บทที่ 121 ดาร์ก เดม่อนคือดวงอาทิตย์น้อย

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 121 ดาร์ก เดม่อนคือดวงอาทิตย์น้อย
บทที่ 121 ดาร์ก เดม่อนคือดวงอาทิตย์น้อย

เสียงพูดคุยของเหล่านักเรียนค่อย ๆ ดังขึ้น

ท่ามกลางผู้คนมากมาย สายตาของนักเรียนกับศาสตราจารย์บางคนมองไปยังทั้งสองคนบนเวทีอย่างล้ำลึกและอ่านไม่ออก

บางคนเกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ และได้รับประโยชน์จากโชคชะตานี้ แต่ก็ต้องมีมุมมองและความรับผิดชอบที่สอดคล้องกันด้วย

บุตรแห่งวีรบุรุษก็เช่นกัน

อันที่จริงในฐานะบุตรแห่งวัลคีรี ดาร์ก เดม่อนก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ?

ด้วยเหตุนั้น ต่อให้มีการกระทำในอดีตของเขามาร่วมด้วย เขาก็เป็นเพียงขุนนางธรรมดาในแวดวงชนชั้นสูง แล้วทำไมเขาถึงถูกตราหน้าจนถึงทุกวันนี้?

ทว่า ณ ตอนนี้

เด็กชายผู้โด่งดังคนนี้ได้เริ่มเดินในเส้นทางกำจัดชื่อเสียของเขาแล้ว และเขาก็ทำผลงานออกมาได้อย่างโดดเด่นด้วย

ตรงกันข้าม บุตรแห่งวีรบุรุษที่ทุกคนคาดหวังไว้สูงกลับยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

เพราะอย่างนี้แล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นจะไม่เอาพวกเขามาเปรียบเทียบกัน

สายตาผิดหวังพวกนั้นราวกับเข็มที่แหลมคมทิ่มแทงร่างของเวอร์เธอร์ กาวด์ จนทำให้วิญญาณของเขาเต็มไปด้วยรูพรุน

เวอร์เธอร์ก้มหน้าลง ไม่อยากเห็นสายตาที่มองมาจากด้านล่างเวที มือและเท้าของเขากำแน่น

ในที่สุดเขาก็รู้ซึ้งถึงความเสียใจ

คราวนี้เป็นความเสียใจอย่างแท้จริง และไม่ใช่เรื่องที่เขาจะลืมได้ง่าย ๆ

เวลานี้หูของเขาเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกทุกรูปแบบ บางเสียงก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ และค่อย ๆ เด่นชัดขึ้น

มันคือเสียงของเอ็มม่าที่เขาเคยลืมไปแล้วที่ดังมากเป็นพิเศษ

‘หยุดเที่ยวเล่นกับโรเบิร์ตซะ! คิดถึงพ่อแม่ที่ตายไปแล้วของนายด้วย!’

‘คิดถึงพ่อแม่ที่ตายไปแล้วของนายด้วย!’

เวอร์เธอร์อดไม่ได้ที่จะกำจี้ที่หน้าอกซึ่งมีรูปแม่ของเขาอยู่

จากหางตา เขาเหลือบมองดาร์ก เดม่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน เพียงรู้สึกว่าเขากำลังยืนอยู่ข้างดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงระยิบระยับ

แต่ดาร์กไม่พอใจกับมัน

การคว้าแชมป์ ‘ดาวเด่น’ ที่เป็นเพียงชัยชนะอันน้อยนิดนั่น หรืออะไรสักอย่างเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา และมันไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้

สถานการณ์ตรงหน้ากำลังทำให้เขารู้สึกแย่

หากอาจารย์ใหญ่อาร์เต้พิจารณาถึงความรู้สึกของบุตรแห่งวีรบุรุษคนนี้ เธอก็จะไม่ให้เขาและเวอร์เธอร์ขึ้นบนเวทีพร้อมกัน และเธอก็คงไม่มีคำพิพากษาถึงสองครั้งเช่นกัน

สามารถจินตนาการได้เลยว่าหลังจากวันนี้ ประโยคเหล่านี้จะกลายเป็นที่แพร่หลายอย่างแน่นอน

หนังสือพิมพ์รายเล็กรายใหญ่จะรายงานพฤติกรรมของทั้งสองในเหตุการณ์นี้อย่างบ้าคลั่ง

และคนเขียนข่าวก็ไม่พ้นเอาพวกเขามาเปรียบเทียบกัน เขียนบางคำพูดที่เหมือนไม่ได้ใช้สมองไตร่ตรองความควรไม่ควรเพื่อให้ผู้คนหัวเราะเยาะเท่านั้น

ท้ายที่สุด ดาร์กจะเข้ามาแทนที่บุตรแห่งวีรบุรุษบนเวที และกลายเป็นจุดสนใจของสาธารณชนแทน

นี่ตรงกันข้ามกับความต้องการของดาร์กที่อยากจะมีชีวิตที่ผ่อนคลายโดยสิ้นเชิง

แค่ให้บุตรแห่งวีรบุรุษอยู่บนเวทีก็เกินพอแล้ว ดาร์กไม่ต้องการที่จะอยู่ในแสงไฟเช่นนี้เลยด้วยซ้ำ

ตราบใดที่สายเลือดของจอมมารยังไม่ตื่น

และสถานะของเขายังอยู่

บุตรชายของดัชเชส

บุตรชายแห่งวัลคีรี

เพียงสองชื่อนี้ก็สามารถทำให้เขาก้าวไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตได้อย่างราบรื่นแล้ว

เขาไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับเวอร์เธอร์เลย

‘เธอต้องการใช้เรื่องนี้ปกปิดผลกระทบด้านลบของศาสตราจารย์ดีดี้หรือเปล่า?’

‘หรือเธอต้องการใช้เรื่องนี้แสดงจุดยืนทางการเมือง?’

‘การสนับสนุนฉันคือการสนับสนุนวัลคีรี พรรคนกพิราบ และเจ้าหญิงเอลิซา’

ความคิดของดาร์กแล่นไปอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่เขาคิดต่างจากเวอร์เธอร์อย่างสิ้นเชิง

แต่นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ท้ายที่สุดแล้ว อายุทางจิตใจของทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม

อุบัติเหตุนี้เป็นเหตุการณ์ใหญ่สำหรับสถาบันเซนต์แมเรียน

สถาบันระบุสาเหตุและผลลัพธ์ของเหตุการณ์อย่างชัดเจนต่อสาธารณะ และถึงกับขอให้ผู้มีส่วนในเหตุการณ์สองคนให้คำยืนยัน โดยพื้นฐานแล้วเป็นการตอกเหตุการณ์นี้ไว้กับกำแพง ไม่ยอมให้ใครใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้ออ้างสร้างปัญหากับสถาบันเซนต์แมเรียนได้

กอปรกับไม่มีผู้บาดเจ็บล้มตาย จึงอาจกล่าวได้ว่าผลกระทบด้านลบนั้นน้อยสุดแล้ว

แม้ว่าผลกระทบด้านลบบางอย่างจะยังคงมีอยู่

แต่สถาบันกล้าที่จะรับผิดชอบ และไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะหลบเลี่ยงแต่อย่างใด ดังนั้นมันจึงอาจจะยังได้รับคำชมอยู่บ้าง

บุตรแห่งวีรบุรุษและบุตรแห่งวัลคีรี คนหนึ่งอยู่ในฐานะเหยื่อและอีกคนอยู่ในฐานะผู้กอบกู้ สองสิ่งนี้ถูกวางลงบนโต๊ะเพื่อเปรียบเทียบพร้อมกัน ซึ่งจะต้องเจอกับความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่บางอย่างก็อาจเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ซึ่งไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของเด็กคาดไม่ถึง

ในตอนท้ายของการประชุม

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ประกาศต่อสาธารณชนว่าเธอจะเข้ามาแทนที่ศาสตราจารย์ดีดี้ชั่วคราว และกลายเป็นศาสตราจารย์วิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์และวิชาดาราศาสตร์ จนกว่าศาสตราจารย์คนใหม่จะเข้ารับตำแหน่ง

ทำให้นักเรียนกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่ชื่นชมอาจารย์ใหญ่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ประกาศเลิกการประชุม และเสียงพูดคุยกันของนักเรียนก็ดังขึ้นโดยฉับพลัน เมื่อพวกเขาออกจากห้องโถงทีละคน

ดาร์กกับเวอร์เธอร์เดินตามอาจารย์ใหญ่อาร์เต้ไปที่ห้องทำงานของเธอ และมองเธอผายมือเชิญ

“นั่งลงสิ ไม่ต้องประหม่าหรอก”

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้โบกมือและชุดน้ำชากับของว่างก็ปรากฏขึ้นมาบนโต๊ะ

ดาร์กไม่ได้แสดงอาการประหม่าแต่อย่างใด เขาไม่เพียงนั่งลงเท่านั้น แต่ยังทำความสะอาดถ้วยอย่างชำนาญ เทชาดำ และส่งถ้วยแก้วแรกให้เวอร์เธอร์

“เอ่อ ขอบคุณนะ”

เวอร์เธอร์รีบขอบคุณ แต่ใบหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีนัก

จากนั้นดาร์กก็เทอีกถ้วยให้ตัวเอง ก่อนจะนั่งจิบเข้าไปอย่างช้า ๆ

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ก็นั่งลงเช่นกัน มือวางเอกสารบนโต๊ะและผ่อนคลายไหล่ที่เหยียดตรง

เธอปรับสีหน้าเล็กน้อยและถามขึ้นมา “พวกเธอสองคน คิดอย่างไรกับพฤติกรรมของศาสตราจารย์ดีดี้”

เวอร์เธอร์ “หืม? อ้อ! ไม่ค่อยดี ผมคิดว่านะ”

ดาร์ก “เป็นแผนที่ไม่ดี”

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้พยักหน้าเล็กน้อยและไม่ถามอะไรอีก

แต่ในพริบตา เธอก็พูดว่า “เวอร์เธอร์ สำหรับงานเลี้ยงสวมหน้ากากครั้งนี้ คะแนนของเธอเป็นที่สองของชั้นปี ซึ่งถือว่าดีมากทีเดียว”

ใบหน้าของเวอร์เธอร์ขึ้นสีแดงก่ำในทันใด และเขาก็พึมพำว่า “แต่มันก็ยังไม่ใช่ที่หนึ่ง”

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้พูดกับดาร์กอีกครั้ง “ดาร์ก ถ้าอัลเวตต์รู้ว่าเธอมีผลงานแบบนี้ เธอคงวิ่งเข้ามากอดฉันและร้องไห้อย่างแน่นอน”

ดาร์กหน้าแดงและพูดด้วยความเขินอาย “อาจารย์ใหญ่ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแบบนี้หรอกครับ”

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้กล่าวด้วยน้ำเสียงหวนรำลึกถึงอดีตว่า “อัลเวตต์เป็นคนแบบนี้มาโดยตลอด จิตใจของเธออ่อนโยนกว่าผู้ใด แต่ภาพลักษณ์ของเธอกลับแข็งแกร่งกว่าผู้อื่น ไม่มีใครน่าไว้ใจได้เท่าเธอ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอก็เป็นแบบนั้นด้วยเหมือนกัน”

ดาร์กตกตะลึง ‘ฉันดูเหมือนคนจิตใจอ่อนโยนเหรอ?’

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้กล่าวต่อ “และเวอร์เธอร์ พ่อของเธอก็เช่นกัน เขาเป็นเหมือนกับเธอตอนที่เขายังเป็นนักเรียน นิสัยกระตือรือร้นมากและไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย เขามีความเห็นอกเห็นใจที่แรงกล้าและได้รับอิทธิพลจากคนรอบข้างได้ง่าย แต่เป็นเพราะเหตุนี้เองที่เขาสามารถเป็นวีรบุรุษได้ เขาสัมผัสความทุกข์ยากของผู้คน และต่อสู้เพื่อผู้อื่น!”

เมื่อเวอร์เธอร์ได้ยินคำว่า ‘พ่อ’ เขาก็ตื่นเต้นเล็กน้อย

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้กล่าวต่อว่า “พ่อแม่ของเธอทั้งคู่ทิ้งบางอย่างไว้ในสถาบันเมื่อตอนที่ยังเป็นนักเรียน ฉันไม่ต้องการให้พวกมันแก่พวกเธอเร็วนัก แต่เพราะพวกเธอรับรู้ถึงการมีอยู่ของเส้นทางลับในปราสาทแล้ว ดังนั้นฉันจะให้แผนที่สมบัติทั้งสองนี้แก่พวกเธอในตอนนี้ แต่ดาร์ก อย่าใช้ทางลัดแล้วไปถามอัลเวตต์ล่ะ ฉันรู้ว่าหล่อนเอาใจเธอมาก และหล่อนจะบอกเธออย่างแน่นอนถ้าเธอถาม”

ดาร์กหัวเราะ

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้สะบัดปลายนิ้วของเธอ สายลมอบอุ่นสายหนึ่งพัดผ่านมา และแผนที่ขุมทรัพย์สองแผ่นก็ค่อย ๆ ลอยลงจากอากาศ