ตอนที่ 843 ประธานเชี่ยนลงมืออีกครั้ง

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

“พวกเธอ…” เล่นอะไรกันอยู่?

 

 

ฉิวฉิวถูกบังคับให้กินหม้อไฟผักมาสองวัน…เพื่อให้ดูเป็นการลงโทษ แม้แต่น้ำจิ้มก็ไม่ให้ น้ำจิ้มงาก็ไม่มี แค่เป็นผักลวกกับน้ำซุปจืดๆกินกันตายแค่นั้น อาจเพราะกินแต่ผักสมองฉิวฉิวก็เลยไม่แล่น

 

 

“แม่ฉันยอมให้กับความรักที่แสนยิ่งใหญ่ของพวกเธอสองคนแล้วนะ ฉิวฉิว เธอไม่อยากออกไปเจอแม่ฉันเหรอ?”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพยายามเน้นเสียงคำว่าออกไป ฉิวฉิวเข้าใจทันที

 

 

ไอ๊หยา มีคนมาช่วยแล้ว

 

 

เยี่ยมเลย

 

 

ได้ไปอาบน้ำแล้ว

 

 

บ๊ายบาย การถูกกักขัง

 

 

และที่สำคัญที่สุดก็คือ บ๊ายบายซุปผักในวันอากาศร้อนตับแตก

 

 

“อ๋า ฟู่กุ้ย ทำไมคุณเท่ห์ขนาดนี้” ฉิวฉิวเล่นใหญ่

 

 

“ฉิวฉิวจ๋า คุณยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ”

 

 

พอทั้งสองคนเล่นใหญ่เสร็จก็เบือนหน้าหนีพร้อมกัน พยายามอดทนกับลมในท้องที่ตีขึ้นมา ต่างคิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทำไปเพื่ออิสรภาพ

 

 

“พวกเธอ…” ป้าใหญ่มองทั้งสองคนสลับไปมา ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆแบบบอกไม่ถูก รู้สึกเวลาฉิวฉิวโอบกอดกับฟู่กุ้ยแล้วมันดูพิลึกชอบกล?

 

 

“พวกเราเป็นแฟมิลี่” ฉิวฉิวกับฟู่กุ้ยตะโกนพร้อมกัน

 

 

“แฟอะไรนะ?” ป้าใหญ่ไม่เข้าใจ

 

 

“พวกเขาหมายความว่าเป็นครอบครัวเดียวกันน่ะค่ะ เป็นภาษาอังกฤษ” อาข่าหาโอกาสพูดได้แล้ว

 

 

ป้าใหญ่มองอาข่าด้วยความสงสัย สีหน้านั้นเหมือนกำลังบอกว่า เธอมันฝรั่งที่พูดภาษาปะกิดไม่เหรอ?

 

 

“ช่าย คู่แท้ปาฏิหาริย์” หลิวเหมยก็เอาด้วย

 

 

โลกนี้มันบ้าจริงๆ…หลิวเหมยกับฟู่กุ้ยมองหน้ากันอีกครั้ง พูดในใจพร้อมกัน เพื่ออิสรภาพ

 

 

“ป้าใหญ่ ขอเนื้อกับน้ำจิ้มหน่อยนะ เพื่อนหนูมาแล้ว จะให้เพื่อนหนูกินซุปผักจืดๆเหรอ? เปิดแอร์ให้พวกเราด้วยนะ ร้อนจะตายอยู่แล้ว”

 

 

“พ่อเราตัดสายแอร์ทิ้งแล้ว บอกว่าให้เราน่ะมองดูแอร์ไปแต่ใช้ไม่ได้ เอาให้ทรมานจิตใจ”

 

 

“เหอๆ…”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี บทลงโทษแต่ละอย่าง…

 

 

แต่ป้าใหญ่ก็ให้คนยกพัดลมมาให้ แถมด้วยเนื้อสัตว์กับน้ำจิ้มงา น้ำจิ้มแบบเผ็ด ทุกคนนั่งล้อมวงกินหม้อไฟกัน

 

 

ป้าใหญ่ยืนจ้องอยู่ข้างๆทำให้ทุกคนคุยกันไม่สะดวก ทำได้แค่แสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรแล้วนั่งกินไป

 

 

เสี่ยวเชี่ยนส่งสายตาให้อาข่า อาข่าพูดภาษาอังกฤษออกมาหลายประโยค ป้าใหญ่ถึงกับงง

 

 

“พูดอะไรน่ะ?” ป้าใหญ่กลัวคนพวกนี้เล่นตุกติกจึงต้องคอยจ้องไว้

 

 

“เขาบอกว่า ฉิวฉิวกับฟู่กุ้ยเป็นคู่ที่สมกันจริงๆค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนดันแว่นตาพลางพูดปด

 

 

ป้าใหญ่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เสี่ยวเชี่ยนหันไปหาป้าใหญ่เพื่อให้อาข่าที่อยู่หลังเธอมีโอกาสทำบางอย่าง ส่วนตัวเองก็ตั้งหน้าตั้งตาคุยกับป้าใหญ่

 

 

“ป้าใหญ่คะ หนูเห็นป้าสีหน้าหม่นๆ ช่วงนี้มีเรื่องอะไรไม่ดีหรือเปล่าคะ?”

 

 

“ไม่มีนะ…ดูดวงเป็นเหรอเราน่ะ?”

 

 

“นิดหน่อยค่ะ หนูดูให้ฟรีด้วยนะคะ แล้วที่บ้านป้าปลูกดอกไม้หรือเปล่าคะ?”

 

 

อายุปูนนี้มีบ้านไหนบ้างไม่ปลูกดอกไม้ แถมยังเป็นแถบชานเมืองแบบนี้ด้วย

 

 

“ใช่ ทำไมเหรอ?”

 

 

“กลับไปเด็ดใบไม้กระถางที่สามบนหน้าต่างออกให้เป็นเลขคู่นะคะ จะช่วยให้ป้าอยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี จริงๆนะคะ ป้าทั้งหน้าหม่นหมอง มือก็ร้อน ตรงข้อระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งมีรอยด้วย ไอ๊หยา จึ๊ๆๆ…”

 

 

ความสามารถในการหลอกต้มคนของเสี่ยวเชี่ยนนับวันจะยิ่งเก่งกาจ ป้าใหญ่อึ้งกับคำพูดของเธอ สายตาเบนมาหาเสี่ยวเชี่ยนโดยไม่รู้ตัว และจังหวะที่ป้าใหญ่ละสายตานี้ อาข่าก็รีบยัดเม็ดเบคกิ้งโซดาใส่ปากฉิวฉิว

 

 

หลิวเหมยกับฟู่กุ้ยที่อยู่ข้างๆมองอย่างไม่ละสายตา เกร็งมาก

 

 

อาข่าเคยเป็นสปายมาก่อน ลูกไม้แบบนี้ใช้มาจนชิน อุปกรณ์ต่างๆหาได้ไม่ยาก เสี่ยวเชี่ยนยังคงพูดจาหลอกป้าใหญ่อยู่ ฉิวฉิวนึกถึงเรื่องที่อาข่าใช้ภาษาอังกฤษบอกเขาเมื่อครู่ แล้วจึงรีบลงไปนอนชัก เบคกิ้งโซดาทำให้ที่ปากเขามีฟองสีขาว เห็นแล้วน่ากลัวมาก

 

 

“ว้าย” เสี่ยวเชี่ยนแสร้งทำเป็นตกใจมาก ป้าใหญ่เองก็ตกใจ

 

 

“โรคลมบ้าหมูกำเริบเหรอ? รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว”

 

 

“ฉิวฉิวเป็นโรคลมบ้าหมูตั้งแต่เมื่อไร?” ป้าใหญ่รู้แค่ว่าฉิวฉิวเป็นคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมาก ถึกเหมือนกระทิง พอเห็นแบบนี้เลยทำอะไรไม่ถูก

 

 

“ยังจะอะไรอีกล่ะก็เพราะใบไม้ในกระถางมันเป็นเลขคี่ไงคะ มันเลยชงกับเขา หนูบอกแล้วว่าให้ไปเด็ดทิ้ง…รีบโทรเรียกหน่วยกู้ชีพเร็ว”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาไป๋จิ่นที่รออยู่ด้านนอก แล้วพูดอย่างจริงจัง “หน่วยกู้ชีพใช่ไหมคะ? ทางนี้มีคนป่วยค่ะ น้ำลายฟูมปากช่วยส่งรถมาด้วยนะคะ ที่อยู่คือ…อะไรนะ? รถพวกคุณอยู่แถวนี้พอดี?”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองฉิวฉิวด้วยท่าทางที่เล่นเกินจริง เวลานี้ฉิวฉิวยังนอนชักอยู่ที่พื้น ฟองสีขาวไหลออกมาเรื่อยๆ

 

 

ป้าใหญ่ตกใจทำอะไรไม่ถูก

 

 

“งั้นก็ดีเลยค่ะ รีบมานะคะ น้ำลายฟูมปากใหญ่แล้ว”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนวางสายแล้วตบบ่าป้าใหญ่ “ดวงดีใช้ได้เลยนะคะป้า ถึงดอกไม้ที่ป้าปลูกจะชงกับฉิวฉิวทำเขาน้ำลายฟูมปาก แต่ปกติป้าคงสะสมบุญไว้เยอะเลยทำให้มีรถฉุกเฉินอยู่แถวนี้พอดี อีกไม่กี่นาทีก็มาถึงแล้วค่ะ”

 

 

“หา…อ๊า” เวลานี้สมองของป้าใหญ่กำลังว่างเปล่าเพราะยังช็อคไม่หาย เธอเห็นฉิวฉิวนอนน้ำลายฟูมปาก ผ่านไปสักพักถึงได้สติกลับมา

 

 

“ใครอยู่แถวนี้ มานี่หน่อย ฉิวฉิวเกิดเรื่องแล้ว”

 

 

พอป้าใหญ่ตะโกนออกไปก็มีคนวิ่งเข้ามาหา ทุกคนพอเห็นแล้วก็ตกใจใหญ่

 

 

มีผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งพอมีความรู้เรื่องโรคอยู่บ้างพูดขึ้น “ล้มบ้าหมูหรือเปล่า? ผมเคยเห็นคนเป็นลมบ้าหมูอาการแบบนี้เลย บอกแล้วว่าอย่าปิดหน้าต่าง อย่าให้กินแต่ซุปผักจืดๆอย่างน้อยให้น้ำจิ้มงาก็ยังดี กินหม้อไฟไม่ให้น้ำจิ้มมันสร้างบาปชัดๆ…”

 

 

“รีบเรียกรถฉุกเฉินเร็ว”

 

 

“เรียกแล้ว”

 

 

“ให้หมอในหมู่บ้านมาดูก่อนไหม?” มีคนเสนอความคิด

 

 

ภายในห้องเกิดเสียงคุยกันวุ่นวาย ทุกคนดูร้อนใจกันใหญ่

 

 

มีคนอยากลองเข้าไปดูฉิวฉิวใกล้ๆ ฟู่กุ้ยได้ใช้ทักษะการแสดงอีกครั้ง “อย่าเข้ามานะ พวกคุณทำเขาเป็นแบบนี้ยังไม่พออีกเหรอ? ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรไปล่ะก็ ผมจะเอาหม้อซุปราดหัวตัวเองให้เสียโฉมไปเลย”

 

 

คนอื่นตกใจจนไม่กล้าเข้าไป

 

 

หลิวเหมยแอบยกนิ้วโป้งให้ในใจ สุดยอดเลยพี่ฟู่กุ้ยของฉัน

 

 

เวลานี้ฟู่กุ้ยแอบภูมิใจเล็กๆ อันที่จริงเขาไม่เคยบอกใครเลยว่า ถึงเขาจะดูอึนๆ แต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเขาอยู่ชมรมละครเวทีด้วยนะ

 

 

ตอนที่ทุกคนกำลังชุลมุน ด้านนอกก็มีเสียงรถฉุกเฉินมา

 

 

“เร็วขนาดนั้นเลย?” มีคนพูดด้วยความสงสัย

 

 

ที่นี่เป็นบ้านนอกหน่อย ถ้าอยากเข้าไปในเมืองขับรถก็เกือบชั่วโมง แล้วทำไมมาไวขนาดนี้?

 

 

“ตอนที่ฉันโทรไปเขาบอกว่ามีรถอยู่แถวนี้พอดีก็เลยแวะมารับได้ ยังจะมองอะไรอยู่ล่ะ ช่วยกันแบกเขาไปสิ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนออกคำสั่ง จากนั้นก็มีคนเข้าไปแบกฉิวฉิวออกไป

 

 

ป้าใหญ่มองอยู่สักพักจนฉิวฉิวถูกพาไปลงบันได ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องบอกพ่อฉิวฉิวด้วยสิ