แกนผลึกแก้วถูกใช้เพื่อปรับแต่งอาวุธ และมีอานุภาพเกรียงไกรที่สามารถทำลายแม้กำแพงเหล็กที่แข็งแกร่งได้

กู้ชูหน่วนไม่ได้คิดที่จะเอาแกนผลึกแก้วมาเพื่อทำลายความแข็งแกร่งหรือสร้างอาวุธ ดังนั้นจึงเพียงแค่โยนมันเข้าไปในวงแหวนอวกาศ

“ทำได้ไม่เลว รอข้ามีเวลาจะทำเนื้อให้กับเจ้า”

“ซือซือซือ…….”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หมุนตัวอ้วนท้วม ปากไม่หยุดที่จะแลบลิ้นออกมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าอารมณ์ดี

เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวกวนตีนว่า“มันอ้วนขนาดนี้แล้ว กินเข้าไปอีกไม่ใช่ว่ามันจะเดินไม่ไหวหรือ”

“ซือ……”

ของเหลวพ่นออกจากลิ้นใหญ่ใส่เซี่ยวอวี่เซวียน น้ำนั้นมันทั้งเหนียวทั้งเข้มข้นจนเซี่ยวอวี่เซวียนแทบจะอาเจียนออกมา

“โว้ย เจ้าบอกให้งูของเจ้าสะอาดสักหน่อยได้หรือไม่ สกปรกข้าหมดแล้ว”

“ผู้ใดบอกให้เจ้าปากไม่ดีว่ามันอ้วนล่ะ มันไม่กินเจ้าก็ถือว่าไม่เลวแล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ขุดลงจากตรงนี้ ที่นี่น่าจะยังมีของล้ำค่า”

“ซือซือซือ”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตอบรับอย่างว่าง่าย มันไม่หยุดที่จะเอาหัวทะลวงเข้าไปด้านใน นำเกล็ดหิมะและโคลนขึ้นมา

สิบเมตร ยี่สิบเมตร ห้าสิบเมตร หนึ่งร้อยเมตร หนึ่งร้อยยี่สิบเมตร

ด้านในพื้นหิมะว่างเปล่าไร้วัตถุ แต่ว่าระฆังวิญญาณสะบั้นยังคงเปล่งประกายอย่างผิดปกติ อีกทั้งเคลื่อนไหวแรงแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวว่า“แม่สาวอัปลักษณ์ ช่างเถอะ หนึ่งร้อยกว่าเมตรแล้ว ผู้ใดจะขุดลึกฝังลึกขนาดนั้น พวกเราหาที่อื่นเถิด”

“ไม่ ระฆังวิญญาณสะบั้นดึงดูดแค่สถานที่นี้”อีกทั้งในสมองของนางคล้ายกับว่ามีความจำคลับคล้ายคลับคลาเลืองรางด้วย ว่าของล้ำค่าอยู่ด้านล่างนี้

“ขุดต่อไป”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ทำเสียงเศร้าสร้อย เก้าหัวยื่นออกมาสามหัว คล้ายกับว่ากำลังต่อรอง

กู้ชูหน่วนกรอกตาขาวมองบน กล่าวว่า“ได้ สามก็สาม รอขุดถึงของล้ำค่า ข้าจะทำสามโต๊ะเนื้อปลาตัวใหญ่เนื้อชิ้นใหญ่เลย”

“ชี่ว์…..”

หัวขนาดใหญ่ยื่นออกมาแล้วออกมาอีกหนึ่ง ดวงตาของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กระพริบตาอย่างต่อเนื่อง

กู้ชูหน่วนกระตุกริมฝีปากขึ้น กล่าวว่า“ได้ สี่โต๊ะ อย่าปลิ้นปล้อนอีก ไม่อย่างนั้นแม้แต่โต๊ะเดียวก็ไม่ได้”

“ซือ…..”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตอบรับอย่างมีความสุข จากนั้นจึงได้จุดทะลวงอย่างต่อเนื่อง

กู้ชูหน่วนนั่งขาไขว่ห้างอยู่ด้านหนึ่ง คาบดอกไม้ป่า แล้วมองเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ออกแรงขุดทำงานอย่างขะมักเขม้น

เซี่ยวอวี่เซวียนกวาดสายตามองหางงูที่กวัดแกว่งไม่หยุด ในหลุมขนาดใหญ่ของพื้นหิมะ ยกเว้นหางงูเล็ก ๆ เขามองไม่เห็นอะไรเลย เขาสงสัยว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะหายใจไม่ออกและตายหรือไม่ด้วย

“เจ้างูตัวนี้ตะกละมาก สำหรับเนื้อมื้ออาหารไม่กี่โต๊ะ ก็ไม่กลัวเลยว่าตัวจะพับอยู่ที่นั่น ”

“ซือ…..”

เสียงของเขาเบามาก เลยถูกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ได้ยินเข้า เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์พ่นของเหลวไปอีกครั้ง เซี่ยวอวี่เซวียนโมโหจนอยากจะตีมัน

“แม่สาวอัปลักษณ์ ข้าจะบอกเจ้านะ เจ้างูนี่น่าเกลียดมากข้าไม่ชอบ มีข้าต้องไม่มีมัน มีมันไม่มีข้า เจ้าเลือกมาสักหนึ่งเถิด”

“นี่ยังต้องเลือกหรือ?ข้าต้องเลือกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อย่างแน่นอน”

“เจ้าให้ความสำคัญกับงูมากกว่าสหาย”

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์สามารถขุดสามารถจับอสูรกาย เจ้าละทำอะไรได้?”กู้ชูหน่วนกรอกตาขาวใส่เขา แล้วจ้องมองปากที่เก้าคาบกล่องอยู่

นั่นมันเป็นกล่องไม้สี่เหลี่ยมเล็กๆ และดูไม่ซับซ้อน เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสและไม่มีอะไรพิเศษ

แต่ทว่าบริเวณรอบตัวมันก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย

ตอนที่ปรากฏกล่อง แสงระฆังวิญญาณสะบั้นเปล่งประกายแสงเจิดจรัส เลยสังเกตมองไม่หยุด

หรือว่าระฆังวิญญาณสะบั้นชี้นำให้นางหา ก็คือกล่องสิ่งนี้?

เซี่ยวอวี่เซวียน“…..”

ถุย…..

เขาโตขนาดนี้ จะมาหึงหวงอะไรกันกับงูตัวหนึ่ง