ตอนที่ 349 ความอัปยศของการไม่มีเงิน!
คุณชายทั้งสองทะเลาะกัน เขาซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ก็ไม่อยากจะร่วมวงด้วย
ในฐานะที่เป็นประชาชน เขาแค่อยากจะได้เงินชดเชยแล้วออกไปจากที่นี่
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินว่าคนขับแท็กซี่ต้องการเงิน เฉียนช่วนจื่อก็รีบพูดอย่างโมโหว่า
“ยังไม่ได้คิดบัญชีกับแกเลยนะที่แกมาหาเรื่องคุณชายหลี่ แถมยังจะกล้ามาเรียกร้องเงินชดเชยกับพวกเราอีก? เงินสักแดงก็ไม่มีให้หรอก!”
คนขับแท็กซี่รู้ดีว่าไม่ควรไปหาเรื่องพวกเขา จึงหันไปหาเย่เฉิน “คุณชาย เมื่อกี้ตอนอยู่ในรถคุณเป็นคนบอกว่าห้ามปล่อยให้พวกเขาแซงไปได้ และยังบอกด้วยว่าหากเกิดเรื่อง คุณจะรับผิดชอบทั้งหมด เอาอย่างนี้ไหมครับ คุณชดเชยให้ผมสองพันหยวน ผมจะได้เอารถไปซ่อมดีไหม?”
คนขับแท็กซี่ขอเงินสองพันหยวนจากเย่เฉิน!
ในเวลานี้เองชาวบ้านในละแวกนั้นก็เริ่มล้อมวงมุงดูเหตุการณ์
เย่เฉินชี้ไปที่ตำแหน่งรถของหลี่เฉิงเจี๋ย แล้วพูดว่า “รถของพวกเขาพยายามจะฝืนแซง เป็นการกระทำขออันธพาล แล้วยังจะไม่รับผิดชอบอีกเหรอ? โทรหาตำรวจไม่ก็บริษัทประกัน สถานการณ์แบบนี้พวกเขาต้องรับผิดชอบเต็มๆ”
เมื่อได้ยินเย่เฉินพูด ผู้ชมที่ล้องวงดูอยู่ก็เริ่มเอ่ยปาก
“จริงด้วย เมื่อกี้เห็นอยู่ว่ารถ SUV คันนี้บีบแตรและพยายามแซงตลอด รถ SUV เป็นคนผิดจริงๆ ด้วย”
“ก็ใช่นะสิ ทักษะขับรถของคนขับแท็กซี่ จะมาชนท้ายรถง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไร? แต่ว่าปกติวงเงินประกันของรถแท็กซี่ก็สูงมากนะ ต่อให้เป็นความผิดของรถแท็กซี่ที่ไปจี้ตามรถหรูก็ไม่มีอะไรต้องกังวล”
เมื่อหลี่เฉิงเจี๋ยได้ยินว่าคนขับแท็กซี่จะขอเงินสองพันหยวนจากเย่เฉิน แต่เย่เฉินกลับเหมือนพยายามบ่ายเบี่ยง ก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่าทรัพย์สินของเย่เฉินถูกอายัดไว้
หลี่เฉิงเจี๋ยรู้เรื่องนี้แล้ว รู้แม้กระทั่งเรื่องที่เย่เฉินบุกไปที่ตระกูลซูคนเดียว ทำร้ายซูมู่หลินจนขาเขาได้รับบาดเจ็บ
หลี่เฉิงเจี๋ยหัวเราะ “ไม่ต้องเรียกตำรวจหรอก และก็ไม่ต้องเรียกประกัน รถคันนี้ของคุณเกรงว่าซ่อมไปสองพันหยวนก็น่าจะยังไม่ดี อย่างน้อยๆ ต้องห้าพันหยวน เฉียนช่วนจื่อ ให้คนขับแม็กซี่ห้าพันหยวนหน่อย”
เฉียนช่วนจื่อชะงักนิ่งไป “คุณชายหลี่…”
เฉียนช่วนจื่อคิดในใจว่าอาชีพชั้นต่ำอย่างคนขับแท็กซี่ สถานะแบบหลี่เฉิงเจี๋ยก็คงไม่สนใจด้วยซ้ำ แน่นอนว่าไม่กล้าหาเรื่องเขาแน
“ให้เงินสิ!”
เมื่อเห็นเฉียนช่วนจื่อมีท่าทีลังเล หลี่เฉิงเจี๋ยแสดงท่าทีไม่พอใจทันที
“ครับผม!”
เฉียนช่วนจื่อรู้ว่าหลี่เฉิงเจี๋ยอารมณ์เสียง่าย จะต่อยตีกับใครเมื่อไรก็ได้ จึงรีบหยิบมือถือโอนเงินห้าพันหยวนให้คนขับแท็กซี่ทันที
“ขอบคุณมาก ขอบคุณมาก พวกคุณค่อยๆ คุยกันไปนะครับ ผมขอตัวก่อน”
คนขับแท็กซี่ยิ้มอย่างมีความสุข เตรียมจะเดินจากไป แต่กลับถูกหลี่เฉิงเจี๋ยเรียกไว้ “เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไป เรื่องยังไม่จบ”
หลี่เฉิงเจี๋ยหันมองเย่เฉิน “ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนขับแท็กซี่คนนี้เพราะฉัน ฉันชดเชยแล้ว ฉันทำฉันก็รับผิดชอบ แต่ว่าเมื่อกี้ตอนอยู่ในรถ นายรับปากกับคนขับเองว่าถ้าหากเกิดเรื่องขึ้น นายจะรับผิดชอบ นายก็น่าจะโอนเงินห้าพันหยวนให้เข้ากมินกันหรือเปล่า?”
คนขับแท็กซี่เมื่อได้ยินว่าตัวเองจะได้เงินสองก้อน ก็รู้สึกดีใจมาก!
เงินห้าพันหยวนสองก้อน ก็หนึ่งหมื่นหยวนเลยนะ ส่วนเรื่องซ่อมรถ แค่เขาหาคนรู้จักมาซ่อม พันหยวนก็เรียบร้อยแล้ว ก็เท่ากับว่าหาเงินได้เก้าพันหยวนเลยนะ!
ดังนั้น คนขับแท็กซี่จึงพูดกับเย่เฉินด้วยท่าทีลำบากใจว่า “จริงด้วย คุณผู้ชาย เมื่อกี้ตอนอยู่ในรถ ตอนแรกผมก็จะยอมให้เขาแซง อยู่แล้ว ที่เขาแซงจะต้องเป็นเพราะมีเรื่องด่วนอะไรแน่ๆ แต่คุณกลับดึงดันไม่ให้ผมยอมให้เขาแซง บอกว่าถ้าชน คุณจะรับผิดชอลความเสียหายที่เกิดขึ้น”
หลี่เฉิงเจี๋ยกอดอกแล้วพูดว่า “เย่เฉิน ลูกผู้ชายพูดแล้วต้องไม่คืนคำนะ ไม่ใช่ว่าพอฉันจ่าย นายเลยจะไม่จ่ายแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก็เพราะนายนะ”
เวลานี้ชาวมุงต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเขารู้สึกว่าชายหนุ่มผู้นี้พูดได้ถูกต้อง
พวกเขาต่างก็พอจะมองออกว่า หลี่เฉิงเจี๋ยและเย่เฉินเป็นคุณชายร่ำรวยไม่ต่างกัน แต่คนขับแท็กซี่เป็นเพียงประชาชนทั่วไป พวกเขาย่อมหวังว่าเมื่อคนรวยทะเลาะกัน คนธรรมดาอย่างคนขับรถจะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์
แต่หลี่เฉิงเจี๋ยรู้ว่าตอนนี้เย่เฉินไม่มีเงินแล้ว ดังนั้นจึงจงใจให้เขาจ่ายเงินก้อนใหญ่!
เงินห้าพันหยวนในตอนนี้สำหรับเย่เฉินแล้วถือว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล!
เย่เฉินเป็นคนใจกว้างมา และไม่ใช่คนไม่รักษาคำพูด เมื่อกี้คนขับแท็กซี่ก็เชื่อเขาเร่งความเร็วมาตลอด ทำให้หลี่เฉิงเจี๋ยต้องยอมแพ้ ก็นับว่าได้ช่วยเหลือเขาแล้ว
ดังนั้นเย่เฉินจึงหยิบมือถือออกมา “โอเค ผมจะโอนให้ห้าพันเหมือนกัน”
คนขับแท็กซี่ตื่นเต้นขึ้นมาทันที รีบเปิดบาร์โค้ดในการชำระเงินทันทีและกล่าวขอบคุณไม่หยุด “ขอบคุณมาก ขอบคุณ!”
เย่เฉินเปิดวีแชท แม้ว่าบัตรเครดิตของเขาจะถูกระงับแล้ว แต่เงินที่อยู่ในวีแชทยังเหลือหลายแสนหยวน
แต่ว่าในตอนที่เขากำลังจ่ายเงิน ระบบกลับขึ้นเตือนว่า “ขออภัยค่ะ บัญชีของคุณผิดปกติ ไม่สามารถทำการชำระเงินหรือรับเงินได้ชั่วคราว!”
“อะไรนะ? จ่ายไม่ได้?”
เย่เฉินประหลาดใจทันที หรือว่าระบบการชำระเงินในวีแชทเขาจะถูกระงับเช่นกัน?
คนขับแท็กซี่ชะงัก พูดว่า “ไม่งั้นใช้อัลลิเพย์ก็ได้”
เย่เฉินเปิดอัลลิเพย์ แต่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ระบบยังแจ้งเตือนเช่นเดิมว่าไม่สามารถชำระเงินได้!
ตอนนี้ ทั้งวีแชทและอัลลิเพย์ล้วนแต่ต้องใช้ชื่อจริงในการทำธุรกรรม ดูท่า ชื่อของเย่เฉินจะถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว แม้แต่เงินในวีแชทก็ยังใช้ไม่ได้!
“บ้าที่สุด!”
เย่เฉินหงุดหงิด ถ้าไม่สามารถใช้มือถือจ่ายเงินห้าพันหยวนได้ เขาก็จนปัญญาแล้ว เขาเองก็ไม่มีทางพกเงินสดเยอะอะไรขนาดนั้น
ในเวลานี้เองหลี่เฉิงเจี๋ยก็สาวเท้าเดินมาหาเขา เขากล่าวพลางหัวเราะ “เป็นอะไรไป คุณชายเย่? จ่ายไม่ได้เหรอ? บัญชีถูกอายัดสินะ? ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่มีเงินแล้วยังจะขี้โม้อีก! พูดจาเสียใหญ่โต!”
จู่ๆ หลี่ซ่าวเจี๋ยก็พูดจารุนแรงขึ้น เขาหันมาตะโกนใส่เย่เฉิน
เย่เฉินรู้สึกโมโหทันทีเขากำหมัดแน่น “คุณกล้าพูดกับผมแบบนี้เหรอ?”
หลี่เฉิงเจี๋ยเค่นเสียงอย่างเย็นชา “สำหรับคนที่ไม่รักษาสัจจะอย่างนาย หลอกแม้กระทั่งคนขับแท็กซี่ ฉันพูดด้วยแบบนี้ก็ถือว่าเกรงใจมากแล้ว! นายบอกให้เขาเร่งความเร็วเต็มที่ บอกว่าถ้าเกิดเรื่องจะรับผิดชอบ ก็รับผิดชอบสิ! รถเสีย นายก็ให้เงินเขาไปซ่อมสิ!”
กลุ่มคนที่ล้อมวงอยู่รอบๆ ต่างก็พูดขึ้นมาเช่นกัน
“จริงด้วย ให้เงินเขาไปสิ เงินแค่ห้าพันหยวนไม่ใช่เงินก้อนใหญ่อะไร ใครๆ ก็มี”
“เขาต้องไม่อยากจ่ายแน่เลย อยู่ในรถก็พูดเสียดิบดี แต่พอเกิดเรื่องลงจากรถแล้วกลับไม่ยอมรับ ไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยจริงๆ”
เมื่อเย่เฉินได้ยินคำพูดเหน็บแนมจากพวกเขาก็ไม่สบายใจ
เย่เฉินหันไปทางคนขับแท็กซี่ พูดขึ้นว่า “คุณลุง บัญชีของผมมีปัญหาเล็กน้อย ตอนนี้ผมก็ไม่ได้พกเงินสดมากมาย คุณทิ้งเบอร์ติดต่อให้ผม ผมจะให้คนอื่นช่วยโอนให้ ผมรับประกันเลยว่าผมจะไม่เบี้ยวเงินห้าพันหยวนก้อนนี้แน่นอน”
คนขับแท็กซี่มองไปทางเย่เฉินอย่างดูแคลน “ไม่ให้เงินแล้วเมื่อกี้จะขายฝันผมทำไม? นึกว่าจะใจกว้าง ช่างเถอะ ช่างเถอะ ในเมื่อคุณชายหลี่ท่านนี้ชดเชยให้ผมห้าพันหยวนแล้ว ผมก็ไม่อยากได้ส่วนของคุณแล้ว ผมก็ไม่ได้เป็นคนโลภมากด้วย! แต่เงินที่ซ่อมรถไม่จ่ายได้ แต่เงินค่าจ้างที่นั่งรถผมมาคุณจะจ่ายใช่ไหม? ค่ารถสิบห้าหยวน จะแสกนหรือจ่ายเงินสด?”
การชำระเงินผ่านมือถือทั้งวีแชทและอัลลิเพย์ของเย่เฉินใช้งานไม่ได้แล้ว ก็คงได้แต่ให้เงินสด
แต่ว่าเมื่อเขาล้วงไปที่กระเป๋า กลับพบว่าไม่มีธนบัตรสักใบ!