อบิลิตี้

 

ในเวลานั้นเอง รถศึกสุดหรูที่ซ่อนตัวอยู่หลังรถบรรทุกใหญ่ก็ระเบิดเสียงคำรามออกมา

 

ฮู้มมม!

 

รถศึกส่งเสียงเครื่องยนต์ที่ไม่เหมือนใครออกมา เป็นทำนองที่น่าฟังชวนให้คนที่ขับมันรู้สึกสนุกและตื่นเต้น

 

โหมดล่องเวหาถูกใช้ออก รถศึกลอยตัวขึ้น ขับข้ามผ่านบรรดารถบรรทุกคันใหญ่มุ่งสู่หน้าขบวน

 

ต่อมา รถศึกสุดหรูก็ทิ้งตัวลงทันใด กระแทกล้อลงบนผืนดิน ขวางคั่นกลางระหว่างคนทั้งสองกลุ่ม

 

เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มจงอางดำ หรือผู้คุ้มกันฝั่งรถบรรทุก ทั้งหมดกระพริบตาปริบๆด้วยความงงงัน

 

คนกลุ่มจงอางดำคิดว่านี่คงเป็นผู้ช่วยของอีกฝ่าย แต่ไม่คาดหวังเลยว่าจะขับรถหรูถึงขนาดนี้ เพราะการที่สามารถครอบครองมันได้ เกรงว่าคงไม่ใช่คนอ่อนแอ

ทางฝั่งรถบรรทุกเองก็คิดว่าฉินเฟิงเป็นศัตรู เพราะท้ายที่สุดแล้ว รถลิมูซีนคันนี้ลอบติดตามพวกเขามาตลอดทาง สุดท้ายก็ลงเอยเป็นตกอยู่ในสภาพปัจจุบัน

 

ในขณะที่แต่ละฝ่ายต่างคาดเดากันไปต่างๆนาๆ ประตูรถก็ถูกเปิดออก ร่างๆหนึ่งกำลังลุกขึ้นมาจากภายใน

 

มือปืนของกลุ่มจงอางดำไม่คิดสนใจดูว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ระเบิดห่ากระสุนพุ่งเข้าใส่ฉินเฟิงทันที

 

ปังปังปังปังปังปัง!

 

ทว่ากระสุนเหล่านั้น ทั้งหมดกลับหยุดนิ่ง ลอยเคว้งในอากาศก่อนจะตกถึงตัวฉินเฟิง ไม่มีนัดใดเลยที่สามารถเจาะฝ่าเข้ามาได้มากกว่าในระยะ 1 เมตร

 

“สะท้อนกลับ”

 

ฉินเฟิงเอ่ยเสียงเย็นชา ห่ากระสุนถดถอยราวกับคลื่นน้ำ โถมกลับไปด้วยความเร็วที่มากกว่าในขามาซะด้วยซ้ำ

 

“แย่ล่ะสิ!”

 

สีหน้าของผู้ใช้วรยุทธโบราณกลุ่มจงอางดำแปรเปลี่ยนกลับกลาย ชักอาวุธขึ้นมาต่อต้าน

 

เคร้ง เคร้ง!

 

กระสุนถูกตีเด้งกลับ แต่คนอื่นๆที่ไม่มีมีปฏิกิริยามากพอจะตอบสนอง ต่างถูกกระสุนสะท้อนเข้าใส่ ล้มลงส่งเสียงกรีดร้องน่าสังเวช

 

การสะท้อนในครั้งนี้ มีกว่าสิบคนที่ถูกกระสุนเจาะเข้าใส่ขาทั้งสองข้าง ร่วงหน้าฟาดกับพื้น

 

ร่างของฉินเฟิงค่อยๆลุกขึ้นจากที่นั่งคนขับ ชุดต่อสู้ของเขาสาดแสงสีเงิน ทำเอาผู้คนที่พบเห็นต้องเบิกตาค้าง ไม่เพียงแค่นั้น แต่บนหน้าอกของเขา ยังแปะไว้ด้วยโลโก้ขนาดเท่าฝ่ามือ ทั้งยังแสดงถึงสัญลักษณ์เลเวล E

 

คนของกลุ่มงูดำกลายเป็นตะลึงงัน!

 

—เลเวล E !!

 

นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?

 

พวกเขาได้ลอบสืบข้อมูลของขบวนรถบรรทุกมาแล้ว ดังนั้นถึงกล้าที่จะลงมือ แต่ตอนนี้ทำไมจู่ๆถึงมีเลเวล E ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกระทันหัน?

 

พวกเขาต้องการจะเอ่ยถาม แต่ไม่อาจเอ่ยปากได้ เพราะปัจจุบัน คล้ายกับมีมือใหญ่ที่มองไม่เห็นกำลังบีบคอพวกเขาอยู่

 

นี่มิใช่ใดอื่น หากแต่เป็นพลังสมาธิอันทรงประสิทธิภาพที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของฉินเฟิง

 

เพียงปลดปล่อยมันออกมา ผู้ใช้พลังระดับต่ำที่อยู่รอบบริเวณ ก็ยากที่จะหายใจ แผ่นหลังอดไม่ได้ที่จะโค้งงอลงไม่อาจขัดขืน

 

โครม!

 

มือปืนของกลุ่มจงอางดำไม่อาจฝืนแรงกดดัน สองเข่าร่วงลงกระแทกกับพื้น

 

“ท่านผู้ใหญ่ ได้โปรดอย่าฆ่าผู้น้อยเลย”

 

คนอื่นๆคล้ายกับได้รับสัญญาณเตือนจากชายคนนี้ ทั้งหมดตัดสินใจคุกเข่าลงกับพื้น เร่งอ้อนวอนขอความเมตตา

 

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ใช้พลังเลเวล E พวกเขาก็ไร้ซึ่งกำลังที่จะขัดขืน

 

ฉินเฟิงก้มลงมองร่างที่หมอบคลานเหล่านี้ กวาดสายตาออกไป ในที่สุดก็พบกับคนที่เขาตามหา

–เป็นชายหนุ่มที่ดูลุกลี้ลุกลน มีท่าทีค่อนข้างขลาดกลัว ดูเหมือนจะอายุแค่ 20 ปี กุมมีดยาวในมือ เป็นผู้ใช้พลังเลเวล G3

 

ในชีวิตก่อนหน้า อีกฝ่ายไล่ล่าฉินเฟิง หมายจะนำพาเขาสู่ความตาย แต่กลับลงเอยเป็นฝ่ายตนที่ถูกสังหารซะเอง

 

พลังสมาธิปะทุโหม ชายคนนั้นถูกลากออกมาทันที ส่งเสียงกรีดร้องโวยวายด้วยความตื่นกลัวและเจ็บปวด

 

เจ็บปวดเพราะกระสุนที่ฉินเฟิงสะท้อนกลับไป อีกฝ่ายก็โดนมันเช่นกัน

 

“อ๊า! ท่านผู้ใหญ่ ได้โปรด ได้โปรด!”

 

ชายคนนั้นกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก

 

ฉินเฟิงมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาสีดำสนิท ปากเปล่งน้ำเสียงทุ้มลึก แสดงออกถึงการสอบสวน

 

“ตอบคำถามฉันมาสักสองสามข้อ แล้วฉันจะไม่ฆ่าแก!” ฉินเฟิงกล่าว

 

ชายคนนั้นพยักหน้าซ้ำๆ “กระผมจะพูด! จะยอมบอกทุกอย่างเลย!!”

 

มุมปากของฉินเฟิงยกสูงขึ้นด้วยความพอใจ

 

“พวกแกเป็นคนขององค์กรอะไร?”

 

“จงอางดำ! พวกเราคือคนขององค์กรมืด กลุ่มจงอางดำ ท่านผู้ใหญ่ ได้โปรดเถอะ ผมเพิ่งเข้าร่วม ผมถูกบังคับให้ต้องทำ! และที่สำคัญผมยังไม่เคยฆ่าใคร!”

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินประโยคนี้ รอยยิ้มบนริมฝีปากของฉินเฟิงก็หายไป ดวงตาของเขากลายเป็นเย็นชาราวน้ำแข็ง แรงกดดันจากทั้งคนทั้งร่างถูกปลดปล่อยออกมายิ่งกว่าเดิม

 

“อั๊ก!” บางคนถูกกดดันจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาได้

 

ฉินเฟิงฉกมือไปคว้าคอของอีกฝ่าย “แกโกหก คิดหรือว่าจะสามารถหลอกลวงฉันได้?”

 

ชายคนนั้นตัวสั่นสะท้าน เร่งกล่าว “ท่านผู้ใหญ่ ผมไม่ได้โกหกท่านจริงๆ!”

 

ฉินเฟิงเกร็งมือ จิกเล็บลึกลงไปยิ่งกว่าเดิม ชายคนนั้นรู้สึกได้ถึงพละกำลังมหาศาล ที่เกือบจะทำให้คอของเขาหัก

 

บางทีอาจจะเพราะหวาดกลัวเกินไป บนคอของชายคนนั้นเลยเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น บิดสะบัดไปมา จนสามารถมองเห็นรอยสักได้อย่างชัดเจน

 

ฉินเฟิงยิ้มหยัน “แล้วรอยสักนี่คืออะไร แกรู้ใช่ไหม?”

 

เมื่อเสียงของฉินเฟิงตกลง รูม่านตาของชายคนนั้นก็พลันหดลีบ ไม่เพียงแค่นั้น แต่ผู้ใช้พลังเลเวล F อีกคนที่ล้มตัวลงหมอบกับพื้นก็สะดุ้งเฮือกอย่างไม่อาจควบคุม

 

เนื่องจากพลังสมาธิของฉินเฟิงกำลังตรึงร่างของคนทั้งหมด เขาจึงสามารถตระหนักถึงมัน เจ้าตัวหันขวับไปยังร่างของฝ่ายตรงข้ามทันที

 

“ที่แท้ก็มีอีกคนแฝงตัวรวมอยู่ด้วย!”

 

ฉินเฟิงคิด ก้าวเข้าไปข้างหน้า ตรงเข้าหาอีกฝ่ายโดยตรง

 

“ไม่ ไม่ใช่ ท่านผู้ใหญ่ ผมไม่เข้าใจที่ท่าน — อ๊า!”

 

เลเวล F กรีดร้องลั่น ฉินเฟิงเตะอีกฝ่ายจนม้วนกลิ้งนอนหงาย ก่อนจะย่อตัวลง แล้ววางฝ่ามือกดแนบลงบนหัวของผู้ใช้พลังเลเวล F ผลักมันไปอีกทาง

 

และรอยสักที่คอก็ถูกเปิดเผยออกมา